ครูกับการเปลี่ยนแปลง


ครูคือบุคลากรที่สำคัญมากของสังคมของประเทศชาติ เพราะเป็นผู้ที่เป็นกำลังสำคัญในการสร้างคน และคนคนนั้นจะไปเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาสังคมชาติต่อไป ครูทำหน้าที่นี้จากรุ่นสู่รุ่น จากวันวานมาถึงวันนี้ และส่งต่อไปวันพรุ่งนี้

ท่ามกลางที่สังคมโลกเปลี่ยนแปลงไป พัฒนาไป ก่อให้เกิดความแตกต่างระหว่างอดีต กับปัจจุบัน และแน่นอนว่าอนาคตอัตราการเปลี่ยนแปลงอาจจะหมุนเร็วยิ่งขึ้นไปอีก ตราบใดที่สังคมหนึ่งเชื่อมกับสังคมภูมิภาคและสังคมโลกด้วยระบบสื่อสารที่ไร้พรมแดน และสังคมโลกพยายามเชื่อมต่อกันอย่างใกล้ชิดมากขึ้น ด้วยการหลอมรวมระบบเศรษฐกิจบางส่วนเข้าด้วยกัน เขตแดนอาจเหลือเพียงเส้นแบ่งทางสัญลักษณ์การเดินทางข้ามเขตแดนอาจเหลือเพียงความรู้สึกการเดินทางไปหาเพื่อนบ้านเท่านั้น

ระบบธุรกิจจะบานสะพรั่งต่อไป และเป็นพลังหลักในการขับเคลื่อนประเทศที่เราสร้างมาตรฐานการพัฒนาประเทศโดยการดูที่ GDP ผู้บริหารประเทศไปโอบอุ้มเพื่อรักษาค่า มาตรฐานตัวนี้ และผลักดันในรูปแบบต่างๆด้วยหลักทางเศรษฐศาสตร์มหาภาคเพื่อให้ค่ามาตรฐานนั้นเติบโตขึ้น เพื่อสร้างความเป็นผู้นำในภูมิภาค แต่ผลพวงของการผลักดันนั้นส่งผลกระทบเสมือนคลื่นกระทบนั้น ผู้บริหารประเทศรับฟังแต่ไม่ได้ทุ่มเทในการนำมาเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างภูมิคุ้มกัน ปล่อยให้อุดมการณ์ธุรกิจอิสระที่จะสร้างแรงกระตุ้นการบริโคกอย่างไร้ขอบเขต

การพัฒนาภูมิภาคไปสู่ AEC จะเปิดประตูบ้านให้สรรพสิ่งไหลหลั่งไปสู่กันและกัน โดยธุรกิจเป็นตัวนำอีกเช่นกัน ในปัจจุบันแม้ยังไม่ได้เปิดประตูเป็นทางการแต่ระบบศุลกากรได้ปรับตัวรองรับมาหลายปีแล้ว ที่ตลาดสดพื้นบ้านในขอนแก่น และที่อื่นๆ เรากินผักสลัดที่มาจากจีน ผลไม้เมืองหนาวราคาถูกมาจากจีน สิ่งของเครื่องใช้ มาจากจีน ทั้งหมดกระทบโดยตรงต่อการผลิตของเกษตรกร ไทย การไหลออกของเงินตรา รับรู้รับทราบ แต่ไม่มีมาตรการใดๆที่ชัดเจนจริงจังจากภาครัฐ


ภาพเหล่านี้ที่สมบูรณ์ รอบด้าน มีการศึกษาอย่างลึกซึ้งกันมากแค่ไหน เอามาพูดคุย เรียนรู้กันมากแค่ไหนทั้งในระดับผู้บริหารประเทศ ท้องถิ่น และกลุ่มธุรกิจต่างๆลงไปถึงเกษตรกร หรือจะปล่อยให้ธุรกิจเป็นอิสระจูงทิศทางการเคลื่อนตัวของสังคมไปตามแรงผลกำไรที่เกิดขึ้นจากการประกอบการ

ครู ผู้เป็นกลไกสำคัญในการสร้างประเทศ ผู้มีบทบาทหน้าที่ในการสร้างคน

จะกำหนดบทบาทอย่างไรต่อภาพเหล่า ปรากฏการณ์เหล่านี้  เรียนรู้เขา เรียนรู้ภาพการเปลี่ยนแปลงในอนาคต เพื่อกำหนดบทบาทเรา และทำเสียแต่วันนี้ เดี๋ยวนี้ โดยเน้นภาพของท้องถิ่นที่จะพัฒนาไป และบทบาทของท้องถิ่นที่จะต้องเผชิญ บทบาทที่สำคัญคืออะไรบ้าง ทั้งหมด กำหนดเป็นภารกิจในทางปฏิบัติออกมา และนำเข้าสู่แผนงานประจำวัน


ตัวอย่างของการไม่มีความพร้อมในการปรับตัว :  มีนักบัญชีหนุ่มคนหนึ่งในบริษัทธุรกิจทางการเงินในกรุงเทพฯ เขาทำงานกับบริษัทนี้มานานมากกว่า 10 ปี เขาได้รับรางวัลพนักงานดีเด่นในบางปี และเป็นคนหนุ่มที่รักอาชีพ มีครอบครัวที่น่ารักและเติบโตไปตามระบบปกติของการบริหารงานของบริษัท วันหนึ่งบริษัทเผชิญปัญหาต้มยำกุ้ง มีบริษัทต่างประเทศมาเทคโอเวอร์ แล้วตั้งกติกาการบริหารงานใหม่ว่า พนักงานทุกคนต้องพูดภาษาอังกฤษได้ในระดับดี ให้โอกาสสามเดือนในการปรับตัวแล้วจะมีการประเมินผลคัดออก นักบัญชีหนุ่มคนนั้นไม่ผ่านการประเมิน ครอบครัวปรับตัวแทบไม่ทันเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นนั้น ส่งผลกระทบไปถึงรายได้ครอบครัว รายได้ส่งผลกระทบต่อระบบความรับผิดชอบของการสร้างครอบครัวใหม่ ส่งผลกระทบต่อการศึกษาของลูก การผ่อนบ้าน ผ่อนรถ และที่สำคัญจิตใจ...

อีกตัวอย่าง: ในอเมริกา มีการศึกษาวิจัยว่า ชั่วชีวิตคนหนึ่ง ตั้งแต่เรียนจบเข้าทำงานจนเกษียณนั้นจะต้องเปลี่ยนงานถึง 8 ครั้ง และในจำนวน 8 ครั้งที่ต้องเปลี่ยนงานนั้นมี 3 ครั้งที่ไม่คาดคิดว่าจะต้องมาทำงานแบบนั้น แต่ต้องทำ เพราะเลือกไม่ได้ หรือไม่มีทางเลือกอื่น..

การศึกษาครั้งนั้นสรุปว่า คนยุคใหม่ต้องมีความรู้ หรือมีวิชาชีพ ที่สามารถประกอบอาชีพได้มากกว่า 1 อย่าง เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้น...


อาชีพครู มั่นคง ไม่มีความเสี่ยงดังกล่าว (ยกเว้นนักบริหารการศึกษา) แต่บทบาทท่านกับเด็ก ลูกศิษย์ ท่านจะปั้นเด็กยุคใหม่นี้อย่างไรจึงจะพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นนั้น มิใช่กอดเพียงหลักสูตรที่ใช้กันมาจนลืมไปแล้วว่าเมื่อไหร่  คุณครูมิอาจทำได้เพียงคนเดียวโด่เด่ ทั้งโรงเรียนว่าอย่างไร ทั้งกลุ่มโรงเรียนว่าอย่างไร ทั้งจังหวัด ภูมิภาค และทั้งระบบว่าอย่างไร..

ตระกูลผมรับราชการครูมา แม้ตัวเองก็เรียนมาทางการศึกษา แต่ผมออกไปนอกระบบจนถึงปัจจุบันนี้ มีครูหลายคนที่ผมเคารพ กราบไหว้อย่างสนิทใจ คำสอน และการปฏิบัติของท่านเหล่านั้นติดตราตรึงใจมาจนทุกวันนี้  ครูมีบทบาทมากจริงๆต่อการเปลี่ยนแปลง


คนนอกอาจจะสะท้อนได้เพียงบางส่วน แต่คุณครูเองนั่นแหละที่ต้องประมวลและพูดคุยแลกเปลี่ยนกันเองภายในพร้อมกับรับฟังคนภายนอก เพื่อความรอบด้านและเหมาะสม แต่ก็พร้อมที่จะปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา..

เพราะโลกเปลี่ยนแปลงเร็วเหลือเกิน..


(บันทึกนี้ไม่ได้เขียนมาเพื่อเข้าร่วมจับฉลากรางวัล เพียงอยากแสดงความเห็นบ้างเท่านั้นครับ เป็นหัวข้อที่น่าสนใจมากครับ)




หมายเลขบันทึก: 517876เขียนเมื่อ 30 มกราคม 2013 11:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 30 มกราคม 2013 12:00 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

ขอบพระคุณค่ะพี่บางทราย :) รางวัลเป็นเพียงแค่แรงจูงใจ แต่คุณค่าของเนื้อหาและความตั้งใจในการร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อพัฒนาประเทศสำคัญกว่าสิ่งอื่นใดค่ะ


ภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ หลายๆ คนหันมามองอาชีพครูเพราะความคิดที่ว่าน่าจะมั่นคงกว่าอาชีพอื่นๆ จึงเป็นการเปิดโอกาสกว้างขึ้นให้คนที่มีทักษะในวิชาชีพเข้ามาเป็นครูนะคะ ดังนั้นการฝึกอบรมพัฒนาทักษะที่จำเป็นและการปลูกฝังจิตสำนึกของความเป็นครูจึงสำคัญมากค่ะ 

เห็นด้วยกับ อ.จันทวรรณครับ ทำต่อเถอะครับ ดีแล้วครับ

การศึกษาคือความงดงาม พี่หายไปนานสบายดีไหมครับ

สบายดีครับน้องขจิต คิดถึงอ่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท