เรียนจบ ป.๖ ตอนนั้น เกือบไม่ได้เรียนต่อมัธยม พ่อกับแม่ จะให้ทำนา ให้ช่วยเลี้ยงควาย พ่อกับแม่ไม่มีคนช่วยทำ และบอกว่าเรียนไป จบแล้วก็ต้องมีสามี เหมือนคนอื่นในหมู่บ้าน มีครอบครัวแล้ว เรียนไปก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์
ครูใหญ่ที่โรงเรียน ต้องไปช่วยพูดขอร้องแม่ ให้ช่วยส่ง ด.ญ.นิตยา เรียนเถอะ มันเรียนดี ลายมือก็สวย กีฬาก็เก่ง วิ่งได้เหรียญทอง วาดรูปก็ได้รางวัล แข่งขันอะไรที่ไหน ด.ญ.นิตยาไปหมด สร้างชื่อเสียงให้โรงเรียนมากมาย พ่อกับแม่ ใจอ่อนหรืออ่อนใจก็ไม่รู้ ยอมเหนื่อยยาก ส่งให้ลูกเรียนถึง ม.๓
ถ้าไม่ได้พ่อแม่ส่งเรียนวันนั้น นิตยาก็คงไม่มีวันนี้ ไม่มีวุฒิ ม.๓ ก็คงเป็นสาวห้างไม่ได้ สาวห้างคือบันได ก้าวแรกของชีวิตการทำงาน จนถึงทุกวันนี้ มีกินมีใช้ เป็นสุขสบาย เป็นนายตัวเอง ทำให้หวนรำลึกถึงพระคุณพ่อกับแม่ ที่ท่านตัดสินใจให้ลูกได้เรียนหนังสือ มีเครื่องมือทำมาหากิน
นึกถึงสมัยเรียนมัธยม โรงเรียนที่ตัวอำเภออยู่ไกล ไปกลับไม่ได้ ต้องเช่าบ้านอยู่กับเพื่อน กลับบ้านเดือนละครั้ง มีอยู่วันหนึ่ง เดินทางกลับบ้าน ฝนตกหนัก น้ำท่วมถนนหนทางที่เคยเดินเข้าหมู่บ้าน น้ำท่วมสูงเกือบถึงคอ ต้องค่อยๆเดิน กลัวตัวเองจะลอยตามน้ำไป ใจคอไม่ดีเลย นึกตลอดทางว่าจะรอดไหมเนี่ยขณะที่เดินลอยคอ เจองูตัวใหญ่เลื้อยมา กลัวสุดขีด ร้องไม่ออก ยืนในน้ำตัวแข็ง สักพักงูก็เลื้อยผ่านหน้าไป ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา นิตยาเกลียดกลัวงูมาตลอดเลย
วันนี้ มีความสุขที่ได้เขียนบันทึก ขอเวลาไปดูบ่อปลาสวยงามก่อน เป็นสิ่งที่รักมากในเวลานี้ นำรูปมาให้ดูด้วยค่ะ
ดีใจที่ได้อ่านเรื่องราวดีๆ ของคนสู้ชีวิตค่ะ
เป็นกำลังใจให้จ้ะ
ขอบคุณนะครับพี่ เรื่องเล่าของพี่ถ่ายทอดพลังมาเยอะมากผมจะสู้และมุ่งมั่นนะครับพี่..
ขอขอบคุณ คุณจันทวรรณและคุณมะเดี่อค่ะ
เป็นแบบอย่างที่ดีของเด็กๆที่ต้องต่อสู้และอดทนในการดำเนินชีวิตค่ะ ปลื้มใจแทนพ่อแม่จังเลยค่ะ
ขอบคุณทุกท่านมากๆนะค่ะที่ให้กำลังใจและดอกไม้จะสู้ต่อไปค่ะ
"บุญยก" ชื่อนี้ที่คุ้นชิน ที่พัทลุง นายกเทศบาลเมืองพัทลุง สุเมธ บุญยก เคยช่วยทำกิจกรรมครั้ง เป็น พช
ขอบคุณนิตยา ที่นำชีวิตการต่อสู้ เป็นแบบอย่างของคนอยากเรียน" นั่งในเฌอยกตัวเอง" ให้ไปสู่ที่ดีกว่า
ขอบคุณค่ะหนูก็สู้สุดๆแล้วคัา/บุญยกเยอะนะแต่ไม่รู้อยู่ที่ใหนบ้าง