หนูรี
นารี เอี่ยมวิวัฒน์กิจ ชูเรืองสุข

ชีสเค้ก..."บรรจุถ้วย"



bakery @ home
 
ชีสเค้ก..."บรรจุถ้วย"


"cheesecake" เมนูขนมเบเกอรี่แบบไม่อบ 

ทำการทดลองต่อจากบันทึก " บลูเบอรี่ชีสเค้ก (2)... by tangkwa "


วันนี้ปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ เลือกใช้ถ้วยพลาสติกขนาด 4 ออนซ์ 

เพื่อสะดวกในการจัดเสริฟ และปรับส่วนที่เป็นฐานขนม(ครัสต์) 

และปรับวิธีการทำสลับขั้นตอนกันเล็กเพื่อความสะดวกในการทำแบบทำคนเดียวได้



ส่วนผสมและวิธีการทำ กันนะคะ

เริ่มจาก


ขั้นตอนที่ (1) เตรียมฐานชีสเค้ก

ประกอบด้วย

  • แครกเกอร์ (ริซแครกเกอร์) 100 กรัม
  • เนยสดอ่อนตัว 50 กรัม

  • บดแครกเกอร์ให้ละเอียด ผสมกับเนยที่อ่อนตัวแล้วจนเข้ากัน
  • แบ่งในถ้วยได้ 9 ถ้วย
  • กดแน่นๆ
  • นำเข้าตู้เย็นจนแข็งตัว

ขั้นตอนที่ (2)เตรียมครีมซีส

ประกอบด้วย

ครีมชีส 200 กรัม

น้ำตาลไอซิ่ง 30 กรัม

วิธีทำ : 

ครีมชีสนำออกจากตู้เย็นวางพักไว้ให้อ่อนตัว คนให้อ่อนตัว เติมน้ำตาลไอซิ่งคนต่อจนเนื้อเนียน


ขั้นตอนที่ (3)  เตรียมเจลาติน

ประกอบด้วย

เจลาติน ชนิดแผ่น 3 แผ่น

น้ำตาลทราย 30 กรัม

น้ำ 30 กรัม

วิธีทำ :

1. แช่เจลาตินลงในน้ำเย็น แช่จนนิ่ม

2. ต้มน้ำตาลทราย 30 กรัม กับ น้ำ30กรัม ต้มจนน้ำตาลทรายละลายหมด

3. ใส่เจลาตินที่นิ่มแล้วลงไป คนจนละลาย(ใช้เฉพาะแผ่นเจลาติน น้ำที่แช่ไม่เอา 

หยิบขึ้นมาจากน้ำแล้วใส่ลงในน้ำเชื่อม ข้อ(2) ) พักไว้ให้อุ่น


ขั้นตอนที่ (4)  เตรียมวิปปิ้งครีม

ประกอบด้วย

  • วิปปิ้งครีม 200 กรัม
  • น้ำเชื่อมเจลาติน (จากขั้นตอนที่3)
  • ครีมชีสผสมน้ำตาลไอซิ่ง (จากขั้นตอนที่2)

วิธีทำ

  • ตีวิปปิ้งครีมด้วยเครื่องตีไข่ ความเร็วปานกลาง จนขึ้นฟู
  • ตามด้วยครีมชีส(จากขั้นตอนที่2) ผสมให้เข้ากัน
  • แล้วค่อยเติมน้ำเชื่อมเจลาติน(จากขั้นตอนที่3)ลงไป ผสมจนเข้ากันดีเนื้อเนียน

  • ส่วนของชีสเค้กที่ผสมเสร็จ
  • ขั้นตอนนี้ ควรระวัง
  • ... 1)การตี อย่าตีนาน  2)วิปปิ้งครีมต้องเย็นจัด เพราะอาจจะทำให้ครีมแตกตัวได้

เมื่อผสมส่วนผสมต่างๆเรียบร้อยแล้ว



  • นำส่วนของฐานขนมที่แช่ไว้ออกจากตู้เย็น
  • ตักหยอดลงในถ้วยที่กรุฐานขนมไว้
  • นำเข้าตู้เย็นอีกครั้งจนส่วนผสมคงรูป

  • นำมาจากตู้เย็นอีกครั้ง
  • หยอดหน้าด้วยบลูเบอรี่ หรือ สตอเบอรี่  หรือแยมอื่นๆ
  • ปิดฝา เก็บไว้ในตู้เย็น
  • เสร็จเรียบร้อยแล้วนะคะ
  • ชีสเค้กแบบถ้วย 4 ออนซ์ สูตรนี้ได้ 9 ถ้วย

บันทึกไว้ช่วยจำ และแบ่งปัน เผื่อมีใครๆสนใจ จะได้ลองทำดูบ้าง

การทำอาหารรับประทานเองเราจะได้ทราบถึงคุณภาพของส่วนผสมที่นำมาทำขนม 

สามารถเลือกสรรได้ และที่มากกว่านั้นคือได้สร้างความรักความผูกพันของสมาชิกในครอบครัว 

ให้เด็กๆได้เรียนรู้และช่วยทำงานบ้านได้  ในยามว่าง

 .... การทำอาหารเองที่บ้านนั้น ได้อะไรที่ได้มากกว่าอาหารที่ทำ ด้วยค่ะ :)

ปิดบันทึกด้วยคำขอบคุณ

•ขอขอบคุณทุกๆท่านที่ติดตามอ่านบันทึกนะคะ

 .... สวัสดีค่ะ  :)

...............

หมายเลขบันทึก: 521992เขียนเมื่อ 11 มีนาคม 2013 08:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 มิถุนายน 2014 15:21 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

ขอบคุณวิธีทำขนมแสนอร่อยนะคะ

หากมีบุญได้เกษียณจากงาน พี่อรถึงจะได้หัดทำนะคะ น้องหนูรี

ตอนนี้ขอชม และชิมผ่านบล๊อกไปก่อนนะคะ

อยากเจอตัวจริงมากนะเนี่ย มาภูเก็ตอย่าลืมส่งข่าวนะจ๊ะ

บดแครกเกอร์ให้ละเอียด  ใส่นมหรืออะไรให้มันไม่แห้งๆจะเป็นไงบ้างครับ

เพราะเวลาทานถึงก้นจะได้ไม่เป็นผงๆ แห้งๆ ครับ :) 

ขอบคุณบันทึกแห่งความอร่อยครับ....:)

 Bright Lily  พี่อรค่ะ
ขอบคุณมากๆค่ะที่แวะมาชื่นชมเสมอๆ
อยากเจอหนู เจอแล้วเดี๋ยว ตกกะใจ อิอิ คนบ้านๆ
ปล.หากเมื่อได้ไปต้องส่งข่าวแน่นอนค่ะ อยากเจอคนทำงานเก่งอย่างพี่อรจัง แอบปลื้มหากเป็นหนูคงทำไม่ได้
 นาง นงนาท สนธิสุวรรณ
ขอบคุณสำหรับดอกไม้ค่ะพี่ใหญ่
 ชลัญธร
ขอบคุณค่ะนางฟ้า
 พ.แจ่มจำรัส
ขอบคุณค่ะคุณพ.
 วิชญธรรม
ท่านค่ะ เอ! ยังไม่เคยลองทำอ่ะค่ะ ปกติหากเราทำเองก็สามารถเลือกยี่ห้อของแครกเกอร์ได้ เพราะบางยี่ห้อจะกรอบแข็ง อย่างริซแครกเกอร์นี่จะกรอบร่วนๆ นิ่มไม่กระด้าง ค่ะ 
ขอบคุณค่ะ
ปล. คราหน้าถ้าลองทำจะทดลองให้นะคะ :)

ผมเคยทำชีสเค้กทานเองเมื่อสิบห้าปีที่แล้ว เปิดคู่มือทำเลยครับ จำได้ว่ารสชาติปะแล่มๆ ครับ หลังจากนั้นก็ไม่เคยทำอีกเลย บันทึกนี้ทำให้คิดถึงความหลังครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท