ผมเดินทางจากบ้านข้ามมาอีกอำเภอหนึ่ง เพื่อพาทิมดาบ-ลูกชายมาเรียนเปียโนในทุกวันอาทิตย์...แต่ก็มีหลายครั้งที่ไม่ได้มาเรียน...”ครูเอก” ครูสอนเปียโน ถามทิมดาบว่า...ทำไมหายไปนานหลายอาทิตย์เลย?
ผมทำให้ทิมดาบหยุดเรียนไปถึงสามอาทิตย์ เพราะมีทีมงานมาขอถ่ายทำสารคดี...ยายทวดเสียชีวิต...ทิมดาบไม่สบาย และแม่ผมก็ป่วย...ในช่วงนั้น...
คำถามของครูเอกที่ห่วงใย ก็ทำให้ผมซาบซึ้งถึงจิตใจที่งดงามของครูที่มีให้กับลูกศิษย์เสมอๆ
มีเรื่องราวมากมายผ่านเข้ามาในชีวิต...ทั้งดีและเลวร้าย...ผมรู้สึกถึงความเสียดายมากมายกับการพลาดโอกาสในการบันทึกสิ่งต่างๆ เก็บเอาไว้...เพราะบันทึกนั้นจะบ่งบอกถึงว่า
“เวลานั้นผมรู้สึกและครุ่นคิดกับสิ่งต่างๆ และจัดการกับมันได้มากน้อยเพียงไร ?”
เมื่อส่งทิมดาบเข้าห้องเปียโนแล้ว...ผมชอบมานั่งที่ “กุดน้ำใส” เป็นหนองน้ำขนาดย่อมๆ ใจกลางของอำเภอนี้...ผมเดินลัดเลาะเรื่อยๆ ก็ถึงแล้ว...กุดน้ำใส...แต่ในเวลานี้ น้ำกลับ “สีเขียว”
ผมชอบสีเขียวมานานตั้งแต่เด็ก และยังชอบสีเขียวเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน คงเป็นชอบสีของต้นไม้ใบหญ้า...สีเขียวของใบไม้สดชื่นได้เสมอ...และหวนถึงคิดถึงเตี่ย...ตอนเด็กๆ จำได้ว่า เตี่ยเป็นเซียนว่าน...ตอนเช้าๆ เตี่ยชอบรดน้ำให้ว่านในกระถาง...รดน้ำเสร็จในแต่ละแถวก็มาจิบชา...ดูเตี่ยมีความสุขมาก...และเป็นภาพหนึ่งในชีวิตของผม...เมื่อระลึกถึงเตี่ยในยามที่เตี่ยไม่ได้อยู่กับผมในมิติกายภาพ...
กุดน้ำใส มีต้นไม้น้อยใหญ่ ห้อมรอบหนองน้ำ เป็นวงกลม...
ผมชอบพูดคุยให้ทิมดาบฟังเสมอๆ...เป็นประสบการณ์ชีวิตที่ผมผ่านมา...ผมคุยถึงว่า “ชีวิตของคนเราก็เหมือนวงกลม ให้เข้าใจถึงสมการวงกลม...ทุกสิ่งทุกอย่างจะผ่านเข้ามาและเคลื่อนตัวหมุนรอบเหมือนวงกลม และเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า...เมื่อมีปัญหาและอุปสรรค ในองศาใดองศาหนึ่ง ให้เฝ้ารู้และเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น...เพื่อเราจะเตรียมรับกับการเรียนรู้ในองศาต่อๆไป”
ปลาขนาดเท่าฝ่ามือของผม...กำลังกระโดดลอยตัวขึ้นบนเหนือน้ำ...ทักทายผม...เกิดเป็นวงน้ำกลมๆ กระเพื่อมออกเป็นวงกว้างๆ เรื่อยๆ จนสงบ...เป็นภาพที่งดงามยิ่ง จนผมต้องหยุดเขียนบันทึกเพื่อมองภาพที่เกิดขึ้นเบื้องหน้า...
วันนี้ผมมองไม่เห็นดอกไม้รอบๆ หนองน้ำเช่นเคย...ดอกคูน ดอกหางนกยูง ชงโค และตะแบก...ที่เคยออกดอกบานสะพรั่ง วันนี้กลับมองไม่เห็น ทั้งที่ผมเฝ้ามอง เพียรพยายามมองเป็นเวลานาน
แต่เมื่อผมปล่อยเวลาไปสักพัก...ผมนิ่งๆ และเมื่อก้มมองใต้เข่าที่ผมนั่งชันเข่า...ผมกลับมองเห็น “ดอกต้อยติ่ง”
ดอกต้อยติ่งอยู่ใต้เข่าของผมเอง...อยู่อย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัว ท่ามกลางใบไม้สีเขียว...สีน้ำตาล... เศษขยะ เศษกระดาษ...
ดอกต้อยติ่งเพียงดอกเดียว...ทำให้ผมสดชื่นขึ้นมาทันใด...ทำให้ผมได้มองอย่างจดจ่อถึงรูปทรงของดอก...ที่เป็นเหมือนหลุม...ภายในไม่มีเกสร และเมื่อมองลงไปลึกๆ จะเห็นสีม่วงที่ไล่ระดับเข้มและค่อยๆ จืดจางลงไปสู่กลีบดอก
กลีบดอกของต้อยติ่งมีสีม่วงอ่อนๆ ผมนับกลีบดอกได้ห้ากลีบ ทำให้ผมเห็นถึงความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่สรรค์สร้างขึ้น
สิ่งที่เกิดขึ้น...ทำให้ผมค้นพบว่า...ความสุขอยู่ใกล้ๆ ผมนี้เอง...
ผมเห็นฝักที่กำลังอ่อนที่มีสีเขียว...และฝักที่แก่จัดที่มีสีดำ...ในวัยเด็กของผม...ผมชอบเอาฝักแก่มาอม...แล้วรีบโยนออกจากปาก...เพราะไม่นาน...ฝักก็จะแตก...เมล็ดก็จะกระเด็นกระดอนทุกทิศทาง ราวกับลูกระเบิด
ผมมองเห็นเงาของมวลเมฆน้อยใหญ่ที่เคลื่อนตัวลอยไปลอยมา...และสะท้อนเงาตนเองบนแผ่นน้ำสีเขียว ท่ามกลางการเคลื่อนไหวของปลา...จิ้งโจ้น้ำ...และแมงมุม
ส่วน “แมลงปอ” กลับนิ่งกริยาและนิ่งทั้งจิตใจ...เกาะอยู่กิ่งต้นหญ้า...แม้ลมเป่าผิวน้ำที่ทำให้เกิดระลอกคลื่นบนผิวน้ำ
และแล้วใกล้เวลาที่ผมต้องไปรับทิมดาบกลับบ้านแล้ว...
ภาพสุดท้ายของวันนี้...ณ ที่แห่งนี้...ที่ผมกำลังจะจากไป ผมมองเห็นภาพประทับใจและอบอุ่นในใจเหลือเกิน
ผมมองเห็น ชายคนหนึ่งจากฝั่งตรงหน้าของผม กำลังหิ้วถังน้ำ และเทสิ่งหนึ่งในถัง ลงน้ำอย่างเบามือ...ผมมองเห็นปลาที่ดีใจและกระโจนลงน้ำ และกระโดดขึ้นเหนือน้ำแทนคำขอบคุณสำหรับผู้ให้ชีวิต...
ผมเห็นพระสงฆ์กำลังนั่งอ่านหนังสือบนพื้นหญ้า...ท่านนั่งห่างจากผมไม่ไกล ประมาณมุมที่ 30 องศา ...ผมอยากรู้จังว่า ท่านอ่านหนังสืออะไร ? แต่ไม่สำคัญเท่ากับความรู้สึกดีของผม ที่ชอบคนอ่านหนังสือ...ข้างตัวของท่านมีย่ามสีจีวรเก่าๆ ...เป็นภาพที่งดงามมากครับ
ผมมีโอกาสได้สนทนากับตนเอง ผมพบว่า
ชีวิตที่เกิดขึ้นทั้งดีและเลวร้ายทั้งในชีวิตของผม และผู้คนบนโลก...
เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ และธรรมดา
และสิ่งที่ค้นพบในวันนี้ของผม คือ “ธรรมะ”
ที่จะนำติดตัวของผมไปชั่วนิรันดร์....
หายไปหลายวัน
กำลังคิดถึง....คุณหมอก็ส่งบันทึกมาให้อ่านพอดีเลยนะครับ 555
ทุกสิ่งทุกอย่างหมุนเวียนเปลี่ยนไป อาจจะหมุนกลับมาจุดเดิมหรือไม่ก็แล้วแต่ ขอเพียงมีสติรับรู้การเปลี่ยนแปลงแล้วเข้าใจธรรมชาติที่เกิด ก็จะทำให้เรารู้สึกสงบ และสบายใจนะครับ ขอบคุณบันทึกดี ๆ และความรู้สึกดีดีที่มีให้กับดอกต้อยติ่ง เช่นเดียวกันครับ
สวัสดีครับ คุณหมอ
เห็นบรรยากาศคุ้นๆแล้ว สุข สงบ จริงๆ พลอยทำให้ผมคิดถึงบ้านเกิดที่ชุมแพจังเลยครับ..
-สวัสดีครับ..
-อ่านบันทึกนี้แล้วได้ความรู้สึกอบอุ่น
-"ชิวิตเราเหมือนวงกลม"
-ขอบคุณครับ..
ขอบคุณสำหรับบันทึกอันงดงามและละเอียดอ่อนพร้อมด้วยภาพประกอบ อ่านแล้วรู้สึกดีมาก ๆ ค่ะ
...ยินดี..ที่ท่าน..ได้..พบ..ธรรม.ดา..ธรรมชาติ...และเป็นสุข..เย็น..ตลอดไป..เทอญ..(ยายธี)
มีเวลาให้ตัวเอง....ทบทวนบ้าง รู้สึกดีนะคะ
ชอบบันทึกที่สงบ เยือกเย็น และเป็นสุข บันทึกนี้มากๆ ค่ะ
สิ่งธรรมดาๆ เมื่อมองด้วยใจที่บริสุทธิ์ ก็ดูสวยงาม และให้ความสุขทีึ่แท้จริงได้จริงๆ นะคะ
แต่เอ ..การเรียนเปียโนต้องเรียนไกลขนาดนั้นเลยนะคะ
ดีจัง อ่านแล้วชวนคิด
อ่านแล้วมีความสุขไปด้วย บรรยากาศและอารมณ์แบบนี้พี่คุ้นๆ มากค่ะ
กำลังคิดถึงว่าหายไปไหน ได้ชมหลายอย่างเลยนะคะระหว่างเวลาที่รอลูก
พี่ดาก็ได้ชมสบายตาไปด้วย นำดอกไม้สีม่วงมาฝาก ว่างไปฟังเพลงที่ดกไม้สีม่วงนี้นะคะ
http://www.gotoknow.org/posts/541603
...อ่านแล้วได้เห็นแนวคิดดีๆนะคะ
เย็นกาย เย็นใจ เรียบง่าย แต่ได้ความสุขมากมาย ขอบคุณค่ะสำหรับสิ่งดีๆก่อนนอน