ก่อนหน้าที่จะถึงวันเด็ก ดิฉันชวนนักเรียนชั้น ๘/๒ (มัธยมศึกษาปีที่ ๒) คุย คิด และเขียน เรื่องของการให้ที่สร้างคุณค่าและความทรงจำดีๆ ให้กับพวกเขาด้วยการยกเรื่อง “เงินหนึ่งบาท” ที่คุณแม่แป้งจี่ (ชั้น ๖/๑) และข้าวป้าง (อ.๓/๓) เขียนมาแบ่งปันประสบการณ์กับชาวเพลินพัฒนาเมื่อครั้งน้ำท่วมใหญ่ในปีที่ผ่านมา http://www.gotoknow.org/posts/471490
ประสบการณ์ที่หลั่งไหลออกมาหลังจากนั้นได้กลายมาเป็นชิ้นงานการเขียนบรรยายสั้นๆ ที่ สะท้อนให้เห็นถึงเหตุการณ์ของ “การให้ที่งดงาม” ซึ่งยังตราตรึงอยู่ในหัวใจ...ไม่รู้ลืม
นกตกรัง ภาคิน ศรีรินติ๊บ (เสือ)
เย็นวันหนึ่ง แมวที่ผมเลี้ยงไว้ได้คาบเอาลูกนกมาเล่น เมื่อผมเห็นผมจึงเรียกคนในบ้านให้มาช่วยกันจับแมวและช่วยลูกนก เมื่อแม่ผมจับลูกนกได้แล้ว แม่ผมก็อุ้มลูกนกเอาไว้ในมือด้วยความทะนุถนอม แม่ผมคิดว่าถ้าปล่อยมันไปตอนนี้คงจะโดนแมวคาบกลับมาแน่ แม่ผมจึงเอามันไปไว้ในกรงและเอาน้ำไปให้ รอจนกว่ามันจะแข็งแรงจึงจะปล่อยมันไป ในระหว่างที่รอให้มันแข็งแรงผมและครอบครัวดูแลมันอย่างดี ในวันที่เราต้องปล่อยมันไป ผมเห็นมันบินเล่นกับเพื่อนของมันอย่างมีความสุข ผมและครอบครัวดีใจมากที่ได้ช่วยชีวิตเล็กๆ นี้เอาไว้
การให้ที่ไม่น้อยนิด ปิยากร งามเกียรติขจร (แพร)
หลังจากที่ฉันกลับมาจากการไปเที่ยว ซื้อของและเสื้อผ้ามามากมายเลยตั้งใจว่าจะเอาเสื้อผ้าเก่าๆ ออกมาทิ้ง แต่ก็ต้องชั่งใจอยู่นานว่าจะทิ้งหรือเอาไปขายดี คุณแม่จึงเสนอให้เอาไปบริจาคเด็กๆ ที่ศูนย์รับเลี้ยงเด็กกำพร้า ฉันก็เห็นด้วย เลยหยิบเอาของเล่นเก่าๆ ติดไม้ติดมือไปด้วย
พอไปถึงศูนย์ในวันถัดมา สิ่งที่หนูเห็นคือซอยแคบๆ และมีตึกเตี้ยๆ เก่าๆ ตั้งอยู่หลังหนึ่ง มีสนามเด็กเล่นเล็กๆ ที่เครื่องเล่นเริ่มมีสนิมเกาะแล้ว พอเดินไปใต้ตึกฉันเห็นเด็กตัวเล็กๆ ผิวสีเข้ม วิ่งเล่นกันอยู่มากมาย แล้วก็มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาทักทาย คิดว่าคงเป็นผู้ดูแลศูนย์นี้ คุณพ่อกับคุณแม่เลยช่วยกันนำข้าวของเสื้อผ้าที่จะนำมาบริจาคลงมาจากรถ และผู้หญิงคนนั้นก็พาเดินไปดูรอบๆ เมื่อขึ้นไปที่ชั้นสอง มีห้องแคบๆ อยู่ ๒ – ๓ ห้อง มีเปลเล็กๆ วางเรียงรายกันอยู่ ในเปลฉันเห็นเด็กตัวเล็กมากนอนหลับสนิท ผู้หญิงที่พามาบอกว่าเด็กเหล่านี้มีทั้งที่พ่อแม่พามาฝากเลี้ยงแล้วกลับมาเยี่ยมกับที่พ่อแม่ทิ้งไว้เลย ศูนย์ก็จะเลี้ยงดูอยู่ระยะหนึ่ง แล้วส่งต่อไปหาผู้ใจบุญรับไปเลี้ยงดู แต่ตอนนี้ศูนย์มีปัญหาเรื่องเงินกองกลาง ทำให้รับเด็กได้ไม่มากนัก แต่ยังโชคดีที่มีคนใจดีมาบริจาคเงินและข้าวของเป็นประจำ ตอนนั้นมีเด็กคนหนึ่งร้องไห้ขึ้น แล้วเด็กที่เหลือก็ร้องไห้ตาม พี่เลี้ยง ๒-๓ คน กับแม่ฉันเลยต้องช่วยกันปลอบ ฉันก็ช่วยด้วยเช่นกัน ฉันตบที่ก้นน้องเบาๆ และจับที่มือน้อง น้องค่อยๆ หยุดร้องและหลับต่อ ตอนนั้นความรู้สึกของฉันมันยากจะบรรยายทั้งมีความสุข ภูมิใจกับสิ่งที่ทำ และรู้สึกสงสารน้องๆ จับใจ
เมื่อบริจาคของเสร็จแล้วเราก็เดินทางกลับบ้าน ฉันรู้สึกได้ถึงความอิ่มใจแบบแปลกประหลาด สิ่งที่อาจจะน้อยนิดสำหรับเรายังมีค่ามากมายกับคนอื่นที่เขามีโอกาสน้อยกว่าเรา คนที่เขาไม่ได้เกิดมาพร้อมทุกอย่างอย่างเรา... นี่เป็นเหตุการณ์ที่ประทับใจครั้งหนึ่งในชีวิตฉันเลย
..................................................................
beautiful feeling mak krab :