CANCER STORIES: FIVE ตอนสี่ LILI


Yes, your mother is pain in the arse. Yes, she's got big mouth. But she's here for you. You know?
LILI

ประพันธ์โดย Jill Gordon กำกับโดย Alicia Keys



Synopsis: Lili นักธุรกิจสาวผู้ประสบความสำเร็จกับชีวิต (ในสายตาของพี่สาวเธอ เพราะเธอมีทั้งเลขานุการส่วนตัว ผู้ช่วย คนรับใช้ ไม่มีสามีหรือลูกๆให้ดูแล ไม่มีหมา ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ ฯลฯ) ผู้ต้องอาศัยอยู่กับแม่จอมบงการของเธอตามลำพังมาตั้งแต่เจ็ดขวบ หลังพ่อของเธอเสียชีวิต พี่สาวของเธอแยกตัวออกจากบ้านไปเข้ามหาวิทยาลัยตั้งแต่นั้น Lili ต้องสอนตัวเองให้ถีบจักรยาน ทำการบ้าน ทำอาหาร ฯลฯ จนเติบโตขึ้นมาพร้อมกับความมุ่งมั่นว่า ชีวิตคือชีวิตที่ควบคุมทุกอย่างได้ด้วยตนเอง ไม่ต้องพึ่งพาใคร ไม่ต้องฟังใคร

Lili นัดพบแม่จอมจุ้นของเธอและพี่สาวที่ภัตตาคาร แม่ของเธอต้องการจะแจ้งข่าวแก่ลูกสาวของเธอว่า เธอจะเลิกย้อมสีผมแล้ว Lili จึงแลกเปลี่ยนข่าวของเธอบ้างว่าวันเสาว์ที่จะถึงนี้ เธอไม่สามารถจะไปวงานแต่งงานของญาติได้ เพราะเธอต้องเข้าไปผ่าตัดมะเร็งเต้านมในวันรุ่งขึ้น เธอไม่ต้องการให้แม่เข้ามายุ่งอะไรในงานนี้ หมอบอกเธอว่าเป็นมะเร็งก้อนเล็กๆ จะทำแค่ lumpectomy คือเอาออกแค่ก้อน ไม่ได้ตัดเต้านมทิ้ง และสามารถกลับบ้านได้เลยหลังผ่าตัดและพักฟื้นเสรีจเรียบร้อย

แผนการทั้งหมดนี้ แม่ของเธอไม่เห็นด้วยอย่างสิ้นเชิง แม่ของเธอมีอีกวิธีหนึ่งที่จะทำ และยืนยันว่าจะทำ Lili จะทำอย่างไร หรือตัดสินใจอย่างไร ว่าสิ่งที่ดีที่สุดนั้นคืออะไรกันแน่สำหรับชีวิตของเธอ

Rosario Dawson เล่นเป็น Lili ผู้ประสบความสำเร็จ แต่ในสายตาของเธอนั้น ชีวิตของพี่สาวเธอ ที่ได้เป็นอิสระจากแม่ของเธอ มีครอบครัว มีลูก ช่างเป็นชีวิตที่ perfect อะไรเช่นนั้น ภาพยนต์ตอนนี้  narrative ให้เห็นว่าคนเราแต่ละคน ต่างก็กำลังพยายาม "วาดภาพ" perfect life ขึ้นมา และบางครั้ง เราก็วาดโดยใช้ model ของชีวิตผู้อื่นมาเป็น role model ที่เราต้องการ หารู้ไม่ว่าคนอื่น หรือคนเดียวกันนั้นเอง ที่กำลังอยากจะใช้ "ชีวิตแบบเรา" อยู่ในเวลาเดียวกัน!!!

Lili บอกกับตัวเองว่า "ชีวิตอิสระ independent life" คือชีวิตที่ชั้นต้องการ และเธอทำได้ดีระดับหนึ่ง ด้วยอาชีพการงานที่ประสบความสำเร็จ มีเลขาส่วนตัว มีผู้ช่วย ฯลฯ แต่คนๆหนึ่งที่เธอพยายามจะจัดการให้ออกไปพ้นจากชีวิตของเธอ แต่ไม่สำเร็จ ก็คือแม่จอมจุ้นของเธอนั่นเอง ฉากที่ห้องรับรองคนไข้ที่โรงพยาบาล ที่ Lili พี่สาว และแม่ของเธอเผชิญหน้ากัน พร้อมๆกับมีพยานคือผู้ป่วยชายที่เป็นมะเร็งเต้านม (เป็น bonus message ที่แถมให้ผู้ชม) มีการแลกเปลี่ยนความเห็นที่น่าสนใจมาก

อะไรคือ "ความเป็นอิสระ" หรือ independent?

บางครั้งการเป็นอิสระ หรือไม่พึ่งพาใคร ก็มีความแตกต่างกับการตัดขาด แยกกันอยู่ หรืออยู่ให้ห่างๆกัน ความเป็นอิสระ น่าจะขึ้นกับ Choices ที่เราเลือกได้หรือไม่ได้หรือไม่? เลือกที่จะอยู่ หรือเลือกที่จะไม่อยู่ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น หรือตลอดเวลาทุกครีั้งไป

ในวัฒนธรรมตะวันตก ซึ่งให้ความสำคัญกับ autonomy หรือสิทธิส่วนบุคคล การเลือกวิถีดำเนินชีวิตของตนเองเป็นอย่างยิ่งยวด การ exercise Right หรือสิทธิจะเป็นส่วนประกอบสำคัญของเรื่องราวที่เกิดขึ้น วรรณกรรม ศิลป ฯลฯ ในทุกๆที่ ดังนั้นการ challenge concept ที่ autonomy จะถูก compromize หรือต่อรอง ลดหย่อน เพืออะไรก็ตาม จะเป็นกรณีที่น่าสนใจเสมอ เรื่องราวของ Lili จะไม่ค่อยได่พบในสังคมไทยมากเท่าสังคมตะวันต่ก หากเราจะคุ้นชินมากกว่าที่ญาติๆหรือครอบครัวจะเข้ามามีส่วนร่วม (จนบางครั้งก็มากเกิน)​ ในการดูแลตัดสินใจของคนไข้

มุมมองของคนไข้ชาย (ซึ่งอดรนทนไม่ได้ ณ เหตุการณ์นั้น) ก็สะท้อนประเด็นนี้ได้อย่างตรง และแรงดีมาก ในขณะที่ Lili กำลังตีโพยตีพาย บ่งบอกสิ่งที่เธอ "ต้องการ" คนไข้ชายคนนี้ได้สะท้อนอีกมุมหนึ่งว่า เธอเองต่างหากที่กำลัง "เห็นแก่ตัว (selffish)" และกำลังละเลยความจริงที่ว่า "เธอมีแม่และพี่สาวที่อยู่ ณ​ ที่นั่น เพราะเป็นห่วงเธอ กังวลเพื่อเธอ และรักเธอ" ไม่ได่มาเพราะต้องการจะจุ้นจ้านอะไร ในขณะที่คนอื่นหลายๆคน (ในที่นี้ก็คือตัวเขาเอง) ไม่มีครอบครัวจะมา support ให้กำลังใจอะไรทั้งสิ้น สิ่งที่เํธอกำลังทำอยู่นั้น มันทำร้ายจิตใจเขามาก

"Yes, your mother is pain in the arse. Yes, she's got big mouth. But she's here for you. You know?"

ในฉากสุดท้าย ที่ Lili ได้ค้นพบกับตัวเธอเองว่า พลังที่เธอมีอยู่นั้น จริงๆอยู่ที่ไหนบ้าง ทรงพลัง และเรียบง่ายมาก ตอนที่เธอเดินเข้าไปในห้องผ่าตัดอันเวิ้งว้าง เยือกเย็น เธอมีเวลาอีกขั่วขณะหนึ่งที่จะอยู่กับความจริงว่า สุดท้ายแล้ว อะไรกันแน่ที่สำคัญกับชีวิตเธอ

หมายเลขบันทึก: 540478เขียนเมื่อ 25 มิถุนายน 2013 11:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 25 มิถุนายน 2013 13:25 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

..ชีวิต..เป็นบท..ละคร..ที่เลือกเล่นได้..(ทุกคนมีบทบาท..ต่อตนเอง)..ไม่ว่า..จะอยู่ส่วนไหนใน..โลก..หรือจะมี..ผิวสีอะไร...บทบาทที่(ไม่ชอบ)..ยิบยกมาเล่น..คือบทอิสระ.(จึง)(เป็น).บทสุดท้าย..ที่จะต้องเล่น..(บทความตาย)...อิสระที่ต้องเล่น.."สำคัญแน่ๆ..กับทุกๆ..ชีวิต".....(แอบคิด.หลังจากได้อ่านบทความนี้ขอบพระคุณเจ้าค่ะ..ยายธี).....

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท