533. นักการเมืองของมนุษยชาติ


มีหนังเก่าเรื่องหนึ่งที่ผมชอบ จนดูซ้ำหลายๆรอบ มีปีหนึ่งเอามาสอนในชั้นเรียนเลย นั่นคือ An Inconvenient Truth นำแสดงโดยอัล กอร์ อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เป็นหนังที่แปลกมากที่สุดที่ผมเคยดูมา ทั้งเรื่องคือการนำเสนอเรื่องปัญหาโลกร้อนครับ นำแสดงโดยคืออัล กอร์ 


                     

              Cr: http://glennj79.wordpress.com/2009/11/12/an-inconvenient-truth-for-mankind/


การดำเนินเรื่องเน้นที่การพูดของอัล กอร์ โดยใช้ PowerPoint ประกอบเป้นหลัก แต่ทำดีมากๆ สวยมากๆ โดยมีภาพคลิ๊ปวิดีโอแทรกเป็นระยะๆ ที่ก็ทำออกมาดี มีการเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ โดยเป็นเรื่องราวตั้งแต่สมัยเรียนที่มหาวิทยาลัยของอัล กอร์ที่ตัวท่านเองเกิดจุดประกาย ความสนใจเรื่องโลกร้อนขึ้นมา ทั้งๆที่ 30 ปีก่อน ยังไม่มีใครพูดถึง คือมีอาจารย์ของท่านคนหนึ่ง ที่ศึกษาเรื่องการเพิ่มของคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ ที่ดูเพิ่มเร็วขึ้นอย่างน่าตกใจ หลังเรียนจบท่านก็ยังสนใจเรื่องโลกร้อน แล้วก็เก็บข้อมูล ติดตามความคิดความเห็นของนักวิทยาศาสตร์ สถานที่บางแห่งเช่นธารน้ำแข็งในอเมริกาใต้ ท่านก็เก็บรูปไว้เอง แล้วก็เอารูปล่าสุดมาเปรียบเทียบให้เห็น ดูแล้วคุณจะตกตะลึงว่าทำไมเราควรสนใจโลกร้อน

เป็นสุดยอดสารคดีครับ ทำดีมากๆ

อัล กอร์ได้พยายามพูดเรื่องนี้ แม้ว่าจะทำงานการเมืองจนถึงกับเป็นรองประธานาธิบดีสมัยคลินตั้น ก็พูดมาเรื่อยๆ พยายามผลักดันกฎหมาย ไปเมืองไหนก็พูด พูดจนกลายเป็นกระแสระดับโลกขึ้นมา แม้ภายหลังท่านจะแพ้การแข่งขันเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีกับ จอร์จ บุช  (ว่ากันว่าท่านถูกโกงอย่างซึ่งหน้า) ท่านก็พูดของท่านผลักดันเรื่องนี้ในทุกเวที ที่สุดท่านก็ได้รับรางวัลโนเบิล ไพร๊ซครับ กลายเป็นปูชนียะของโลกไป         


                                           

Cr:http://www.time.com/time/specials/2007/personoftheyear/article/0,28804,1690753_1695388_1695515,00.html


แน่นอนท่านก็คงไม่มีทุกด้านที่สมบูรณ์แบบ ผมจะพูดถึงเรื่องนั้นบ้างในตอนต่อๆไป แต่เป็นประเด็นสาธารณะด้านอื่นครับ

แต่ที่ผมเห็นอัล กอร์แล้ว ผมอยากเห็นสิ่งนี้เกิดขึ้นกับนักการเมืองของไทยครับ อยากเห็นคนที่กัดติด กับปัญหาบางเรื่องจนกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญอย่างอัล กอร์ ที่มีสั่งสมความรู้ในเรื่องใดเรื่องหนึ่งอย่างต่อเนื่องนานกว่า 30 ปี อัล กอร์ไม่ได้ทำเอง ทั้งหมด มีทีมงาน มีอาจารย์ มีที่ปรึกษา มีเครือข่ายที่ทำเรื่องนี้อย่างเป็นระบบ เป็นงานอดิเรกที่จริงจัง (Serious Hobby) ที่จริงจังจนถึงกับมีการผลักดันกฎหมาย คุณจะเห็นท่านเชื่อมกับทุกเรื่อง แม้กระทั่งรถยนต์ ที่กฏหมายอเมริกันพยายามปกป้องอุตสากรรมตนเอง เรื่องการปล่อยก๊าช ที่สุดท่านชี้ให้เห็นเลยว่าแพ้ญี่ปุ่น เพราะไม่สนใจเรื่องโลกร้อนนั่นเอง ดูแล้วลึกซึ้ง เชื่อมโยงกันไปหมด แม้กระทั่งการศึกษา ก็ลงลึก เรียกว่าท่านเจาะลึกเรื่องเดียว แต่กลับเห็นความเชื่อมโยงไปถึงการศึกษา และขีดความสามารถของประเทศ

ผมฝันว่าเราจะมีคนอย่างอัล กอร์ที่เป็นสส. ครับ ท่านนี้สนใจเรื่องการศึกษา มากๆ แทนที่จะใช้เวลาจับผิดกันไปมา ท่านก็รถณรงค์เรื่องการศึกษา บางท่านสนใจ SME บางท่านสนใจเรื่องชลประทาน  ชนิดกัดติด เกาะติด จนที่สุดมีปีหนึ่ง นักการเมืองของเราได้โนเบิล ไพร๊ซ ครับ... ช่วยกันฝันครับ

สุดท้ายอยากยกคำสุภาษิตโบราณของชาวกรีกครับ 


                                       

แปลเป็นไทยคือ "สังคมจะเติบโตรุ่งเรืองได้ ก็ต่อเมื่อผู้อาวุโส  ช่วยกันปลูกต้นไม้ ทั้งๆที่พวกเขาก็รู้อยู่แก่ใจว่า  พวกเขาจะไม่มีวันได้อาศัยร่มเงาของมัน"


ผมว่าคนกรีกโบราณพูดไว้ลึกซึ้งมากๆ ครับ ผมว่าอัล กอร์ตอบโจทย์เรื่องนี้ได้เลย 


ผมฝันเห็นการเมืองไทยที่ีมีคนแบบอัล กอร์เยอะๆครับ มิใช่ทำเพื่อประเทศไทยเท่านั้น แต่ทำเพื่อมนุษยชาติกันทีเดียว ผมฝันว่าเราจะสร้างสรรค์อะไรเพื่อคนรุ่นต่อไป ทั้งๆที่เราอาจไม้ได้อะไรจากสิ่งนั้นในปัจจุบันครับ






หมายเลขบันทึก: 534412เขียนเมื่อ 1 พฤษภาคม 2013 08:00 น. ()แก้ไขเมื่อ 1 พฤษภาคม 2013 21:47 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท