CANCER STORIES: FIVE ตอนสาม Cheyanne


But if you take away everything I am, then who survives exactly? The only way to win is to stay at the table." วิธีเดียวที่จะชนะ (พนัน) ได้ก็คือ ยึดหยัดสู้ต่อไปที่โต๊ะพนันนั้นแหละ

CHEYANNE

ประพันธ์โดย Howard J. Morris กำกับโดย Penelope Spheeris

 


Synopsis: Cheyanne และ ทอมมี่ สองคู่สามีภรรยาหนุ่มสาว ต่างต้องตอบคำถามกันและกันว่า "เธอรักชั้นเพราะอะไร? รักฉันตรงไหน?" ในขณะที่ต้องประคับประคองนาวาชีวิตคู่ ทั้งสองคนได้โอกาสที่จะทำ soul searching ค้นหาตัวเองว่า ต้นทุนชีวิตของตัวเองนั้นมีอะไรอยู่บ้าง

Cheyanne มีอาชีพเป็น exotic dancer ส่วนทอมมีก็มีอาชีพเป็นนักเลงทวงหนี้ให้เจ้าพ่อในถิ่นนั้น ท้งสองคนมีชีวิตคู่ที่เร่าร้อน มีความสุขล้นเหลือสำหรับช่วงชีวิตที่เต็มไปด้วยพลังงานเหลือเฟือ Chayanne มีความเขื่อมั่นในร่างกายของเธอ ความสวยงามของรูปลักษณ์ของเธอ เป็นทั้งความภาคภูมิใจ และเป็นทั้ง "ตัวเธอ" ไปในเวลาเดียวกัน ฉะนั้นเองเมื่อเธอรับทราบว่า ไม่เพียงแค่เธอเป็นมะเร็งที่เต้านมข้างซ้าย แต่ยังเป็นชนิด multi-focal คือกระจายหลายจุด ทำให้เป็นข้อบ่งชี้ว่าควรจะทำผ่าตัดเอาเต้านมออกทั้งสองข้าง เพราะจะมีโอกาสเป็นอีกข้างหนึ่งได้สูงมาก เธอถึงกับทนรับไม่ได้ ยิ่งได้เห็นสีหน้าของทอมมี่ตอนที่ได้ยินเรื่องการผ่าตัด ยิ่งทำให้เธอเสียขวัญมากยิ่งขึ้นว่าเธอจะไมไ่ด้สูญเสียเพียงเต้านมเท่านั้น แต่เธออาจจะกำลังสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไปพร้อมๆกัน

ทอมมีเป็น fighter มาทั้งชีวิต ชีวิตเขาเต็มไปด้วยการใช้กำลังหักหาญเพื่อที่จะเอาชนะ และ motto ในชีวิตของเขาก็คือ "ต้องสู้ เอาชนะมัน" แต่เมื่อสิ่งที่เขากำลังสู้ และกำลังเอาชนะนั้น ต้องการให้เขามองเห็นเสียก่อนว่า "จริงๆแล้วเขาเป็นใคร และสามารถจะทำอะไรได้บ้าง" การต่อสู้ครั้งนี้จะเปลี่ยนทอมมี่และคนที่เขารักได้ทั้งชีวิต

ในทางการแพทย์ พวกเราชอบมี protocol หรือแนวทางการปฏิบัติ แนวทางการรักษา เยอะแยะมากมาย เต็มไปด้วย "มาตรฐาน" เต็มไปด้วย "หลักการ" ซึ่งความท้าทายอยู่ที่ว่า "ชีวิตจริงนั้น มันสนใจมาตรฐานหรือหลักการในลักษณะใด?"

Cheyanne เป็น exotic dancer ซึ่งความสำเร็จของวิชาชีพของเธอนั้น อาจจะไม่ได้ขึ้นกับความถูกต้องตามหลักวิชาการเต้นรำ เหมือนกับการเต้นรำในรูปแบบอื่นๆ แต่ขึ้นกับ "ต้นทุน" อีกประเภทหนึ่งคือ ความสวยงาม sexy ของร่าวกายของเธอ หน้าตา เรียวขา สะโพก หน้าท้อง และทรวดทรงองค์เอว และสิ่งที่เธอนำเสนอคือ "female sexiness" หรือลักษณะเย้ายวนทางเพศหญิงของเธอ ในขณะที่อีกสังคมหนึ่งอาจจะพูดถึงเรื่อง "ความงามภายในสำคัญกว่าความงามภายนอก blah blah blah แต่สำหรับ Cheyanne นั้นความงามภายนอกของเธอที่ (เธอเข้าใจว่า) มอบทุกสิ่งทุกอย่างให้กับชีวิตของเธอ ทำให้เธอได้พบรัก ได้แต่งงานกับทอมมี ทอมมีไม่เคยเสียโอกาสที่บอก จะพูดให้เธอฟังว่าเขารักร่างกายเธอมากเพียงไร และแสดงออกอย่างไม่ต้องมีคำพูดทุกๆครั้งที่เธออยู่กับทอมมี่

ตอนที่แพทย์ให้การวินิจฉัย และบอกเธอกับทอมมี่เกี่ยวกับ "ความเสี่ยง" ต่างๆ ทำไมเธอถึงต้องทำการตัดเต้านมออกทั้งสองข้าง ทั้งๆที่เป็นเพียงข้างเดียว Cheyanne รับไม่ได้กับทางเลือกนี้ เมื่อเพิร์ล หมอโรคมะเร็งของเธอพูดถึงผลการรักษา พยากรณ์โรค เกี่ยวกับการ "รอดชีวิต" Cheyanne ก็บอกว่า "But if you take away everything I am, then who survives exactly?" "ถ้าหมอตัดเอาทุกสิ่งทุกอย่างที่ชั้นเป็นออกไป แล้วใครกันที่เหลือรอด?"

ถ้าหมอฟังประโยคข้างต้นไม่ดี ก็คงจะงงๆ ไม่เข้าใจว่า "ใครที่เหลือรอด" นั้นหมายความว่าอะไร และอาจจะพลอยแปลได้ด้วยว่า หากหมอไม่เข้าใจประโยคนี้ ก็อาจจะหมายถึงตัวหมอเองก็ไม่เคยให้ความหมายว่า "Who I am" หรือจริงๆแล้วหมอคือใคร อะไรบ้างที่ "กำหนด หรือ define" ว่านี่คือฉัน อย่างที่ Cheyanne ได้กำหนดไว้แล้วอย่างชัดเจน

หรือเกินไปกว่านั้น หมออาจจะรู้สึกว่าการที่ Cheyanne กำหนดว่าตัวเธอเป็นเพียงแค่เต้านมสองข้าง และเกิดความรู้สึก disapprove หรือไม่เห็นด้วย และอยากจะเปลี่ยนเธอ ก็ยิ่งเป็นเรื่องที่อ่อนไหว sensitve มาก เพราะคิดแบบนี้อาจจะส่งผลต่อไปยังความสัมพันธ์ระหว่างหมอกับคนไข้ เมื่อไรก็ตามที่หมอไม่สามารถยอมรับตัวตนที่คนไข้ได้วาดให้กับตัวเอง ต้องการจะไปเปลี่ยนแปลงอย่างนั้น อย่างนี้ หากไม่ระวังให้ดี อาจจะส่งผลเสียตามมาได้อย่างมากมาย

ผมชอบตอนที่หมอเพิร์ลพยายามจะให้ความหวังแก่ Cheyanne หมอเพิร์ลจะพูดตรงๆเสมอ (อ่านประวัติหมอเพิร์ล จากตอนที่หนึ่ง ) เธอบอกว่า "ถ้ามีใครมาบอก Cheyanne ว่าในช่วงแรกของการรักษานั้นไม่เท่าไหร่ หรือไม่ทรมานมาก นั่นจะเป็นคำพูดโกหกอย่างแน่นอน แต่ในชีวิตการทำงานของหมอเอง ที่ต้องอยู่ในสถานการณ์เลวร้ายที่สุดของชีวิตคนจำนวนมาก สิ่งหนึ่งที่จะเกิดขึ้นคือ จะมีวันที่ดีกว่ารอคอยอยู่เสมอ (There will be a better day ahead)" และมีคนไข้หลายคนที่สามารถอยู่จนได้ Kiss the Wall

ถึงตอนนี้ทั้งทอมมีและ Cheyanne ก็ทำหน้างงๆ ไม่เข้าใจ หมอเพิร์ลอธิบายต่อว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่คนไข้คนไหน อยู่รอดได้ถึงห้าปี พวกเธอจะจัดพิธีฉลองเล็กๆ แล้วให้คนไข้คนนั้นประทับริมฝีปากลงบน tile บนผนัง ว่าฉันได้ผ่านมาได้แล้ว และฉันยังคงสู้ต่อไป มะเร็งเต้านมเป็นมะเร็งอีกชนิดหนึ่ง ซึ่งส่วนใหญ่จะตอบสนองต่อการรักษาได้ดี มียาหลายขนาน สำหรับมะเร็งในระยะต่างๆ ที่ตอบสนองดีมาก ดังนั้น ที่ฝาผนัง Kiss the Wall จึงเพิ่มจำนวนผู้รอดชีวิตมากขึ้นๆตลอดเวลา

ผมชอบบทสนทนาระหว่างทอมมีกับตัวประกอบอีกคนหนึ่ง เป็นนักพนันที่ติดหนี้บ่อนบ่อยมาก และทอมมีก็เป็นขาประจำที่จะต้องมาเจอและทวงหนี้ ในตอนแรกที่ Cheyanne ปฏิเสธไม่ยอมผ่าตัด ทอมมีก็กลุ้มใจมาก จะมาระบายกับนักพนันคนนี้ แต่สุดท้ายนักพนันคนนี้กลับให้คำปรึกษาแก่ทอมมี่หลายประการ และจบที่ประโยคว่า

"The only way to win is to stay at the table." วิธีเดียวที่จะชนะ (พนัน) ได้ก็คือ ยึดหยัดสู้ต่อไปที่โต๊ะพนันนั้นแหละ เพราะถ้าถอยออกมาเมื่อไหร่ เราก็แพ้เมื่อนั้น ทอมมีจึงยินยอมทำตามคำแนะนำ คือไม่ถอย ขออยู่ที่โต๊ะนี้ไปจนถึงที่สุด

หมายเลขบันทึก: 540472เขียนเมื่อ 25 มิถุนายน 2013 11:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 25 มิถุนายน 2013 15:16 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท