บันทึกการไปทัศนศึกษาประเทศพม่า : พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียว

๑๐.๓๐ น. วันที่ ๒  พฤษภาคม  ๒๕๕๖ เดินทางกลับเมือง  หงสาวดี ใช้เวลาเดินทางประมาณ ๒ ชั่วโมง รถแล่นข้ามสะพานแม่น้ำหงสาวดีซึ่งกว้างใหญ่มาก  ที่นี่จึงมีกุ้งแม่น้ำเป็นอาหารจานเด่น 

                       

หยุดรับประทานอาหารกลางวัน   ณ  ภัตตาคาร ๕๕๕ ที่นี่มีอาหารจานเด่น  กุ้งแม่น้ำ  ปลาช่อนทอด  และไข่ไดโนเสา(เต้าหู้) อาหารรสชาติอร่อยมาก  โดยเฉพาะน้ำพริกกุ้งแห้ง ติดใจซื้อเป็นของฝากและเก็บไว้กินที่บ้าน  เขาทำขายถุงละ ๑,๐๐๐ จัต (๔๐ บาท) และขนมตุ๊บตั๊บ ของฝากขึ้นชื่อของที่นี่

                    

อิ่มแล้วกลับขึ้นรถระหว่างทางแวะเข้านมัสการ พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียว มีอายุเก่าแก่กว่าพันปี ค้นพบเมื่อชาวอังกฤษ สร้างทางรถไฟ ไปมัณฑเลย์กราบนมัสการ พระพุทธรูปนอน ที่มีพุทธลักษณะ ที่สวยงามในแบบของมอญ ในปี พ.ศ. ๒๕๒๔ ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวพม่าทั่วประเทศ และเป็นพระนอนที่งดงามที่สุดของพม่า 

       

 ในบริเวณวัด ที่นี่ทุกคนงยังสามารถ เลือกหา เครื่องไม้แกะสลักที่มี ให้เลือกอย่างมากมายและ ของฝาก อาทิเช่น ผ้าพม่า และหยก หยกพม่าเป็นหยกที่ดีที่สุดในโลก  พม่าไม่มีหยกปลอม  มีแต่หยกที่เขาจัดระดับคุณภาพหรือเกรดนั่นเอง  เพราะพม่ามีหยกอยู่มาก  ฉะนั้นทุกคนที่ซื้อหยกไม่ต้องกลัวว่าจะเป็นของปลอม  ทุกชิ้นเป็นหยกแท้

          

จากนั้นนำแวะนมัสการ พระพุทธรูปไจ้ปุน ซึ่งบูรณะเมื่อ พ.ศ.๒๐๑๙ มีพระพุทธรูปปางประทับนั่ง โดยรอบทั้ง ๔ ทิศ ประกอบด้วย องค์สมเด็จพระสมณโคดม สัมมาสมพุทธเจ้า (หันพระพักตร์ไปทางทิศเหนือ) กับ พระพุทธเจ้าในอดีต ๓พระองค์คือ ๑. พระพุทธเจ้า โกนาคมโน (ทิศใต้) ๒ พระพุทธเจ้า กกุสันโธ (ทิศตะวันออก) ๓. พระพุทธเจ้า มหากัสสะปะ (ทิศตะวันตก) สร้างโดย ๔ สาวพี่น้อง ที่อุทิศตน ให้กับพระพุทธศาสนา สร้างพระพุทธรูปแทนตนเอง และสาบานตน ไม่ข้องแวะ กับบุรุษเพศ 

                    

อากาศร้อนและต้องถอดรองเท้าเดิน  จึงลงไปไหว้พระอย่างเดียวไม่ได้เดินเก็บภาพ  ทนแสบเท้าไม่ไหว  

จากนั้นกลับขึ้นรถเดินทางกลับ เมืองย่างกุ้ง  เพื่อไปสักการะพระมหาเจดีย์ชเวดากอง

มีต่อ..........ไปสักการะพระมหาเจดีย์ชเวดากองด้วยกันค่ะ