เรียนรู้อย่างไรให้เร็ว


        รู้อะไรไม่สู้รู้วิชา รู้รักษา ตัวรอดเป็นยอดดี สวัสดีหน้าร้อน ด้วยคำกลอนสอนใจครับ พูดถึงการเรียนรู้ของคนเรานั้น ถือว่ามีกันตั้งแต่เด็กๆ  แล้วครับ เช่น เด็กจะรู้ว่าเวลาร้องให้ พ่อแม่จะสนใจและตอบสนองความต้องการ ดังนั้น เด็กก็จะใช้วิธีการร้องให้ เวลาอยากได้สิ่งของต่างๆ แต่เมื่อโตขึ้น เวลาที่ร้องให้ แล้วพ่อแม่ไม่ตามใจเหมือนเดิม พฤติกรรมการร้องให้เวลาอยากได้ของก็จะลดลง ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นการตอบสนองของพ่อแม่นั่นเอง

             การเรียนรู้ ในทัศนะของผม แบ่งออกเป็น 2 ด้าน คือ การเรียนรู้ในตำราหรือในหลักสูตร และการเรียนรู้นอกตำรา ที่ไม่ได้มีในหลักสูตร ส่วนท่านไหน จะแบ่งได้มากกว่านี้ ตามหลักทฤษฎีของใครก็ไม่ว่ากัน ซึ่งผมขออธิบายดังนี้

            การเรียนรู้ในตำราหรือในหลักสูตร คือ การเรียนรู้ที่รัฐจัดให้ ตั้งแต่ระดับประถม และเมื่อจบจากระดับประถม ก็ขึ้นมัธยม ถึงอุดมศึกษา หรือเรียนสายอาชีพ แล้วแต่ความถนัดของผู้เรียน ซึ่งการเรียนในหลักสูตรนี้ ผู้เรียนจะรู้ หรือประสบความสำเร็จในการเรียนมากแค่ไหน ก็ขึ้นกับตัวผู้เรียน อาจารย์ผู้สอน และผู้ปกครองผู้เสริม ที่ช่วยกันกระตุ้นให้เกิดบรรยากาศของการเรียนรู้ ให้เด็กรักและเห็นความสำคัญของการเรียน และเรียนร่วมกับเพื่อนๆ อย่างมีความสุข ไม่ใช่เรียนเก่งแต่เห็นแก่ตัว ไม่เอาใคร เข้ากับเพื่อนไม่ได้ ซึ่งจะส่งผลร้ายเมื่อไปทำงานร่วมกับคนอื่นในอนาคตต่อไป

         การเรียนรู้นอกตำราหรือนอกหลักสูต คือ ทักษะ หรือเคล็ดลับบางอย่างที่ไม่ได้มีในตำราหรือในหลักสูตร ขึ้นอยู่กับความสนใจ ถือเป็นการการสั่งสมประสบการณ์ เป็นการเรียนรู้ตลอดชีวิต ขึ้นอยู่กับบริบทของแต่ละคน เช่น จะทำอย่างไรให้การเรียน หรืองานที่ตนเองทำ มีผลลัพธ์ออกมาดี มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล คุ้มค่า คุ้มเวลากว่าเดิม หรือ มีเทคนิคการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการทำงาน หรือแก้ไขความขัดแย้งกับเพื่อนร่วมงานที่มีความแตกต่างกันอย่างไร ซึ่งการเรียนรู้ประเภทนี้ ได้จาก การศึกษาด้วยตนเอง การลองผิดลองถูก การสังเกต หรือ ปรึกษาผู้ที่มีประสบการณ์ หรือมีความรู้ในการทำงานมากกว่า ซึ่งผมเป็นสิ่งสำคัญ จัดว่าเป็นทางลัดในการเรียนรู้อย่างหนึ่ง ดังนั้นไม่ควรปล่อยให้ท่านเหล่านี้เก็บของดีไว้กับตัว ลองสังเกตดูในที่ทำงาน ท่านไหนที่ทำงานเก่งๆ มีความก้าวหน้า หรือพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว อย่างน้อยก็อย่าลืม หัวหน้า เพราะกว่าจะมาถึงจุดนี้มาได้ ท่านผ่านอะไรๆ ที่ท้าทายมาเยอะ ลองแอบสังเกตหรือเข้าไปขอเคล็ดลับมาใช้ ก็จะทำให้เราเก่งไปด้วย

        อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเรียนรู้ในตำราหรือนอกในตำรา สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้คือ ความสนใจ  ใคร่รู้ ที่ต้องให้มีในตัวเรา เพราะจะเป็นตัวกระตุ้นให้เรามีการเรียนรู้เพื่อพัฒนาตนเองอยู่เสมอ ขอให้ทุกท่านมีการเรียนรู้อย่างมีความสุข และผ่อนคลายกับเพลงๆ นี้ครับ “มีดอกไม้มาฝาก”


                                  

หมายเลขบันทึก: 531956เขียนเมื่อ 2 เมษายน 2013 13:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 2 เมษายน 2013 14:01 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

ความสนใจ  ใคร่รู้ ที่ต้องให้มีในตัวเรา

เห็นด้วยครับ ทุกอย่างอยู่ที่ตัวเรา....

คิดถึงค่ะ  คิดถึง  

ปัญหาสำคัญ ของการเรียนรู้ คือ...ทำอย่างไรหนอ ถึงจะปลูกฝังนิสัยใฝ่รู้ใฝ่เรียนใหเด็ก ๆ ได้

  • สวัสดีครับ พี่ พ.แจ่มจำรัส
  • ขอบคุณดอกไม้กำลังใจ และแวะมาทักทายครับ
  • จะเรียนรู้อะไร อยู่ที่ใจไฝ่หา ยิ่งสมัยนี้ คนไทยต้องเรียนรู้มากๆ ไม่งั้นอาจเดือดร้อนในอนาคตอันไกล้นี้ครับ รู้สึกลางสังหรณ์บอกผมอย่างนั้นครับ

  • สวัสดีครับพี่ิอิงจันทร์
  • คิดถึงเช่นกันครับ คิดถึงบรรยากาศเก่าๆ ที่ผ่านมา คิดถึงกัลยาณมิตรทุกท่านที่ห่างหายกันไป พี่อิงสบายดีนะครับ ตอนนี้ที่ขอนแก่นร้อนสุดๆ อดกังวลแทนลูกหลานในวันหน้าไม่ได้ ว่าจะอยู่กันอย่างไร เมื่อโลกร้อนขึ้นไปทุกทีครับ

ขอบพระคุณบันทึกดี ๆ ที่สอนให้รู้

รู้อะไรก็ไม่สู้รู้ตัว  รู้ทุกข์  หาทางดับทุกข์ได้นะคะ

  • สวัสดีครับพี่ธรรมทิพย์
  • ขอบคุณที่แวะเวียนมาทักทายครับ 
  • คนเราเรียนรู้อะไรมากมาย แต่บางทีกลับมองข้ามไป ที่จะเรียนรู้ใจตนเองให้มีความสุขสงบ เรียกว่ามองข้ามสิ่งที่อยู่กับตัวครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท