ประสบการณ์ตรง..ที่อันตราย..ของผู้เขียน?


ดวงตานั้นสำคัญจริงๆ ค่ะ ..... และผู้เขียนคงต้อง.. ขอหยุดเขียนBlogถึงพี่ๆเพื่อนๆน้องๆ สัก 2-3 เดือน นะคะ...เพื่อพักสุขภาพตาด้านช้ายและป้องกันไม่ให้ลุกลามไปด้านขวาอีกนะคะ ....สุขภาพตานั้นสำคัญจริงๆ

 


         เมื่อวันที่ 29 เมษายน ผู้เขียนรู้สึกปวดตาข้างช้ายอย่างมาก.... จึงไปพบจักษุแพทย์ .... เพื่อให้ท่านตรวจ .....ท่านได้นัดให้มาพบในวันรุ่งขึ้น  เนื่องจาก ... ต้องใช้เวลาในการหยอดตา เพื่อให้รูม่านตาขยายมากๆ ชึ่งใช้เวลานานมากพอควรในการหยอดยาให้รูม่านตาขยาย  .... ใช้เวลาตั้งนานกว่าจะขยายที่จะสามารถตรวจได้ .... จักษุแพทย์...ท่านถามอาการ .... ผู้เขียนได้ตอบท่านว่าในตาด้านช้าย  เหมือนมีอะไร...ลอยไป-ลอยมา.... เหมือนหยากไย่ ...ตาข่าย ....หรือมีลักษณะเป็นวงๆ คล้ายฟองน้ำสีดำ...ลอยไปลอยมา .... มีอาการแบบนี้มา 2-3 วัน ..... ต่อมาก็มีอาการรูปวดเบ้าตาช้ายมากขึ้น....และเริ่มปวดมากไปที่ศีรษะ .... เป็นมากขึ้นๆนะคะ ..... จึงไปพบจักษุแพทย์....ท่านบอกผู้เขียนว่าเป็น....  "โรควุ้นในตาเสื่อม"  (Momypedia) ค่ะ ..... ผู้เขียนกลัวมากเลยนะคะ ..... จักษุแพทย์บอกว่า ... ต้องพักสายตามากๆ และให้ยามารับประทาน .... ค่าตรวจก็ไม่คิด..... คิดฉะเพราะ ค่ายา "190 บาท" .... รู้สึกเกรงใจท่านเป็นอย่างมากนะคะ ... "นพ. พลวีย์  กำเนิดศิริ" ...... แล้วท่านนัดไปพบอีก ในวันที่ 7 พค.2556 นี้ค่ะ .... 


          วันนี้ขอนำเรื่องราวประสบการณ์จริง.....มาเล่าให้ พี่ๆ เพื่อนๆ  น้องนะคะ .... จะได้ไม่ป่วย  ....จะได้ระวังตนเองและป้องกันตนเองก่อน......ที่อาจจะเกิดกับพวกเรา ชาวGTK อันเป็นที่รักได้นะคะ


   


      โรควุ้นในลูกตาเสื่อม ....คนที่เล่นคอมพ์เกือบทุกคน เป็นโรค 'วุ้นในลูกตาเสื่อม' ตอนนี้ในประเทศไทย มีคนเป็นโรคนี้ถึง 14 ล้านคนแล้ว จากข้อมูลทางหนังสือพิมพ์ ......นี่เฉพาะแค ่ที่มีข้อมูลบันทึกไว้..... คนที่ไม่รู้ตัวว่าตัวเองเป็นจะมากนะคะ 


                        


        อาการก็คือ
............จะเห็นเป็นคราบดำๆ เหมือนหยากไย่ ลอยไปลอยมาเหมือนคราบที่ติดกระจก จะเห็นชัดก็ต่อเมื่อ คุณมองไปยังภาพแบล็คกราวนด์ที่มีสีสว่าง เช่น ท้องฟ้าขาวๆ ฝาห้องขาวๆ ฝาห้องน้ำขาวๆ จะเห็นเป็นคราบดำๆ ลอยไปลอยมา ถ้าอาการมากกว่านั้นก็คือ ประสาทตาฉีกขาด คุณจะมองเห็นแสงแฟลชในที่มืด ไม่ว่าหลับตาหรือลืมตา ......และถึงขั้นนี้จะต้องผ่าตัด ..... ซึ่งไม่มีอะไรรับประกันว่าจะดีเหมือนเดิม จะตาบอดหรือไม่ ....ข้อมูลจากหนังสือ นะคะ

      
 

       

          สาเหตุของโรคนี้คือ ...... การใช้สายตามากเกินไป .....แต่ก่อนโรคนี้จะเกิดกับผู้สูงอายุ หรือ คนที่มีอาชีพใช้ที่สายตามากๆ เช่น ช่างเจียระไนเพชรพลอย ! ที่ต้องใช้สายตาเพ่งมากๆ แต่เดี๋ยวนี้คนเป็นโรควุ้นในลูกตาเสื่อมกันมากเพราะ เล่นเนต หรือ เล่นคอม  ..... ทำไม คนเล่นเนต เล่นคอม ถึงเป็นกันมาก....ไม่ว่าคุณจะเล่นเนต, เล่นเกมส์, อ่านไดอารี่, อ่านบทความ, อ่านหนังสือหรืออะไรก็ตาม ที่อยู่บนจอคอมพิวเตอร์ ล้วนทำให้สายตาคุณเสียได้ทั้งสิ้นเพราะว่า ถ้าคุณอ่านหนังสือที่เป็นแผ่นกระดาษธรรมดาๆ 'ระยะห่างระหว่าง ลูกตา กับ ตัวหนังสือ จะคงที่ แน่นอนเพราะขอบของตัวหนังสือจะคมชัด ทำให้สมองกะระยะโฟกัสได้ถูกต้องแน่นอนกว่า กล้ามเนื้อและประสาทตาจึงทำงานค่อนข้างคงที่  ....แต่....ตัวหนังสือบนจอคอมพิวเตอร์นั้น มีลักษณะเป็นจุดๆ ประกอบกัน เหมือนแขวนลอยบนจอ ขอบของตัวหนังสือไม่คมชัด สมองจะสับสนในการปรับระยะโฟกัส ......เพราะจอแก้ว จะมีความหนาของแก้ว แต่เรามองผ่านมันไป ....จอ LCD เราก็ต้องมองผ่านเข้าไปเหมือนกัน ตัวหนังสือไม่ได้ติดอยู่ด้านบนเหมือน อยู่บนแผ่นกระดาษค่ะ

                                           



          การปรับระยะโฟกัสจึงไม่แน่นอน บวกกับ.....ลักษณะการอ่านหนังสือในคอมนั้น จะต้องใช้เม้าส์จิ้ม ลากแถบด้านข้างจอ เพื่อเลื่อนบรรทัดหนังสือขึ้นลง เพื่อที่จะอ่านบรรทัดด้านล่างได้หรือไม่ก้อ ใช้ลูกหมุนที่อยู่บนเม้าส์หมุนเพื่อเลื่อนบรรทัดหนังสือ  แต่การเลื่อนบรรทัดนี้ ไม่เหมือนกับการอ่านหนังสือจากแผ่นกระดาษ ที่แขนกับคอเราจะปรับการมองขึ้นลงโดยอัตโนมัติ มีระยะที่แน่นอน สัมพันธ์กัน แต่ว่าการเลื่อนบรรทัดด้วยแถบด้านข้าง หรือลูกกลิ้งบนเม้าส์นั้น มันจะมีลักษณะการเลื่อนแบบกระตุกๆ มันจึงทำให้ปวดตามากๆ เพราะจะต้อง....ลากลูกตาเลื่อนตามบรรทัดที่กระตุกๆ นั้นไปตลอด บวกกับ การพิมพ์ตัวหนังสือนั้น บางทีคุณต้องก้มเพื่อมองนิ้ว ว่ากดตำแหน่งบนแป้นพิมพ์ถูกตัวอักษรหรือไม่ ทำให้..... เดี๋ยวก้ม เดี๋ยวเงย ลูกตาปรับโฟกัสบ่อยเกิน ทำให้ลูกตาทำงานหนัก กว่าจะพิมพ์งานเสร็จ .... จะปวดตามากๆ ตัวอย่างเช่น  เร่งพิมพ์รายงานส่งอาจารย์ ติดต่อกันข้ามคืน ....  สองสามวัน ตาจะปวดมากๆ  รวมทั้งเวลาการเปิดใช้โปรแกรม word ในการพิมพ์ตัวหนังสือมักจะมีสีพื้นที่เป็นสีขาวสว่าง ....ที่นิยมก็คือ ตัวหนังสือสีดำบนพื้นสีขาว....... สีพื้นที่สว่างจ้า...ทำให้ตาจะเกิดอาการแพ้แสง .....ถ้ามีการพิมพ์ติดต่อกันนานๆ เพราะ จ้องจอสีขาวนานเกินไป หรือไม่ก็เล่นเกมส์บ่อย ๆ .... มักจะมีการปรับแสงสว่าง เพราะเวลาเล่นเกมส์ ภาพพื้นหลังของเกมส์มักจะมืดๆ


                    

สรุปก็คือ

            1. การมองตัวหนังสือที่แขวนลอยอยู่ในจอโฟกัสไม่แน่นอน กล้ามเนื้อลูกตาทำงานหนัก ...... ทำให้สายตาเสีย'
            2.
การเลื่อนตัวหนังสือและแถบบรรทัด ในหน้าคอม .... มันจะเลื่อนแบบเป็นกระตุกๆ ทำให้สายตาเสีย การกระตุกๆ ของแถบบรรทัดนี่เอง ที่ทำให้สายตาเสีย 
           3. การก้มๆเงยๆ มองแป้นพิมพ์ และมองจอคอม กลับไปกลับมา .....ทำให้สาย  ตาเสีย .... นะคะ
          4. ก
ารปรับจอภาพที่....... มีแสงสว่างจ้ามากเกินไป....โดยไม่รู้ตัว ....ทำให้สายตาเสีย.... คล้ายๆกับการเปิดดูทีวี ในห้องมืดๆ เป็นประจำ แล้วทำให้สายตาเสียน่ะเองค่ะ 
          5.
การใช้จอคอม ที่มีความกว้างมากเกิน ....จอคอมกว้างๆ นั้น เหมาะสำหรับการดูภาพ ดูหนัง แต่ไม่เหมาะกับการดูตัวหนังสือ ...... เพราะว่า สายตาคนเรานั้นมีระยะการมองตัวอักษรที่ 1 ฟุต แต่จอคอมสมัยใหม่ กลับมีความกว้าง 17 นิ้ว 19 นิ้ว หรือมากกว่านั้น ซึ่งมันกว้างเกินระยะกวาดสายตามอง จากขอบหนึ่งไปสู่อีกขอบหนึ่ง .......ทำให้..... ปวดทั้งคอ ทั้งลูกตา ค่ะ


               


ขอบคุณมาก  สำหรับข้อมูลจาก http://www.tiida-club.net/smf/index.php?topic=11056.0


การป้องกันโรควุ้นในตาเสื่อม มีวิธีการคือ.....

              1. ป้องกัน.... ไม่ให้ดวงตาได้รับการกระทบกระเทือนทั้งจาก....การเล่นกีฬา....จากอุบัติเหตุ และอื่นๆเพราะการที่ตาถูกกระแทกแรง ๆ ....ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้วุ้นในตาเสื่อมได้เร็วขึ้น

             2. อย่าอ่านหนังสือในที่มืด ...... เพราะจะทำให้สายตาสั้น ..... สายตาสั้นจะทำให้วุ้นในลูกตาเสื่อมง่าย


            3. อย่านอนในที่สว่าง.... เพราะแม้ร่างกายจะหลับ .....แต่ลูกตาเมื่อได้รับแสงก็ยังทำงานอยู่ เมื่อลูกตาทำงานหนัก ..... วุ้นก็จะเสื่อมได้ง่าย


           4. ถ้าคุณอายุ 40 ปีขึ้นไป .... ควรจะไปพบจักษุแพทย์อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง .... เพราะหากมีอาการแพทย์จะดูแลให้เราในระยะแรกได้เลยค่ะ

......  แล้วตอนนี้...ผู้เขียน อายุ 55 ปีแล้ว ..... ถือว่าอันตรายมากและมีความเสี่ยงสูง..ที่จะลุกลามไปยังตาด้านขวา... อีกด้วยนะคะ


              


การรักษา โรควุ้นในตาเสื่อม

                 ยังไม่มีการรักษาโรควุ้นในตาเสื่อมได้ ....เพราะมันเกิดจาก....ความชราของอวัยวะเราเอง เรียกว่าเป็น....ไปตามอายุขัย .... แต่ยังพอสามารถรักษาอาการข้างเคียงของโรคนี้ได้บ้าง....แต่ถ้าจอประสาทตาฉีกขาดไป ....หากไปพบจักษุแพทย์ ....เขาจะใช้เลเซอร์ซ่อมแซมรอยขาด....ให้ปิดสนิทก็ทำให้เรายังมีดวงตา...ไว้ถนอมใช้ได้อีกนานค่ะ  

   หวังว่าประสบการณ์นี้ ... ซึ่งเป็นความเสี่ยง(Risk)...เป็นอันตราย (Hazard / Danger) มากๆ ของผู้เขียน......และขอนำบทเรียนในเชิงลบ ..... มาเล่า....เป็นเรื่องราวนี้จะได้ช่วยแนะนำ ... ช่วกระตุ้นเตือนพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์....สำหรับ .... พี่ๆ  เพื่อนๆๆ  น้องๆๆ  อันเป็นที่รักของผู้เขียนได้บ้างนะคะ 

         สุดท้าย .... ผู้เขียนขอนำประสบการณ์ตรง (Direct experience) นำมา   เล่านำมาบอกและนำมาแนะนำและแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน (Knowledge Exchange) นะคะ  

         สรุปได้ว่า.... ดวงตานั้นสำคัญจริงๆ ค่ะ ..... และผู้เขียนคงต้อง.. อหยุดเขียนBlogถึงพี่ๆเพื่อนๆน้องๆ สัก 2-3 เดือน นะคะ...เพื่อพักสุขภาพตาด้านช้ายและป้องกันไม่ให้ลุกลามไปด้านขวาอีกนะคะ ....สุขภาพตานั้นสำคัญจริงๆค่ะ 


                   


          ขอบคุณมากค่ะที่ท่านให้เกรียติอ่านบทความนี้นะคะ


หมายเลขบันทึก: 534540เขียนเมื่อ 2 พฤษภาคม 2013 11:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 พฤษภาคม 2013 13:40 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (23)

ขอบคุณที่ช่วยกันเตือน...นับเป็นภัยคุกคามสุขภาพตาที่พึงระวังค่ะ....

ขอบคุณพี่เปิ้นมากครับ  ที่ให้ข้อมูล 

ขอให้พี่หายป่วยจากวุ้นในตาไวๆๆนะครับ

ดูแลสุขภาพด้วยครับ 

ขอบคุณ ดร.ที่นำมาแบ่งปัน เป็นกำลังใจให้นะคะ

-สวัสดีครับพี่หมอ..

-ผมเป็นโรค "CRVO" ครับ

-รักษาอยู่ที่ รพ.ศิริราช กับ คุณหมออดิศักดิ์ ตรีนวรัตน์ มาหลายปีแล้ว..

-ตอนนีอาการดีขึ้นมาก แล้วครับ

ขอบคุณมากครับสำหรับข้อมูลที่มีประโยชน์มากๆ

พี่หมอเปิ้ลขอบคุณข้อมูลดีๆนะครับ..

ขอบคุณค่ะตอนนี้ปวดกระบอกตานิดๆแล้วค่ะ

.... ขอบคุณ พี่ๆๆ เพื่อนๆๆ น้องๆๆ ทุกท่าน ที่เป็นห่วง นะคะ .... อีก 2-3 เดือนคุยเขียนนะคะ


 

ขอให้ดวงตาแจ่มใสเป็นปกตินะคะพี่เปิ้น  พักสักนิด  แต่อย่านานนักนะคะ

ขอบคุณสาระดีมาก ๆ ค่ะ



หายเร็ว ๆ จ้ะพี่หมอเปิ้น

ส่งดอกไม้ความห่วงใยมาเยี่ยม ขอให้อาจารย์หายเร็วๆค่ะ


Time to get that 27inch or 32inch LED monitor for the computer ;-)

(No, it does not work to use magnifying glass with the tablet screen and it looks funny too.)

ขอให้หายไว ๆคะ  ไม่ต้องกังวลและตกใจคะ ไก่เป็นมาก่อนหน้านี้แล้วคะ แต่ไม่มีอาการปวดตา ตอนนั้นใช้สายตามากไป  พอได้พักสักระยะ อาการจะดีขึ้นคะ ตอนนี้ก็ยังมีหยากไย่ลอยไปมา แต่ไม่มาก  คุณหมอนัดตรวจล่าสุด        ยังไม่ได้ไปตรวจแบบขยายรูม่านตา เพราะต้องใช้เวลาและหยุดการใช้สายตาประมาณ 6- 8 ชั่วโมงหลังตรวจ 

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆนะคะและขอให้หายไวๆนะคะ



คุณหมอเปิ้ลมีอาการฟ้าแลบด้วยไหมคะ   ?

ขอให้กลับสู่สภาวะปกติไวๆนะค่ะ

และขอบคุณสำหรับข้อมูลอันเป็นประโยชน์

หายไวๆ นะคะ

แล้วกลับมาโลดแล่น ใน G2K อีก กระติกจะรอคะ


สวัสดีค่ะพี่เปิล

น่ากลัวจังเลยเนาะ คุณยายใช้เวลาอยู่หน้าจอวันหนึ่งๆ ประมาณ 6-7 ชั่วโมงเลยล่ะค่ะ เมื่อก่อนมองด้วยตาเปล่า วันนี้ต้องใส่แว่นแล้วเพราะปวดตาค่ะ


ขอบคุณ...และเป็นเกียรติค่ะDr.Ple...ที่ได้อ่านบันทึกดีๆ

 

                           

     

ขอให้หายไวๆนะคะ P'Ple โรคเกี่ยวกับดวงตาสำคัญที่สุดค่ะ 

ตาซ้ายของ kunrapee ก็ยังแพ้แสงน้ำตาไหลตลอกเหมือนเดิมค่ะ รักษามาเกือบครบปีแล้ว

มีประโยชน์มากเลย  ตอนนี้ตัวเองตาไม่ค่อยดีแล้ว สงสัยใช้คอมเยอะ

ขอบคุณครับที่ช่วยเตือน ผมเองก็เป็นห่วงสายตาตัวเองอยู่ครับเคยผ่าตัดต้อกระจกมาแล้วทั้งสองข้างครับ

ตอนนี้ใช้สายตามากๆไมาได้ครับจะรู้สึกตึงๆลูกตา จะระมัดระวังมากขึ้น

ขอให้คุณหมอหายเป็นปรกตินะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท