ความสูญเปล่า จากโครงการ เพื่อ,,.


This is not a good day to start the morning with a reminder in the form of a "letter to editor":

สูญเปล่า
เรื่อง คนที่มีนิสัยลาดื้อกับความเสียหายของประชาชน http://thaipost.net/news/200413/72419

...หนี้สาธารณะ เรื่องนี้เดิมทีคณะรัฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ เคยเป็นวิชาหนึ่งในชั้นปริญญาตรี ทุกวันนี้ไม่ได้ติดตามว่าเป็นอย่างไรบ้าง สำคัญมากควรสอนในชั้น ม.ปลายไปด้วย กู้เอามาก่อหนี้ด้วยความงมงายเป็นการเพิ่มโซ่พันธนาการอันมากมายแก่ประชาชน ถ้าเป็นในแถบยุโรปจะถูกต่อต้านจากประชาชนอย่างมากเลย ถ้ามองเห็นผลสุดท้ายได้ แต่ความว่างเปล่ากลับมา สูญเสียเม็ดเงิน สูญเสียค่าโอกาส เพิ่มภาระหนี้แก่เขา ดูโฮปเวลล์ก็สูญเปล่า บ่อบำบัดน้ำคลองด่านสูญเปล่า บ่อบำบัดน้ำเสียในคลองแสนแสบสูญเปล่า สนามบินภูธรสูญเปล่า ๓๐ แห่งใช้งานเพียง ๔ แห่งทุกวัน ทางรถไฟสงขลา-หาดใหญ่สูญเปล่า ทางรถไฟสุราษฎร์ธานี-คีรีรัฐนิคมกำลังสูญเปล่า หอดูเมืองสูญเปล่า หลายๆ อย่างสูญเปล่า แต่เพิ่มภาระหนี้แก่ประชาชนผู้ยากไร้ แอร์พอร์ตลิงค์กำลังจะสูญเปล่า ขาดทุนเดือนละสองล้านบาท ทุกรัฐบาลขยันสร้างแต่หนี้เสียทั้งนั้น อยู่ดีๆ สู้ไม่ทำอะไรเลยยังจะเสียหายน้อยกว่ามากเลย เราลองคิดดูถ้าเอาเงินสูญเปล่ามาจ่ายเช็คให้แก่ครอบครัวที่ต้องเช่าบ้านอยู่ที่ผ่านมาแล้วคนละครอบครัวสองพันบาท/เดือน ห้าสิบปีก็ยังน้อยกว่าที่สูญเปล่าไปแล้ว และยังไม่นับรวมกับเงินกู้น้ำท่วม เงินกู้รถไฟรางคู่ เงินกู้รถไฟความเร็วสูง เงินรับจำนำข้าวเปลือก ทุกอย่างสูญเปล่าก็พอมองเห็นแล้ว สุดท้ายก็ ใช้ประโยชน์ไม่ยั่งยืน เดี๋ยวเดียวก็เลิกรากันไป ได้แต่ความว่างเปล่ากลับมาและแล้วเพิ่มภาระหนี้ภาษีอากรแก่ประชาชน (สำหรับบุคคลซึ่งมีที่ดินและบ้านเป็นของตนเองในฐานะเจ้าของจะปรากฏอยู่ในข้อมูลคอมพิวเตอร์กรมที่ดิน ข้อมูลคอมพิวเตอร์ของเทศบาล ไม่มีใครเสี่ยงอำพรางข้อมูลเพื่อมาเอาค่าเช่าบ้านแน่ มันเป็นความผิดด้วย)...


...มีเรื่องโจ๊กสัก ๑๐ ปีที่แล้ว หนุ่มสองนายนั่งเถียงกันเรื่องสนามกีฬาเชียงใหม่ ที่หลังแข่งซีเกมส์เสร็จก็ถูกทิ้งร้าง เจ้าคนแรกบอกสร้างมาทำไมสนามกีฬาใหญ่ใช้ทีเดียวเลิก สู้ไปสร้างสนามกีฬาเล็กๆ ให้ครบทุกตำบลจะดีกว่า อีกคนนั่งเกาคางแล้วค้านว่า มันไม่สูญเปล่าหรอก ดูซิอย่างน้อยยังมีที่ให้ควายกินหญ้า ไอ้คนแรกยัวะควันออกหู สวนกลับไปว่า "เออว่ะ..สร้างสนามเลี้ยงควายมันทุกตำบลเลยซิ ควายจะได้เสมอภาคกัน" คนหลังยิ้มกริ่ม ถามกลับเบาๆ แบบเกรงใจ "ประเทศไทยควายมันมากขนาดนั้นเลยเหรอ"...


หมายเลขบันทึก: 533372เขียนเมื่อ 20 เมษายน 2013 04:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 เมษายน 2013 04:32 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

ทางรถไฟสงขลา-หาดใหญ่สูญเปล่า 

เคยเห็นเป็นทางรถไฟตอนเด็ก ๆ ค่ะ  ตอนนี้น่าจะรื้อออกไปแล้ว

เพราะสร้างตลาด และ อาคารอื่น ๆ 


 "ประเทศไทยควายมันมากขนาดนั้นเลยเหรอ"...

จังหวัดที่มีควายมากที่สุดในประเทศไทย เห็นจะเป็นกรุงเทพมหานคร


เรื่องโจ๊ก...มันบาดลึกในใจมากเลยครับ

ความฉิบหายโดยประชาธิปไตยที่กินได้ http://thaipost.net/news/260413/72699


...ดังที่เว็บไซต์ของ สำนักข่าวอิศรา ได้แจกแจงเอาไว้ดังนี้...“เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2556 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายธนวรรธน์ พลวิชัย รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย และผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยกับ สำนักข่าวอิศรา ระหว่างการประชุมชี้แจงแนวทางการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินชองหน่วยงานภาครัฐ กับตัวแทนหน่วยงานราชการที่เข้าร่วมโครงการกับ ป.ป.ช. ว่า จากการสำรวจความเห็นนักธุรกิจไทยเกี่ยวกับปัญหาคอรัปชั่น ร่วมกับองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) ได้รับการยืนยันข้อมูลจากนักธุรกิจว่า งานก่อสร้างบางโครงการในพื้นที่ต่างจังหวัด มีการหักตั้งราคาค่าหัวคิวการดำเนินงานโครงการไว้สูงถึง 50% ของราคางานก่อสร้างทั้งหมด นักธุรกิจรายหนึ่งให้ข้อมูลว่า มีงานก่อสร้างของหน่วยงานราชการบางแห่ง ตั้งวงเงินการดำเนินงานไว้สูงเกินกว่าความเป็นจริง 1 เท่า กล่าวคือ งานก่อสร้างราคาจริงอาจจะอยู่ที่ตัวเลข 100 ล้านบาท แต่ไปตั้งราคางานก่อสร้างไว้ 200 ล้านบาท ทำให้ยอดหัวคิวงานโครงการนี้มีราคาสูงถึง 50% ของราคางานก่อสร้างจริง” และนายธนวรรธน์ ยังกล่าวต่อไปว่า "จากการสำรวจข้อมูลยังพบว่า ขณะที่ตัวเลขหัวคิวงานก่อสร้างสาธารณูปโภคทั่วไป อยู่ที่ตัวเลข 25-30% ส่วนงานจัดซื้อครุภัณฑ์ ตัวเลขหัวคิวอยู่ที่ 10-15% สูงจากตัวเลขในอดีตที่อยู่ 5-10% ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตัวเลขหักหัวคิวปรับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นการตรวจสอบปัญหาการทุจริตในช่วงที่ผ่านมาทำได้ยาก ไม่มีใบเสร็จปรากฏเป็นหลักฐานชัดเจน และไม่มีใครกล้าเปิดเผยข้อมูล หน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบจึงทำงานลำบาก ทำให้ตัวเลขงบประมาณที่ไทยเสียหายจากการทุจริตคอรัปชั่น เป็นจำนวนสูงถึง 2-3 แสนล้านบาท”...

ความสูญเปล่าแฝง  ที่น่าจะมีการวิจัยคำนวณคิดออกมาเป็นเงิน  เชื่อว่า มีค่าเสียหายไม่น้อย

ถือโอกาสนี้ ขออนุญาต ท่านอาจารย์ ดร. แสวง รวย...ยกตัวอย่างบันทึกนี้ เป็นกรณีศึกษา  ขอบคุณค่ะ  http://www.gotoknow.org/posts/188421  ซึ่งดิฉันได้ให้ความเห็นไว้ด้วย

และ ขออนุญาต พี่ครูkrutoiting  บันทึกนี้  ขอบคุณค่ะ  http://www.gotoknow.org/journals/123111  ซึ่งดิฉันได้ให้ความเห็นสาระสำคัญย่อๆ ว่า    ดิฉันไม่ได้เ็ป็นคุณหมอ แต่เรียนรู้ช่วยเหลือตัวเองแบบมีสติ  ด้วยวิธีจากผลไปหาเหตุ ...หลังจากที่เคยเสียรู้เรื่องหมอเรื่องยา และมีภาระกิจสำคัญ ดิฉันได้ใช้โอกาสและเวลาในการเฝ้าติดตามคนใกล้ตัวและตัวเอง เช่น กินยาไหน รักษาโรคแบบไหน หาย หรือ ไม่หาย... และ ... ดิฉันเคยพบเห็นคุณหมอที่รังเกียจคนไข้ หลายครั้ง หลายคน ส่วนมากเป็นคุณหมอที่เริ่มมีอายุมากขึ้นแล้ว  แรกๆ ดิฉันก็ไม่เข้าใจภาษากายแบบนั้นค่ะ  พออายุมากขึ้นก็เริ่มค่อยๆ เข้าใจเหมือนเขามาให้เราได้เรียนรู้  ความคิดเมื่อสมัยวัยรุ่นเลือกเอ็นทรานซ์ซึ่งไม่ค่อยมีใครคิดเรื่องความสุขในอนาคต เพราะทุกคนมุ่งเรียนเพื่อหางานที่มีรายได้ดี

        นั่นเพราะว่าอาชีพหมอ ต้องพบกับความไม่สบายของคน เหมือนได้พบเห็นสิ่งที่ไม่น่ายินดีอยู่ตลอดเวลา  กว่าจะเรียนหมอจบ7ปี และเมื่อ+ประสบการณ์ทำอาชีพอีก3ปี รวมเป็น10ปี  จะถอยไปเริ่มต้นเรียนเอาใบเบิกทางเปลี่ยนไปทำอาชีพอื่นก็ช้าเกินไปแล้ว  แม้มีspirit (สพิ'ริท) แต่ก็มีความทุกข์ไม่มากก็น้อย  

สมัยใหม่นี้ (สมัยเก่า20-30ปีืั้ที่แล้วไม่รู้ค่ะ) หลายปีก่อน หลานสาวของดิฉัน(ลูกสาวของเพื่อนสนิท) สอบเข้าเรียนเภสัชได้  ช่วงสุดท้ายของปีแรกที่เรียน อาจารย์ได้แนะแนวว่า เรียนจบแล้าอาชีพเภสัชทำอะไร เกี่ยวข้องกับอะไรบ้าง  ทำให้หลา่นสาวกลับมาบอกคุณแม่ว่า  ขอเปลี่ยนอาชีพ เพราะไม่สามารถรับผิดชอบกำชะตากรรมใครๆ ไว้ในมือ  แล้วเธอก็ไปสอบเอ็นทร้า่นซ์ใหม่ ยอมเสียเวลาไป1ปี  ตอนนี้ เธอมีอาชีพเป็นโปรแกรมเมอร์ มาหลายปีแล้ว มีความสุขมากมายค่ะ

ย้อนกลับมา  ดิฉันก็เคยเห็นบันทึกที่พูดว่า ลูกในวัยมัธยม อยากเป็นคุณหมอ  ดิฉันก็ไม่กล้าเข้าไปให้ความเห็น ด้วยกวิธีการให้ความเห็นแบบไม่แสดงตัวตนในเรื่องใหญ่ๆ ภายในครอบครัวคนอื่น  ที่จริงก็อยากจะบอกมาก ถึงมากที่สุดเลยค่ะ ว่า  ก่อนที่คุณพ่อคุณแม่จะดีใจมากที่ลูกจะมีอาชีพที่มีเกียรตินั้น  ได้เคยให้ลูกมองเห็นสิ่งที่ลูกจะได้พบเจอในงานประจำวันหรือเปล่า ?  เหมือนเหรียญมี2ด้าน  ดาบมี2คม  คนใช้มีดใช้ดาบก็ต้องมีลีลาและฝึกประเมินทักษะส่วนตัว ทั้งร่างกายและจิตใจ

คน จะมีการซึมซับทุกๆ เรื่องที่ผ่านเข้ามาในชีวิต  อาชีพ ก็เป็นสิ่งที่เราต้องมีและทำอยู่ใกล้ชิดทั้งกา่ยและใจของเรา  ต่อไปทุกๆ เรื่องในอาชีพนั้น ก็จะมีบทบาทต่อกายและใจของเราแบบดูดซับ ไม่ใช่แค่ซึมซับ

ประเทศชาติ ก็มีค่าใช้จ่ายรองรับระบบการศึกษาคิดเป็นต่อคนต่อปี ไม่น้อยนะคะ

หลานสาวเสียเวลาไป1ปี  ก็มีค่าใช้จ่ายและเวลาที่ผ่านไปแล้วของตัวเอง  ประเทศชาติก็มีค่าใช้จ่ายและเวลาที่ผ่านไปแล้ว ตรงนี้เหมือนกัน

ถ้าคนที่เรียนจบมาแล้ว ไม่สามารถทำงานด้วยจิตใจที่เสียสละ แบบนี้ทุกคนขาดทุนยับเยินค่ะ  ฟันธง

นอกจากนี้  ยังมีเรื่องเครื่องมืออุปกรณ์สำหรับช่วยเหลือภาคปฏิบัติ ที่ได้มา ใช้ไม่เต็มที่ หรือไม่ได้ใช้เลย  ซึ่งดิฉันได้ไปให้ความเห็นไว้แบบนี้ค่ะ

คุณหมอหลายคน าจไม่รู้ว่า.. หน่วยงานแพทย์ที่ตัวเองมาประจำอยู่ มีเครื่องมืิออะไรบ้างที่อาจได้ใช้เพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวม และคนไข้..  าจมี ที่คนสั่งซื้อเครื่องมือ ไม่ทันได้ใช้ คนก็ย้ายไปที่อื่น คนใหม่มา ก็รู้ว่ามีเครื่องมือ หรือรู้่ แต่ใช้ไม่เป็น..  าจมี ที่คนสั่งซื้อเครื่องมือ ไม่ทันได้ใช้ คนก็ย้ายไปที่อื่น คนใหม่มา ก็รู้ว่ามีเครื่องมือ หรือรู้่ แต่ใช้ไม่เป็น..  ระบบต่างๆ มี  มาใหม่ เก่าย้าย อาวุโสมาก อาวุโสน้อย  อาจมีความสมถะ จนไม่กล้าเอ่ยปาก พูดไป2ไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง  ทำให้ทรัพยากรบางอย่างที่  ได้มา  ไม่ได้ใช้  ใช่ได้ไม่คุ้มค่า หรือ กลายเป็นขยะ  ไปเลย  เห็นแต่ข่าวประชุมวิชาการ  ยังไม่เคยได้เห็นข่าวเรื่องแบบนี้  หรือดิฉันมีเวลาอ่านข่าวน้อยไปก็ไม่รู้นะคะ

หมายเหตุ  ยังไม่สามารถหากรณีศึกษามาแสดง  แต่ว่าเคยเห็นจากประสบการณ์จริง ซึ่งไม่สามารถยกมาแสดงที่บันทึกนี้ค่ะ

Hi 'on time'

There are so many wastages in many contexts, most are results of "dishonesty", "greed" and "misjudgment:. I highlighted "greed+inhonesty+misjudgment" (or corruption) in this blog. I could give estimates like 35+% salary for public servants, police and defence forces; 65+% in salary and allowances to politicians and their offices; 50?% in overservicing in public health care; 50?% in overestimates for all government tenders/contracts; ... Everywhere we look we can see a fat hammer driving a tiny nail into a much larger hole. We can never fix anything this way.

As much as I like to spend time with numbers, I also have this joke imprinted in my mind. Perhaps you have heard about the interview for a vice president of a big corporate. Three candidates: a scientist, an accountant and an economist came up to answer a question on how they can help to lift the profit... well you can make up the answers from the scientist and the accountant. What the economist said in a whisper was "... what you'd like it to be...together we can cook up a recipe...".

In life, we all over-do something, we learn from that and adjust down next. We under-do something and we have cut our safety margin to get closer to the balance. We don't really want to be exactly on the tipping point for fear of falling the wrong way when we make a slight mistake. Living on the (sharp) edge is never comfortable anyway. So in real life, we will put up "honest", "well-intention" and "reasonable" wastages. I would support helicopter ambulance service in congested cities like Bangkok because it may be my life that is rescued from a traffic jam; I would support floating hospitals in some flood prone areas because my relatives live where they can't get to a hospital by land and the hospital is always the first to get flooded too.

I do know about equipment/building/ bought/paid for as parts of certain government policies. Where do they fit in? I'm afraid I don't have enough "dishonest", "greedy" and "misjudged" labels for them. ;-)

Have I done my duty today? Yes, I have. This is my leisure time, my learning time, my time travel ;-)

หัวข้อบันทึกของท่าน sr  ชวนให้ดิฉันได้มีโอกาสฝากส่วนขยาย  ซึ่งอาจจะไปพาดพิงเชื่อมต่อกันได้บ้างไม่เวลาใดเวลาหนึ่ง  มองว่า อะไรๆ ก็ใช้เงิน แม้แต่การหาทุนได้มากก็เป็นหน้าเป็นตาได้เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น เงินงอกเองไม่ได้ ล้วนมาจากหยาดเหงื่อทั้งแรงงานและความคิดสุดแต่ว่าจะหยิบยกประโยฃน์มาจากตรงไหน

ขออนุญาตฝากคำรำพันปะไว้หน่อยนะคะ   ขอบคุณค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท