สัปดาห์นี้มีเรื่องที่คิดว่าน่าสนใจ
ขอเลือกมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 8 เรื่อง ดังนี้
1. วันที่ 1 มี.ค.56 คุณฤทธิโรจน์ นักวิชาการคอมพิวเตอร์ สนง.กศน.จ.พระนครศรีอยุธยา โทร.มาถามผม ว่า การแต่งตั้งคณะกรรมการกำหนดคุณลักษณะเฉพาะ แต่งตั้ง 3 คนใช่ไหม แต่งตั้งข้าราชการระดับใด
เรื่องนี้ คณะกรรมการในการดำเนินการซื้อหรือจ้าง รวมทั้งคณะกรรมการเพิ่มเติม (คณะกรรมการกำหนดราคากลาง, คณะกรรมการกำหนดคุณลักษณะเฉพาะ ) ให้แต่งตั้งตามระเบียบพัสดุ (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2552 ข้อ 35 และตามหนังสือกรมบัญชีกลาง ด่วนที่สุด ที่ กค (กวพ) 0421.3/ว 417 ลงวันที่ 22 ตุลาคม 2553 คือ
1) แต่งตั้ง ประธาน/กรรมการ จำนวนอย่างน้อย 3 คน กรณีจำเป็นหรือเพื่อประโยชน์ทางราชการ อาจตั้งบุคคลอื่นอีกไม่เกิน 2 คนร่วมเป็นกรรมการด้วยก็ได้
2) ต้องตั้งเป็นครั้งๆ ไป
3) แต่งตั้งจากข้าราชการ พนักงานราชการ หรือลูกจ้างประจำ โดยคำนึงถึงความรู้ ความสามารถ ลักษณะงาน หน้าที่และความรับผิดชอบของผู้ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นสำคัญ
2. คืนวันเดียวกัน ( 1 มี.ค. )
คุณเบญจมาศ กาญจนมณี
ถามผมผ่านเฟซบุ๊ค ว่า เรื่องอัตลักษณ์
เอกลักษณ์ เราเริ่มใช้เมื่อปี พ.ศ.ใด สมศ.มาประเมิน เขาขอดูหลักฐานเรื่องนี้ตั้งแต่ปี 2553
ซึ่งเราบอกว่าของเรา สมศ.
เพิ่งประกาศใช้ปี 2555 เขาไม่ยอม เขาบอกว่า สพฐ.ใช้ตั้งนานแล้ว
ผมตอบว่า คำว่า อัตลักษณ์ เอกลักษณ์ สำหรับ กศน.
เพิ่งปรากฏใน
-
"ตัวบ่งชี้และเกณฑ์การประเมินคุณภาพภายนอกรอบสาม ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอ/เขต"
( สมศ.ประกาศเมื่อ 4 ม.ค.55
) และใน
-
"มาตรฐานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยเพื่อการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา"
( กระทรวงศึกษาธิการประกาศเมื่อ 19
เม.ย.55 )
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้น
ถึงแม้ กศน.จะยังไม่ได้ใช้คำว่า อัตลักษณ์ เอกลักษณ์
แต่ก็มีลักษณะของ อัตลักษณ์ เอกลักษณ์ อยู่แล้ว เช่น สมมุติว่าอัตลักษณ์คือ
"อยู่อย่างพอเพียง" ก็จะมีลักษณะของการ "อยู่อย่างพอเพียง" ปรากฏหรือแฝงอยู่ในวิสัยทัศน์ของสถานศึกษามาก่อนแล้ว
3. เช้ามืดวันที่ 4 มี.ค.56 ท่านจรัส หนุนอนันต์
ผู้เชี่ยวชาญงานจังหวัดชายแดนภาคใต้ กศน. โพสท์ในเฟซบุ๊คกลุ่มครูนอกระบบ ว่า “ผมได้อ่านโพสท์ของ "ศุภวรรณ เอียดวารี
ประสิทธิ์" ( ครูอาสาฯ ในสถาบันการศึกษาปอเนาะ.กศน.อำเภอจะนะ ) แล้ว ชอบข้อความนี้จึงขออนุญาตนำมาโพสท์ต่อ
เพื่อให้น้องครู กศน คนอื่นๆได้อ่าน และนำไปคิดต่อครับ”
ข้อคิดเตือนใจจากครู กศน. “ คำว่า
"กศน." ไม่ใช่ลงทะเบียนเรียนแล้วไปสอบ
ก็จบ คิดใหม่ทำใหม่ เปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่ ถ้ามันง่ายขนาดนั้นป่านนี้คนคงมาเรียนกันเยอะแล้ว
จบเยอะแล้ว .. อย่าดูถูกสถาบันตัวเองเลย กศน.
ก็ผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพมามากมายเหมือนกัน ... อย่าทำร้ายครู อย่าทำร้ายสถาบัน
กศน. ด้วยคำกล่าวที่ว่าไม่เป็นไร...กศน.อะไรก็ได้ .. ขอเถอะ ดังตัวอย่างวันนี้ที่ กศน.นาทับ มี
นศ.ลงทะเบียนแต่ไม่เคยมาพบกลุ่ม พอครูแจกตารางสอบกลับมาขอตารางสอบ
ผลครูไม่ให้ เพราะ มส.ไม่มีสิทธิ์สอบ เลยอ้างสารพัดว่าทำงานไม่ว่างบ้างล่ะเดี๋ยวไปธุระโน่นธุระนี่ แล้วคนที่มาพบกลุ่มเป็นประจำ ทั้งคนอายุมาก วัยรุ่น
วัยทำงาน คนเหล่านี้ไม่เคยเห็นอ้างเลย ขอให้ กศน.เป็นที่พักพิงสำหรับท่านด้วยการช่วยกันยกระดับให้มีคุณค่ามากยิ่งขึ้นกันดีกว่าค่ะ
จากใจครู กศน.ที่ครั้งหนึ่งเคยพึ่งพิง”
ต่อมา เช้ามืดวันที่ 5
มี.ค.55 “ศรช.บ้านเขวาใต้” โพสท์เพิ่มเติม ว่า
เลขาธิการกศน. นายประเสริฐ
บุญเรือง เคยพูดในรายการสายใย กศน. ว่า "ผมเคยเป็นครูประจำกลุ่ม 6 ปี สอนทั้งวัน มีคุณภาพ จึงมีนโยบายให้สอนทั้งวัน
อาจจ้างวิทยากรสอนเสริมมาช่วยสอน" พร้อมแนบประกาศ คือ
4. วันเดียวกัน ( 4 มี.ค. ) ผมถามคุณณัฐพล จนท.สมศ. ว่า
การประเมินฯภายนอกรอบสาม ระยะที่ 2/56 จะประเมินเมื่อไร ได้รับคำตอบว่า
ช่วงสอบปลายภาค+ปิดภาคเรียนนี้ จะยังไม่ประเมิน รอให้เปิดภาคเรียนก่อน จะประเมินระยะที่ 2/56 จำนวน 51 แห่ง
อย่างเร็วก็กลางเดือน พ.ค.56 ( ประมาณ มิ.ย.-ก.ค.56 )
5. วันที่ 5 มี.ค.56 รมว.กระทรวงวัฒนธรรคม ให้ข่าว ว่า ให้สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดทั่วประเทศส่งเสริมและรณรงค์ให้ประชาชนแต่ละจังหวัดสวมใส่ผ้าไทยหรือผ้าพื้นเมืองเพื่อเป็นการประหยัดพลังงานและอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยรวมทั้งเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมผ้าประจำท้องถิ่นตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี โดยให้คัดเลือกผ้าไทยมาออกแบบและตัดเย็บชุดแต่งกายที่เหมาะสมกับสภาพอากาศ
สำหรับกระทรวงวัฒนธรรม
ได้ออกแบบผ้าไทย 5 แบบ คือชุดใส่ทำงาน(ชาย)
/ ชุดใส่ทำงาน (หญิง) / ชุดลำลอง (ชาย) / ชุดลำลอง(หญิง) / ชุดกึ่งทางการ(ชายหญิงเหมือนกัน)
เสนอให้ที่ประชุม
(ครม.) พิจารณาคัดเลือกเพื่อตัดเย็บให้รัฐมนตรีแต่ละท่านสวมใส่เป็นแบบอย่างแก่ข้าราชการและพนักงานทั่วไป
ในส่วนของชุดใส่ทำงาน นั้น ผมชอบที่ไม่จำเป็นต้องนำชายเสื้อใส่ในกางเกง
แต่ไม่ชอบปกตรงที่เป็นสีขาว เพราะจะซักเหงื่อไคลออกยาก คอเสื้อจะขาดเร็ว (
คงต้องการให้เป็นชุดทำงานราชการที่สุภาพเรียบร้อย จึงใช้ปกสีขาว )
ชุดนี้ไม่เกี่ยว
6. คืนวันเดียวกัน ( 5 มี.ค. ) คุณธรรมรัฐ ถามผมทางอีเมล์ผ่าน gotoknow.org
ว่า พนักงานราชการ
ระดับปริญญาตรี มีขั้นสูงสุดของค่าตอบแทนเท่าไร เมื่อก่อนมีบัญชี
แต่พอเปลี่ยนเพิ่มค่าตอบแทนเป็น % ทำไมไม่มีบัญชีออกมาใหม่อีกเลย
( ตอนนี้
สูงสุดของกลุ่มงานบริหารทั่วไป วุฒิปริญญาตรี คือ 33,360 บาท ส่วนสูงสุดของกลุ่มงานบริการ วุฒิต่ำกว่าปริญญา
คือ 19,430 บาท อนาคตคงปรับเพิ่มอีกแน่นอน )
7. คืนวันเดียวกัน ( 5 มี.ค. ) อ.อภิชาต กศน.อ.ลาดบัวหลวง โทร.มาถามผม ว่า พนักงานราชการจะลาอุปสมบท ต้องขออนุญาตใคร
เรื่องพนักงานราชการ ลาอุปสมบท
หรือลาไปประกอบพิธีฮัจย์ นี้ ระเบียบไม่ได้กำหนดผู้มีอำนาจอนุญาตการลาไว้โดยเฉพาะ
จึงใช้หลักเกณฑ์เดียวกับข้าราชการหรือลูกจ้าง
เพราะ ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยพนักงานราชการ พ.ศ.2547 ข้อ 4 กำหนดว่า
“บรรดากฎหมาย กฎ ระเบียบ ... ที่กำหนดให้ข้าราชการหรือลูกจ้างของส่วนราชการมีหน้าที่ต้องปฏิบัติ
...
ให้ถือว่าพนักงานราชการมีหน้าที่ต้องปฏิบัติ..เช่นเดียวกับข้าราชการหรือลูกจ้างด้วย
ทั้งนี้ เว้นแต่เรื่องใดมีกำหนดไว้แล้วโดยเฉพาะ”
คือ ให้พนักงานราชการที่มีระยะเวลาการปฏิบัติงานติดต่อกันไม่น้อยกว่า
4 ปีแล้ว ส่งใบลาอุปสมบทไปตามลำดับเพื่อขออนุญาตปลัดกระทรวงฯ ( ท่าน ผอ.กจ.กศน. บอกว่า ท่านปลัด ศธ. ไม่ได้มอบอำนาจเรื่องการลาอุปสมบท )
หลักเกณฑ์การลาอุปสมบทหรือลาไปประกอบพิธีฮัจย์ ( ลาได้ไม่เกิน 1 ครั้ง
ตลอดช่วงเวลาของการมีสถานภาพเป็นพนักงานราชการ )
1) การเสนอหรือจัดส่งใบลาต้องเสนอหรือจัดส่งใบลาก่อนวันลาไม่น้อยกว่า
60 วัน
2) กรณีมีเหตุไม่อาจเสนอหรือจัดส่งใบลาก่อนวันลาไม่น้อยกว่า
60 วันได้ ให้ชี้แจงเหตุผลความจำเป็นประกอบการลา โดยการอนุญาตขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้มีอำนาจที่จะพิจารณาให้ลาหรือไม่ก็ได้
3)
การลาอุปสมบทจะต้องอุปสมบทภายใน 10 วันนับแต่วันเริ่มลา และเมือลาสิกขาแล้วต้องกลับมารายงานตัวเข้าปฏิบัติราชการภายใน
5 วันนับแต่วันที่ลาสิกขา
4) จะต้องออกเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ภายใน
10 วันนับแต่วันเริ่มลา และต้องกลับมารายงานตัวเข้าปฏิบัติราชการภายใน
5 วันนับแต่วันที่เดินทางกลับถึงประเทศไทยหลังจากการเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์
5) กรณีได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ลาและได้หยุดราชการไปแล้ว แต่มีเหตุทำให้ไม่สามารถอุปสมบทหรือเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ได้ตามที่ขอลาไว้ ให้กลับมารายงานตัวกลับเข้ารับราชการตามปกติและขอถอนวันลา และให้ถือว่าวันที่ได้หยุดราชการไปแล้วเป็นวันลากิจส่วนตัว (
พ.ร.ฎ.ว่าด้วยการพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ข้าราชการลาอุปสมบท พ.ศ.2521 มาตรา 4
บัญญัติว่า เมื่อปลัดกระทรวง... หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมาย พิจารณาเห็นเป็นการสมควรให้ลาอุปสมบทแล้ว
ก็ถือว่าผู้นั้นได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ลาอุปสมบท )
( ระเบียบการลา มีลิงค์อยู่ในข้อ 2 ที่ http://www.gotoknow.org/posts/495777
)
8. คืนวันเดียวกัน ( 5 มี.ค. ) ท่าน ผอ.ดิศกุล สนง.กศน.จ.สมุทรสาคร เพยแพร่ในเว็บบล็อก ว่า ท่านเลขาฯพูดเมื่อวันที่ 4 มี.ค.56 ว่า ให้ส่ง นสพ.ถึงบ้านหนังสืออัจฉริยะ ตั้งแต่ 1 มี.ค.56 ส่วนนิตยสารให้ส่งถึงภายใน 10 มี.ค. สำหรับเงินค่าจัดซื้อจะโอนถึงจังหวัดปลายเดือน มี.ค.
ช่วง 8-12 มี.ค ให้นำนักศึกษา/ชาวบ้าน ไปร่วมกิจกรรมโครงข่ายการคมนาคมของรัฐบาล ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ โซน B โดยให้จัดทำเสื้อยืดคอปกโปโลสีชมพู สกรีนโลโก้สุดยอด กศน. ( ดูตัวอย่างที่เว็บไซต์สำนักงาน กศน. ) ให้ผู้ไปร่วมกิจกรรมใส่ไป
และ ให้ไปถวายพระพรทั้งสองพระองค์ที่โรงพยาบาลศิริราชด้วย