เตือนภัย!!! บนโลก Online ครั้งที่ ๒


เตือนภัย!!! บนโลก Online ครั้งที่ ๒


              เพียงแค่เดือนกว่า ๆ ผ่านไปเท่านั้นเอง ที่ผู้เขียนได้เขียนเรื่อง "เตือนภัย!!! บนโลก Online...มาบัดนี้ ก็โดนอีกแล้ว เริ่มเหนื่อย + ท้อ กับการใช้ชีวิตในปัจจุบันนี้ เหมือนจะใช้ชีวิตยากขึ้นทุกวัน ไว้ใจกันได้ก็ค่อนข้างยาก มีแต่เรื่องโกหก หลอกลวงกันเสียมากกว่า...จากครั้งที่ ๒ นี้ น่าจะคงเกี่ยวเนื่องมาจากครั้งแรก เตือนภัย!!! บนโลก Online...ด้วย ผู้เขียนเดาว่าเป็นเช่นนั้น เพราะครั้งแรกเป็นเรื่องของคนสัญชาติอเมริกาที่ติดต่อผู้เขียนมา...แต่ก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรจากผู้เขียน เขาคงจะกลับมาใหม่...ผู้เขียนคิดว่า "มันคงเป็นขบวนการกันมากกว่า" มีทั้งคนอเมริกา + อังกฤษ + มาเลเซีย + คนไทย...ดูจากเวลาใน e mail ที่คน ๆ นั้น เขียนมา ซึ่งในตอนแรกก็ไม่ได้สังเกตในเรื่องเวลา... (คนประเภทหลังนี่สิ!!! ที่น่าเจ็บใจ เข้าร่วมขบวนการกับเขาไปด้วย เรียกว่า คนไทยแท้ ๆ กลับทำคนไทยด้วยกันได้)...แต่ก็มีคนไทยที่ "มีน้ำใจ" คือ คุณศิริวรรณ (ผู้เขียนขอเอ่ยนามด้วย เพราะเป็นคนดี มีน้ำใจ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ของดอนเมืองที่ให้ข้อมูลความจริงกับผู้เขียน)...ขอชื่นชมจากใจจริง ๆ ค่ะ...

              หลังจากที่ผู้เขียนในเรื่องแรกไปแล้ว ขบวนการต่าง ๆ มันก็เข้ามา add ให้ผู้เขียนยอมรับมันอีก คราวนี้ส่ง mail คุยกัน แรก ๆ ก็โอเค คุยกันได้เพราะผู้เขียนก็ไม่ได้เรื่องมากอยู่แล้วและได้รับคำเตือนจากพี่นีนาถบอกมาบ้าง...ตัวเราเองระวังตัวอยู่แล้ว...เหตุที่ผู้เขียนทราบว่าเป็นคนอเมริกา มาเลเซีย คนไทย เพราะว่าใน e mail,sms มันสามารถโชว์เบอร์ เพราะโทรศัพท์ของผู้เขียนเป็น iPhone เราจึงทราบ...พวกนี้มันฉลาด มันอ้างว่าเป็นคนประเทศอังกฤษ แต่ในเบอร์ มันเข้าใจใช้ มันไม่แจ้งชื่อเบอร์โทร...มันขึ้นว่า "ระงับอยู่"...และผู้เขียนก็โทร.ไปที่ประเทศอังกฤษ บอกว่า ยังไม่เปิดใช้บริการสำหรับเบอร์นี้...ส่วน sms ก็เช่นกัน ไม่ขึ้นเบอร์ที่คน ๆ นั้นให้ไว้...เรียกว่า "มันกล้าให้เบอร์มือถือ + เบอร์ sms"...แต่มันคงไม่รู้หรอกว่า...ผู้เขียนก็เริ่มรู้แกวมันแล้ว ก็ได้แต่ระวังตัวเข้าไว้...เพราะลูกชายก็เตือนแม่เสมอว่า "ให้ระวัง"

              แรก ๆ ก็ติดต่อกันดี มีอยู่วันหนึ่งเป็น "วันแม่" ของต่างชาติกระมัง ไม่รู้ว่าใช่หรือเปล่า? เพราะเขาพูดมาทางโทรศัพท์เป็นภาษาอังกฤษ รู้แต่ว่า "mom" เพราะคุยได้ไม่นาน เนื่องจากผู้เขียนมีประชุมฯ...แล้วเขาก็ mail มาหาตลอด ใน mail ก็พูดไม่มาก พอจะรู้ อ้างว่าตนเองเป็นคนมาจากแคนาดา มาอยู่ประเทศอังกฤษ ๑๕ ปีแล้ว มีลูกสาว อายุ ๑๓ ปี ๑ คน เมียเกิดอุบัติเหตุจากรถ...เห็นรูปเราว่า "เป็นคนดี น่าจะเป็นคนใจดี" จึงมาผูกมิตร เราก็ยอมผูกมิตร mail คุยกันตามประสาคนมีน้ำใจ...ทำให้เห็นได้เลยว่า...คนพวกนี้อาศัยความเป็นคนดี มีน้ำใจของเรามาเป็นพื้นฐานในการจะต้องทำอย่างไรให้คนดี มีน้ำใจเสียเปรียบความมีจิตใจที่ไม่ดีของตนเองให้ได้ไม่ว่าเรื่องใด ๆ โดยเฉพาะเรื่องเงิน...

             ในตอนบันทึกแรกนั้น ผู้เขียนก็คิดเหมือนกันว่า อาจจะโดนแบบนี้ แต่ครั้งนั้น เพียง ๓ วัน เราก็ตีแตกไปเลยว่า ตัวเรารู้ทันเล่ห์เหลี่ยมของพวกเขา...เขาคงนึกแค้นกระมัง จึงตามมาอีก...เพราะตอนนั้นในบันทึกแรกที่ผู้เขียน ๆ มีคนไทยคนหนึ่งเขาเข้ามาอ่านบันทึกแล้วเขาก็ commen ด้านล่างว่า...เขา sms กับ Gen.Joseph เพิ่งเสร็จ Gen. บอกว่า จะมาแต่งงานกับผู้เขียนแล้วก็จะโอนเงินมาให้จำนวนมาก...ดูสิ!!! เขายังกล้าเข้ามาเขียน...แต่ผู้เขียนได้ลบมันออกไปแล้ว เพราะไม่อยากสนใจในเรื่อง เงินของคนอื่น...เงินที่ได้มาแบบใดก็ไม่รู้ แล้วก็ขอสงวนสิทธิ์ไม่ให้คนที่เป็นสมาชิกได้เข้ามา commen อีก บันทึกนี้ก็เช่นกัน...เพราะเขาคงให้พรรคพวกเขาที่เป็นคนไทยเข้ามาอ่านแล้วส่งข่าวไปให้...คราวนี้มาแปลก...ตอนแรก ๆ ก็คุยกันดี ประสาเพื่อน ในระหว่างการติดต่อ ผู้เขียนก็พยายามจับเท็จเขาอยู่เรื่อย ๆ (ลืมบอกไปว่า...เขาเขียนใน mail เป็นภาษาอังกฤษ)...เขาว่าผู้เขียนว่า You stupid ดูสิ!!! นี่มันด่าเราชัด ๆ...เราก็คิดว่า ไม่เป็นไร...แต่แล้วเขาก็พยายามเขียนมาติดต่อกับเราเรื่อย ๆ

           เมื่อ ๓ วันที่แล้ว มาแปลก...ตอนเย็นบอกเราว่าจะมาเก็บเงินให้กับพ่อที่ประเทศมาเลเซีย บอกว่า พ่อเสียตั้งแต่ ๒ - ๓ ปีที่แล้ว เพราะว่า พ่อเป็นผู้รับเหมา ส่วนตัวเขาอ้างว่าเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง น้ำมัน + แก๊ส พ่อได้รับเหมาจากประเทศมาเลเซีย เขาจะมาเอาเงินของพ่อเขาที่ได้ก่อนตาย...พอตอนประมาณ ๔ - ๕ ทุ่ม เขาก็ mail มาหาอีกว่า "ตอนนี้เขาอยู่มาเลเซียแล้ว" ตอนแรกบอกว่า "เมื่อเก็บตังค์เสร็จเขาจะบินมาเยี่ยมผู้เขียน หรือว่าให้ผู้เขียนบินไปหาเขาที่มาเลเซีย" ดูสิ!!! ช่างคิดออกมาได้ ใครเขาจะบินไป บินมา เหมือนนกได้ งานเราก็มีทำเป็นหลักแหล่ง...มันคงคิดว่าผู้เขียนมีกระตังค์มากมายกระมัง...คริ ๆ ๆ...ผู้เขียนบอกว่า "ไม่สามารถไปได้หรอก ถ้า You จะมาก็มาหา I ได้ I จะไปรับ แต่รับที่สนามบินบ้าน I เท่านั้นนะ...นี่ก็ความมีน้ำใจของผู้เขียนอีก...ผู้เขียนลืมบอกไปว่า...ในตอนแรกที่เขียน mail หากันนั้น บอกเขาว่า I ไม่ชอบการโกหก I ชอบความจริง ซื่อสัตย์ เขาก็ตกปากรับคำอย่างดี เพิ่งจะรู้เดี๋ยวนี้เองว่า "ไม่ว่าชาติไหน มันก็โกหกเหมือน ๆ กัน เพราะตอนเรียนครูบอกว่า ฝรั่งเป็นสุภาพบุรุษ...เห็นท่าจะไม่จริงเสียแล้ว" ทำให้เห็นว่า...บางข้อมูลกว่าเราจะเรียนรู้จริง ๆ ก็ปาเข้าไปตอนอายุ ๕๐ กว่า ๆ แล้ว...ไม่เป็นไร? ก็ปัจจุบัน มันเป็นเรื่องของการเรียนรู้ตลอดชีวิตอยู่แล้วไง!!! นี่กระมัง...ที่เขาบอกว่า "การเรียนรู้ คนเราต้องเรียนรู้แบบไม่รู้จักจบจักสิ้น เป็นการเรียนรู้ด้วยตนเองตลอดชีวิต"...นี่่ยังดีที่ไม่ได้เสียอะไรไป...

          นายคนนี้ เขากล้าหาญมาก คราวนี้เล่นลงทุนใช้เบอร์โทรศัพท์ โทร.มาเข้าเครื่องของเรา คราวนี้เบอร์โชว์เป็นของประเทศมาเลเซียจริง ๆ พร้อม ๆ กับ sms ก็เป็นของประเทศมาเลเซีย ติดต่อกันมาตลอดพร้อม ๆ กับการโกหกต่าง ๆ นานา สุดท้ายบอกว่าเก็บตังค์ของพ่อที่ตายได้แล้ว จะเดินทางมาเยี่ยมผู้เขียนที่เมืองไทยวันที่ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๕๖ sms บอกผู้เขียนตลอดว่า ขณะนี้กำลังอยู่ที่บริษัท กำลังจะ Take off จากโรงแรม กำลังจะไปสนามบิน เครื่องบินกำลังจะออก เขาจะเดินทางมาประเทศไทย และถ้าถึงเมืองไทยเขาจะโทรหาผู้เขียน...และแล้วก็จริงอย่างที่คิด...มีโทรศัพท์ดังขึ้นมาเป็นเบอร์มือถือ ซึ่งผู้เขียนก็แปลกใจตั้งแต่แรกว่าทำไมไม่เป็นเบอร์ของ Office ที่ดอนเมือง...เป็นเสียงของผู้หญิงไทย บอกว่า "ตอนนี้คุณ...ถูกจับที่สนามบินดอนเมืองในฐานะนำเงินเข้ามามาก" ให้ผู้เขียนโอนเงินไปให้ ๓๔,๘๐๐ บาท เขาจะ sms มาให้ ผู้เขียนก็บอกว่า "ขอพูดกับ...ก่อน" เขาหยุดไปนาน น้ำเสียงไม่ค่อยพอใจ...ผู้เขียนโทร.กลับไปเขาบอกว่าให้รอก่อนเพราะอยู่ไกลกัน...ผู้เขียนก็รอ แต่แล้วก็ได้รับ sms ของคนๆ นั้น บอกว่าให้ผู้เขียนโอนเงินให้กับ officer ๆ ไม่ใช่ผู้ชายแต่เป็นผู้หญิง ผู้เขียนก็สงสัย...

         นายคนนั้น โทร.เข้ามาอีก พร้อมกับให้ผู้เขียนโอนเงินให้เจ้าหน้าที่ สุดท้ายการโกหก ๆ ได้ไม่เนียนเลย...ใช้ sms แล้วก็ mail...ก็คิดดูสิ ถ้าคนมันถูกกุมขังอยู่ โทรศัพท์มันก็ติดต่อไม่ได้ แต่มัน mail ได้ก็แปลกดีนิ...ใน mail บอกว่า...ให้ผู้เขียนไปโอนเงินให้เขาคนนั้น...อ้างว่า ถูกจับก็เพราะผู้เขียน ใครไปขอร้องให้มันเข้ามาล่ะ ก็บอกเองนี่ว่าจะมาเยี่ยมเรา เราก็นึกว่า "เพื่อนกัน" แต่ที่ไหนได้ เขาคนนั้นไม่ได้เข้ามาเมืองไทยหรอกค่ะ มันนั่งบงการอยู่ที่อเมริกา เพราะเวลาใน mail มันโชว์ขึ้นที่ mail ของผู้เขียน เวลาห่างกันประมาณเกือบ ๑๒ ชั่วโมง (เหตุที่ทราบเพราะผู้เขียนก็เคยไปอเมริกามาเมื่อปีที่แล้ว)...คนเราโกหกแบบไหน ก็ไม่สำเร็จหรอก...ผู้เขียนก็ mail ไปบอกเขาคนนั้นว่า...ฉันได้แจ้งความกับตำรวจไปแล้ว และก็ให้น้องสาวที่ทำงานที่ดอนเมืองประสานงานกับเจ้าหน้าที่ที่ดอนเมืองให้ว่ามีคนชื่อ...นี้ถูกจับอยู่ที่ดอนเมืองหรือไม่?...เขาถึงได้หยุด mail มาหา...เจ้าหน้าที่ก็ดีแสนดีแจ้งมาว่า case ของพี่เป็น case ที่ ๒ แล้วที่เจ้าหน้าที่ดอนเมืองพบเจอ...บอกว่า...อย่าให้ผู้เขียนโอนเงินให้เขาเด็ดขาด...เพราะขณะนี้ ไม่มีใครถูกจับกุมแต่ประการใด...ผู้เขียนก็ตอบไปว่า ไม่ได้โอนหรอกค่ะ แต่ที่ถามเพื่อจะให้ชัดเจนว่า มีคนชื่อนี้ โดนจับหรือไม่...

         เรียกว่า..."สมัยนี้ไว้ใจ เชื่อใจ ใครไม่ได้เลยสิน่า" ยิ่งเฉพาะโลก online...ตอนนี้ผู้เขียนก็คงจะหยุดเสียทีกับโลก Online เพราะดูทั้งข่าวก็แล้ว แต่มาพบเจอกับตัวเรานี่สิ!!! เหตุมันไม่น่าเกิดเลย...เหตุการณ์แบบนี้มันจะไปเกิดกับใครอีกหรือไม่ ยากที่จะคาดเดา ก็ขอเขียนไว้เพื่อให้คนที่เข้ามาอ่านได้ระวัง!!! ตนเองเข้าไว้ด้วย...อย่าได้ไว้ใจใครเด็ดขาด เพราะไม่เช่นนั้น คุณจะเสียเงินไปโดยไม่รู้ตัว...ขนาดโทรทัศน์ก็บอกอยู่เสมอ ๆ...สมัยนี้ มันหากินกันแปลก ๆ ถ้าจะหมดปัญญาหากินกันแล้ว...มันทำกันเป็นขบวนการเลย "น่ากลัวมาก"...เรียกว่า "ขบวนการข้ามชาติ" เลยเชียวแหล่ะ!!! แล้วมันจะมีครั้งที่ ๓ อีกไหมเนี่ย!!!...แต่ผู้เขียนก็ได้ลบ blog ดังกล่าวออกไปแล้ว...พอทีกับการเรียนรู้บนโลก Online...ไม่รับ add หรือรับการตอบรับจากใคร ๆ อีกแล้ว..."น่าเบื่อ" แบบนี้ ทำให้ "คนคิดทำดี" เกิดอาการ "ท้อ" แม้ว่า "จะไม่ได้เสียเงินไป" ก็ตาม..."มันเสียความรู้สึกจริง ๆ"

        เขียนไว้เพื่อเป็น "อุทาหรณ์" เตือนใจสำหรับคนที่ชอบเรียนรู้จากโลก Online โดยเฉพาะ "คนไทย" เราให้ระวังให้มาก ๆ จะได้ไม่เสียความรู้สึก ถ้าไม่รู้จักใครแล้วจะไปรับ add เข้ามาเป็นเพื่อนเด็ดขาด...

        เขียนบันทึก เตือนภัย ครั้งแรก บอกว่า...จะให้เงินเรา...เขียน เตือนภัย ครั้งที่ ๒ บอกว่า...จะมาเอาเงินเรา...แล้วมันจะมีครั้งที่ ๓ อีกไหมเนี่ย!!!...น่ากลัวมาก...I afraid...I afraid...I afraid...

        สำหรับประโยชน์ที่ผู้เขียนได้จากการถูกกระทำในครั้งนี้ นั่นคือ...ทำให้เราเก่งภาษาอังกฤษขึ้นเยอะเลย แบบนี้กระมังที่เขาเรียกว่า "ในวิกฤติก็มีโอกาส"...แต่โอกาสแบบนี้มีบ่อย ๆ ก็ไม่ค่อยดี "มันน่ากลัวค่ะ"...ถ้ามันไม่พลาดก็ดีไป แต่ถ้ามันพลาดนี่สิ..."น่ากลัว ๆ ๆ มาก ๆ ๆ"

         ทุก ๆ บทเรียนของการเรียนรู้ "มัน คือ ครู ของเราเอง...ซึ่งสมัยก่อนคนเราไม่ค่อยมองเห็นถึงเรื่องนี้กันมากนัก คิดว่า "ครู" คือ คนที่สอนในชั้นเรียนเท่านั้นเอง...แต่ "ครูที่ดี" คือ "ประสบการณ์ตรงของเราเอง"...และสิ่งที่เราจะกระทำได้ในตอนนี้ นั่นคือ...การอโหสิกรรม ต่อกันเท่านั้นเอง ไม่คิดผูกอาฆาตพยาบาทให้มันเป็นเวรกรรมติดตัวเราไปภพหน้าหรอกค่ะ...

หมายเลขบันทึก: 535808เขียนเมื่อ 13 พฤษภาคม 2013 18:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 พฤษภาคม 2013 08:57 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

ขอบคุณค่ะ ท่านอาจารย์ บุษยมาศ 

ในโลก online นอกจากมีแบบที่ท่านอาจารย์เล่ามานี้แล้ว  

ก็ยังมีประเภทที่แอบคุยดีกับเรา แต่รุมด่าเราในกลุ่มเพื่อนของเขาเพียงเพราะคิดว่าเราไม่รู้  และ

ยังมีเรื่องเพศตรงข้ามที่เราเมตตาเพราะเห็นว่าพอจะช่วยเหลือได้ แต่เขากลับแกล้งทำเป็นชื่นชมเราแบบคิดร้ายทำให้เกือบเสียหายกลายเป็นเรื่องเปลืองตัว  

ดังนั้น ต้องถนอมตัวและจิตใจตัวเอง แบบเมตตา คู่อุเบกขา  นิสัยใครนิสัยมัน เห็นชัดเจนแล้วต้องเชื่อตาเชื่อใจชองตัวเองไว้ก่อน และก็อย่าไปไว้วางใจอีกต่อไป  ใครจะคิดว่ามองโลกในแง่ร้ายก็ช่างมัน เพราะว่าเราทำดีมาเยอะ มีบางเรื่องเทวดาดลใจให้เห็นแล้ว จะมองร้ายๆ ไว้บ้างแบบป้องกันตัวเองไว้ได้จะเป็นไรไป ใช่ไหมคะ ?   ดิฉันคิดแบบนี้ค่ะ

ขอบคุณเรื่องราวที่เตือนให้ได้รู้เท่ารู้ทันจ้ะ

โลกออนไลน์  น่ากลัวค่ะ  กับการคบคน "รู้หน้า ไม่รู้ใจ"  ประสาอะไรกับโลกออนไลน์ที่ไม่รู้แม้กระทั่งหน้า

แม้แต่ในโกทูโนว์ของเรา ก็เคยมีให้ปวดหัวอยู่บ่อย ๆ แต่....ไม่ขอกล่าวถึง....

อย่างไรก็ตาม คนดี ๆ เรื่องราวดี ๆ ก็ยังมีให้เราได้เลือกคบ  เลือกเสวนาได้อีกเยอะค่ะ

ขอบคุณนะคะ ผอ.บุษย์  ที่ทำให้ต้องระวังมากขึ้น

ค่ะ คุณ on time...

ของพรรณนี้ ไม่พบเจอกับใคร เขาก็ไมู่รู้หรอกค่ะ ขอเพียงเอาตัวของเราให้รอดจากพวกสัตว์ที่เข้ามาขอส่วนบุญเราเถอะค่ะ...เราทำดี ความดีมักจะปกป้องเราให้พ้นจากสิ่งที่ร้าย ๆ ค่ะ เพราะใช้ประสบการณ์ตรงของเราเองนี่แหล่ะค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ

ขอบคุณคุณวอญ่า  + คุณมะเดื่อ  + ครูอิงจันทร์ 

และขอขอบคุณสำหรับดอกไม้กำลังใจจากทุก ๆ ท่านค่ะ

ขอบคุณที่นำมาเตือนกันค่ะ

ขอบคุณค่ะ คุณจารุวรรณ 

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท