หัวหน้า...งาน


 กลางเดือนที่ผ่านมา...

 หัวหน้างานหนึ่ง ซึ่งเป็นหัวหน้างานรุ่นน้อง เข้ามาบอกว่าบรรดาหัวหน้างาน(Superviser)ได้คุยกันหลายคนแล้วเห็นว่าวันศุกร์ที่จะถึง จะเชิญหัวหน้า(Asistant Manager)ของหัวหน้างานมาคุยเรื่อง Incentiveของ Sup. ถามว่าผู้เขียนเห็นยังไง ในฐานะหัวหน้างานอาวุโส
  ผู้เขียนรู้สึกตกใจนิดๆที่อยู่ๆจะมีการพูดคุยกันเรื่องนี้ จึงไม่ได้รับปากว่าจะร่วมด้วยและไม่ได้ออกความเห็นแต่อย่างไร ได้แต่ไตร่ตรองดูถึงความเหมาะสม และเงียบ...
  "พี่ก็รู้ใช่ไหมครับว่าเดือนกุมภาฯที่ผ่านมาเราได้ อินเซนทีฟ เพียง สิบวัน และเดือนนี้ผ่านมาครึ่งเดือนแล้วเพิ่งได้แค่ สอง วัน"
  "อืม..แล้วเราทำการบ้านดีหรือยัง มีข้อมูลที่ไปคุยกับเขาหรือยัง"
  หัวหน้างานส่วนมากจะมาจากพนักงานที่ทุ่มเททำงานอย่างหนักมาก่อน และมีความตั้งใจสูงที่จะให้งานสำเร็จตามเป้าที่ตั้งไว้ เมื่อได้เลื่อนมาเป็นหัวหน้างานจะถูกตัดค่าล่วงเวลา เงินเดือนที่เพิ่มขึ้นจึงไม่เท่ากับค่าล่วงเวลาที่หายไป นั่นคือเมื่อค่า Incentive ได้น้อยลงตามผลของงาน เท่ากับว่ารายได้น้อยลงไปด้วย ไม่คุ้มกับความทุ่มเทที่มีมากขึ้น
  ..........
  วันต่อมา หัวหน้างานสอง ซึ่งเพิ่งได้รับการเลื่อนเป้นหัวหน้างานมาตอนปีใหม่ ได้มาคุยกับผู้เขียนในเรื่องเดียวกันนี้อีกครั้ง คงเห็นผู้เขียนยังเงียบอยู่
  "เดือนกุมภาฯวันทำงานมันน้อย เลยทำให้ Incentive น้อยตามไปด้วยหรือเปล่า" ผู้เขียนให้ความเห็น
  "หนูว่าน่าจะตั้งเป้าให้ต่ำลง เพราะออเดอร์มันเยอะมากขึ้น การทำงานก็ยากมากขึ้น แล้วเราจะทำได้ตามเป้าเหมือนก่อนได้อย่างไร พี่ว่ามั๊ย"หวหน้าใหม่พยายามดึงผู้เขียนให้เห็นด้วย
  "อืม...พี่ว่าเราใจเย็นๆก่อนดีกว่ามั๊ย เพราะเวลายังมีให้เราทำอีกตั้งครึ่งเดือน รอดูว่าถึงสิ้นเดือนหากยังได้น้อยกว่า สิบ วัน แล้วค่อยคุยกัน ว่ามั๊ย"ผู้เขียนออกความเห็นบ้าง
  "และที่สำคัญ KPI ที่ตั้งไว้ถ้าจะให้ลดคงยากเพราะเป็นKPIรวมและเขียนเป็นนโยบายไว้แล้วถ้าจะเปลี่ยนคงต้องใช้เวลาทบทวนกันใหม่ยุ่งยากเลยล่ะ"
  "และอีกอย่าง ผู้บริหารเขาก็น่าจะรู้ว่าถ้า Incentive ไม่ได้นั่นก้คือ KPI ก็จะไม่ได้ด้วย เขาคงจะอยู่นิ่งเฉยไม่ได้หรอก เขายิ่งจะร้อนกว่าเราเป็นหลายเท่า"
  "แต่เราผู้น้อยเดือดร้อนเรื่องรายได้ด้วยนะพี่ ดูอย่างพี่กองสิ อายุมากแล้วเลิกดึกทุกวัน รอไม่ไหวแล้วพี่"
  "เอาน่า ใจเย็นๆก่อนนะ"
  "ผู้บริหารเขาต้องถามกลับมาทันทีเลยล่ะว่าพวกเราทุ่มเทกันเต็มที่หรือยัง และที่ไม่ได้นั้นมันเกิดจากสาเหตุอะไร...เราจะตอบคำถามเขายังไง"
..........
  เย็นวันต่อมา หัวหน้าสาม (พี่กอง)ซึ่งเป็นหัวหน้าร่วมรุ่นราวคราวเดียวกับผู้เขียน ได้มาปรึกษาในเรื่องเดียวกันนี้อีก
  "ผมไม่ไหวแล้วพักนี้ เลิกดึกทุกวัน สุขภาพแย่ลง"เพื่อนหัวหน้าพูดเหมือนปรับทุกข์
  "ผมว่าต้องแยกออกคนละประเด็นนะระหว่างเรื่องสุขภาพ กับเรื่องIncentive เรื่องเลิกงานดึก กองต้องไปคุยกับหัวหน้าเราเพื่อหาคนมาช่วยแบ่งเบา ผลัดกันอยู่ดึกหรือเลิกเร็ว" ผู้เขียนเห็นด้วยกับการคิดถึงเรื่องสุขภาพการทำงานจนเวลาพักผ่อนไม่เพียงพอ
  "แต่การจะเชิญหัวหน้าของเรามาคุยเรื่องนี้ ผมว่าดูไม่เหมาะสมนะ มีอะไรเกี่ยวกับเรื่องหน้างานควรจะปรึกษากับหัหน้าของเราเองโดยตรง "
  "เราทำอย่างนี้เหมือนเป็นการต่อรองเรื่องเงินยังไงไม่รู้นะ บอกพวกน้องๆใจเย็นก่อนผมว่า"
  "อีกอย่าง เราไม่มีการเตรียมข้อมูลอะไรเลย อยู่ๆจะไปคุยปากเปล่ามือเปล่า ไม่ผ่านหรอก "
  .............
  สิ้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมาสรุป Incentive ได้ทั้งหมด 16 วันเท่าๆกับสถิติเดือนเก่าๆที่ผ่านมาโดยประมาณ จากตัวเลขที่ทำในช่วง 5 วันสุดท้ายไม่น่าเป็นไปได้ที่ KPIจะผ่าน แต่ผู้จัดการก็ให้ Incentive
  จะด้วยความเห็นใจที่งานช่วงปิดตัวเลขสิ้นเดือนมันเยอะมากมายกับความทุ่มเทของพวกเรา หรือเพราะเรื่องที่คุยกันนี้มันถึงหูหัวหน้าและผูบิหารก็ไม่อาจทราบได้
  แต่ผู้เขียนเห็นว่าคิดถูกแล้วที่ได้บอกหัวหน้างานอย่างพวกเราให้ยับยั้งชั่งใจกัน ไม่เช่นนั้นหากมีการส่งเมล์เชิญผู้บริหารมาต่อรองเรือ่งนี้ ล่ะก็
  ไม่รู้ป่านนี้อะไรจะเกิดขึ้น
...........
  ผ่านไปเกือบจะครึ่งเดือนแล้ว หัวหน้างานที่เคยมาปรึกษา ต่างเงียบ...
  และผู้เขียนก็ไม่ถามเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกและรู้สึก Happy ba อีกครั้งหนึ่งของการทำงาน
...........
  

หมายเลขบันทึก: 532543เขียนเมื่อ 9 เมษายน 2013 16:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 9 เมษายน 2013 17:39 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

ยินดีด้วยค่ะท่าน ทุกอย่างคงจะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น

ขอบคุณครับคุณ tuknarak

หวังไว้เช่นนั้นครับ...

ผมดูจากพี่เล่าและมีความสุขครับ เพราะกระบวนการบางอย่างร้อนไปก็ไม่ดี เพราะยิ่งร้อนทุกอย่างก็ร้อยไปด้วยคำกล่าวเหล่านี้ล้วนเป็นจริง นี่ถือเป็น tacit knowledge เลยครับ ผมจะลองปรับใช้ด้วย 

ขอบคุณครับที่เข้ามาอ่าน...และดีใจที่สามารถนำประสบการณ์นี้ไปปรับใช้ ครับ





ลูกหมูเต้นระบำ


พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท