Business Intelligence คืออะไร มีประโยชน์ต่อธุรกิจอย่างไร


Business Intelligence คือ ซอฟต์แวร์ที่นำข้อมูลที่มีอยู่เพื่อจัดทำรายงานในรูปแบบต่างๆ ที่เหมาะสมกับมุมมองในการวิเคราะห์ แสดงความสัมพันธ์ และทำนายผลลัพธ์ของแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้นได้ ตรงตามความต้องการขององค์กร เพื่อประโยชน์ในการวางแผนกลยุทธด้านต่างๆ

ในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และตลอดเวลา เช่นเดียวกัน ระบบธุรกิจก็มีการแข่งขันกันค่อนข้างรุนแรง และมากขึ้นด้วย จึงเป็นสิ่งที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ เลยว่าการที่องค์กรจะอยู่รอดได้นั้นจะต้องมีการใช้ข้อมูลสารสนเทศที่ทันสมัยและทันท่วงที เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจอย่างรวดเร็วและสามารถนำไปวางแผน หรือ โต้ตอบปัญหา เชิงธุรกิจได้ทันต่อเหตุการณ์ ให้กับผู้บริหารระดับสูงขององค์กรการที่จะได้มาซึ่งข้อมูล สารสนเทศเหล่านั้น หนึ่งจำเป็นต้องมีการแสวงหาหนทาง ในการเก็บรวบรวมข้อมูลให้ได้มาก เพราะว่าข้อมูลเหล่านั้นมิใช่ข้อมูล ภายในองค์กรเท่านั้น ซึ่งอาจจะเป็นข้อมูลขององค์กร ที่เป็นคู่แข่งหรือเป็นข้อมูลของ องค์กรอื่นๆ ที่อยู่ในธุรกิจเดียวกันกับเราก็เป็นไปได้ สองการเลือกสรรข้อมูลสารสนเทศที่มีคุณค่าจากกองข้อมูลที่มีขนาดมหึมา เพื่อให้แน่ใจว่าระบบข้อมูลสารสนเทศที่พัฒนาขึ้นมานั้นเป็นข้อมูลสารสนเทศที่ สามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริหารระดับสูงขององค์กรได้ เพื่อเอาชนะอุปสรรคเหล่านี้จึงจำเป็นต้องมีระบบที่สามารถช่วยเตรียมข้อมูลที่ลึกซึ้ง และมีคุณค่าทางกิจกรรมทางธุรกิจให้แก่องค์กรได้

ปัจจุบันการวางแผนทางกลยุทธ์ของบริษัทนั้นจำเป็นต้องใช้ข้อมูลมากมาย ซึ่งการวิเคราะห์ข้อมูล ทางด้านการตลาด การขาย การเงิน การผลิตนั้นจะต้องทันกับเหตุการณ์ซึ่งมีข้อมูลเกิดขึ้นเป็นประจำทุกวัน ดังนั้นการจัดทำรายงาน จะต้องมีการแก้ไขบ่อย และมีความยุ่งยาก

Business Intelligence

- BI ไม่ใช่เรื่องใหม่ แนวความคิดนี้มีในโลกตั้งแต่ยุค 80

- BI ในปัจจุบันไม่มีนิยามชัดเจน เพราะขึ้นกับเทคโนโลยีของแต่ละค่ายที่จะพัฒนาไป ทำให้ความสามารถไม่เท่ากันในแต่ละค่าย คณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้างต้องกำหนดวัตถุประสงค์ที่องค์กรอยากจะได้ให้ชัดเจน ระบุงบประมาณที่สามารถจัดสรรได้ และต้องมี IT Master Plan ให้ชัดเจน ว่าจะพัฒนาบุคคลากรทุกระดับเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไร

Business Intelligence คือ ซอฟต์แวร์ที่นำข้อมูลที่มีอยู่เพื่อจัดทำรายงานในรูปแบบต่างๆ ที่เหมาะสมกับมุมมองในการวิเคราะห์  และตรงตามความต้องการของผู้ใช้งาน  และใช้สำหรับวิเคราะห์ข้อมูล  ของงานในมุมมองต่างๆ   ตามแต่ละแผนก  เช่น

- วิเคราะห์การดำเนินงานของบริษัทฯ เพื่อการตัดสินใจด้านการลงทุนสำหรับผู้บริหาร

- วิเคราะห์และวางแผนการขาย / การตลาด เพื่อประเมินช่องทางการจำหน่าย ฯลฯ

- วิเคราะห์สินค้าที่ทำกำไร สูงสุด / ขาดทุนต่ำสุด เพื่อการวางแผนงานด้านการตลาด และการผลิต

- วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อยอดขายของสินค้า ฯลฯ

- วิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับคู่แข่งขัน ฯลฯ

Business Intelligence จะประกอบไปด้วยระบบข้อมูล และโปรแกรมแอพพลิเคชั่น ด้านการวิเคราะห์ มากมายหลายระบบ เช่น

  • ดาต้าแวร์เฮ้าส์ (Data Warehouse)
  • ดาต้ามาร์ท (Data Mart)
  • การทำเหมืองข้อมูล (Data Mining)
  • การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ (Operations Research & Numerical Methods)
  • เครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลในหลายมิติ (OLAP) แบบประมวลผลทันทีที่ป้อนข้อมูลเข้าไป
  • และ ระบบสืบค้นและออกรายงานต่างๆ
Business Intelligence ยังมีจุดเด่นเพิ่มขึ้นอีกในด้าน
- ใช้งานง่ายเพียงแค่คลิกเมาส์ก็สามารถเปลี่ยนแปลงรายงานได้โดยไม่ต้องมีการคีย์ข้อมูลใหม่ ซึ่งผู้ใช้สามารถถาม ตอบคำถามทางธุรกิจได้หลายมุมมองเพียงในเวลาไม่กี่นาที ซึ่งช่วยการตัดสินใจแม่นยำ และรวดเร็วกว่าคู่แข่ง ทั้งในเชิงกว้าง และเชิงลึก
- สามารถดึงข้อมูลจากฐานข้อมูลที่หลากหลายภายในองค์กรมาทำการวิเคราะห์ เช่น Excel, FoxPro, Dbase, Access, ORACLE, SQL Server, Informix, Progress, DB2 เป็นต้น โดยไม่มีการเขียนโปรแกรมเพิ่มเติมใดๆ
ปัญหาที่พบบ่อยในการใช้ Business Intelligence ของบ้านเรา ได้แก่
- ไม่สามารถเชื่อมข้อมูลจากทุกส่วนได้ภายในระบบเดียวกัน เช่น ต้อง export ข้อมูลออกจากฐานข้อมูลก่อน จึงจะมาสร้าง dashboard, forecasting (พยากรณ์ข้อมูล) ได้
- องค์กรส่วนใหญ่ไม่สามารถใช้งานในส่วน Analytics (การวิเคราะห์ข้อมูล) ได้อย่างคุ้มค่า เช่น บางระบบไม่สามารถ forecast ผลลัพธ์ได้ หรือ บางระบบ forecast ผลลัพธ์เชิงปริมาณแบบเส้นตรงเท่านั้น หรือ บางระบบไม่สามารถวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรต่างๆ หรือทำแบบจำลองเพื่อตัดสินใจได้ (simulation for decision)
- BI บางค่าย ไม่มีฟังก์ชัน data mining มาให้พร้อม จึงต้องแยกระบบวิเคราะห์อีกต่างหาก
- องค์กรขนาดใหญ่บางแห่ง อาจใช้เวลาในการติดตั้งระบบ (implementation) นานหลายปี และต้องใช้เวลาอีกระดับหนึ่งกว่า user ของแผนกต่างๆ จะใช้งานได้คล่องแคล่ว
- การอัพเกรดระบบจากระบบเดิมอาจทำได้ยาก เช่น data warehouse เดิม ไม่รองรับ business intelligence ใหม่
- พนักงาน IT ขององค์กรขาดความรู้ความเข้าใจในเชิง Business, Management
- ค่าใช้จ่ายสูงมาก ทำให้องค์กรธุรกิจเล็กๆ หรือหน่วยงานที่มีงบไม่สูงนัก ขาดโอกาสในการจัดซื้อ หรือได้ BI ที่มีฟังก์ชันครบดั่งใจ
สรุป
การบูรณาการข้อมูล (integration of data) ระหว่างข้อมูลประวัติกับข้อมูลใหม่ ณ ปัจจุบัน นับเป็นองค์ประกอบพื้นฐานของระบบ Business Intelligence (BI) ขั้นสูง เนื่องจากมีธุรกิจจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ นำผลลัพธ์จากระบบดังกล่าวจะทำให้พัฒนาเครื่องมือการบริหาร วิเคราะห์ปัจจัย หรือทำนายแนวโน้ม เพื่อนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจกำหนดทิศทางธุรกิจและการตลาด ทั้งนี้ ธุรกิจที่เริ่มใช้แนวคิดนี้แล้วในปัจจุบันจะเป็นองค์กรที่ได้ประโยชน์สูงสุดก่อนใคร ก่อนที่มันจะกลายเป็นเรื่องธรรมดาในอนาคตอันใกล้นี้
หมายเลขบันทึก: 52660เขียนเมื่อ 29 กันยายน 2006 22:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 26 มิถุนายน 2012 20:48 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (42)

ปัจจุบันมีประโยชน์ในการบริหารธุรกิจมากครับ ข้อเขียนของอาจารย์มีประโยชน์มากครับ

สายัณห์ ไวรางกูร

ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ เป็นความรู้ที่มีประโยชน์มากๆ ค่ะ

 

ได้รับความรู้มากเลยครับ  ขอบพระคุณครับ
เพิ่มเติมจากเนื้อหานิดนึงนะครับ.. ในปัจจุบัน ซอฟต์แวร์ประเภท BI ในตลาดนั้น ผมกล้าบอกได้เลยว่า เกือบทั้งหมด ยังไม่สามารถทำงานได้ครบตามหลักการที่ผมบอกไป โดยเฉพาะส่วนการวิเคราะห์ บางยี่ห้อ ไม่สามารถทำ Trend Analysis ได้เลย ดังนั้นมันก็เป็นเหมือน MIS เท่านั้นครับ ส่วนบางค่ายอาจทำ Trend Analysis ได้ แต่ก็ไม่สามารถบอกอะไรได้มากกว่านั้น เพราะส่วนใหญ่จะใช้วิธีวิเคราะห์เชิงปริมาณ แต่ไม่สามารถทำการวิเคราะห์ด้วยเทคนิค Data Mining ได้ ดังนั้น ผมคงแนะนำองค์กรต่างๆ ที่มี BI อยู่แล้ว แต่เห็นว่ายังช่วยตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ได้ไม่ดีนัก ให้พิจารณาซอฟต์แวร์ประเภท Data Mining ด้วยครับ เพราะเราสามารถใช้ข้อมูลทั้งหมดที่มี ไปวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ต่างๆ และทำนายอนาคตธุรกิจได้หลายแบบอีกด้วยครับ

เรียน คุณ วิทยา

ช่วยแนะนำ  research  topic ที่น่าสนใจ หน่อยสิคะ

ตอนนี้ ทำวิจัยที่เยอรมัน สาขา วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ แต่ว่า จบ เอ็มบีเอ 

ถ้า คุณมีไอเดีย ดีๆๆ ที่นำ โมเดินเมเนจเมนท์ มาวิจัยควบคู่กับ เทคโนโลยี ได้ แนะนำด้วยคะ่

ขอบคุณค่ะ

เว็บ คุณ น่าสนใจมาก เผอิญมาเจอ เสิช หา ทฤษฎีเกมส์ เลย เจอ นับว่าโชคดี มีสาระ ค่ะ

 

เป็นความรู้ที่ดีมากเลยครับ 

ขอขอบคุณ comment ของทุกๆท่านครับ
ขอตอบคุณปัญชลี ดังนี้
ในฐานะที่คุณต้องการทำวิจัยในสาย Computer Science+Business Management  และผมเองก็สอนในสายนี้เช่นเดียวกันในหลายๆสถาบัน คงแนะนำ scope ไว้ดังนี้ครับ
- Churn Analyais using Artificial Neural Networks (Data Mining) วิเคราะห์ลักษณะของลูกค้าที่เลิกซื้อสินค้าของเรา
- Market Basket Analysis using Association Rules (Data Mining) วิเคราะห์การจับจ่าย พฤติกรรมลูกค้าเพื่อวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาด
- CRM Portal Services (MIS) บริการได้ทั้งลูกค้า พนักงานของเรา รวมไปถึงพันธมิตรทางธุรกิจ คล้ายๆ ERP แต่เน้นที่เรื่องใดเรื่องหนึ่ง
- ระบบ OLAP DSS, ESS ทั้งหลาย
- ระบบการทำแบบจำลองการตัดสินใจทั้งหลาย (Simultaion Tools) เช่น Marketing Simulation หรือ ROI Simulation
- ระบบการทำนาย หรือพยากรณ์ธุรกิจทั้งหลาย (Business Forecasting)
- Fraud Detection จับผิดลักษณะการโกง หรือการวิเคราะห์หาค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นในองค์กร อาจใช้ Artificial Neural Networks หรือใช้ Operations Research ก็ได้
แค่นี้ก่อนก็แล้วกันครับ ควรพิจารณาข้อมูลที่คุณมีหรือหาได้ ผสมกับความถนัดส่วนตัว หรือสายที่ต้องการจะศึกษาเป็นสายเอก แล้วค่อยเลือกหัวข้อต่อไปครับ
ไม่ทราบว่าพอจะทราบไหมคะว่า บริษัทไหนบ้างที่ใช้ระบบนี้ ต้องเอาไปทำรายงานน่ะค่ะ

ผมไ่ม่รู้เรื่องภายในของทุกองค์กรหรอกครับ ต้องลองค้นหาเองว่าที่ใดใช้บ้าง ใช้แบบไหน ลึกแค่ไหน ใช้ซอฟต์แวร์อะไร ของค่ายไหน ใช้แ้ล้วมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง เป็นต้น

 แต่ที่แน่ๆ ที่ผมรู้จัก ก็มี DTAC และมหาิวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ที่ใช้ครับ

ถ้าเป็นธุรกิจ

ทางด้านโรงไฟฟ้า

จะเอา BI ไปใช้ในด้านไหนได้บ้าง

 

ขอบคุณล่วงหน้า ครับผม 

Dear R' jan Wittaya

Thanks you very much for nice suggestion..  

My god unbelievable.. I have forgotten already that I've asked you about Research Idea..

Today, I am searching about ''BI'' then, i found my question in yrs blog..

after i have read yrs article in this blog. Now, BI is not new anymore in Thailand, then.

 i have a lots of questions.. May i contact you via private Email. 

Best regards,

Panchalee.

panleek@gmail.com

 

ขอบคุณอาจารย์มากครับ ที่เขียนบทความดีๆ ให้พวกเราได้อ่าน

ผมได้รับความรู้มากเลยครับ ขอบคุณจากใจจริงครับ   

เด่วนี้ใช้กันเยอะครับ เห่อตามกระแส โดยเฉพาะระบบราชการถูกวาง Spec ให้ซื้อ แพงมั๊กๆ แต่ใช้ไม่คุ้มหรอกครับ ลองไปวิจัยดูซิครับ

พอดีผมเปิดเจอ blog ของอาจารย์เข้าโดยบังเอิญ แต่คิดว่ามีประโยชน์มาก ในการให้ idea ด้าน BI ขอบพระคุณคำแนะนำและการแบ่งปันความรู้ที่อาจารย์ให้มาก ๆ นะครับ

- เคยฟังคุณบรรยายเหมือนกันค่ะ กิตติศัพท์คุณขึ้นชื่อลือชามากว่า "บรรยายไม่ได้เรื่อง แถมตลอด 3 ชั่วโมง หรือตลอดวันพูดโม้โอ้อวด ยกตนข่มท่านตลอดเวลา" ทั้ง ๆ ที่ผลงานที่คุณทำน่ะ แค่ไปร่วมนั่งฟังเฉย ๆ มิหนำซ้ำยังทำให้ภาพลักษณ์องค์กรคนอื่นเค้าเสียหายอีก คุณไม่ได้ลงมือทำจริง ๆ เลย เอาผลงานของคนอื่นมาอ้างว่าเป็นของตนเองแท้ ๆ คนที่น่าจะเอาเวลาว่าง ๆ ไปทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติบ้างน่ะ ดิฉันว่าน่าจะเป็นคุณมากกว่า เพราะรู้สึกว่าปากคุณยังว่างได้ขนาดนั้น ก็น่าจะหาอะไรที่พัฒนาสมอง แล้วสอนให้ได้ความรู้จริง ๆ มากกว่ามานั่งเล่า โม้ใส่ไข่ โอ้อวดไปวัน ๆ แบบนี้

- ส่วนงานวิจัยคุณน่ะ ลองกลับไปคิดทบทวนใหม่สิค่ะ ว่างานคุณอยู่ในระดับไหน จริง ๆ แล้วคุณเชี่ยวชาญทางด้านไหนกันแน่ โดนคนอื่นเค้ายำมาเละเลยไม่ใช่เหรอ ไม่ใช่สักแต่ว่าเรื่องนี้กำลังได้รับความสนใจ ก็เอามาพ่วงต่อท้าย แล้วคุณภาพมันอยู่ตรงไหน แบบนี้เค้าเรียกว่า "พวกฉาบฉวย" น่าสงสารน่ะค่ะ

อ่านดูก็รู้ว่าคุณเจตนามาdiscreditผม โดยที่ไม่มีเค้ามูลหรือหลักฐานความจริงเลยแม้แต่นิดเดียว ดังนั้นผมจะไม่ลบกระทู้นี้ แต่อยากชี้แจงให้คนอื่นๆได้อ่านด้วยเลย จะเป็นการดี และโปร่งใสกว่า

ผมสอนหนังสือในระดับอุดมศึกษามาสิบกว่าปี ถึงแม้จะมีการเปลี่ยนสายงานและวิชาการ แต่กระนั้นผมก็ศึกษาอย่างจริงจังในสายใหม่ และเห็นว่าเป็นสายที่ขาดแคลน และจะมีประโยชน์ต่อประเทศชาติมากกว่าในภาพรวมมากกว่า ถึงแม้ผมจะเป็นเพียงแค่คนเล็กๆในประเทศคนหนึ่ง ที่เกิดมาในฐานะยากจน ไม่ได้เรียนต่างประเทศ และนามสกุลไม่ดัง

ผมเคยร่วมสอนให้กับสถาบันการศึกษาหลายแห่ง หลายหลักสูตร แต่ทุกครั้งก็ได้รับการประเมินผลการสอนในระดับดีมากมาตลอด โดยเฉพาะ 3 ปีหลัง มีหลักฐานเก็บไว้ทั้งหมดครับ และวิชาทั้งหมดที่ผมสอนก็เน้นภาคปฏิบัติ คือ สอนแล้วทำได้จริง และพยายามให้นักศึกษาหรือผู้เข้าร่วมอบรมรู้วิธีปฏิบัติที่ทำได้จริงทุกครั้ง หากเป็นการบรรยาย 3 ชั่วโมง ก็อาจไม่ได้เรียนภาคปฏิบัติ แต่ถ้าเป็นหลักสูตรเต็มวัน หรือเรียนเป็นวิชาก็จะได้ศึกษาเทคนิคการวิเคราะห์ ประเมินและทำนายอนาคตหลายเทคนิคแน่นอนครับ

บทความใน Blog นี้ผมเขียนเองบางส่วน ไม่ได้เขียนเองทั้งหมด บางบทความผมเห็นอาจารย์ท่านอื่นมีประโยชน์ ก็นำไปลงให้อ่าน และมีบางบทความที่ผมได้บันทึกเก็บไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของผมนานแล้ว จนจำไม่ได้ว่าเอามาจากไหน หรือผู้เขียนเป็นใคร แต่เห็นว่ามีประโยชน์จึงได้นำมาลงให้อ่านไว้ แต่ไม่มีเจตนาจะทำร้าย หรือนำมาหาเงินใดๆเลย หากใครจำแหล่งอ้างอิงบทความใดๆ ก็แจ้งให้ผมทราบด้วยครับ ผมจะได้ลงชื่อของผู้เขียนให้ หรือแจ้งให้ผมลบออกจาก Blog ก็ได้ครับ

สำหรับเรื่องงานวิจัยนั้น ผมไม่เคยไปนั่งฟังใครพูดแล้วมาสรุปเป็นตุเป็นตะเขียนเอาเลย การวิจัยในสมัยใด ก็ควรที่จะหยิบประเด็นที่สำคัญในเวลานั้นมาทำ จึงจะได้รับทุนจากผู้ให้ทุน เป็นเรื่องธรรมดาครับ ไม่เช่นนั้นจะเป็นการเสียงบวิจัยไปแบบไม่คุ้มค่า เรื่องพวกนี้นักวิชาการทุกคนรู้หมดล่ะครับ เหมือนกับคุณไม่เคยทำวิจัยอย่างนั้นล่ะครับ

หากคุณว่าผมเคยโดนยำตอนนำเสนองาน ก็เป็นเรื่องธรรมดาครับ เวลาไปขอทุนใดๆก็ล้วนถูกวิพากษ์ ถูกสอบถามทั้งนั้น ไม่มีสูตรสำเร็จในการทำวิจัยหรอกครับอีกทั้งกรรมการแต่ละท่านก็มีพื้นฐานและความคิดไม่เหมือนกัน หลายท่านก็ไม่เคยรู้เกี่ยวกับเทคนิคการวิเคราะห์คำนวณสมัยใหม่เช่น การทำเหมืองข้อมูล (Data Mining) ก็เลยไม่ให้ทุน ผมทำใจไว้หมดแล้วล่ะครับ ส่วนใหญ่กรรมการจะถามผมว่าผมจบโททางไอทีมา จะทำวิจัยสายสังคมศาสตร์ได้หรือ แบบนี้เจอบ่อยครับ ผมเข้าใจดี แต่ผมก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่างานวิจัยสังคมศาสตร์ผมก็ทำได้ (ดูได้ในอ้างอิง) บางงานวิจัยก็มาขอให้ผมไปร่วมทีมภายหลังเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นและไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีเดิมๆ ผมไม่เคยบอกว่าเป็นเซียนอะไร

เพราะทำงานเป็นทีมมากกว่าครับ ทำงานแบบประชาธิปไตย บางครั้งข้อเสนอของผมไม่ผ่านในบางหน่วยงานที่ผมขอทุน แต่กลับไปได้รับทุนจากหน่วยงานอื่นแทนก็มีครับ (บางหน่วยงานก็ชอบวิชาการที่ทันสมัย) เวลาทำงานผมก็พูดตรงๆ (สไตล์ฝรั่ง) พูดไม่เอาใจใคร เพื่อช่วยกันแก้ปัญหาให้ลุล่วงไปให้ได้ ซึ่งบางครั้งอาจทำให้คนอื่นฟังดูเหมือนว่าผมเป็นคนก้าวร้าวก็เป็นได้ แต่จริงๆแล้วผมไม่ใช่คนแบบนั้นเลย คนที่ทำงานด้วยกันจะรู้นิสัยผมดีครับ

งานวิจัยบางอย่าง ผมได้ขออนุญาตจากผู้ให้ทุนก่อนแล้ว ว่าหลังจากทำเสร็จ ผมขอนำบางส่วนออกไปตีพิมพ์ในเวทีวิชาการ ซึ่งเป็นส่วนที่ควรทำสำหรับงานวิจัยทุกชิ้น เพราะการวิจัยได้ความรู้ใหม่ หรือได้ทดลองใหม่ๆแล้ว ไม่เผยแพร่ความรู้เลย ย่อมไม่ก่อประโยชน์อันใด และหากงานนั้นมีผู้ร่วมวิจัยกี่ท่าน หรือผู้เกี่ยวข้องกี่คน ผมก็ได้เขียนอ้างอิงไว้ทั้งในส่วนของกิตติกรรมประกาศ และเอกสารอ้างอิงของผมเอง ไม่เคยแอบอ้างครับ อีกทั้งยังเคยมีนักวิชาการบางท่านเอาชื่อผมไปขอทุนวิจัยก็หายไปเลย ไม่ทราบว่าผลสุดท้ายได้ทำหรือไม่อย่างไร เพราะงานแบบนั้นผมไม่เคยได้รับสิ่งตอบแทนใดๆทั้งสิ้น ทำดีก็ดีไป ทำไม่ดี ผมก็ต้องรับผิดชอบไปด้วยซ้ำ หรือบางหน่วยงานมา outsource ให้ผมพัฒนาหรือศึกษาบางอย่างต่อ โดยที่คนในหน่วยงานบางคนอาจไม่ทราบ ก็มาหาว่าผมอ้างลอยๆ เรื่องแบบนี้มาถามผมเป็นเรื่องๆได้ครับ ว่าผมรู้เรื่องนั้นๆ ลึกแค่ไหน แต่บางครั้งก็ไม่ได้บอกว่าทำงานให้ใคร ในส่วนนี้ก็ขอพูดรวมกับงานให้บริการวิชาการหน่วยงานต่างๆด้วยเลยครับ เพราะล้วนทำงานเป็นทีมคณาจารย์ทั้งนั้นครับ เพียงแต่ว่าใครรับผิดชอบในส่วนไหนเท่านั้นเองครับ

ส่วนเรื่องความถนัดของผมนั้น หากผมศึกษาจริงจังมาหลายด้าน ก็ไม่แปลกอะไรที่ผมจะมีความรู้มากกว่าเพียง 1 ด้าน เพราะโลกความรู้ทุกวันนี้ก็ล้วนเป็น Intregrated Science กันแล้ว (ใช้ความรู้มากกว่า 1 ศาสตร์) แต่ผมก็ไม่อยากประเมินด้วยตัวเองเพียงอย่างเดียว เพราะไม่ถูกต้องแน่นอน สิ่งที่ผมได้ทดลองแล้วคิดว่ามีประโยชน์ ก็อยากจะเผยแพร่และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของคนอื่นๆ เพื่อนำไปพัฒนาต่อยอดทางความคิด หากมีคนเห็นประโยชน์ เค้าก็มักจะขอให้ผมไปบรรยาย ไปสอนเทคนิคต่างๆให้หน่อย ไม่มีใครจ้างก็ไม่เป็นไรครับ ผมเองก็มีภาระ และงานที่รับผิดชอบหลายส่วนอยู่แล้วครับ ผมไม่เคยไปของานใคร หรือขอให้ใครจ้างนะครับ ผลงานการฝึกอบรมหรือบรรยายนั้น มาจากการติดต่อจากหน่วยงานอื่นทั้งสิ้น อย่างน้อยที่สุด ทุกเรื่องที่ผมไปสอน หรือบรรยายเป็นเรื่องที่ผมถนัดและทำได้จริง สอนให้ผู้อื่นทำตามได้จริงทั้งสิ้นครับ ไม่เคยโกหก หลอกลวง หรือโอ้อวดอย่างที่คุณกล่าวหาผมมาเลย เพราะในทางวิชาการไม่มีประโยชน์ใดๆทั้งสิ้นครับ ถ้าต้องไปทำงาน ไปสอนในสิ่งที่ไม่ถนัด

หากผมเห็นแก่เงินเป็นที่ตั้ง ผมคงไม่มาทำงานราชการ หรือสอนหนังสือหรอกครับ ไปทำงานภาคเอกชนมีรายได้สูงกว่ามาก และอย่างน้อยที่สุด ก็ยังดีกว่าคนบางคนที่ได้แต่เขียนโจมตีผู้อื่นจากที่ลับ โดยที่ไม่มีมูลความจริง ไม่กล้าเปิดเผยตัวจริง น่าจะเป็นโรคจิตบางอย่าง ไม่อยากเห็นคนอื่นได้ดีไปกว่าตนเอง (เป็นธรรมดาของมนุษย์) แทนที่จะคิดว่า จะทำอะไรกันดี เพื่อให้ประเทศชาติเจริญขึ้นไม่ให้แพ้ประเทศเพื่อนบ้าน จริงๆในบ้านเราก็มีคนเก่งๆอีกมากมายครับ เพียงแต่เค้าอาจไม่ได้มาเป็นอาจารย์สอนหนังสือ หรือเค้าอาจจะเคยเจอคนกระทำแบบคุณมาก่อน เลยท้อจนไม่อยากจะมาเสียเวลาพัฒนาความรู้ทางวิชาการ รับค่าตอบแทนน้อยๆ แบบผมก็เป็นได้

หรือว่างานต่างๆที่ผมทำไปนั้น มันไปขัดผลประโยชน์ หรือขวางทางก้าวหน้าของคุณกันแน่ครับ?

ว่างๆ ก็ทำตัวให้มีประโยชน์ต่อประเทศชาติบ้างนะครับ บุพการีคุณจะได้ภูมิใจที่มีลูกแบบคุณซะบ้าง 555

www.wittayaonline.com

เรียน ท่าน อ.วิทยา

มีโอกาสได้เรียนกับท่านอยู่ บางที่ RU ครับ

ขอถามท่าน อ.วิทยา หน่อยว่าท่านคิดว่าเราสามารถใช้ BI

ในงานทางฝ่ายพัฒนาทรัพยากรมนุทย์ ได้ในเรื่องใดบ้างครับ

เนื่องจากในส่วนตัวผมเห็นว่า BI มีประโยชน์ต่อธุรกิจมาก

ซึ่งในความคิดผมหน้าจะนำมาใช้กับการวิเคราะห์ทาง ด้านนี้ได้บ้าง

จึงเรียนขอแนวความคิดจากท่าน อาจารย์เพิ่มเติมด้วยครับ

ขอแสดงความนับถือ

หากจะนำไปใช้กับ HR ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ผมขอให้แนวคิดหลักๆ ดังนี้ครับ

- ออกแบบรายงาน หรือ Dashboard ตามตัวชี้ัวัด (KPI) ด้าน HR ขององค์กร แล้วท่านจะทราบว่าต้องเก็บข้อมูลอะไรบ้าง

- คำนึงถึงคำถามที่มักจะถูกถามบ่อยๆ ไม่ว่าจากหัวหน้าของท่าน เพื่อนร่วมงาน ลูกน้อง แล้วท่านจะทราบว่าต้องมีการวิเคราะห์ คำนวณอะไรบ้าง

- ไม่ว่าจะเก็บข้อมูลอะไร ขอให้คำนึงถึงหลักการวิจัยพื้นฐาน นั่นคือ มีตัวแปรต้น (ตัวแปรอิสระ) และตัวแปรตาม โดยตัวแปรตามนั้น เป็นผลการประเมิน ไม่ว่าจะเป็นด้านใดก็ตาม หรือเก็บ output, outcome ของพนังานที่ท่านวัดผล สรุปผลได้

ด้วยหลักการที่แนะนำไป ท่านคงจะนึกออกแล้วใช่ไหมครับ ว่าเราสามารถใช้เทคนิคการวิเคราะห์ด้วยการทำเหมืองข้อมูล (Data Mining) ที่ผมสอนไปนั้น ไปอะไรกับข้อมูลชุดนี้ได้บ้าง ยกตัวอย่างเช่น Association Rules, Decision Tree, Artificial Neural Networks ฯลฯ

ขอให้โชคดีครับ ;)

ขอบพระคุณมากครับท่านอาจารย์ ผมจะรองนำไปใช้ดูครับ

อยากจะเรียนถาม ท่าน อ.วิทยา ว่า Customer buying patterns และ Fraud Detection มันคืออะไร มันใช้งานเกี่ยวกับอะไรและใช้งานยังไง เนื่องจากจะต้องทำรายงานค่ะ

ขอบพระคุณค่ะ

ตรงนี้ผมจะอธิบายหลักการคร่าวๆให้ฟังก่อนนะครับ ส่วนภาคปฏิบัตินั้นคงอธิบายได้ไม่สะดวก นอกจากมาพบผมเพื่อสาธิตการวิเคราะห์ให้ดูครับ

Buying Pattern Analysis หรือในทางการตลาดจะเรียกว่า Market Basket Analysis นั้น เราจะใช้เทคนิค Association Rules ของ Data Mining ซึ่งพัฒนามาจาก APRIORI ของสถิติ เพื่อที่จะหากฎที่แสดงภาพรวมพฤติกรรมการซื้อของลูกค้า เช่น สินค้าอะไรมักถูกซื้อพร้อมกัน , สินค้าอะไรจะถูกซื้อเป็นลำดับถัดไปจากสินค้าที่เราทราบแล้ว หรือ กฎข้อใดช่วยส่งเสริมการขายได้มากขึ้นบ้าง

Fraud Detection คือการหาความสัมพันธ์ของเหตุการณ์เพื่อที่จะจัดผิดเหตุที่ไม่พึงประสงค์ต่างๆ เช่น การโกง เป็นต้น การหาความสัมพันธ์แบบนี้สามารถใช้เทคนิคของ Data Mining ได้หลายเทคนิคด้วยกัน หรืออาจนำผลลัพธ์มาวิเคราะห์ร่วมกันเพื่อวางแผนกลยุทธ์ก็ได้ อาทิเช่น ใช้ Decision Tree เพื่อวิเคราะห์ถึงปัจจัยหรือลักษณะของผลลัพธ์ที่เราสนใจ เ่ช่น การโกง , หรืออาจใช้ Assoication Rules เพื่อวิเคราะห์ลำดับของเหตุการณ์ก่อนเกิดการโกง หรือเหตุการณ์ที่มักเกิดพร้อมกับการโกง , หรืออาจใช้ Artificial Neural Networks เพื่อพยากรณ์เหตุการณ์ผลลัพธ์ว่า ปัจจัยอะไรที่มีความสัมพันธ์กับการโกงมากที่สุดและลำดับต่อๆไป รวมไปถึงการทำแบบจำลอง Simulation เพื่อทดลองเปลี่ยนปัจจัยต่างๆ แล้วพยากรณ์ผลลัพธ์ดูว่า การโกงเกิดขึ้นได้อย่างไรบ้าง

ทั้งหมดนี้เป็นการวิเคราะห์ความเสี่ยงสมัยใหม่ ที่เราจะนำไปใช้ในการวางแผนบริหารความเสี่ยง เพื่อป้องกันและแก้ไขเพื่อไม่ให้เกิด Fraud Detection อีกครับ

อธิบายอย่างนี้พอจะเข้าใจไหมครับ ;)

บทความและความรู้ที่อาจารย์เขียนมีประโยชน์มากครับ

ตอนนี้ผมกำลังหาข้อมูลเรียนต่อในระดับ ปริญญาเอกครับ

อยากเรียนสาขา business intelligence ครับ

รบกวนอาจารย์แนะนำมหาวิทยาลัยในต่างประเทศที่มีหลักสูตรทางด้าน

BI ให้ผมหน่อยครับ /ขอบคุณมากครับ

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆนี้นะคะ

ทำให้มีความกระจ่างมากขึ้นสำหรับ BI ค่ะ

คือตอนนี้ตนเองจะทำโปรเจ็คที่ประยุกต์กันระหว่างการนำเอาเทคโนโลยีทางคอมพิวเตอร์กับ BI มารวมกัน

ไม่ทราบว่าคุณวิทยาพอมีแนวทางในการกำหนด scope งานไหมค่ะว่าควรทำเป็นแบบไหนอย่างไร

หรือว่าถ้าเป็นธุรกิจขายตรงเราจะนำ BI มาใช้อย่างได้บ้างค่ะ

ขอขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ

เรียน ท่านอาจารย์ วิทยา ค่ะ

อยากทราบว่า ถ้าเราต้องการจะนำเสนอให้กับบุคคลทั่วไปที่มีข้อมูล แต่ไม่มีความรู้เรื่อง BI ให้สามารถเข้าใจและเห็นว่ามีประโยชน์ที่จะนำไปใช้ได้จริง เราจะทำการนำเสนออย่างไรเพื่อให้เห็นภาพ ชัดเจนค่ะ หรือมีสื่อทางใดที่พอแนะนำได้บ้างคะ

พอดีทำงานในบริษัทแห่งนึง แล้วต้องการจะนำเสนอให้กับผู้บริหาร แต่ผู้บริหารไม่มีความรู้เรื่อง IT หรือ BI แต่อย่างใด เพียงแต่มีความต้องการอยากรู้โน้น นี่ นั่น เท่านั้นเองค่ะ

เพราะการนำเสนอ ก็จะมีแต่ศัพท์ที่เป็นทางด้าน BI ที่จะต้องอธิบายรายละเอียดยืดยาวทั้งนั้น

พอบอกว่าจะทำ Data warehouse หรือทำ Mining ผู้บริหารก็จะทำหน้างง ๆ

ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

ในการนำเสนอต่อผู้บริหารที่ไม่มีความรู้พื้นฐานเท่าใดนัก ควรเน้นไปที่ภาพจริง หรือตัวอย่างการประยุกต์ใช้แบบเห็นได้ชัด หรือแสดงให้เห็นว่าจะแก้ไขปัญหาองค์กรเดิมๆได้อย่างไร ช่วยพัฒนากลยุทธ์การบริหาร การวางแผนปฏิบัติได้ดีขึ้นอย่างไร ช่วยหาโอกาสทำกำไรให้องค์กรได้อย่างไร

หากคุณสามารถสาธิตการวิเคราะห์ข้อมูลด้วย Data Mining ไม่ว่าจะเป็นการทำ Market Basket Analysis, Customer Segmentation, Customer Profiling, Marketing Planning Simulation, Scenario Forecasting, Risk Analysis พร้อมยกตัวอย่างการนำผลลัพธ์ที่ได้ไปวางแผนแบบเห็นได้ชัด รับรองน่าจะทำให้ผู้บริหารเห็นภาพได้ชัดเจนครับ

ขอบคุณค่ะ ท่านอาจารย์

สงสัยต้องทำการบ้านอย่างหนัก ก่อนที่จะไปคุยซะแล้ว

ขอบคุณค่ะ

นักศึกษา กำลังหาหัวข้อโปรเจค

อาจารย์ค่ะ

พอดีเข้ามาอ่านบล็อกของอาจารย์โดนบังเอิญ เกี่ยวกับ BI อยากทราบว่า ถ้าเราเรียนปริญญาตรี แล้วคิดจะทำโปรเจคที่เกี่ยวกับ BI ควรมี scope งานประมาณไหน และที่มหาลัยมีคนทำโปรเจค data mining กับ data warehouse ไปแล้ว ไม่แน่ใจว่าต้องเริ่มศึกษาจากตรงไหน หรือศึกษาจากที่ไหนได้บ้างค่ะ พอดีช่วงนี้กำลังเบลอๆ เรื่องหัวข้อโปรเจคว่าจะทำอะไรดี พอได้มาอ่าน รู้สึกสนใจ แต่ยังไม่แน่ใจ ว่าจะมีความสามารถทำได้รึป่าว เลยอยากลองศึกษาดู

รบกวนอาจารย์ช่วยแนะนำด้วยนะค่ะ

อาจารย์ ครับ

พอดีผมได้อ่าน บล็อกของอาจารย์ผมทำงานอยู่ บริษัท และได้ไปสัมนาเกี่ยวกับ BI และทางผู้บริหารถามคำถาม ว่า แสดงวิสัยทัศน์ถึงผลที่ได้จากการไปร่วมสัมนาว่าจะสามารถต่อยอดได้อย่างไร และนำไปใช้อย่างไร คำถามจะคล้ายกับ คุณ alek ครับ

เรียน ท่านอาจารย์ วิทยา ค่ะ

เนื่องจากดิฉันกำลังจะทำ Project ที่เกี่ยวกับ BI ที่จะต้องตอบโจทย์ผู้บริหารที่ทำธุรกิจลักษณะเล่นหุ้นเช่น จะเลือกลงทุนในองค์กรหรือบริษัทใดโดยใช้ S/W BI มาช่วยตัดสินใจในการลงทุนค่ะ แต่ตอนนี้ดิฉันมีข้อคำถามที่ข้องใจ 2 ข้อดังนี้ค่ะ

1. การทำ BI ดังกล่าวหากไม่ต้องใช้ Data warehouse สามารถจัดทำได้หรือไม่ค่ะ

2.ตอนนี้มี BI Product ใดบ้างค่ะ ที่ตอบโจทย์ลักษณะเช่นนี้ได้ค่ะ

รบกวนด้วยน่ะค่ะ

ขอบคุณค่ะ

ตอบคุณนักศึกษา และคุณปรีชา

ในเบื้องต้น หากไม่เจอผมสาธิตหลักการทำงานของระบบ หรือแนวทางการประยุกต์ใช้พวกนี้ ส่งอีเมลมาหาผมก่อนก็ได้ครับ ผมจะส่งไฟล์เอกสารไปให้อ่านก่อน เพื่อที่ท่านจะได้มีไอเิดียในการพูดคุยกับผู้บริหารได้ดีขึ้นครับ

ตอบคุณผู้หญิงไม่แสดงตน

การทำ BI ถ้าจะไม่ใช้ Data Warehouse ก็ทำได้ครับ แต่จะไม่สะดวกในหลายๆกรณี อาทิเช่น การให้ BI ทำงานและอัพเดทข้อมูลโดยอัตโนมัติ เพราะ Data Warehouse นั้นมีจุดเด่นหลายประการที่ Database จะเสียเปรียบกว่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการที่ 1 ตัวแปร เก็บข้อมูลได้มากกว่า 1 ค่า (ไม่ทับกัน) ทำให้สะดวกในการสั่งพล็อคกราฟใดๆ หรือจะทำการวิเคราะห์แนวโน้ม หรือพยากรณ์ผลลัพธ์ในอนาคต

หากใช้ Database ธรรมดาก็ทำ BI ได้ แต่อาจเป็นระบบ Manual มากหน่อย และต้องออกแบบฐานข้อมูลให้รองรับตัวแปรจำนวนมากๆด้วยครับ

ส่วนเรื่อง BI Product นั้น ผมไม่ขอเอ่ยด้วยจรรยาบรรณ เพราะไม่ใช่คนขายของ แต่มีหลายค่ายแล้ว ตั้งแต่ของฟรี Open Source ไปพัฒนาต่อ หรือค่ายเล็กในเอเซียเราก็มี จนไปถึงค่ายใหญ่ระดับโลกเลยครับ

ตัวที่ผมเห็น BI แบบใช้ Database นั้น เป็นตัวฟรี Open Source ครับ

เรียนอาจาร์ยครับ

ผมทำงานในตำแหน่ง BI Consultant ตอนนี้โปรเจกที่ทำอยู่เป็นด้านประกันภัย และมีอีกหลายโปรเจกต่อคิวอยู่

อยากถามว่าผมควรเรียนโทต่อใน คณะ/สาขาอะไรดีครับ เพื่อที่จะต่อยอดงานและสนับสนุนสายงานผมให้มากกว่านี้

ขอบคุณครับ

Business Intelligence ครบสูตร สามารถใช้งานได้ทั้ง Dashboard, Cockpit, Scorecard, Flexible Report (Ad hoc), Data Visualization, Knowledge Discovery using Statistical techniques or Data Mining (การทำเหมืองข้อมูล)

ดังนั้นจะเห็นได้ว่า เราสามารถใช้งาน BI ในด้านการบริหารงานตามแผนยุทธศาสตร์ , ประเมินผลการปฏิบัติงาน , การเงิน , เข้าใจพฤติกรรมลูกค้า หรือองค์กร , การหาค่าที่ดีที่สุด (Optimization) , การพยากรณ์ผลลัพธ์ในอนาคตตามแบบจำลองปัจจัยต่างๆ หรือ การทำนายความเสี่ยง เพื่อวางแผนการบริหารความเสี่ยงล่วงหน้า

สาขาที่เกี่ยวข้องก็จะมีหลายศาสตร์ หลายสาขา เหมือนเป็นสหวิทยาการ (Integrated Science) ไม่ว่าจะเป็น สาขาการบริหารต่างๆ ไม่ว่า การจัดการ การตลาด การเงิน HR , เทคโนโลยี , เศรษฐศาสตร์ , คณิตศาสตร์ , สถิิติเพื่อการตัดสินใจ ฯลฯ จะเรียนต่ออะไรก็ได้ ตามความชอบ ความถนัด (เพราะบางเรื่องก็ไม่ได้มีสอนในหลักสูตร) แต่สุดท้ายต้องนำความรู้พื้นฐานที่ได้ ไปประยุกต์ใช้ในหน้าีที่การงาน หรือให้คำแนะนำลูกค้าให้ได้ ช่วยลูกค้าให้ได้ แก้ปัญหาให้ได้ สิ่งนี้จะสำคัญกว่าอื่นใดครับ

สวัสดีครับอาจารย์

ผมทำงานเกี่ยวกับการออกแบบโปรแกรม ตอนนี้กำลังศึกษาและจัดทำรายงานเกี่ยวกับ BI

ได้เข้ามาอ่านบทความของอาจารย์ก็ได้ไอเดียขึ้นมาก

แต่ตอนนี้ยังติดปัญหาในส่วนของรายงานต่างๆ ว่าจำเป็นต้องมีรายงานใดบ้าง และแต่ละรายงานมีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร

ซึ่งหัวข้อทีกำลังดำเนินการอยู่เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อ ขาย การเงิน การบัญชี การคลัง ต้นทุน และการบริหารการขายการตลาด (เยอะมากๆ)

ถ้าเป็นไปได้หากอาจารย์มีข้อมูลหรือตัวอย่างในประเด็นดังกล่าว อยากรบกวนขอรายละเอียดด้วยครับ

และถ้ามีโอกาสก็อยากจะขอรบกวนขอคำปรึกษาเพิ่มเติมด้วยครับ

ขอบคุณครับ

มีตัวอย่างงานวิจัยให้ดูเป็นแนวทางหรือไม่ค่ะ

เป็นBlog ที่ให้ความรู้ดีมากๆเลยค่ะ แต่ไม่ทราบว่าเคยรู้จักโปรดักส์ที่ชื่อ Qlikview รึยังค่ะ เป็น Tool BI ที่แตกต่างจากชาวบ้านทั้งหมด เผื่อมีประโยชน์ในแง่ของความรู้ใหม่ๆทางเทคโนโลยี BI :)

เคยเห็นแล้วครับ เพราะมีคนส่งเข้ามาที่ีอีเมลผมนี่ล่ะ ^_^

แต่ผมไม่มีเงินซื้อหรอกนะครับ

สวัสดีค่ะ อาจารย์

ตอนนี้หนูกำลังทำโปรเจคเกี่ยวกันต้นไม้ตัดสินใจ เพื่อพยากรณ์ข้อมูลที่เป็นตัวเลข(คล้ายพยากรณ์ผลผลิต) ในต้นไม้ตัดสินใจจะมี

M5 tree แต่หนูยังหาอัลกอลิทึมไม่ได้เลย อาจารย์พอจะมีมั้ยคะ อัลกอหรือตัวอย่างการแบ่งชุดข้อมูลเพื่อแตกเป็นต้นไม้น่ะค่ะ

ขอบคุณค่ะ

ผมลองค้นคำว่า m5 tree algorithm ใน google.com ก็เจอแหล่งข้อมูลเรื่องนี้เยอะเลยครับ ลองดูไหมครับ

สวัสดีค่ะ อาจารย์ หนูได้เข้ามาอ่านกระทู้เรื่อง Business intelligence ของอาจารย์หลายครั้งแล้ว เนื่องจากต้องทำการทำความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับ BI ตอนนี้หนูกำลังทำงานวิจัยเกี่ยว BI ค่ะ อยากจะให้อาจารย์ช่วยแนะนำหนังสือที่เกี่ยวข้องกับ BI ให้หนูหน่อยจะได้มั้ยค่ะ ตอนนี้หนูมีอยู่เล่มหนี่งเป็นของ Turban ค่ะ edition ล่าสุดปี 2010 แต่เท่าๆที่อ่านมาจะเน้นในการจัดการโดยต้องจะไม่มีการให้รายละเอียดมากนัก จึงอยากให้หนังสือที่เหมาะกับการศึกษาเพื่อทำงานวิจัยโดยตรงค่ะ

                                                        ขอบพระคุณค่ะ

ผมมี Textbook ที่เกี่ยวกับ Business Intelligence กับ Data Mining ประมาณ 300 เล่ม ให้พิมพ์คงไม่หมดครับ ที่นึกออกก็มี

Adaptive_Business_Intelligence Building a Real-time Business Intelligence Environment Building Business Intelligence and Data Mining Applications with Microsoft SQL Server Business Analytics for Managers - Taking Business Intelligence Beyond Reporting Business Intelligence and Business Process Management Business Intelligence Best Practices Business Intelligence Manifest BUSINESS INTELLIGENCE SECRETS FOR UNFAIR COMPETITIVE ADVANTAGE - PROMO Business Intelligence, Data Integration, and Analytics Business objects - Introducing e-business intelligence Business_Intelligence_Roadmap Data_Warehousing_and_Business_Intelligence Delivering Business Intelligence with Microsoft SQL Server Essential Non IT Business Intelligence Architect Guide - PROMO Financial Business Intelligence Trends, Technology, Software Selection and Implementation Getting Started with Data Warehouse and Business Intelligence Knights_Microsoft_Business_Intelligence_24_Hour_Trainer The_Profit_Impact_of_Business_Intelligence Web Data Mining And Applications In Business Intelligence Wipro White Paper - Business Intelligence And Logistics

อยากทราบว่า Bi และ Bi on mobile นั้นมีข้อเหมือนและข้อแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไรครับ

ขอบคุณล่วงหน้าครับ

มีประโยชน์มากจริงๆครับ ผมอ่านทุกคอมเม้นเลยครับ

ชอบคุณมากครับสำหรับความรู้เหล่านี้

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท