จิตอาสาสาธารณะ เริ่มได้ในวัยเด็กที่โรงเรียนวัดโคกขาม


   

จิตอาสาสาธารณะ เริ่มได้ในวัยเด็ก

สร้างจิตสำนึกความเป็นพลเมืองดี ผ่านกิจกรรมดีๆ และมีคนเกิดก่อนเป็นแบบอย่างให้ได้สัมผัสจับต้องจึงเป็นที่มาของโรงเรียนที่มีประวัีติความเป็นมานาน ชื่โรงเรียนวัดโคกขาม ที่ห่อหุ้มตัวเองจากความมุ่มานะของผู้นำผู้บริหารยุคใหม่ชื่อ นายทองฮะ พรภูมินทร์

ผู้ฝังตนเองอยู่กับความยากลำบากด้วยงบประมาณที่มีเพียงน้อยนิดไม่ทันความเจริญเติบโตของโรงเรียนที่จำเป็นต้องรับนักเรียนทุกชีวิตที่พ่อแม่จูงเข้ามาหวังฝากให้ครูได้ปลูกฝังอบรมสั่งสอน ถ่ายทอดวิชาความรู้ให้

จากโรงเรียนเล็กๆที่มีนักเรียนไม่ถึง 100 คน ผันแปรเปลี่ยนขยับฐานะจากปริมาณลูกหลานของผู้คนในชุมชนใหม่ขึ้นเป็น 300 กว่าชีวิต ในขณะที่ปริมาณครูที่จะต้องสอนบุตรหลาน อนาคตของชาติมีเพียง 4 คนเท่านั้น รวมทั้งผู้บริหารด้วยเป็น 5 คน เป็นการยากมากๆที่จะจัดชั้นเรียน และหางบอีกทั้งบริหารงบให้เพียงพอแก่นักเรียนจำนวนกว่า 300 คนนี้ ดังนั้นงานของครูที่นี่และผู้บริหารที่นี่จึงไม่ต่างกับเอามีดสับหิน 

ซ้ำร้ายคือการทำงานบริหารจัดการด้วยวิทยายุทธที่ร่ำเรียนมา ทั้งศาสตร์และศิลป์กลับไม่อาจช่วยให้การจัดการเรียนการสอนเป็นไปตามที่มุ่งหวัง หากครูที่นี่ยังกัดฟันสู้ โดยมีทีมงานเล็กๆ เป็นฟันซี่เล็กๆแต่จิตใจของความเป็นครูนั้นยิ่งใหญ่ ทำให้ทุกชีวิตที่นี่มีอาหารกลางวันกินดีอยู่ดี อาหารกลางวันที่นี่ไม่หมกเม็ด ไม่สนับสนุนให้เด็กบริโภคของที่ไม่มีประโยชน์ โรงอาหารที่นี่มีผลไม้ให้เด็กๆได้รับประทานทุกวันมิได้ขาด เขาบริหารจัดการกันอย่างไร เป็นเรื่องชวนให้ติดตามและตามไปชื่นชมคนทำความดี

โรงเรียนวัดโคกขามแห่งนี้จึงได้รับการสนับสนุนจากคนเห็นคนทำดีหลายสถาบันด้วยกัน เข้ามาเอื้อและเกื้อกูลช่วยกันสอน แม้เพียงไม่กี่ชั่วโมงในแต่ละครั้งแต่ก็พอช่วยให้ครูได้หายเหนื่อยได้พักผ่อนกันบ้าง แต่คุณครูที่นี่กลับทำตรงข้ามกับที่ฉันคิด เพราะทุกครั้งที่เราพาเพ่อนๆจากต่างประเทศในหลายๆสาขาอาชีพเข้าไปช่วยจัดกิจกรรมเรียนรู้ผ่านการใช้ภาษาอังกฤษ คุณครูทุกคนที่นี่ ต่างกระตือรือร้น ร่วมพัฒนาตนเอง แม้ผู้บริหารเองก็ยังมีความพยายามสละเวลาในการบริหารงาน มาร่วมแลกเปลี่ยนกับจิตอาสาด้วยทุกครั้ง 

สิ่งที่เราได้เห็นได้สัมผัสจึงผูกพันกันไปด้วยไมตรีจิต และอยากช่วยแบ่งเบาภาระของครูที่นี่ เรากลับพบว่าตลอดระยะเวลา 1 ปีที่มีโอกาสพาเพื่อนจิตอาสาเข้าไปช่วยจัดกิจกรรมเรียนรู้นั้น เด็กๆมีพัฒนาการที่เจริญงอกงามทั้งด้านจิตใจ จิตวิญญาณ และสังคม พวกเขามีความรัก และไมตรีจิตมอบให้พวกเราทุกครั้ง ความรู้สึกเอื้ออาทรที่สัมผัสได้จากเด็กนักเรียนเมื่อคุณครูต่างประเทศของเราต้องสอนแบบอาบเหงื่อต่างน้ำ เด็กๆก็จะวิ่งไปหาน้ำมาให้โดยไม่ต้องมีใครบอก มาพัดมาโบกให้ การสวื่อสารผ่านไมตรีจิตนี้เองก่อให้เกิดการเรียนรู้ภาษาแบบธรรมชาติ

ครูจิตอาสาของเราพูดภาษาอังกฤษ เด็กๆพูดภาษาไทย เรียนๆไปครูจิตอาสาพูดไทยผสมอังกฤา เด็กๆพูดอังกฤษผสมไทย นี่เป็นการเรียนรู้จากภายใน บ่อยครั้งเราสัมผัสได้ถึงความสามารถที่จะสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษของเด็กๆด้วยกันมันเป็นธรรมชาติที่น่ามอง น่าสนใจ และกระตุ้นให้ครูเองก็มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อครูจิตอาสามากขึ้นๆจนถึงขั้นพูดล้อเล่นด้วยภาษาและท่าทาง ช่วยให้คลายตึงเครียดและกังวลม มีความกล้าหาญที่จะใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน

วันนี้มีความน่ารักมาฝากทุกคน เมื่อศูนย์จิตอาสามิตรภาพบำบัด ของโรงพยาบาลสมุทรสาคร เข้าร่วมร่วมจัดกิจกรรมให้ความรู้แม่วัยใสหลังคลอดและแม่ที่กำลังเลี้ยงลูกนั้นจะต้องทำอย่างไร หากไม่มีคนเลี้ยงลูกให้แม่กลุ่มนี้จะไม่มีโอกาสได้เรียนรู้พร้อมๆกัน เพื่อจะได้เปิดพื้นที่ให้แลกเปลี่ยนทั้งทัศนคติและความรู้ เพียงแค่เอ่ยปากว่าจะต้องทำงานหนักงานหนึ่ง น้องครูเอ  คุณครูแสนดีคนหนึ่งของโรงเรียนวัดโคกขามก็ยื่นมืออกมารับโดยจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับความต้องการของ น้องๆประถมศึกษาปีที่ 6 เรื่องช่วยแม่เลี้ยงน้องกันดีกว่า เราก็ได้เด็กน้อยจิตอาสามาช่วยกันเรียนรู้และฝึกเลี้ยงน้อง เรียกว่าฝึกจากของจริงกันเลย งานนี้ต้องขอบคุณผู้บริหาร ผอ.ทองฮะ พรภูมินทร์ น้องครูเอ  (อนุสรา คุณแม่วัยสาวของน้องอชิตะ) และคณะครูุของโรงเรียนวัดโคกขามทุกท่าน และแม่อาสาสมัคร ครูเด็กเล็กที่ได้เอื้อให้การจัดกิจกรรมแม่หลังคลอดกลุ่มพิเศษของโรงพยาบาลประสบความสำเร็จผ่านไปด้วยดีตามจุดประสงค์ที่ตั้งไว้

สิ่งที่เด็กๆได้เรียนรู้

1.กิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์

2.กิจกรรมตระหนักรู้ในตนเอง ว่าตนเองต้องทำอะไร จะทำอย่างไรจึงจะเหมาะกับตนเอง

3.ฝึกความอดทนที่จะต้องเผชิญปัญหา และการใช้พลังกลุ่มช่วยแก้ปัญหา

4.ได้เรียนรู้ได้สัมผัสความเหนื่อยยากในการเลี้ยงน้อง ก็ช่วยสะท้อนใจให้มุ่มานะที่จะเรียนหนังสือตามหน้าที่ลูกที่ดี

5.กิจกรรมคิดแล้วทำอย่างอิสระ เช่นการรู้จักนำของเล่นมาใช้งานเพื่อให้น้องเพลิดเพลิน การร้องเพลงกล่อมน้อง

  รวมถึงการอุ้มอย่างไรให้น้องสบาย แต่พี่เมื่อย 555

6. เรียนรู้และเห็นการทำงานของหลายๆฝ่ายในโรงพยาบาล เรียกว่าถ้าฝันจะเป็นคุณหมอเป็นพยาบาล 

หรือพนักงานและฯลฯ ต่างๆก็ได้เห็นของจริงกันเลย ให้ได้ฝึกสังเกต ฝึกคิด 

7.การป้อนนมให้น้อง การอาบน้ำให้น้อง จะจัดการอย่างไรถ้าน้องโยเย

8.ทำไมน้องร้องไห้ ทำอย่างไรจะแก้ปัญหานี้ได้

สิ่งที่แม่วัยใสหลังคลอดได้เรียนรู้ คือ

1เทคนิคการกล่อมลูกขณะให้นมขวด เนื่องจากแม่กลุ่มนี้ไม่อาจให้นมลูกได้

2.เทคนิคการถ่ายทอดสายใยรักผ่านการกอดสัมผัสที่แนบอก ไม่ใช่การปล่อยให้ทารกว้าเหว่กอดขวดนม

3.ผลกระทบจากความว้าเหว่ต่อพัฒนาการของทารก

4.รู้จักหน่วยงานทางราชการที่พร้อมให้คำปรึกษา

5.การเบิกนมผง

งานจิตอาสา เกิดได้จากการสังเกต การพิจารณา ใคร่ครวญ  และการแก้ปัญหา ด้วยพรหมวิหาร 4 ความรักเมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา รวมถึงงานสร้างสรรค์ต่อยอดทางความคิด เพื่อความเจริญความสุขของสังคมด้วยการยึดมั่นในไตรสิกขา จึงจะได้สัมผัสในคุณค่าของงาน และเกิดพัฒนาการด้านจิตใจ อารมณ์ จิตวิญญาณ และสังคม เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งแนวความคิดและการปฏิบัติใหม่ทั้งต่อตนเอง ครอบครัว สังคม และสรรพสิ่งที่แวดล้อมรอบตัวเรา เชื่อมโยงสัมพันธ์กับจิตวิญญาณอย่างมีความสุข สงบ โล่ง สบาย การนำพาตนเองสู่สุขภาวะที่ดีตระหนักเห็นคุณค่าของตนเอง และนำไปใช้เพื่อสังคมได้อย่างมีความสุข

ขอบคุณข้อมูลสืบค้นเพิ่มเติมจาก

http://www.suwalaiporn.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=420836&Ntype=3

http://www.84000.org/tipitaka/dic/d_item.php?i=161

http://www.novabizz.com/NovaAce/Spiritual/Spirituality.htm

http://swhcu.net/km/mk-articles/sw-km/184-public-mind.html

ขอบคุณทุกท่านที่อ่านค่ะ


หมายเลขบันทึก: 519868เขียนเมื่อ 17 กุมภาพันธ์ 2013 19:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 กุมภาพันธ์ 2013 20:00 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

เป็นกิจกรรมที่ดีมากครับ

ขอชื่นชมการทำความดีครับพี่ครูต้อย เย้ๆๆ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท