ทุกข์เอง แก้เอง


บางสถานการณ์ ที่พบเจอบ่อยๆ

เป็นไปได้อย่างแน่นอน ว่าต้องมีผลต่อความรู้สึกบ่อยๆ และเราจะอยู่กับมันได้ดีสักแค่ไหน

ยากลำบากเหลือเกิน สำหรับการมีชีวิต ในแบบที่ตัวเองอยากจะเป็น 

คิดว่า...ชีวิตให้บททดสอบยากเกินไปแล้ว...

เราเป็นทุกข์มากในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา มีหลากหลายเรื่องราวเหลือเกินที่เป็นเหตุ

ขณะเดียวกัน เราก็มีความสามารถในการอยู่กับความทุกข์ ได้ฉลาดมากขึ้น

ในขณะที่รู้สึกเป็นทุกข์ ร้องไห้ฟูมฟายนักหนา

แต่เมื่อตั้งคำถามว่า .....ใครคือผู้ผิด ?? จึงได้สติพิจารณาตามเหตุและปัจจัย

ปัจจัยเขาเป็นแบบนั้น เมื่อเกิดเหตุการนี้ มีแนวโน้มที่เขาจะเลือกตัดสินใจแบบอย่างนั้นค่อนข้างมาก

ปัจจัยต่างๆของเราเป็นแบบนี้  การกระทำของเขามีผลต่อเราประมาณนี้ 

และเป็นเหตุ ที่สร้างความยากลำบากให้กับเรา  จึงง่ายที่เราจะเกิดทุกข์

(ทั้งที่เราสามารถเลือก ได้ว่า จะมองต่อเหตุการณ์อย่างไร  คิดอย่างไร ซึ่งจะเป็นสิ่งกำหนดอารมณ์ของเราได้ )

หากไม่รู้เท่าทัน เมื่อเกิดอารมณ์เป็นทุกข์   หากมีมากเกิน...ย่อมกระทบต่อใจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้  เมื่อกระทบแล้วไหวเอนเพียงไร ขึ้นอยู่กับจิตของเราอยู่ดี  การร้องไห้จึงเป็นกลไกในการปรับสมดุลทางอารมณ์อย่างหนึ่ง

ที่สะท้อนให้เห็นว่า

จิตที่เจ็บปวด เคียดแค้น ชิงชัง อยากเอาคืน อย่างรุนแรง และน่ากลัวมันผุดขึ้นมาได้เสมอ

เผาทำลายจิตใจเราอย่างโหดเหี้ยมก่อนใคร  ไม่เคยปราณีตัวเองเลย

หากพิจารณาให้ชัด และเร็วกว่านี้ ว่าไม่มีใครอยากทำผิดกับเราด้วยความตั้งใจเลยสักคน

หากเรามีความเมตตา จิตปีศาจนั้นจะไม่ผุดขึ้นมาทำลายเราได้เลย

จะพบว่า  สิ่งที่มากระทบเรานั้น ผ่านมาเหมือนลมแค่วูบเดียว

แต่เราเผลอยึด เพื่อจะเอาคืน  ยึดมัน มันก็อยู่กับใจเราซ้ำวนเวียนไปมา

หากเราไม่กักเก็บเอาไว้ ปัจจัยใดๆ มันก็ไม่สามารถ ทับถมเราจนเอาตัวไม่รอดเหมือนอย่างวันนี้

เมื่อไม่พอใจกับสิ่งที่ได้รับ เป็นทุกข์เพราะผู้อื่น

ให้เลือกเคารพจิตใจตนเองก่อน ตามด้วยเมตตา ตามด้วยทำความเข้าใจ การให้อภัยจึงตามมา ส่วน....

จะทำได้ดีแค่ไหน จริงใจแค่ไหน ..ก็ไม่เป็นไร ไม่จำเป็นต้องดีเลิศ สบายๆ ค่อยๆ ทำ

จิตใจเราก็ได้รับเท่าที่เราทำอยู่แล้ว....อย่างน้อยก็ได้ฝึกทำ   ถึงแม้จะทำไปด้วยการข่มใจ แสร้งทำดีไปอย่างนั้น

แต่ก็ยังยับยั้งการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ยังเปิดโอกาสให้ตนได้ย้อนกลับมาคิดทบทวนในภายหลังได้

จะเป็นไรไหมถ้า เราจะยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วต่อสู้กับความยากลำบากที่เกิดขึ้น โดยไม่โทษใคร

หากเป็นเราที่ต้องเดือดร้อน เราควรทำเพื่อตัวเอง และเราจะได้เรียนรู้ จากประสบการณ์ในการจัดการกับปัญหาต่างๆ ด้วยตัวเราเอง

เมื่อรู้สึกว่าถูกกระทำจนสาหัส การปกป้องตัวเองเป็นเรื่องของสัญชาตญาณ และง่ายที่จะแสดงความเกรี้ยวกราดดุดัน

ไม่ว่าจะภายในใจ  ตวาดออกมา หรือเป็นการกระทำที่ไม่ดี ...โดยธรรมชาติ เป็นเรื่องที่ถูกกำหนดด้วย DNA รหัสชีวิต

และด้วย สติ ปัญญา และความพยายามอย่างต่อเนื่อง ก็จะสามารถดูแลความสมดุลได้อย่างเหมาะสม โดยไม่เบียดเบียนผู้อื่น

เรื่องจิตเป็นเรื่องซับซ้อน หากเราไม่ถูกกระทบอย่างแรง เราจะไม่รู้เลยว่า เรามีความสามารถในการจัดการได้ดีแค่ไหน

แสกนไวรัสยังต้องอัปเดตตามเวลา  เวลาเปลี่ยนโลกเปลี่ยน หมุนเวียนเจอดี ร้าย จิตคงไม่วุ่นวาย หากแสกนจิตใจตนเองอยู่เสมอ

ว่าไปตามเรื่องราวตนเอง  ตามเวลา  การอัปโหลดแสกนจิตใจ โปรแกรมใหม่ ดีกว่าเดิม เสร็จสิ้น

เมื่อเจอเรื่องราว เหตุการณ์ ความเข้มข้นพอๆกันนี้ จะสามารถจัดการกับไวรัสจิตใจได้ได้ดีกว่าเดิมนะ

คำสำคัญ (Tags): #ทุกข์
หมายเลขบันทึก: 531664เขียนเมื่อ 29 มีนาคม 2013 23:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 พฤษภาคม 2013 20:03 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)


"สติ+สัมปชัญญะ"


กลายเป็นสิ่งที่คุณค่าในเรื่องนี้นะครับ ;)...




โปรดรับกำลังใจไป ๑ กระบุงครับ คุณครู ;)...

ความทุกข์เืกิดที่ตัวหรือที่ใจนั้นเองไม่ได้เกิดที่อื่น การดับทุกข์ก็ต้องดับที่ใจเช่นกัน 

".......ขณะเดียวกัน เราก็มีความสามารถในการอยู่กับความทุกข์ ได้ฉลาดมากขึ้น........"

คุณร้องไห้เหมือนปุถุชนทั่วไป

แล้วคุณก้มีสติกลับมาเหมือนคนมีปัญญา

ยินด๊ด้วยตรับ

กำลังใจ 1 กระบุงมีคุณค่ามากค่ะ ขอบคุณนะคะ อ.วัส ^ ^

ความทุกข์เกิดขึ้นที่ใจตน ต้องแก้ไข และดับที่ใจตน ด้วยสติแห่งตน ขอบคุณคำเตือนสตินะคะ คุณ tung_tong ^ ^

 ขอบคุณกำลังใจจาก คุณ Suvidhya RuchiradhamrongThailand นะคะ ^ ^

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท