แม้ช่วยไม่ได้ทั้งหมด......แต่อย่างน้อย............


สิ่งที่ทำในช่วงเวลาสั้นๆ.....คงช่วยลดความรู้สึกหวาดหวั่น วิตกกังวล ลงบ้าง ไม่มากก็น้อย

หญิงไทยวัย 47 ปี มาด้วยอาการเหนื่อย หอบ ทำงานได้น้อยลง ทำงานบ้านก็เหนื่อย  กินข้าวได้แต่ไม่อ้วน ผอมลง ผอมลง บางครั้งมีเจ็บแน่นหน้าอก หายใจไม่อิ่ม

หมอบอกว่าเป็นโรคลิ้นหัวใจตีบและรั่ว 2 ลิ้น ต้องรักษาโดยการผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจ 1 ลิ้น ซ่อมอีก 1 ลิ้น

เธอตรวจพบเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว ตอนนั้นไม่มีอาการผิดปกติมากนัก เธอแต่งงาน มีลูก คนโตอายุ 18 ปี ผู้ชาย คนที่ 2 อายุ 12 ปี ผู้ชายเหมือนกัน ตอนท้องลูกคนที่ 2 เริ่มเหนื่อยมากขึ้น แต่ยังไหว สามารถคลอดลูกเองได้

ต่อมาเริ่มมีอาการมากขึ้น เหนื่อยง่าย ผอมลง ความรู้สึกทางเพศลดลง....

นี่เป็นเหตุปัจจัยหนึ่งหรือไม่ที่สามีของเธอจากไปมีครอบครัวใหม่ เมื่อลูกคนที่ 2 อายุได้ 5 ปี (เธอเล่าว่า..... สามีบอกว่า เธอผอมเกินไป เขาไม่ชอบ เลยขอมีใหม่.......)

ปัจจุบันเธออยู่กับลูกคนเล็กที่หนองคาย  ลูกชายคนโตไปทำงานก่อสร้างที่ระยอง ส่งเงินมาให้แม่และน้อง เป็นค่าเล่าเรียน  โชคดีที่มีญาติพี่น้อง   คนบ้านใกล้เรือนเคียงช่วยดูแล...ตามประสาชนบทแบบไทยๆ


เธอบอกว่า........เธอเสียใจ........น่าจะตัดสินใจผ่าตั้งนานแล้ว...มัวแต่ผัดผ่อนเรื่อยมา จนสุดท้ายอาการแย่ลง ทำอะไรก็ไม่ได้......(จากประวัติเธอโทรขอเลื่อนนัดประมาณ 3 ครั้ง)

เมื่อถามถึงสาเหตุของการเลื่อน...เธอบอกว่าเธอกลัว เนื่องจากพี่สาวคนโต ผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจได้ประมาณ 8 เดือน ก็ตาย  ประกอบกับขณะนั้นยังพอทำอะไร อะไรได้.......เธอกลัวตาย

เราให้เธอเล่า......บอกความรู้สึก..รวมทั้งสิ่งที่อยากพูดคุย

         หลังผ่าตัดพี่สาวแข็งแรงดี สามารถกลับไปทำงานต่างๆ ได้ บางครั้งทำงานหนักด้วยซ้ำ (ไม่น่าเป็นประเด็นหลักที่ทำให้เสียชีวิต)

ที่น่าสนใจคือการดำเนินชีวิต  หลังผ่าตัดพี่สาวกินอาหารอย่างอร่อย โดยเฉพาะอาหารที่ปรุงสำเร็จรูป ก๋วยเตี๋ยว กินได้ทุกวัน.....ประมาณ 1-2  สัปดาห์ก่อนเสียชีวิตเริ่มมีอาการเหนื่อยง่าย ขาบวม น้ำหนักเพิ่มขึ้น (เป็นอาการของภาวะหัวใจล้มเหลว ???).......แต่ก็ยังไม่ไปพบแพทย์      จนวันสุดท้ายที่ทนไม่ไหว......

สำหรับการดำเนินชีวิตของเธอ...ชอบกินอาหารรสจัด โดยเฉพาะรสเค็ม.....

       ......ขี้ลืม  โดยเฉพาะ การกินยา  ลืมกินยาบ่อย แต่บางครั้งเป็นเพราะตั้งใจที่จะไม่กิน เพราะคิดว่าอาการดีขึ้นแล้ว.....เลยหยุดยา   เธอเอ่ยปากว่า..... เป็นเพราะเหตุนี้หรือไม่จึงทำให้อาการทรุดลง

เราไม่คิดว่าการตัดสินใจของเธอที่ผ่านมานั้น ถูกหรือผิด คล้ายกับบันทึกนี้

  น้ำผลไม้.... รักษาโรคหัวใจได้..........จริงหรือไม่  

.การปฏิเสธการผ่าตัดครั้งนั้น...การเลือกรักษาแบบนั้น..เป็นสิ่งที่ถูกหรือผิด......ไม่มีใครบอกได้ ทุกคนมีสิทธิที่จะเลือกในสิ่งที่ตนเองคิดว่าเหมาะสมกับตนเองในขณะนั้น.... ทีมผู้ดูแลมีหน้าที่ในการให้ข้อมูล ...เพื่อให้เขาใช้ประกอบในการตัดสินใจเลือก บางอย่างต้องใช้เวลา...ใช้ประสบการณ์ตรง........จึงจะสามารถตัดสินใจได้


สิ่งที่เราทำได้ในวันนี้คือ การพูดคุยเรื่องโรค การรักษา โชว์ภาพตัวอย่างของคนที่ผ่าตัดมาแล้ว กว่า 20 ปีและยังมีชีวิตอยู่..ขอเน้นในส่วนของปัจจัย เหตุที่จะทำให้ผลของการรักษาดีขึ้นก่อน 

( เนื่องจากสังเกตดูแล้ว เธอมีความวิตกกังวลค่อนข้างมาก ความสนใจค่อนข้างสั้น  การให้ข้อมูลจึงแบ่งออกเป็นระยะ   และให้เอกสารสำหรับให้ดูด้วยตนเองตามความพร้อม.......สังเกตว่ายามที่เธออยู่คนเดียว  เธอจะเปิดดูเอกสารที่เราให้ไว้)

หลังการผ่าตัด เธอต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่

        เธอต้องกินอาหารที่มีรสจืด จำกัดเกลือ ลดอาหารที่มีรสเค็ม อาหารที่ปรุงสำเร็จรูป  โดยเฉพาะก๋วยเตี๋ยว ข้าวขาหมู  อาหารทะเลแห้งๆ ฯลฯ  เพราะสิ่งเหล่านี้มีปริมาณของเกลืออยู่มาก 

           ไม่ห้าม เพราะยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ เพียงแต่ใช้คำว่า ชิม พอให้หายอยาก

  เธอต้องมีวิธีเตือนความจำในการกินยา เพราะหลังผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจ เธอต้องกินยาป้องกันการแข็งตัวของเลือดไปตลอดชีวิต  แม้ว่าจะรู้สึกว่าดีขึ้น สบายขึ้น เธอยังต้องกินยาอย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ ถ้าลืม ต้องกินทันทีที่นึกขึ้นได้..........

เราไม่คาดหวังว่าการพูดคุยในช่วงสั้นๆ จะช่วยให้เธอหายจากความกลัวได้...... แต่อย่างน้อย ก็คงช่วยให้เธอรู้สึกสบายใจขึ้น ที่ได้บอกเล่าความรู้สึกที่อยู่ในใจ..........เตรียมพร้อมสำหรับผ่าตัดในวันพรุ่งนี้

และสิ่งที่อาจจะช่วยให้เธอรู้สึกสบายใจขึ้นได้คือ การลดค่่าใช้จ่ายลง....... 

พาลูกชายไปพบนักสังคมสงเคราะห์เพื่อช่วยเหลือค่ายานอกบัญชี     

          (แอบคิดอยู่ในใจว่า....... เอาหน้าของพยาบาลไปให้ดู........เผื่อกองทุนจะได้ช่วยจ่ายให้มากหน่อยจนถึงจ่ายให้ทั้งหมด...สำเร็จค่ะ  .....ไม่ได้จ่ายค่ายา......  ขอบคุณนักสังคมสงเคราะห์  และกองทุนวันศรีนครินทร์)

เราประสานกับโรงครัวขออาหารสำหรับลูกชายที่มาอยู่ด้วย มื้อละ 1 ถาด......นั่งกินพร้อมกับแม่......คล้ายบรรยากาศในบ้าน     .อย่างน้อยก็คงช่วยให้เธอรู้สึกอุ่นใจบ้าง.....


ภาพสุดท้ายที่เราเห็นก่อนเรากลับบ้านคือ 

               ภาพที่ 2 แม่ลูกนั่งกินข้าวอยู่ด้วยกัน     แม้จะเป็นถาดของใครของเรา  แต่การได้นั่งกินข้าวอยู่กับคนที่เรารัก  คุ้นเคย  ท่ามกลางบรรยากาศ สิ่งแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย. ...คงช่วยให้เธอรู้สึกดีๆ ขึ้นบ้าง ไม่มากก็น้อย


เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการผ่าตัดในวันพรุ่งนี้

  8 พ.ค. 56



9 พ.ค. 56

เธอได้เข้าห้องผ่าตัดช่วงบ่าย.........ขอให้ผลการผ่าตัดราบรื่น

ช่วงเช้ามีโอกาสเข้าไปคุยอีกครั้ง  เธอบอกว่านอนไม่ค่อยหลับตื่นเต้น.......

เราเสนอว่า มีคนไข้ที่ผ่าตัดแล้ว.....เตรียมพร้อมที่จะกลับบ้าน....สนใจอยากเข้าไปพูดคุยหรือไม่...เผื่อจะได้ข้อมูลเพิ่มเติม

เธอปฏิเสธ.....บอกว่าไม่อยากรู้อะไรอีกแล้ว........คิดเพียงว่า.......มั่นใจว่าเธอจะต้องปลอดภัย 

เรายอมรับในการตัดสินใจของเธอ........

  ผู้ป่วยบางคน......ต้องการที่จะคุย.....หาข้อมูลเพิ่มเติม....กับคนที่พึ่งผ่านประสบการณ์มาก่อน

   ผู้ป่วยบางคน.........ต้องการรู้เพียงแค่ในเอกสาร....กับการคุยกับเจ้าหน้าที่เท่านั้น.......ไม่ต้องการพูดคุยอะไรอีก

การสอบถามความต้องการก่อน จึงเป็นสิ่งสำคัญ

(ประสบการณ์ที่ผ่านมา..........ส่วนมากผู้ป่วยอยากเข้าไปพูดคุยแลกเปลี่ยนกับผู้ที่พึ่งผ่านประสบการณ์มาก่อน....แค่เราก็เคยเจอกรณี ........ปฏิเสธแบบนี้.............มาก่อนบ้างแล้ว)

เธอแสดงความหวังว่า.........หลังผ่าตัด.............ไม่ขออะไรมากขอมีชีวิตต่อไปอีก 10 กว่าปี พอให้ลูกชายโตกว่านี้ สามารถเลี้ยงตัวเองได้ เธอก็พอใจแล้ว

เราคิดว่า..........เราเข้าใจในความรู้สึกของคนเป็นแม่

ขอเอาใจช่วย

หมายเลขบันทึก: 535213เขียนเมื่อ 8 พฤษภาคม 2013 18:41 น. ()แก้ไขเมื่อ 9 พฤษภาคม 2013 23:47 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

น้องกระติกเป็นตัวอย่างของพยาบาลที่ดูแลผู้ป่วยด้วยหัวใจจริงๆค่ะ... สมควรนำเป็นแบบอย่าง

ขอบคุณสำหรับเรื่องเล่าดีๆค่ะ

เอื้อยกระติกนอกจากจะเป็นนางพยาบาลแล้ว ก็ยังเป็น "นางฟ้า" ด้วยนะครับ

เป็นกำลังใจให้นะคะ

กฤษณา สำเร็จ (Krisana Sumret)

ขอบคุณคะพี่ติ๋ว...เพราะได้แบบอย่างที่ดีๆ จากรุ่นพี่ๆ ที่มีให้เห็นคะ.....ไม่อยากระบุว่าใครบ้าง เพราะมีเยอะมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  รวมทั้งเจ้าของ comment ด้วยคะ (ไม่ค่อยจะชมกันเลย ^__^)


อักขณิช

 55555 ขอบคุณค่ะ นางฟ้าที่เกือบตกจากสวรรค์



tuknarak

ขอบคุณคะ  ร่วมส่งกำลังใจให้ "เธอ" ผ่านเหตุการณ์ต่างๆ ได้ด้วยดี

ชื่นชมการทำงานด้วยใจเช่นนี้ค่ะ

แวะมาชื่นชมความรู้สึกของพยาบาลที่ดีมากๆครับ ขอบคุณมากครับ


นาง นงนาท สนธิสุวรรณ
ขอบคุณพี่ใหญ่มากค่พ ที่มาแวะให้กำลังใจน้องๆ เสมอ

พี่ใหญ่..เป็นอีกบุคคลหนึ่งที่เป็นแบบอย่างในการทำงานคะ



Dr. Pop
บางครั้งบางครา พยาบาลก็ทำงาน ทำงาน  ทำงาน เพื่อให้ทันเวลา 

อาจหลงลืมบางสิ่งบางอย่าง (ที่สำคัญ) ต้องได้คนไข้และญาติมาช่วยกระตุกเตือนค่ะ 


พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท