ผมได้รับลิงค์ข่าวการเรียกประชุมคณะกรรมการปฏิรูปหลักสูตรและตำรา รอบที่ 2 จากห้อง facebook ชื่อ ครูเพื่อศิษย์อีสาน ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 20-21 เมษายน 2556 นี้
สาระของข่าวที่สำคัญคือจะคุยกันเกี่ยวกับ กลุ่มสาระการเรียนรู้ในหลักสูตรใหม่ ที่ปรับจาก 8 กลุ่มสาระมาเป็น 6 กลุ่มสาระ ได้แก่
1.ภาษาและวัฒนธรรม (Language and Culture)
2.วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์ (STEM)
3.การดำรงชีวิตและโลกของงาน (Work Life)
4.ทักษะสื่อและการสื่อสาร (Media Skill and Communication)
5.สังคมและมนุษยศาสตร์ (Society and Humanity) และ
6.อาเซียน ภูมิภาคและโลก (Asean Region and World)
ซึ่งขอบเขตการประชุมดังกล่าว ได้แก่ การออกแบบภาพกว้างการเรียนตลอดระยะเวลา 12 ปี ที่จะแบ่งเป็น 6 กลุ่มสาระ จะมีรายละเอียดอะไรบ้าง ทั้งกำหนดน้ำหนักกลุ่มต้องมีสัดส่วนเท่าไหร่ แล้วกำหนดเป็นรายชั่วโมงเรียน เป็นต้น ทั้งนี้ จะ มีบางกลุ่มสาระเมื่อถึงระดับชั้น ม.ปลาย ก็ต้องแตกเป็นรายวิชา อย่างกลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ ช่วงประถมศึกษากับ ม.ต้น หรือ 9 ปีแรกอาจเรียกอย่างนี้ แต่เมื่อถึง ม.ปลาย หรือ 3 ปีหลังก็ต้องแตกเป็นรายวิชา เช่น วิชาฟิสิกส์ วิชาเคมี เป็นต้น
กลุ่มสาระใหม่ |
กลุ่มสาระเก่า |
|||
ภาษาและวัฒนธรรม |
ภาษาไทย ภาษาต่างประเทศ วัฒนธรรม ศิลปะ |
|||
STEM |
คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ |
|||
การดำรงชีวิตและโลกของงาน |
การงานอาชีพและเทคโนโลยี สุขศึกษาและพลศึกษา |
|||
ทักษะสื่อและการสื่อสาร |
เทคโนโลยี |
|||
สังคมและมนุษยศาสตร์ |
สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒธรรม ศิลปะ |
|||
ภูมิภาคอาเซียนและโลก |
สังคมศึกษา |
|||
ข้อความสะท้อนความกังวล
เขียนไปเขียนมา ผมเปลี่ยนใจ ไม่ตอบคำถามของตนเองดีกว่าครับ....
ท่านผู้อ่านอาจรองตอบดูก็ได้ครับ
อ.ต๋อย มหาสารคาม
หันกลับไป เลข คัด เลิกและเล่น ดีกว่าไหม เด็กได้อะไรเยอะเลย
ขอบคุณท่าน ผอ.ชยันต์ ที่ให้กำลังใจ ครับ ส่วนเรื่องหลักสูตร ผมมีความเห็นดังนี้ครับ
การเปลี่ยนแปลงอาจไม่ใช่ตัวชี้วัดความสำเร็จเสมอไป การพัฒนาน่าจะมีความสำคัญมากกว่าแต่ให้เข้ากับบริบทรากเหง้าตนเองและสภาพแวดล้อมที่เป็นจริง
การเปลี่ยนแปลงอาจไม่ใช่ตัวชี้วัดความสำเร็จเสมอไป การพัฒนาน่าจะมีความสำคัญมากกว่าแต่ให้เข้ากับบริบทรากเหง้าตนเองและสภาพแวดล้อมที่เป็นจริง
เมาหัวแทนครับผม ;)...
หลักสูตรเก่าใหม่จะดีหรือไม่ อยู่ที่โอกาสนำไปปฏิบัติ แต่ปัญหาปัจจุบันคือ สภาพแวดล้อมที่อยู่ใกล้ตัวเด็กที่สุดแล้วครับท่าน อบายมุข ร้านเกม สารพัดอย่าง นโบายการกำหนดกฏเกณฑ์ โอเค แต่ในทางปฏิบัติยังห่างไกลมาก อย่าลืมนะครับ ทรัพยากรณ์มนุษย์ ความเป็นอยู่ต่างกัน ฉนั้นการสร้างคนสอนคนต้องคำนึง ต้องคำนึง ภาคบังคับ ให้มากๆด้วยเถอะ แก้ปัญหาส่วนนี้ก่อนเถอะท่าน เมื่อเขาพร้อมหมายถึง การมีวินัย มีระเบียบ โดยเฉพาะความอดทน เขาจะมีภูมิป้องกันได้เป็นอย่างดีบ้าง เพราะทุกวันนี้การศึกษาเรา ระบบปฏิบัติ ทำแบบเอาใจเด็ก เอาใจผู้ปกครอง แต่สุดท้ายส่วนมาก จะจบ ด้วยคำที่ว่า พ่อแม่รังแกฉัน ครูอาจารย์ทำร้ายฉัน วิบากกรรมจริง ช่วยทีเถอะ
ก็ต้องรอดูกันไปครับ...ได้อย่างก็ต้องเสียอย่าง คงต้องลองผิดลองถูกกันต่อไป ผมก็เป็นครูคนหนึ่ง...บางครั้งก็รับได้ต่อการเปลี่ยนแปลง บางครั้งก็รับไม่ได้ แต่การเปลี่ยนแปลงก็ต้องเกิดขึ้นอยู่ดี เราชาวครูก็ต้องปรับเปลี่ยนกันไป ในความรู้สึกของผม...สมัยที่ผมเรียนประถมฯ มัธยมฯ ผมว่ามันดีอยู่แล้ว ครูรักเด็ก เด็กเคารพครู ผู้ปกครองให้เกียรติครู จนถึงปัจจุบัน ผมยังจำความรู้สึกสมัยนั้นได้เลย แต่ทุกวันนี้ดูทั้งเด็ก และผู้ปกครอง มันต่างจากเดิมมาก..ผมเองก็ไม่รู้ว่าเป็นที่ตัวครู ตัวเด็ก ผู้ปกครอง สังคม หรือหลักสูตร...ในใจลึก ๆ อยากให้เด็กมีความรู้สึกเหมือนเราตอนที่เราเป็นเด็กบ้าง...โดนไม้เรียวบ้าง วิ่งเล่นในสนามบอลตอนบ่าย ฯลฯ ...แต่ก็คงได้แค่อยากให้เป็น....เฮ้อ...
..... และที่สำคัญ หลักสูตรนี้ดูเหมือนจะไม่ให้ความสำคัญกับ "ศาสนา" ...... นาเสียดายมาก ถ้าคณะกรรมการไม่เห็นจุดแข็งและประโยชน์จากหลักคำสอนทางศาสนา โดยเฉพาะศาสนาที่คนไทยรู้จักอยู่ถึง 62 ล้านคน...
ในฐานะที่เป็นครูสังคมศึกษา ซึ่งสอนวิชาพระพุทธศาสนาที่บูรณาการกับกลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มานาน มีความรู้สึกน้อยใจ ที่หลักสูตรใหม่ ไม่เห็นความสำคัญ
"พระพุทธศาสนา เป็นฐานรากของการดำเนินชีวิตค่ะ ถ้าฐานไม่ดี ชีวิตคงง่อนแง่นน่าดู"
ขอแจมนิดนะคะอาจารย์ ดิฉันว่าในสาระการดำรงชีวิตและโลกของงาน น่าจะมีกิจกรรมแนะแนวนะค่ะ นอกจากว่าการแนะแนวไม่จำเป็นแล้วในยุคนี้
When does a New curriculum go for public hearing?We hope the new curriculum up side down again,because there are lack of all academics and people.