หนังดีที่น่าดู An Inconvenient Truth เกี่ยวกับ Earth Warming


อย่ารอให้ลูกหลาน ต่อว่าเราได้ว่า ทำไมไม่ช่วยกันป้องกัน

เป็นหนังดี เพราะ เป็นสาระดี  

Al Gore อดีต รองประธานาธิบดี USA และ เกือบได้เป็น ประธานฯ แต่ ไปแพ้ บุ ช 

 

กอร์  รณรงค์  เรื่อง  การป้องกัน ภัยพิบัติ  ที่จะมาเร็วๆวันนี้

น้ำท่วมโลก  มาจาก  น้ำแข็งขั้วโลกละลาย

น้ำทะเล สูงขึ้น 20 ฟุต   กทม อยู่ใต้น้ำ

 

ประเด็นไม่ได้มีแค่ น้ำท่วม  แต่ effects ที่ตามมาน่ากลัวกว่า

 

(ก) สัตว์ แมลง พาหะนำโรค  จะขึ้นสู่ที่ อุ่นขึ้น ที่สูงขึ้น  จะมีโรคที่เคยควบคุมได้แล้ว กลับมา ระบาดอีก

(ข) สายพานแอตแลนติก หรือ กระแสน้ำอุ่น เย็น จะเปลี่ยนไป 

อุณหภูมิของบางทวีป จะ หนาวเย็น เพราะ น้ำอุ่นไปไม่ถึง   บางทีจะร้อนจัด เพราะ น้ำเย็นไปไม่ถึง

วงจรชีวิต สัตว์จะเปลี่ยน  

แมลงจะมากขึ้น   สัตว์บางชนิดจะสูญพันธุ์   ทำให้ วงจรโซ่อาหารขาด

(ค) คนจะแย่งที่อยู่กัน  นี่แหละ น่ากลัว  เพราะ จะเกิดสงคราม  การแย่งแผ่นดิน   การแย่งน้ำ

(ง) น้ำทะเล ระเหย   น้ำใต้ดินระเหย   ฝนตกมากในบางที่   ขาดฝนในบางที่  

Old habit  กับ Old technology  ก็คงพอจะ คาดการณ์อะไรได้ ควบคุมได้

แต่ Old habit กับ New technology นี่สิ    เดาอะไรไม่ได้เลย

น้ำท่วม จะเป็นแบบ catastropic หรือ suddenly  

************************************************

 

คนไทย  ส่วนใหญ่  ก้จะเป็นพวก Ignorance คือ รู้แล้ว ก็เฉยๆ   หัวเราะ  ต่อต้าน  ด่า  ปลง  รับรู้แต่ไม่คิดจะทำอะไร  คิดตลกๆเช่น สร้าง เรือ ทำบันลูน  ปล้น ฯลฯ  

*************************************************************** 

เราใช้ พฤติกรรมเดิมๆ   ไม่ลดละ การเป็นบริโภคนิยม  ยังตัดไม้  ผลิตอากาศเสีย ทำลายแหล่งน้ำ   กินอยู่อย่างไม่รักษ์ สิ่งแวดล้อม ใช้เคมีมากมาย ฯลฯ

หมายเลขบันทึก: 54256เขียนเมื่อ 11 ตุลาคม 2006 22:36 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน 2012 23:39 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (18)

 อยากดูหนังเรื่องนี้เหมือนกันครับ แต่หาดูยากมาก       มีลงโรงฉายไม่กี่โรง

อ่านแล้ว เหนื่อย!!!

ทุกคนยังไม่ตระหนัก อีกทั้งยังหัวเราะ ว่า เป็นเรื่องอนาคต ไม่น่าจะจริงหรอก

ทั้งที่สถานการณ์ที่เริ่มเตือนมนุษย์ เริ่มขึ้นแล้ว หลายสถานการณ์ด้วยกัน

หนังเรื่องนี้ดีครับน่าจะเป็นหนังให้เยาวชนเราได้มีโอกาสดูทั่วหน้า

out of 925 recent articles in peer-review scientific journals about global warming.

...........

there was no disagreement.Zero. 

..........................

THis is not a political issue,it is a moral issue.

"สภาวะโลกร้อนไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่เป็นเรื่องความรู้สึกรับผิดชอบในใจ" 

เคยคิดจะไปดูเหมือนกัน น่าสนใจจิง ๆ

แต่ตอนนั้นฉายเฉพาะบางโรงหนัง

เห็นว่าความยาวประมาณชั่วโมงกว่า ๆ

มีความสนใจในเรื่อง  Global Warming เหมือนกันค่ะ

คนเราคิดว่าส่วนใหญ่อาจจะคิดว่า...

คงมีชีวิตอยู่อย่างมากก็ร้อยปี

เลยมีชีวิตหาความสุขไปวัน ๆ ไม่ได้ใส่ใจกับสิ่งแวดล้อมมากนักเพราะเป็นสิ่งที่คิดว่าจะคงอยู่ต่อไปเรื่อย ๆ และไกลตัว

หากแต่เดี๋ยวนี้ผลกระทบต่าง ๆ มันตีกลับเร็วขึ้นมาก

ภัยที่คิดว่าจะอีกนาน...กว่าจะมาถึง

อาจเป็นสิ่งที่ต้องเผชิญในเวลาอันใกล้นี้..ก็เป็นได้นะคะ

คงต้องคิดไปสองกระแสไปพร้อม ๆ กัน

กระแสแรก ทำอย่างไรจะป้องกันผลที่จะมากระทบจากหายนะภัย

ตรงนี้ต้องปรับความเคยชิน อย่างเช่น เปลี่ยนจากทัศนคติของการช่วยเหลือแบบ "ช่วยหามคนตาย" ไปเป็น "ช่วยสอนให้หนีทันเพื่อรอดตาย" นั่นคือ ทำให้คนมองออกว่ามีมาตรการระดับต่าง ๆ อะไรที่จะผ่อนหนักเป็นเบาเพื่อรับมือ เช่น ปรับทัศนคติเรื่องการจัดการความเสี่ยง  การเรียนรู้เทคนิคต่าง ๆ  เลียนแบบการจัดการปัญหาสุขภาพระดับชาติ ที่เปลี่ยนทัศนคติจาก "ป่วยค่อยหาหมอ" เป็น "ทำตัวอย่างไรไม่ต้องหาหมอ"

กระแสที่สอง ทำอย่างไรจะลดปัจจัยสาเหตุ

ซึ่งก็ต้องพูดต้องคุยกันเยอะว่ามีอะไรเป็นสาเหตุกันแน่ (ทำไมเกิดพายุ-น้ำท่วม-น้ำทะเลสูงขึ้น) เพราะตรงนี้ทฤษฎีมันไม่ฟันธงเท่าไหร่ (แต่ผลรุนแรงแบบฟันธงอ่ะนะ)

และมีทางหนีทีไล่ในการแก้ปัจจัยสาเหตุอะไรบ้าง (เช่น ทางเลือกเรื่องพลังงาน การจัดการระบบนิเวศ ระบบผังพื้นที่ที่ลดภัยได้ ฯลฯ)

ทำได้แค่ไหนก็ทำแค่นั้น อย่าแบกโลก แต่ก็อย่าฝันหวาน

อย่างน้อยไม่ให้ตัวเองเป็นภาระคนอื่นได้ ก็ถือว่าช่วยสำเร็จไปแล้วหนึ่งรายแหละครับ

Global warming น่ากลัวเหลือเกิน คนทุกภูมิภาคในโลกได้รับผลกระทบกันทั่วหน้า น้ำท่วมใหญ่ในประเทศไทย คลื่นความร้อนประทบคลื่นความเย็นในยุโรป ฤดูกาลเปลี่ยนแปลง ที่ควรจะร้อนก็ดันหนาว ที่ควรจะหนาวก็ดันหนาวขึ้นไปอีก หลายปีที่ผ่านมารู้สึกขึ้นความเปลี่ยนแปลงนี้ได้จริง ๆ

การแก้ปัญหาต้องทำในหลายระดับ ไม่ว่าจะเป็นความร่วมมือระดับประเทศ ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องให้ความสำคัญและร่วมมือกันอย่างจริงจัง ไม่ใช่พูดแต่ปากกันตามงานประชุมระดับชาติ แต่กลับไปประเทศที่พยายามบังคับใช่กฎหมาย ให้เกิดขึ้นจริง 

 ไปจนถึงระดับประชาชนที่ต้องมีการสร้างจิตสำนักการรักษาสิ่งแวดล้อม และโลกให้มากกว่านี้หน่อยอาทิ รู้จักแยกขยะ ฯลฯ อย่าหมางเมินกันซะอย่างนั้น เค้าเรียกว่าไม่มีจิตสำนึก

ไปพร้อม ๆ กัน การสร้างเทคโนโลยีใหม่ที่รักษาสิ่งแวดล้อมก็ต้องเร่งให้ใช้ได้จริง

พูดง่าย แต่ ทำยาก...

 หรือหากจะย้อนคิดว่าเป็นคนผิดของใคร ก็เป็นคนผิดของเราทุกคนทั้งใน generation ก่อนหน้าเรา และ generation เราที่ทำลาย มาตั้งแต่ยุค  industrial revolution โดยไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบที่ เราและลูกหลานของเรานี่เองจะเป็นคนรับ

ลองไปคุยกับ พี่เดชา  ที่มูลนิธิขวัญข้าว  สุพรรณ  จะได้แนวคิดดีๆ เยอะครับ

 

คุยกับ ดร อาจอง  ที่ สัตยาไส   ชัยบาดาล ลพบุรี  ก็ดีครับ

 

วัน หยุด ปิยมหาราชนี้  ผมจะไป สนทนาธรรม กราบ ลพ อำนาจ  ที่ ผาซ่อนแก้ว เขาค้อครับ   เรื่อง การเตรียมการณ์  รับมือ พิบัติครั้งนี้

 นอนที่วัด คืน 21 ตค ครับ

คุยเรื่องข้าว   และ เอาจักรยานไปขี่ด้วยครับ 

 

พอมีหนทางที่จะหลีกเลี่ยว บรรเทา หรือระงับ เหตุการณ์น้ำท่วมโลกได้บ้างไหมครับ

ถ้าเกิดขึ้นจริง ๆเราจะอยู่รอดกันได้อย่างไร ที่พัก อาหาร ยา ฯลฯ

มาต่อยอดเฉยๆค่ะ

  • DVD ออกวันที่ 21 พ.ย. นี้แล้วค่ะ
  • มีหนังสือขายแล้วด้วยค่ะ 
  1. ใช้หลอดไฟฟลูโอเรสเซนท์ (1 หลอด ลด CO2 ได้ 150 ปอนด์ต่อปี)
  2. ขับรถต่อเมื่อจำเป็น ถ้าต้องขับก็ชวนคนอื่นนั่งไปด้วย (car pool) ใช้บริการข่วนส่งมวลชนให้มาก ขี่จักรยานได้ยิ่งดี
  3. เช็คสภาพยาง เพราะยางแบนทำให้เปลืองน้ำมันต่อระยะทางไป 3%  และมี CO2 เพิ่มขึ้น 20 ปอนด์ ต่อคัน
  4. ถ้าแยกขยะในบ้านซักครึ่งนึง แล้วเอาไปไปรีไซเคิล จะลด CO2 ไป 2400 ปอนด์ต่อปี
  5. ใช้เครื่องทำน้ำอุ่นให้น้อยลง
  6. หลีกเลี่ยงสิ้นค้าที่บรรจุหีบห่อ เพราะ 10% ก็คือขยะ  ลดถุงพลาสติกที่ซุปเปอร์ หรือ ตลาด ด้วยการเอาถุงจ่ายกับข้าวไปเอง
  7. ปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศให้เหมาะสม ลองเพิ่มซัก 2 องศา ก็ลด CO2 ไป 2000 ปอนด์ต่อปีแล้ว
  8. ปลูกต้นไม้เยอะๆ ช่วยดูด CO2
  9. ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าเวลาไม่ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น โทรทัศน์ เครื่องเล่น VDO/DVD เครื่องเสียง คอมพิวเตอร์ แค่นี้ก็ลด CO2 ไปหลายพันปอนด์ต่อปีแล้วค่ะ
  10. ข้อสุดท้ายคือ บอกต่อๆกันไปค่ะ!

ในมุมมองของผม

สิ่งที่ต้องเตรียม คือ

ก) ทำทาน รักษาศีล ภาวนา

ข) ภาวนา คือ การชนะจิต  --->  การจะชนะจิตได้ ก็ต้องมี "สติ"

เราสามารถสร้างสติ สะสมไว้ตังแต่วันนี้ กำลังสติ จะกล้าแข็งขึ้นเรื่อยๆ   เมื่อถึงเวลาสำคัญ  ไม่ว่าจะเป็น ภัยใดๆ  เราก็จะมี สติ เป็น "ตัวช่วย" ที่สำคัญ

ใหม่ๆ เราต้องสร้างสติ   พอฝึกจนเป็นมหาสติแล้ว สตินั่นแหละจะคุ้มครองเรา

ค) ศึกษา ปฏิบัติ เรียนรู้   การดำรงชีวิตแบบพอเพียง

หยุด "การบริโภคนิยม"  ลงให้มากๆ

ใช้ นวตกรรมเพื่อความยั่งยืน  ไม่ทำลายโลก ไม่ทำร้ายคนอื่นๆ สัตว์ พืช ถิ่นอาศับ ต่างๆ

ง) ช่วยกันเตือน  

ผมยอมโดน โลกประนามว่าเพี้ยน  เรื่องน้ำท่วมโลกนี้  และ ก็เตรียมพร้อม   แต่ก็ขออย่าให้ท่วมเลย

 

 

เคยได้ยินเรื่องนี้มาบ้าง แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้ตระหนักในเรื่องนี้เลย พอได้อ่านในบล็อกของอาจารย์ที่ได้นำไปทำ Workshop ก็คิดว่าน่าสนุกดีและจะขอยืมไปใช้บ้าง แต่พอมาอ่านเรื่องนี้เริ่มรู้สึกว่าอาจารย์กำลังจะบอกอะไรบางอย่าง และดูค่อนข้างจะจริงจัง พอนึกถึงสภาวะการณ์ต่างๆ ของสภาพแวดล้อมในปัจจุบันก็ทำให้รู้สึกว่ามีความเป็นไปได้สูงมาก คิดแล้วก็ใจหายเหมือนกันนะครับ

และขอขอบคุณที่ได้ชี้แนะแนวทางในการรับมือ หากอาจารย์มีเวลาพอที่จะจัด Workshop "การภาวนาเพื่อสร้างสติ" "การดำเนินชีวิตแบบพอเพียง" หรืออะไรประมาณนี้ เพื่อเป็นแนวทางในการนำไปปฏิบัติจริงก็จะดีเยี่ยมเลยนะครับ

วันนี้ เจอ  อจ ดร ประพนธ์

ผมก็เรียน กับท่าน อจ  ว่า   จะหาโอกาส  เข้าไปสอนให้ กับ สคส  และ ภาคี 

สอนธรรมะ แนว LO & KM

 

ลพ สมจิต   ที่ เพชรบูรณ์   ท่านเป็นศิษย์  ลป โอภาสี

ท่านก็เปรยๆ ว่า ครูบาอาจารย์  พูโว้นานแล้ว เรื่องน้ำท่วมนี่แหละ

ตายกันแพ เลยครับ

เราทำลายโลกมานาน แบบรู้เท่าไม่ถึงการณ์

Peter Senge บรรยาย ที่ เวียนนา ปีก่อน   ก็ใช้ แผ่นใสแผ่นเดียว  สอน โมง เรื่อง   น้ำแข็งขั้วโลกละลาย

 

ลพ กล้วย  อาจารย์ของผมเอง  ท่นก็พูดเป็นนัยๆ ให้ เตรียมพร้อม

ลป ลพ  หลายท่าน  ก็เตรียมพร้อม  และ สอนธรรมะ รองรับ  เศรษฐกิจ  ที่ ตกอย่างรุนแรง  ก่อนสงครม และ น้ำท่วม

 

อาจารย์คะ

เรื่อง An Inconvenient Truth จะคล้าย ๆ กับเรื่อง Under Water World หรือป่าว หนูว่าเรื่องนี้ก็ดีนะคะ แต่ว่าสร้างแล้ว เจ๊งค่ะ เพราะว่าไม่มีคนดูเท่าไร

เนื้อหาก็แบบว่า... น้ำท่วมโลก ต้องแย่งดินแดนกัน ดินมีค่ามากมายมหาศาล และทองกลับไร้ค่า

คนต้องอาศัยแนวผาหรือริมภูเขา พระเอกของเรื่อง คือ Kevin Cosner สร้างเองและเป็นพระเอกด้วย ต้องดำน้ำไปเอาเหล็กจากเทพีสันติภาพอะไรทำนองเนี่ย

แต่ว่าพระเอกกลายพันธืในตอนหลัง กลายเป็นมนุษย์มีเหงือก คือหายจแบบปลา และเท้าเป็นพังผืดเหมือนเป็ด

คิดว่า คงหาดูได้ยากแล้วเพราะว่า เข้าไป serch ใน google ก็ไม่เจอค่ะ

 

 

ดูเรื่อง The Day After Tomoroow จะใกล้เคียงที่สุดครับ
หนังเรื่อง An Inconvenient Truth จะมีขายในเมืองไทยรึเปล่า   อยากดูมากเลย

ที่เขียนว่า 
"คนไทย  ส่วนใหญ่  ก้จะเป็นพวก Ignorance คือ รู้แล้ว ก็เฉยๆ   หัวเราะ  ต่อต้าน  ด่า  ปลง  รับรู้แต่ไม่คิดจะทำอะไร  คิดตลกๆเช่น สร้าง เรือ ทำบันลูน  ปล้น ฯลฯ "
ถ้าคนไทยจะเฉย ๆ ก็อาจเป็นเพราะคนไทยรู้สึกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นกรรมอย่างไรก็ต้องเกิด หรือไม่ก็ก่อนตายทำบุญไว้เยอะ ๆ ยังมีชาติหน้ายังมีภพภูมิอื่นอีก หรืออีกส่วนก็คิดว่าตายแล้วก็ตายเลย
จะเรียกว่าเป็นนิสัยพื้นฐานรึเปล่า
ไม่ใช่ว่าคนไทยเราจะไม่รู้สึก หรือคิดจะอยู่เฉย ๆ นะคับ ในฐานะที่ผมเป็นคนไทยและคิดเรื่องนี้ก่อนที่จะมีหนังหรือกระแสออกมานานมากแล้ว
แต่เราลองมาดูสภาวะแวดล้อมของสังคมเราก่อนนิดนึงนะครับ
- ผมนั่งรถขนส่งมวลชนและชวนเพื่อนให้ขี่จักรยาน แต่ที่นี่กรุงเทพฯ ถ้าไม่มีใจรักการขี่จักรยานหรืออดทนจริง ๆ ทำไม่ได้แน่ ๆ ครับ อาจจะถูกรถทับตายก่อนน้ำจะท่วมโลกก็เป็นได้ หรือไม่ก็เป็นมะเร็งผิวหนังซะก่อน(ผมไม่นิยมใช้ครีมกันแดด)
- ไปซื้อพวกอาหารการกินต่าง ๆ ผมพยายามหาอยู่ว่าที่ไหนเค้าใช้ถุงกระดาษ หรือถุงพลาสติกแบบย่อยสลายได้บ้าง แต่ผมไม่เคยเจอเลย เคยเห็นมีมีการรณรงค์ใช้อยู่ช่วงหนึ่งแต่ก็หายไป ผมพยายามหาถุงผ้าไปใช้ซื้อของเองอยู่แต่ลำบากน่าดูเลยครับ
- เรื่องแยกขยะก่อนทิ้ง ถึงแยกไว้แล้ว แต่คิดว่ายังไงก็ถูกเอาไปรวมอย่างเก่าอยู่ดี ขยะที่เอาไป recycle ได้ก็เอาไปขายของเก่าครับ ผมใช้กระดาษให้ครบ 2 หน้าก่อนเอาไปขาย /ที่สำคัญผมสงสัยว่าพวกขยะที่เป็นอันตรายต้องแยกทิ้งยังไงครับ?\
(ส่วนเรื่องปลูกต้นไม้, พยายามไม่ใช้แอร์, ปิดไฟ ฯลฯ ก็ทำอยู่ครับ)

ที่กล่าวมาทั้งหมดคือ แน่นอนว่าต้องมีหลายคนที่พยายามแล้วเหมือนผม......แต่หลายคนก็ต้องถอดใจ เพราะมันยากที่จะทำ
*ทำไมไม่ทำทางขี่จักรยานดี ๆ หรือสร้างระบบขนส่งมวลชนดี ๆ
*ทำไมไม่ผลิตถุงพลาสติกแบบที่ย่อยสลายได้อีกครั้ง
*ทำไมไม่บังคับให้มีการแยกขยะ
*ทำไมไม่ให้นักศึกษาออกไปปลูกต้นไม้กันเยอะ ๆ (เพราะเป็นช่วงอายุที่เหมาะแก่การทำเรื่องแบบนี้)
*ทำไมไม่มีโฆษณาผลกระทบเรื่องนี้บ้างเลย
*ทำไมมัวแต่คำนึงถืงเรื่องเศรษฐกิจ ราคาน้ำมันแพง

ไม่มีเงิน ไม่มีน้ำมัน แล้วเราจะอยู่ไม่ได้หรือ???
ผู้รู้นักวิชาการผู้มีบทบาททางสังคมทั้งหลาย เข้าใจผลกระทบเรื่องนี้แล้ว ทำไมไม่ออกมาเคลื่อนไหวอย่างจริงจังหละครับ???

ยังไงก็ตอบคำถามผมด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ

ใครสนใจต้องการเรื่อง An Inconvenient Truth ให้ email มาที่ [email protected] นะครับ ผมจะส่ง CD เวียนไปให้ คือให้คุณเอาไป write แล้วส่งต่อไปให้คนอื่นอีกที หรือใครต้องการจริง ๆ ก็บอกมาได้ครับ ยินดีส่งให้ทุกท่านครับ

เรียนคุณปลายทาง -->  ดีใจ ที่ผม คนร่วมเส้นทาง รักษ์โลก และ ขี่จักรยานครับ  

  • วันก่อน ผมก็คุยกับ สสส  เพราะ  ผู้บริหาร สสส  ท่านก็ขี่ จักรยานครับ  (เล่น Gary Fisher ด้วยนะ)  ผมก็ขี่  แต่ผมมันเสือภูเขา ไม่ถนัดเผ่นผ่านบนถนนดำ 
  • ผมก็เสนอเรื่อง Bike lane   และ ขอ พื้นที่ สวนสาธารณะให้มากๆ โดยเฉพาะ ในกทม  ท่านก็ดีนะ  ท่านบอกว่า   ในเมืองใหญ่  เขา ย้าย หน่วยงานราชการออกไป สร้าง เมืองราชการ   และ เอาที่ ราชการทำเป็น "สวนสาธารณะ" ครับ  แต่ มันยาก   ที่  เป็น Paradigm  ของคนที่ ดูแล ประเทศนี้    เราหมดเวลาไปกับ ทะเลาะกัน เรื่อง ใครจะมีอำนาจ  ใครจะรวย  ฯลฯ 
  • เรื่องโลกๆ   ต้องทำใจครับ   มันเป็น กรรมของแผ่นดินครับ    แต่ เราเอา กรรมนี้แหละ มาเป็นโจทย์ในการ "ดูจิต" ครับ    เราขอบคุณ กรรมต่างๆที่โถมเข้ามาหาเรา   เพราะ กรรมเหล่านี้ เป็น ครูสอบอารมณ์กรรมฐานของเราครับ
  • ก็ขอเรียน พี่น้องใน Blog ว่า  อย่าไปกลัวตาย  เขากำหนดไว้เรียบร้อยแล้ว    บางคนตายเพราะ น้ำท่วมโลก บางคนหนีน้ำท่วมโลกทัน แต่ ไม้จิ้มฟันติดปากตายก็มี  ฯลฯ  อย่ากลัวตาย แต่ จงกลัวว่าชาติต่อไปจะเกิดเป็นอะไรจะดีกว่า
  • พวกเราคงมีเวลาเหลือกันไม่มาก   รีบ  ฝึกสติ   สร้างกำลังสติ  ไปตามดู รู้เท่าทัน ขันธ์ห้า   จะดีที่สุด    เอาทุกวินาที รักษาสมดุลทางโลก ทางธรรม
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท