กุหลาบแดงแทนรักจากใจฉัน มอบในวันวาเลนไทน์ใจใฝ่หา
ดอกที่หนึ่งตรึงแนบในอุรา เทิดบูชาเหนือสิ่งใดไหนจะปาน
นั่นก็คือความรักของพ่อแม่ ที่แน่แท้ประเสริฐเลิศไพศาล
บุญคุณท่านมิรู้จบยากพบพาน ดุจสายธารไหลหลั่งเลี้ยงชีวี
ดอกที่สองปองจิตอธิษฐาน ดลบันดาลให้คุณครูจงสุขี
พระคุณท่านดุจประทีปส่องชีวี ให้ศิษย์นี้รู้ทางเลี้ยงสร้างตน
ดอกที่สามนำรักเพื่อมอบให้ ยอดดวงใจหวังสิ่งใดประสบผล
ให้รักเรายาวนานดั่งสายชล อย่าไหลวนจากไกลลับสายตา
ดอกที่สี่นี้ขอมอบแด่เพื่อน ๆ มิลืมเลือนเตือนจิตคิดใฝ่หา
วัยแรกรุ่นดรุณีที่ผ่านมา ทุกเวลากลิ่นกุหลาบซาบซึ้งใจ
ดอกที่ห้าเมตตาธรรมค้ำจุนโลก ที่ทุกข์โศกพลันมลายกลายสดใส
ความรักนี้แด่สรรพสิ่งด้วยดวงใจ มอบแด่ไฟที่เผาผลาญทุกชีวา
ให้หมดสิ้นกลิ่นไอการต่อสู้ ให้เรียนรู้ แบ่งปัน แก้ปัญหา
รักให้เป็น คือรักที่ มีศรัทธา ขันติพาให้รักนี้นิรันดร์เอย
บทกวีนี้แต่งเมื่อตอนเรียนชั้นมัธยมปลายค่ะ
ความรักที่ข้าพเจ้าจะขอเล่าเรื่องในบันทึกนี้เป็นความรัก “ดอกกุหลาบที่สาม” นั่นคือความรักของชีวิตคู่
กว่าจะได้ใช้ชีวิตคู่ก็ย่างเข้าเลขสามสิบกว่า ๆ ค่อนไปกลาง ๆ ก่อนหน้านั้น มีแฟนมาแล้วแบบที่นับได้ ๓ คน นับไม่ได้อีกเกือบสิบคน ที่เรียกว่านับได้ก็เพราะว่ามีการตกลงกันชัดเจนว่าเป็นแฟนกันนะ ส่วนที่นับไม่ได้ก็เพราะต่างฝ่ายต่างมีเบื้องหน้าเบื้องหลังที่ยังไม่เคลียร์ สมัยนี้มีแบบหลังกันเยอะ เช่น คบคนหนึ่งอยู่ แล้วไปปิ๊งอีกคนหนึ่ง ก็เลยต้องศึกษาเรียนรู้ควบคู่ ควบสาม ควบสี่ที่เรียกว่า “กิ๊ก” กันไปพลาง ๆ ก่อน หากผ่านช่วงเ วลาเหล่านั้นมาได้ เมื่อมองย้อนกลับไปจะเข้าใจว่าเป็นเรื่องธรรมดา … ธรรมดาที่ยังไม่ลงตัว…
คนนี้อาจมาก่อน แต่ถ้าใช่คงไม่ช้า ไม่เปลี่ยนใจ และไม่อยู่รอเพื่อเจอใครอีกคน ซึ่งพอใช่อาจจะเร็วกว่าคนที่มาก่อนก็ได้… จึงควรต้องยอมรับความจริงของชีวิตรักชายหนุ่มหญิงสาวว่าแต่ละคนล้วนเป็นทางผ่านและสะพานไปสู่อีกที่หนึ่งที่ทำให้ได้เติบโตจากบทเรียนซึ่งกันและกันเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ
ความรักที่ผ่านมาแล้วไม่ว่าช่วงไหน ๆ ก่อนที่ข้าพเจ้าจะพบคู่แท้ ล้วนแต่เป็นบุคคลที่อยู่ในสเป็คทั้งสิ้น
“หล่อ รูปร่างดี มีฐานะ การศึกษาสูง คุยรู้เรื่อง”
มีทั้งไทยและฝรั่ง … นับว่าเป็นโชคดีมากที่ได้เรียนรู้และเข้าใจคำว่า “ไม่ใช่” เพราะเมื่อถึงวันหนึ่งที่ “ใช่” มันจะดื่มด่ำกับความหมายของคนที่ใช่อย่างลึกซึ้งเหนือจินตนาการ และนำประสบการณ์ที่ไม่ใช่นั้นมาแก้ปัญหา "ทำเหตุในปัจจุบันให้ดีขึ้น ส่งเสริมให้เกิดปัจจัยคืออนาคตที่สงบสุข"
คนที่ใช่ของข้าพเจ้า ไม่มีอยู่ในสเป็คเลย เขา...คือคนธรรมดาที่ทำตัวธรรมดา
“ไม่หล่อ รูปร่างไม่ได้สูงเท่ห์ ไม่ได้มีฐานะสูงส่ง การศึกษาก็ปานกลาง…แต่สอนเราได้ทุกเรื่อง”
คำพูดคำหนึ่งตอนที่อยู่ในช่วงรู้จักกันใหม่ ๆ ของเขาทำให้เราสะกิดใจ “ผมเป็นคนดีนะ”
เกิดมาไม่เคยได้ยินใครโฆษณาตัวเองอย่างมั่นใจเช่นนี้มาก่อน จึงลองเรียนรู้ดูกันไป…เขาอายุน้อยกว่า แต่พรรษาการเป็นพระและบวชเรียนมา เหนือชั้นกว่าเรียกว่า “ขั้นเทพ” สอนหลักธรรมได้กระจ่าง จากคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยอย่างข้าพเจ้าก็ถึงกับ“อ๋อ…มันเป็นเช่นนี้เอง”
เขาเคยบอกว่า
คนเราแค่รู้สึกเป็นสามีภรรยากันคงไม่พอ มันมีแต่ความคาดหวังกันเกินไป คงต้องรู้สึกว่าเราเป็นทุกสิ่งทุกอย่างให้กันได้ด้วย โดยเฉพาะคำว่าเพื่อนหรือ “มิตร” เขาให้ข้อสังเกตว่าถ้าเรารู้สึกว่าเป็นเพื่อนกับใคร นั่นคือเราเป็นมิตรกับเขา มิตรมีรากศัพท์มาจาก “เมตตา” เราจะรู้สึกเมตตาให้เขาและเราจะไม่อยากทิ้งเขาไปไหน ไม่ว่าจะสถานการณ์ใดก็ตาม เราจะอยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน
ผู้ที่ศึกษาธรรมะอย่างลึกซึ้ง แม้จะอายุน้อยกว่า
แต่สามารถอธิบายสรรพสิ่งให้ข้าพเจ้าเข้าใจได้ภายในเวลาสั้น ๆ
ไม่เหมือนกับที่ข้าพเจ้าใช้เวลามาอย่างยาวนานในการเรียนรู้จากตำราและประสบการณ์ความรักที่ยาวนานแต่ไม่ได้ตกผลึกอะไรเลย
ช่วย "เอาแรง" ทำบุญ ปลูกต้นไม้กับหลวงพ่อมิตซูโอะ
ตั้งแต่ใช้ชีวิตคู่ร่วมกันมา ๙ ปี เรานับครั้งที่มีปากเสียงกันได้ การมีปากเสียงที่อาจจะกระทบกระทั่งกันบ้าง แท้จริงแล้วคือการปรับตัวที่จะเรียนรู้จุดอ่อนไหวที่อีกฝ่ายรับไม่ได้ หาใช่ต้องการชนะกันไม่
สิ่งสำคัญที่ประคองชีวิตคู่ให้ร่มเย็นคือ เราถือศีล ๕ เราไปสมาทานศีลด้วยกันที่วัดในช่วงแรกของการใช้ชีวิตคู่ หลังจากสมาทานศีลแล้ว เราอาจจะถือศีลด่างพร้อยไปบ้าง นอกลู่นอกรอยนิด ๆ หน่อย ๆ แต่เรามีกรอบธรรมค้ำจุนชีวิตคุ้มครองอยู่ทำให้ความรักของเราร่มเย็นเป็นสุข
ปฏิบัติธรรมร่วมกัน ทุกเส้นทางที่ย่างก้าว เราเป็นเงาซึ่งกันและกันเสมอ
เมื่อเร็ว ๆ นี้นี่เองมีกัลยาณมิตรเล่าเรื่องชีวิตคู่ของเพื่อนเขาให้ข้าพเจ้าฟังว่า เขาสองคนทะเลาะเบาะแว้งระหองระแหงกันบ่อย ๆ ทั้งที่ ก่อนแต่งงานกันรักกันปานจะกลืน
ข้าพเจ้าก็ให้มุมมองไปว่า
“ถ้ารักธรรมดา ๆ ก็คือความรัก ณ ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง มีวันหมดโปรโมชั่น
แต่ถ้ามีศรัทธาให้กัน มันอยู่เหนือความรัก”.... มันมีสติ "กำกับ" ไม่ให้ตกเหว ไม่ให้เอาชนะคะคานกัน
ข้าพเจ้าบอกว่าข้าพเจ้ารู้สึกศรัทธาในสามีของข้าพเจ้าประหนึ่งว่าเขาคือศาสนาที่เราเคารพนบน้อม เขาคือคู่ทางจิตวิญญาณ และเป็นผู้นำจิตวิญญาณของเรา
ส่วนเขาเองก็เคยบอกกับเพื่อนเขาไปเช่นกันว่าการได้อยู่กับเราเหมือนเป็นการใช้ชีวิตคู่ของเทวดานางฟ้า
ต่างฝ่ายต่างเป็นแบบอย่างให้กันและกันในบางเรื่อง ต่างฝ่ายต่างชดเชยเติมเต็มเหมือนนำจิ๊กซอว์ชิ้นเล็ก ๆ มาบรรจงสร้างเป็นภาพใหญ่แห่งชีวิตร่วมกัน
อย่างนี้หรือเปล่าที่เขาบอกว่าหากมีคู่ที่มีศีล
สมาธิ ปัญญาเสมอกัน จะอยู่ร่วมกันแบบถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชร
ขอให้ทุกท่านมีความรักที่สวยงามประหนึ่งว่ามีศรัทธาให้แก่กัน
ขอบพระคุณที่แวะมาเยือนค่ะ
มาอ่าน ชีวิตคู่ ที่สามารถนำธรรมะมาบูรณาการใช้กับชีวิตคู่ได้อย่างลงตัว...ยินดีด้วยค่ะ สำหรับ "ความรัก" ของครอบครัว
บุญเสมอกัน..ได้สร้างสมความดีมีแต่ความสุขตลอดไปนะคะ..
สวัสดีค่ะ อาจารย์ ศิลา ได้มาอ่านชีวิตคู่ที่แสนสุข เพราะได้นำหลักศาสนามาดูแลกัน ยินดีด้วยค่ะ
Happy BA. มีตวามสุขและขอให้ รักยืนยง. ค่ะพี่
สาธุๆๆ มาที่ไทรโยคหรืครับ
อ่อนแรงไปกับชีวิตคู่มาอ่านตรงนี้อาจารย์ได้ให้แนวทางที่ดีสำหรับการครองคู่มากจริงๆค่ะ Happy Ba
งดงามมากเลยครับ
ขอบคุณบันทึกที่อ่านแล้ว อิ่มอกอิ่มใจ ค่ะ
ขอบคุณคุณบุษยมาศ มากค่ะที่แวะมาให้กำลังใจ ความสุขจากความครอบครัวความรักต่างวัยของคุณบุษยมาศเป็นแบบอย่างที่ระลึกเสมอและอยากให้ครอบครัวไทยเรา คงความเป็นครอบครัวใหญ่ที่มีร่มโพธิ์ร่มไทรไว้คุ้มครองลูกหลานเช่นนี้ตลอดไป ดีใจมากนะคะที่ได้เห็นแบบอย่างครอบครัวแห่งความรักที่ยิ่งใหญ่ใน G2K แห่งนี้ค่ะ
มาชื่นชมความรักที่มีศรัทธาเป็นพื้นฐานค่ะ งดงามจริงๆ
อ่านไปยิ้มไปในวันดีดีวันนี้ค่ะ
ขอบคุณค่ะคุณศิลา
มาชื่นชมความรักที่มีศรัทธาเป็นพื้นฐานค่ะ งดงามจริงๆ
อ่านไปยิ้มไปในวันดีดีวันนี้ค่ะ
ขอบคุณค่ะคุณศิลา
ขอบคุณพี่ใหญ่ค่ะ ไปอ่านบันทึกพี่ใหญ่แล้ว และจะจดจำแบบอย่างที่น่าศรัทธาไว้ตลอดไปค่ะ
รับพรจากน้องนางฟ้าชาดาค่ะ รักนี้นิรันดร์ค่ะ
ขอบคุณคุณครูทิพย์ค่ะ ดูแบบอย่างชีวิตคู่ผู้ใหญ่ที่ใช้ชีวิตร่วมกันมาอย่างยาวนาน มักมีหลักธรรมเป็นพื้นฐาน ขอให้มีความสุขในความรักที่มีเช่นกันนะคะ
สวัสดีค่ะ อาจารย์ขจิต ทำให้อยากไปไทรโยคเสียแล้วล่ะค่ะ บรรยากาศน่าจะเหมือนกับที่หัวหินนะคะ ขอจองค่ะ
“ถ้ารักธรรมดา ๆ ก็คือความรัก ณ ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง มีวันหมดโปรโมชั่นแต่ถ้ามีศรัทธาให้กัน มันอยู่เหนือความรัก”.... มันมีสติ "กำกับ" ไม่ให้ตกเหว ไม่ให้เอาชนะคะคานกัน (ประโยคนี้ดีมากคับ)