ห้องเรียนสีขาว


ความเป็นมา

           สืบเนื่องมาจากด้วยรัฐบาลสมัยก่อน ๆ และรัฐบาลโดยการนำของนางสาวยิ่งลักษณ์  ชินวัตร
นายกรัฐมนตรี ในปัจจุบัน
ได้กำหนดให้ปัญหายาเสพติดเป็น “วาระแห่งชาติ” และมอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการดำเนินการสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันปัญหายาเสพติดในสถานศึกษากำหนดมาตรการป้องกันเด็กและเยาวชนก่อนวัยเสี่ยงและวัยเสี่ยงไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดเรียนรู้โทษและพิษภัยยาเสพติดรู้จักวิธีปฏิเสธหลักเลี่ยงยาเสพติดและใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์เพื่อหลีกเลี่ยงการหมกมุ่นมั่วสุมยาเสพติดและอบายมุขตลอดจนดูแลช่วยเหลือนักเรียน นักศึกษาที่ไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด จึงกำหนดนโยบายให้โครงการห้องเรียนสีขาว
ปลอดยาเสพติด เป็นโครงการหนึ่งในการป้องกันปัญหายาเสพติด
          ห้องเรียนสีขาว  คงไม่ได้หมายความว่า การนำสีขาวไปทาห้องเรียน แต่เป็นการดำเนินงานด้านกิจกรรม
ที่ดี มีความคิดสร้างสรรค์กิจกรรม ไม่เป็นพิษเป็นภัยต่อตนเอง สังคม และประเทศชาติ

นโยบายด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา
ประกอบด้วย ๕ ด้าน ดังนี้

 ๑.  ผู้บริหารทุกระดับของกระทรวงศึกษาธิการ น้อมนำพระราชดำรัสที่ทรงห่วงใยเยาวชนที่ไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดและการดำเนินงานตามแนวทางยุทธศาสตร์พระราชทานเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนามาเป็นหลักในการทำงาน

 ๒.  ผู้บริหารสถานศึกษา ครู อาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาต้องมีความตระหนักและจิตสำนึกให้ความร่วมมือ
ร่วมใจ ในการป้องกันไม่ให้นักเรียนนักศึกษาไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด

  ๓. สถานศึกษาจัดทำแผนปฏิบัติการตามแนวทาง ๔ มาตรการกลยุทธ์ ๔ ต้อง ๒ ไม่ และจัดกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์
ด้านดนตรี กีฬา คุณธรรม จริยธรรมเพื่อให้นักเรียน นักศึกษาใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ไม่ไปเกี่ยวข้องกับ
ยาเสพติด
๔. บุคลากรที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดในทุกกรณีให้ดำเนินการทางวินัยโดยให้ออกจากราชการไว้ก่อนและดำเนินการทางกฎหมายสำหรับนักเรียน นักศึกษา ไม่ให้ไล่ออกให้นำไปบำบัดรักษาและเข้าค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยให้ติดตามผลการบำบัดรักษาและเรียนได้ตามความประสงค์

๕. ผู้บริหารทุกระดับของกระทรวงศึกษาธิการอำนวยการ กำกับตรวจติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้บริหารสถานศึกษาและบุคลากรงานสถานศึกษาดีเด่นให้ยกย่อง ชมเชยอบโล่และเกียรติบัตรโดยให้นำไปเป็นผลงานในการเลื่อนตำแหน่ง เลื่อนวิทยฐานะ และขั้นเงินเดือนและประเมินสถานศึกษา

แนวทางการดำเนินงาน
๕ มาตรการ กลยุทธ์ ๔ ต้อง ๒ ไม่

มาตรการ๕ มาตรการ

๑.  มาตรการป้องกัน สถานศึกษาจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ตามกลุ่มสนใจเพื่อเสริมสร้างความตระหนักและปลุกจิตสำนึกไม่ให้นักเรียนนักศึกษาไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด

๒.  มาตรการค้นหา สถานศึกษาจัดระบบการคัดกรอง (RE-X-RAY) จำแนกกลุ่มนักเรียน นักศึกษา ออกเป็น ๕ กลุ่ม คือ กลุ่มปลอด กลุ่มเสี่ยงกลุ่มเสพย์ กลุ่มติด และกลุ่มค้า

  ๓. มาตรการรักษา สถานศึกษาจัดระบบการส่งต่อกลุ่มเสพย์กลุ่มติดเข้าสู่การบำบัดรักษาตามระบบสมัครใจการนำเข้าสู่กระบวนการจิตสังคมบำบัดในสถานศึกษาและค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

  ๔. มาตรการเฝ้าระวัง สถานศึกษาดำเนินการจัดให้มีนักเรียน นักศึกษาแกนนำ ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน นักศึกษา เพื่อเฝ้าระวังไม่มีการแพร่ระบาดของยาเสพติดจัดระเบียบพื้นที่เสี่ยงและมีการขจัดปัจจัยเสี่ยงพื้นที่อับโดยจัดสภาพสิ่งแวดล้อมที่ไม่ให้เอื้อต่อการไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด

  ๕.  มาตรการบริหารจัดการมีการแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงานกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์การดำเนินงาน
มีแผนปฏิบัติการ และการอำนวยการ กำกับ ติดตาม ประเมินผล สรุปรายงานแจ้งต้นสังกัดและการประสานงานกับทุกภาคส่วน

กลยุทธ์
๔ ต้อง ๒ ไม่

  สถานศึกษาดำเนินการ ๔ ต้อง
๑. สถานศึกษาต้องมียุทธศาสตร์การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดที่สอดคล้องกับสภาพของปัญหาและสถานการณ์ในพื้นที่
๒. สถานศึกษาต้องมีแผนงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษาที่ตลอดปีการศึกษา

๓. สถานศึกษาต้องมีระบบข้อมูลการดำเนินงาน
๔ ด้าน ได้แก่ ระบบด้านการป้องกัน ระบบด้านการเฝ้าระวัง ระบบด้านการดูแลช่วยเหลือและระบบด้าน
   การบริหารจัดการ

๔. สถานศึกษาต้องมีเครือข่ายการทำงานระหว่างนักเรียนนักศึกษา ครู อาจารย์ ผู้ปกครอง ผู้นำท้องถิ่นและผู้นำชุมชน

สถานศึกษาดำเนินการ ๒ ไม่

๑. สถานศึกษาไม่ปกปิดข้อมูล กลุ่มเสพกลุ่มติด และกลุ่มค้ายาเสพติด

๒. สถานศึกษาไม่ผลักปัญหา ไม่ไล่นักเรียนนักศึกษาออกจากสถานศึกษาให้นำไปบำบัดรักษาเมื่อหายแล้วให้กลับมาเรียนได้ตามปกติ

มาตรการเสริมแรงห้องเรียนสีขาว

๑. สถานศึกษาจัดให้มีการประกวดห้องเรียนสีขาวเป็นประจำทุกเดือนหรือตามความเหมาะสม ครูอาจารย์ที่ปรึกษาและนักเรียนแกนนำ จะได้รับเกียรติบัตรจากศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดกระทรวงศึกษาธิการ

๒. สถานศึกษาที่ดำเนินงานโครงการห้องเรียนสีขาวครบทุกห้องเรียนมาแล้ว ๑ ปี จะได้รับประกาศ  เป็นโรงเรียนสีขาวและได้รับเกียรติบัตรจาก ศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด กระทรวงศึกษาธิการ

๓. สถานศึกษาที่ดำเนินโครงการโรงเรียนสีขาวมาแล้ว๒ ปี ก็จะได้รับประกาศและโล่เป็นโรงเรียน สีขาวดีเด่นระดับเงิน/ ทอง/ เพชร เมื่อได้ระดับเพชรแล้วจะยกย่องเชิดชูเกียรติบัตรให้เป็นสถานศึกษาปลอดอบายมุขจากศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด กระทรวงศึกษาธิการ

  ๔.บุคลากรที่รับผิดชอบการดำเนินงานโครงการห้องเรียนสีขาวและมีผลงานดีเด่นด้านการป้องกัน
และแก้ไขปัญหายาเสพติดศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด กระทรวงศึกษาธิการจะเสนอผลงาน  เพื่อพิจารณารับบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดจากสำนักงาน ป.ป.ส. ประจำปีงบประมาณ

กลยุทธ์ห้องเรียนสีขาว

๑. ส่งเสริมให้มีแหล่งเรียนรู้ด้านวิชาการ   โดยนักเรียน/นักศึกษา แกนนำ จำนวน ๕ คน หรือตามความเหมาะสม
     มีการจัดกิจกรรม เช่น จัดบอร์ด    จดหมายข่าวให้ความรู้ ข่าวสารการสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันปัญหายาเสพติด
     การไม่ยุ่งเกี่ยวอบายมุข    มีทักษะชีวิต มีความรู้ด้านเพศศึกษา และวิธีการการป้องกันไม่ให้ตั้งครรภ์ก่อนวัยเรียน
     การรักนวล สงวนตัว เป็นต้น
๒. ส่งเสริมให้มีฝ่ายการงาน  ควรให้มีนักเรียน นักศึกษา แกนนำ จำนวน ๕ คน หรือมากกว่า ช่วยกันดูแล
     รักษาความสะอาด     เรียบร้อยในห้องเรียน และกระตุ้นให้เพื่อนนักเรียนในห้องเรียนได้มีส่วนช่วยเหลือกัน
     เป็นประจำวัน มีการดูแล     สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนที่มีพฤติกรรมเข้าไปยุ่งเกี่ยวยาเสพติด และชวยกัน
     ดูแล เฝ้าระวัง เพื่อนช่วยเพื่อน
๓. ส่งเสริมให้มีฝ่ายสารวัตรนักเรียน กิจกรรมนักเรียน นักศึกษา มีการดูแล มีหน้าที่สอดส่องความดูแลเรียบร้อย
     ทั้งใน ห้องเรียนและมุมอับ  สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนที่มีพฤติกรรมเข้าไป ยุ่งเกี่ยวยาเสพติด และชวยกัน
     ดูแล
     เฝ้าระวัง เพื่อนช่วยเพื่อน ช่วยกันป้องปรามเพื่อน แนะนำเพื่อนไปในทางที่ดี
๔. ฝ่ายกิจกรรม  มีภาระหน้าที่ในการจัดกิจกรรมที่สร้างสรรค์  ทัั้งในห้องเรียน และกิจกรรมในสถานศึกษา
     ทุกระดับชั้น

ความสำเร็จของห้องเรียนสีขาว

    ความสำเร็จหรือสัมฤทธิผลของโครงการห้องเรียนสีขาว ดูได้จากสิ่งต่อไปนี้
    ด้านผู้เรียน
๑. ผู้เรียนตระหนักถึงโทษและพิษภัยยาเสพติด โรคเอดส์ การตั้งครรภ์ก่อนวัยเรียน อบายมุข และอุบัติภัยที่มีผล
    กระทบต่อตนเองและสังคม (ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป)
๒. ผู้เรียนมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ สามารถสร้างสรรค์องค์ความรู้และมีสัมพันธ์ที่ดีต่อกันจากการร่วมกิจกรรม
    ห้องเรียนสีขาว เช่น รับผิดชอบในการดำเนินงานห้องเรียนสีขาว ร่วมกิจกรรมห้องเรียนสีขาวด้วยวิธีหลากหลาย
    มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ใหม่ ๆ นำมาจัดหมวดหมู่ และมีการนำผลการประเมินไปพัฒนาองค์ความรู้ ปรับปรุง
    กิจกรรมอย่างสร้างสรรค์
๓. ผู้เรียนไม่เสพยาเสพติด หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง และป้องกันตนเองจากอุบัติภัย เช่น มาเรียนทันเวลา ปฏิบัติ
    ตามระเบียบของสถานศึกษา เข้าร่วมกิจกรรมการรณรงค์ป้องกันยาเสพติด การตั้งครรภ์ก่อนวัยเรียน อบายมุข
    และอุบัติภัย
   ด้านห้องเรียน
๑.  มีระบบบริหารจัดการหรือดำเนินการห้องเรียนสีขาวอย่างเหมาะสม
      
มีแผนงานโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด โรคเอดส์ อบายมุข และอุบัติภัยพร้อมทั้ง
มีการมอบหน้าที่ความรับผิดชอบให้มีการปฏิบัติอย่างชัดเจน มีการดำเนินงานตามแผนงานอย่างเป็นรูปธรรม
มีการประเมินผลและรายงานผลการดำเนินงานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ มีการนิเทศติดตามผลการดำเนินงาน
อย่างต่อเนื่อง
๒. มีแผนการจัดการเรียนรู้และการจัดกิจกรรมที่เอื้อต่อการป้องกันและปลอดสารเสพติด โรคเอดส์ การตั้งครรภ์
ก่อนวัยเรียน อบายมุขและอุบัติภัย เช่น มีการนำผลการเรียนรู้จากกลุ่มสาระต่าง ๆ มาจัดกิจกรรมโดยบูรณาการ
ให้สอดคล้องกับสภาพปัญหา มีการจัดทำรายงานผล ชิ้นงานกิจกรรมปลอดยาเสพติด  พฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ
การตั้งครรภ์ก่อนวัยเรียน มีสื่อเอื้อต่อการป้องกัน และแก้ไขปัญหาดังกล่าว มีการประเมินผลที่สอดคล้องกับ
การปลอดยาเสพติด การตั้งครรภ์ก่อนวัยเรียน ฯลฯ
๓. มาตรฐานด้านบรรยากาศ สิ่งแวดล้อม และเป็นแหล่งเรียนรู้ที่ปลอดสารเสพติด/ยาเสพติด โรคเอดส์
     การตั้งครรภ์ก่อนวัยเรียน
ด้านครู

๑. ครูที่ปรึกษา อาจารย์ ที่ปรึกษา ผู้ปกครอง ชุมชน และองค์กรอื่นๆ มีส่วนร่วมในการส่งเสริมป้องกันและ
    แก้ไขปัญหาสารเสพติด/ยาเสพติด โรคเอดส์  การตั้งครรภ์ก่อนวัยเรียน อบายมุข และอุบัติภัย
๒.  ครูที่ปรึกษา อาจารย์ ที่ปรึกษา ผู้ปกครอง ชุมชน และองค์กรอื่นๆ มีความพึงพอใจต่อการดำเนินงานของ
     ห้องเรียนสีขาวและสถานศึกษาในการป้องกันแก้ไขปัญหาสารเสพติด/ยาเสพติด โรคเอดส์  การตั้งครรภ์
     ก่อนวัยเรียน อบายมุข และอุบัติภัย

บทสรุป
           เราควรมาร่วมกัน จับมือกันในการดำเนินงานห้องเรียนสีขาว เพื่อให้เด็กและเยาวชน บุตรหลาน
ของเราได้ปลอดยาเสพติดโรคเอดส์  การตั้งครรภ์ก่อนวัยเรียน อบายมุข และอุบัติภัยถือว่าเป็นการทำบุญใหญ่
สำหร้บประเทศชาติ เพราะเป็นการสรรค์สร้างคนให้เป็นคนหรือมนุษย์ที่สมบูรณ์ ทั้งกายและใจ อนาคติของชาติ
อยู่ในกำมือของเยาวชน แต่อนาคตของเยาวชน อยู่ในกรรมมือของพวกเราทุกคนนะครับ มาช่วยสร้างเด็กและ
เยาวชนของเราให้เป็นคนดี เป็นคนเก่ง และสามารถดำรงตนอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข

 



 

 

หมายเลขบันทึก: 536216เขียนเมื่อ 17 พฤษภาคม 2013 11:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 พฤษภาคม 2013 11:54 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ขอบคุณบันทึกดีๆ ค่ะท่าน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท