ฉากที่ 4 พระตรีโลกนาถแผ้ว เผด็จมาร สันติสุขกับสงครามนั้นสลับสับเปลี่ยนกันอยู่เสมอ สงครามครั้งสำคัญในรัชสมัยของสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ เมื่อปีพุทธศักราช 2091 ทำให้กรุงศรีอยุธยาสูญเสีย "สมเด็จพระสุริโยทัย" พระอัครมเหสีของสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ แต่วีรกรรมของพระองค์ในครั้งนั้นก็เป็นเกียรติยศและเกียรติศักดิ์ของชาติไทย คนไทยล้วนสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณมิรู้ลืม ครั้นปีพุทธศักราช 2135 ในรัชสมัยของ "สมเด็จพระนเรศวรมหาราช" ก็เกิดสงครามครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่ง คือ สงครามยุทธหัตถี ชัยชนะของสมเด็จพระนเรศวรเหนือพระมหาอุปราชานั้นยิ่งใหญ่สมพระเกียรติยศขัตติยราช พระเดชานุภาพเกิกไกรไปทั่วทุกทิศ ปัจจามิตรไม่กล้ามารุกรานพระนครศรีอยุธยาอีกยาวนาน ฉากที่ 5 ไตรรัตน์รุ่งเรืองจรูญ เจริญศาสนา นา บ้านเมืองสงบร่มเย็น ชีวิตของชาวเมืองมีระเบียบแบบแผนและขนบธรรมเนียมประเพณี เป็นอารยธรรมที่แสดงถึงความเจริญสืบทอดกันมา เมื่อย่างเข้าฤดูฝนพระมหากษัตริย์จะทรงโปรดฯ ให้ประกอบพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ครั้นสิ้นวสันต์ออกพรรษา การทอดกฐิน ทอดผ้าป่าก็เป็นประเพณีปฏิบัติของทั้งชาวบ้านและชาววัง ถึงฤดูน้ำหลากชายหญิงยุคนั้นก็ลอยเรือเล่นสักวา เล่นเพลงเรือ เป็นที่บันเทิงรื่นเริงรมย์ทั่วกัน ฉากที่ 6 มาแต่งไตรรัตน์เรือง รอบหล้า พระปรางค์วัดมหาธาตุเด่นตระหง่านฝ่าแดดฝนมานานถึง 240 ปีเศษ ครั้นถึงรัชกาลของสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม พระมหาธาตุอันศักดิ์สิทธิ์ก้ถล่มทลายลงมา สมเด็จพระเจ้าทรงธรรมโปรดฯให้ประชุมนักปราชญ์ราขกวี นิพนธ์มหาชาติคำหลวงและสร้างพรไตรปิฎกจนจบบริบูรณ์ เพื่อปลอบขวัญบำรุงใจไพร่ฟ้า แต่ยังไม่ทันได้ซ่อมสร้างพระปรางค์ก็เสด็จสวรรคตเสียก่อน จนถึงรัชกาลสมเด็จพระเจ้าปราสาททองจึงระดมช่างซ่อมสร้างพระมหาธาตขึ้นใหม่ สูงกว่าเดิม 3 วา เมื่อพุทธศักราช 2176 และโปรดฯให้มีการเฉลิมฉลองครั้งใหญ่ โปรดติดตามตอนต่อไปครับ