อย่าพึ่งยุบโรงเรียนของหนูเลยนะคะ


อย่าพึ่งยุบโรงเรียนของหนูเลยนะคะ

แม่หนูเล่าให้ฟังว่าโรงเรียนของหนูอาจจะถูกยุบ และเขาจะให้ไปเรียนที่อื่น แต่แม่บอกว่าอาจจะให้หนูออกจากโรงเรียนจะดีกว่า !!!

แม้บ้านของหนูจะอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนตำบลมากนัก และแม่หนูเอง ก็อยากให้หนูได้ไปโรงเรียนตำบล ซึ่งเพื่อนๆ ของหนูหลายคนก็ไปเรียนที่นั่น เพราะมีครูเยอะกว่า มีนักเรียนครบทุกชั้นไม่ต้องมาเรียนร่วมกันในบางวัน มีสนามเด็กเล่น และมีห้องสมุดที่มีหนังสือมากมาย น่าจะเป็นโอกาสให้หนูให้เรียนดีขึ้น และในอนาคตก็น่าจะทำให้หนูได้มีงานดีดีทำในอนาคต และหนูก็เชื่อว่าพ่อแม่ของเพื่อนๆ พี่ๆ ของหนูที่อยู่โรงเรียนเดียวกันกับหนูกว่า 40 คน ก็คงคิดไม่ต่างจากแม่ของหนู

แต่ด้วยเหตุผลของแต่ละครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่าเดินทางที่ต้องนั่งรถเดือน (รถรับส่งที่ต้องจ่ายค่ารถรายเดือน) ค่าขนม หรือบางคนที่ต้องกลับไปช่วยพ่อแม่ทำงานหาเงินเพื่อจุนเจือครอบครัว หรืออย่างกรณีหนูเองที่ตอนเที่ยงต้องกลับมาป้อนข้าวคุณยายที่ป่วยช่วยตัวเองไม่ได้ หลังจากคุณตาตายจากไป และคุณพ่อหนีจากแม่ไป แม่ต้องรับภาระหาเงินเลี้ยงดูครอบครัวคนเดียว และตอนเย็นๆ หนูก็ต้องออกไปทุ่งนาเพื่อหาปู ปลา มาช่วยเป็นอาหารเย็นช่วยแม่อีกแรง

โรงเรียนของหนูถึงจะเล็ก และมีครูเพียงสองคน และบางวันต้องยุบห้องมาเรียนรวมกัน และในหน้าหนาวต้องออกมาเรียนนอกห้องเพื่อรับแสงแดดให้ความอบอุ่น และครูก็ให้พวกหนูช่วยกันปลูกผักสวนครัวหลังโรงเรียน และเลี้ยงไก่ ไว้เพื่อเสริมอาหารกลางวันที่กินกันทุกวัน เพื่อนๆ ก็รู้จักกันหมด และแต่ละคนก็ได้ช่วยเหลือพ่อแม่ ไปด้วย หนูก็พอที่จะเข้าใจได้ว่าทำไมแม่ถึงให้หนูเรียนที่นี่ และจริงๆ ถ้าหนูไปเรียนที่โรงเรียนตำบลจริงก็อาจจะอายนักเรียนคนอื่นไปเปล่าๆ เพราะเพื่อนๆ หลายคนมีของเล่น มีเงินซื้อขนม และมีเสื้อผ้าดีๆ ใส่ อาจจะทำไม่สบายใจและเป็นปมด้อยไป และที่สำคัญแม่เองก็คงมาคอยเป็นห่วงความปลอดภัยในช่วงที่หนูเดินทางและการปรับตัวให้เข้ากับเพื่อนๆ ในสิ่งแวดล้อมใหม่ และที่สำคัญแม่ก็คงรับภาระคุณยายไปด้วย

วันนี้ที่หนูได้ยินข่าวว่าเขาจะยุบโรงเรียนหนู หนูจึงอยากบอกว่าอย่าพึ่งเลยนะคะ ถ้ายังไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิตของหนูๆ และเพื่อนๆ อย่างแท้จริง เพราะความหวังดีนั้นอาจจะทำให้หนูไม่ได้เรียนต่อก็ได้คะ และหนูก็ยินดีที่จะเรียนในโรงเรียนเล็กๆ แห่งนี้ แม้ว่าจะไม่ได้ดีที่สุด แต่ก็เหมาะที่สุด สำหรับหนูและเพื่อนๆ คะ

ป.ล. แรงบันดาลใจในการเขียนมาจากประสบการณ์วัยเยาว์ที่เรียนในโรงเรียนขนาดกลาง ใกล้โรงเรียนขนาดเล็ก และปัจจุบันโรงเรียนแห่งนั้นยังอยู่ เพราะวิถีชีวิตของบางครอบครัว ที่ต้องตัดสินใจเลือกโรงเรียนที่เหมาะที่สุดเพื่อลูกและครอบครัว แม้จะรู้ว่ามันไม่ได้เป็นโรงเรียนที่ดีที่สุด 


หมายเลขบันทึก: 535655เขียนเมื่อ 11 พฤษภาคม 2013 21:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 พฤษภาคม 2013 21:27 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

โรงเรียนบางโรงเรียนควรยุบ

บางโรงเรียนยังไม่ควรยุบ

แล้วแต่บริบท

     เคยเห็นโรงเรียนเล็ก ๆ ที่ครูบางคนสอนไม่เต็มที่ (เพราะมีนักเรียนน้อย ให้(ใช้)ใช้ทำนั่นทำนี่ไปวัน ๆ

     อะไรอะไรก็เล็กๆ น้อย ๆไปหมด  สื่อการเรียนการสอนก็ไม่สมบูรณ์ ห้องต่าง ๆ ก็ไม่สมบูรณ์

     สงสารนักเรียน อยากให้ได้เรียนในโรงเรียนที่มีสิ่งต่าง ๆ ที่ให้รู้ให้เรียนมากขึ้น

     อยากให้มีผู้บริหารเก่ง ๆ  ไม่อยากให้มีครูที่คอยคิดถึงความสบายของตนเองก่อนสิ่งอื่น

     และคิดว่า ควรยุบโรงเรียนอย่างนี้  

         หากจะบอกว่า ปัญหาอยู่ที่คน ต้องเปลี่ยนที่คน   ยิ่งยากกว่า

จะทำก็เป็นไปได้ แต่ต้องไม่ใช่ด้วยเหตุผลสิ้นเปลืองงบประมาณ มันควรจะเพื่อ คุณภาพทางการศึกษาของลูกหลาน

ทั้งนี้ ทราบว่า เป็นสิ่งที่ทางกระทรวงมีการพูดคุยกันไว้แล้ว แต่ยังคงไม่ได้มีแผนใดๆ ยังคงไม่ได้ลงศึกษา ระดมความคิดเห็นเต็มรูปแบบอะไร

แต่รีบนำมาประกาศเป็นนโยบายไปเสียก่อน กระแสสังคมเลยตีกลับ ทีนี้ เขา  ได้ออกมาแก้ข่าวตามมาแล้วว่า ไม่ได้จะยุบทั้งหมด

ยุบเฉพาะ โรงเรียนขนาดเล็กที่มีโรงเรียนขนาดใหญ่กว่าอื่นๆ อยู่ใกล้ เดินทางไปเรียนได้สะดวก ส่วนโรงเรียนขนาดเล็กที่ห่างไกล เดินทางลำบาก 

ก็ยังคงไว้ ไม่ได้จะยุบแต่อย่างใด.....โรงเรียนขนาดเล็กที่รุ่นน้องเพิ่งได้ไปบรรจุ ที่หนองคาย น้องเล่าว่า มีนักเรียนแค่ 50 กว่าคน

แต่เหนื่อยมาก สอนตลอดทั้งวัน ยืนตลอดทั้งวัน  นอกจากนั้นแล้ว ต้องทำสื่อการสอนเองใหม่ทั้งหมด ต้องกลับมาในเมืองซื้ออุปกรณ์ ทำสื่อการสอนใหม่ ที่สวยงาม ให้เด็กสนใจ ที่นั่นไม่ได้มีขายเลย ...ไปสอนได้ เพียง เดือนแรก น้องเค้าตั้งใจ เต็มที่กับโรงเรียนเล็กๆนั้นจริง ทำสื่อการสอนให้โรงเรียนนั้นด้วยเงืนตัวเองหมด ...ด้วยความรับผิดชอบ  เพราะน้องเค้าเด็กเกียรตินิยม ...แต่ ปัญหามันอยู่ที่ เขาไม่ต้องการจะอยู่ตรงนั้นเลย

น้องต้องการจะย้ายโรงเรียนตลอดเวลา  จน  ผอ.ต้องขอร้องไว้ สงสารเด็ก ..แต่น้องก็ดึงดัน จะย้าย ไม่สนการบรรจุตามทุน 5 ปี จะสอบเอาใหม่ เพราะสอบเมื่อไหร่ก็ติดอยู่แล้ว เห็นไหมคะ  โรงเรียนเล็กครูก็เหนื่อย ไม่ได้สบาย ถ้าจริงจังสอนเด็กนะ...แต่ก็เกิดการสมองไหลของครู ทำให้เป็นปัญหาคุณภาพทางการศึกษา ..ทีนี้จากที่ยกมา การจะยุบบางแห่งก็เป็นเรื่องควรทำ....แต่ติดตรงที่  ก่อนจะรีบประกาศอะไรออกมา ควรศึกษาผล  ระดมสมอง วางแนวทางปฏิบัติถึงความเป็นไปได้ก่อน จะได้ไม่เป็นที่กังขาของสัวตมมากขนาดนี้

วันนี้ที่หนูได้ยินข่าวว่าเขาจะยุบโรงเรียนหนู หนูจึงอยากบอกว่าอย่าพึ่งเลยนะคะ ถ้ายังไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิตของหนูๆ และเพื่อนๆ อย่างแท้จริง เพราะความหวังดีนั้นอาจจะทำให้หนูไม่ได้เรียนต่อก็ได้คะ และหนูก็ยินดีที่จะเรียนในโรงเรียนเล็กๆ แห่งนี้ แม้ว่าจะไม่ได้ดีที่สุด แต่ก็เหมาะที่สุด สำหรับหนูและเพื่อนๆ คะ


เห็นด้วยครับ ที่ทุกท่านแลกเปลี่ยน คือ บริบทที่ต้องนำมาพิจารณาที่ต้องมอบรอบด้าน ตั้งโจทย์ให้ชัด โดยแท้จริงแล้วทุกคนอยากให้การศึกษาสามารถพัฒนาคนได้อย่างแท้จริง โดยวิธีการแต่ละที่อาจมีความแตกต่าง นักจัดการศึกษาและผู้กำหนดนโยบาย ไม่ควรรีบร้อน การยุบโรงเรียนบางแห่งเป็นเพียงหนึ่งวิธีการ ในหลายๆ วิธี ในการพัฒนาการศึกษา

ขอบคุณครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท