สันติชน
นาย วรนันท์ มูฮัมหมัด รอมฎอน บุนนาค

เมื่อไหร่เยาวชนไทยจึงจะได้รับการปลุกจิตสำนึกสาธารณะ


เยาวชนในสังคมไทยปัจจุบัน มีหลายคนพูดว่าหาแก่นสารยาก มีความเป็นตัวของตัวเองสูง และไม่ค่อยสนใจคำทักท้วงของพ่อแม่ ผู้อาวุโส หลงไหลอยู่กับวัฒนธรรมทุนนิยมจนแยกไม่ออกถึงคุณค่าของคำว่าพอเพียง หลงอยู่กับการเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือราคาเหยียบ2หมื่นทั้งๆที่ยังแบมือขอเงินพ่อแม่
      เยาวชนของไทยทุกคนในวันนี้ น่าห่วงใยเป็นที่สุด ยิ่งดูภาพเยาวชนในมหาวิทยาลัยแล้วยิ่งเศร้าใจ เป็นปัญญาชนพันธ์ใหม่ที่น่ากลัว น่าห่วง ซึ่งมีผลกับสังคมอย่างมาก คนพวกนี้สนใจของฟุ่มเฟือย หรูหรา  ติดเกมส์ออนไล เล่นพนันฟุตบอล นิยมเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือราคาแพงเพื่อโอ้อวดกัน นิยมของหรูหราราราคาแพง ไม่สนใจบาปบุญคุณโทษ อยู่กันเป็นคู่ผัวตัวเมีย โดยไม่สนใว่พ่อแม่จะรู้สึกอย่างไร ขาดการยับยั้งชั่งใจ ในสมองไม่ค่อยมีอะไรนอกจากสนใจเรื่องของตัวเอง คู่รักและการใช้จ่ายเงินสุรุ่ยสุร่าย พลาญเงินพ่อแม่ไปวันวัน แม้ว่าจะกู้เงินเรียนแล้วก็ตามแต่ด้วยในสมองเป็นซากเดนทุนนิยมก็ยังต้องขูดรีดจากพ่อแม่อยู่ดี สนใจแต่ ความสวยความหล่อ หาคู่รักและการคิดเรียกเงินคืนจากสังคม เพราะลงทุนไปกับการเรียนมากแล้ว คนพวกนี้จบไปไม่มีอะไรมากคิดแต่หาเมียสวยๆมีรถดีดี มีลูกสักคนสองคน เสาร์อาทิตย์ก็พากันไปเที่ยวไปปิคนิค ถ้าสังคมมีคนคิดอย่างนี้มากๆ น่าเศร้าใจแทนผู้คนในสังคมเหลือเกินที่มีอนาคตของสังคมไร้ค่าเช่นนี้ ใครจะสนใจคนยากไร้ คนด้อยโอกาส คนไร้ค่า คนตกงาน คนจน คนเร่ร่อน เด็กขอทาน เด็กถูกทารุณกรรม คนชราถูกลูกทอดทิ้ง คนไร้การศึกษา ยาเสพติด ใครจะหันสนใจใยดีกับสิ่งเหล่านี้บ้าง นี่คือสำนึกสาธารณะที่ควรต้องปลูกฝังในเยาวชน ให้เกิดสำนึกรับใช้สังคม รับใช้ประชาชน ให้เขาตระหนักถึงปัญหาเหล่านี้ ใช้โอกาสในการเรียนรู้ทำกิจกรรมโครงการลงไปสัมผัสปัญหาไม่ใช่ออกค่ายหวานแหววหาคู่กัน สนุกสนานกันโดยไม่สนใจความทุกข์ยากของประชาชน เพราะบ้านเมืองเราไม่ได้สวยหรูจึงต้อง ปูทางเหยียบคนอื่นให้เป็นใหญ่เป็นโตและท้องทิ้งผู้คนด้อยโอกาสเหล่านี้ไว้เบื้องหลัง เราจะต้องรอการพัฒนาและหาวิธีการปลุกจิตสำนึกสาธารณะให้กับเยาวชนอีกนานสักแค่ไหน เมื่อเขาได้กลายพันธ์เป็นเยาวชนพันธ์ใหม่ในยุคทุนนิยม ที่กู่ไม่กลับแล้ว และที่น่าเสียดายเยาวชนเหล่านี้ยี้กับเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง คนพวกนี้รังเกียจการใช้แรงงาน พ่อแม่ผู้ปกครองที่ดูแลเยาวชนเหล่านี้ ครูอาจารย์ในรั้วมหาวิทยาลัยต้องรับผิดชอบกับผลพวงของสติปัญญาของเขาที่จะส่งผลกับสังคมในข้างหน้าหรือไม่ ตอบผมด้วย 


ความเห็น (9)

แวะมาทักทายค่ะ

      *มีข้อคิดที่ดีมากค่ะ และมีประโยนช์มากสำหรับสังคมไทย *

ขอบคุณคุณปารินุช มากที่วะเข้ามาดูและให้ความสนใจเรื่องเยาวชนมาช่วยกันนะครับผมอยากเห็นเยาวชนของเราสร้างสรรมากกว่านี้

สวัสดีค่ะ 

  • ดิฉันชื่อครูอ้อย  สอนภาษาอังกฤษชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เป็นหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ(ภาษาอังกฤษ)
  • ครูอ้อยได้ทำผลงานทางวิชาการตามขั้นตอนตามระบบของการจัดการเรียนรู้  ตั้งแต่ การจัดการเรียนรู้  กระบวนการ  ทฤษฎี  สื่อการเรียนรู้  การประเมินผล 
  • แต่ในปีการศึกษานี้ครูอ้อยเน้นเรื่อง  การประเมินผลด้วยคุณธรรม  ซึ่งในระดับนี้ได้รับผลออกมาอย่างดี  ที่ส่งเสริมคุณธรรมในเรื่องความมีน้ำใจ  ช่วยเหลือเกื้อกูล  ความสามัคคี 

เรียนเชิญอ่านที่นี่ค่ะ

  • แต่คราวนี้ที่คิดทำเรื่องนี้  ไม่ได้ทำผลงานทางวิชาการหรอกค่ะ  แต่คิดว่าในสังคมเล็ก  ถ้าเราชาวครูปลูกฝังให้เด็กๆมีคุณธรรมแล้ว  ในสังคมใหญ่อาจจะเป็นไปได้ที่จะเป็นปกติสุข  มีความสุขในสังคมร่วมกัน  ไม่เอารัดเอาเปรียบกันนะคะ

ดีกว่าไม่ได้ทำอะไร

  • มีครูที่โรงเรียนบางคนก็ไม่เห็นด้วย  เธอบอกว่า  แบบนี้เด็กขี้เกียจก็ขี้เกียจจนวันตาย
  • ครูอ้อยไม่เถียง  เพราะครูอ้อยไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับเด็กขี้เกียจ  แต่ครูอ้อยจะนำเด็กขยันเป็นพลังขับเคลื่อนสังคมต่อไปในอนาคตค่ะ

ขอบคุณค่ะที่มีเวทีให้แสดงความคิดเห็น

ครูอ้อย

 

ให้กำลังใจครูอ้อยครับ แต่ครูครับอย่าละเลยเด็กขี้เกียจเขาอาจมีปัญหาที่เรายังแกะไม่ถึง บางทีหากิจกรรมให้เขาทำงานสร้างสรรเรื่องนี้ด้วยกัน ให้กลุ่มช่วยสะท้อน เป็นพลังการเรียนรู้และทำประโยชน์ร่วมกันของเด็ก มันจะเป็นทางหนึ่งที่กระตุ้นเกได้นะครับ ผมทำมาแล้ว ได้ผลดีครับ ขอบพระคุณอาจารย์อ้อยที่แลกเปลี่ยนรู้มาครับ

เยาวชนในสังคมไทยปัจจุบัน มีหลายคนพูดว่าหาแก่นสารยาก มีความเป็นตัวของตัวเองสูง และไม่ค่อยสนใจคำทักท้วงของพ่อแม่ ผู้อาวุโส หลงไหลอยู่กับวัฒนธรรมทุนนิยมจนแยก
------------------------------------------------------------------------------------------
อยากจะบอกว่าเข้าใจผิดเล็กน้อย ตรงจุดนี้ถ้าจะบอกว่าพวกเขามีความเป็นตัวของตัวเองสูง ไม่จริงเลย แต่เพราะมีความเป็นตัวของทุนนิยมสูงต่างหาก เขาถึงเป็นแบบนี้ เขาอยู่กับวิถีชีวิตที่ทุกอย่างถูกเซ็ตไว้หมดแล้ว เรียน-ล้างผลาญ-เรียนจบ-ทำงาน-มีครอบครัว-มีลูก-ลูกเรียน-ลูกล้างผลาญ-ลูกเรียนจบ-ลูกทำงาน.....  เขาเลยคิดเองไม่ได้ว่าอะไรที่ควรจะทำ คิดไม่ได้ว่าตัวเองมีดีอะไรที่อยู่ใน เขาไม่รู้ว่าในตัวของเขามีพลังอะไรดีกว่าที่คิด เขาใช้มันไม่เป็น เขาเลยนึกว่าเขาไม่มี และวัตถุก็คือที่พึ่งของเขา

------------------------------------------------------------------

หวังว่าบทความนี้คงเตือนสติใครได้หลายคน เพราะเริ่มรู้สึกว่าคนเดี๋ยวนี้ชักไม่ไหวแล้ว สายลมแสงแดดมันมาแล้ว

         เรียน คุณต้อง

  • ครูอ้อยก็เห็นด้วยกับคุณต้องนะคะที่เด็กไปหลงงมงายกับวัตถุนั้นไม่ใช่ความผิดของพวกเขา
  • นั่นเป็นความผิดของสังคม สังคมต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ 
  • สังคมก็ประกอบด้วยคน คนต้องช่วยกันค่ะ 
  • ผู้ใหญ่ก็ต้องสั่งสมเด็ก
  • และเด็กก็ต้องเชื่อฟังเท่านี้เองค่ะ

ครูอ้อยไม่เคยว่าเด็กนักเรียนของครูอ้อยเลย รักและปรารถนาดีกับนักเรียนประดุจลูกหลาน

  • และเชื่อว่าสิ่งที่ได้ทำไปนั้น  ดี  เหมาะสมกับบริบทสังคมที่ครูอ้อยอยู่ค่ะ
  • ขอบคุณค่ะบทความ  ประเด็นดีมาก 
  • หาสนับสนุนมาสักนิดจะดีนะคะ

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาติชม

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาติชม เราต้องช่วยกันจริงๆแล้วละครับไม่เช่นนั้นอนาคตของชาติเราแย่แน่ๆเลย ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านนะครับ เยาวชนหลายตนก็พยายามจะพัฒนาจิตสำนึกสาธารณะครับ แต่มีกำลังน้อย จิตแบบทุนนิยมมันมากกว่าก็เลยอ่อนแอ
เยาวชนแย่ เพราะผู้ใหญ่ไม่สั่งสอน...หรือสั่งสอนไม่ถูกวิธี...คงเป็นวงจรอุบาทว์ไปอีกนานครับ และคงจะแย่ลงเรื่อย ๆ เพราะเยาวชนเหล่านี้จะเป็นผู้ใหญ่ในวันหน้า...และคงเพาะเชื้อความเห็นแก่ตัวเหล่านี้ขยายไปชั่วลูกชั่วหลานทีเดียว...แต่ไม่เป็นไรเดี๋ยวโลกก็แตกแล้ว...
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท