จอมบงการ...พระอาทิตย์ตกดิน...


วันศุกร์ที่ยี่สิบสอง, มีนาคม,

ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงวันนี้...

ผมมีเรื่องราวอยากเขียนบันทึกมากมายแต่ยังไม่ได้เขียน

เพราะผมมีงานมากมายประดังประเด...งานประจำ...เข้าค่าย...ประชุมอบรม...ทำโครงการ...เป็นวิทยากร...

กลับถึงบ้านมืดๆ ค่ำๆ ...ต้องสะสางงานบ้าน และงานส่วนตัว...

ทำให้เหน็ดเหนื่อย งานก่อนสี่ทุ่ม ตื่นหกโมงเช้า....ยังมีอาการเจ็บคอตอนตื่นนอน

เป็นสิ่งที่เตือนว่า...ผมโหดร้ายกับร่างกายของผมมากแล้ว...


ทำให้ผมต้องใส่ใจเรื่องสุขภาพกายให้มากขึ้น...

และต้องขอบคุณครอบครัวที่ทำให้ผมมีโอกาสได้ทำงานที่ทำแล้วมีความสุข

แต่อาจจะสร้างความทุกข์ให้กับคนอื่นก็ได้ครับ


ช่วงของบ่ายสามโมงของทุกๆ วัน...

ผมต้องออกเยี่ยมบ้านครับ....ไม่มีใครบังคับ...ไม่ต้องออกก็ได้

แต่ผมเลือกที่จะออกเยี่ยมบ้าน...มีรายชื่อที่ผมต้องออกไปดูแล...วันละคนสองคน

แต่ที่แน่ๆ คือ ต้องออกไปล้างแผล "พี่ต้อย" ที่ตกจากรถกะบะ...ยังไม่รู้สึกตัวเลย...

บาดแผลมากมายหลายจุด...แผลกดทับ...แผลตรงนี้หาย...ตรงใหม่เกิด...

การตัดเนื้อตาย...ที่ต้องใช้เวลามากมายในการทำ...บ้านหลังคาสังกะสี...ร้อนอบอ้าว

เป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตของผมได้เรียนรู้...เข้าใจชีวิตยิ่งนัก...




บ่ายของวันนี้เช่นกัน...ผมล้างแผลเสร็จแล้ว...ขับรถมอเตอร์ไซด์ตะเวน...

ไปบ้านคนไข้จิตเวช...เป็นชายหนุ่มอยู่กับแม่...ทัังคู่จดจำวันที่ต้องฉีดยาจิตเวชในแต่ละเดือนไม่ได้

แต่ผมไปแล้วไม่เจอ ทั้งที่ห้าโมงเย็นแล้ว...เพราะปกติเวลานี้...คนไข้ต้องกลับมาจากเลี้ยงวัวแล้ว

ในระหว่างการรอคอย..

ผมจึงไปบ้านคนไข้จิตเวชอีกคน...ที่ช่วงบ่ายโมง...มีอาการชัก...

(ผมกำลังจัดการประชุมอยู่ที่โรงเรียน)

น้องพยาบาลบอกว่า ให้รีบไปโรงพยาบาลด่วนที่สุด...แต่น้องบอกว่า...ญาติๆ ไม่ได้พาไป...

เมื่อผมไปถึงบ้านคนไข้...เห็นคนไข้กำลังนอนอยู่บนแคร่...ยายที่อยู่ด้วยบอกว่า

เพิ่งเอาตัวมาจากข้างๆ โอ่งน้ำ...เพราะเพิ่งมีอาการชักเสร็จ (ครั้งที่สอง)




และผมสังเกตเห็นลิ้นคนไข้แลบออกมายาวๆ...ลิ้นจุกออก...และฟันเหมือนจะกัด...

ผมจึงเอาคนไข้มานอนพื้นกลัวตกแคร่...แล้วให้นอนตะเคนข้าง...

แต่ไม่ได้ยัดช้อนหรือผ้าใส่ปาก (ตามการประชุมใหม่ครูบอกว่า ไม่ต้องทำครับ)

แต่เหมือนคนไข้รู้ตัว...ผมบอกให้เอาลิ้นเข้าไปในปาก..ก็เอาเข้าไป...แต่ไม่นานก็เป็นเหมือนเดิม...


ผมคุยกับยายว่า...ทำไมไม่พาคนไข้ไปโรงพยาบาล

คุณยายบอกว่า...ไม่มีใครพาไป หรือไปเฝ้า...เพราะต่างคนต่างไปตัดอ้อย...บางคนต้องดูแลบ้าน

ผมบอกว่า ไปก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากัน...ไม่มีรถเดี๋ยวผมเรียกรถพยาบาลมา...หรือ 1669 

พี่สาวจึงไปแต่งตัว...จะพาไป...


คุณยายบอกว่า...คนไข้ตอนนี้กินเหล้า และกินกาแฟมาก

เพราะนายจ้างในหมู่บ้านให้ไปขุดดินเตรียมแปลงปลูกอ้อย...เสร็จงานแล้วเลี้ยงเหล้า

ระหว่างงานก็เลี้ยงกาแฟกระป๋อง...

ค่าจ้างปกติวันละ 300 บาท แต่จ่ายให้คนไข้เพียงวันละ 100 บาท 

เพราะนายจ้างบอกว่า...เลี้ยงเหล้า...และเป็นคนไม่พอ (จิตเวช)

ผมเศร้าใจจังครับ...




ผมโทร 1669 ติดที่ศูนย์จังหวัด...สักพักไม่ถึงสิบนาที...มีโทรศัพท์จากน้องจากโรงพยาบาลอำเภอ...

ว่า...บ้านคนไข้อยู่ไหน...หนูมาถึงแล้ว...ผมไปรอหน้าปากซอย

เสียงรถพยาบาลทำให้ชาวบ้านในละแวกนั้น...มามุงเต็มบ้านคนไข้...จากเดิมไม่มีใครเลย

แล้วผมก็ส่งคนไข้ขึ้นรถพยาบาล...รู้สึกโล่ง...แต่ญาติๆ คงเห็นผมเป็น "จอมบงการ"




ผมย้อนกลับมาบ้านคนไข้จิตเวชที่ผมต้องไปฉีดยาให้...

เจอกันแล้ว...และฉีดยาให้...พร่ำบอกว่า...อย่าไปกินเหล้า...อย่าลืมกินยาทุกวัน

บอกข้างๆ บ้าน...อย่าชวนกันกินเหล้านะ....

แล้วผมก็กลับมาอนามัย...ร่ำลาน้องที่ขึ้นเวรบ่ายวันนี้

ขับรถกลับบ้าน...พระอาทิตย์กำลังตกดิน....กลับบ้านค่ำอีกหนึ่งวัน

กับเหตุการณ์บ่ายแก่ๆ ของวันนี้...ผมก็ครุ่นคิดว่า...สิ่งที่ผมทำอาจจะไม่ถูกใจใครทั้งหมด

แต่ถ้าย้อนเวลาได้...ผมก็เลือกที่จะทำแบบนี้

และไม่เสียใจ และไม่อายที่จะมองดูพระอาทิตย์ขึ้นในวันพรุ่งนี้....








หมายเลขบันทึก: 521947เขียนเมื่อ 10 มีนาคม 2013 16:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 มีนาคม 2013 16:48 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

การให้และการเสียสละเป็น "ธรรมะ" ที่ยิ่งใหญ่

ชีวิตนี้เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป พึงเร่ง "ให้" และ "เสียสละ" ทุกนาที

"นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา" (สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส : กฤษณาสอนน้องคำฉันท์)

ชีวิตนี้จักมีคุณค่าถ้าหัวใจเรามีคำว่า "เสียสละ" และ "การให้..."

อีกหนึ่งบันทึก สะท้อนความจริงในชุมชน ขอบคุณมากคะที่ทำให้ได้เรียนรู้

คนไข้จิตเวช กินเหล้า กินกาแฟนี่น่ากลัวนะครับ

แต่เสียใจนายจ้างโกงค่าแรงให้แค่ 100 บาท

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท