ไม่มีอะไรร้าย...ในวันที่ใจดี


เมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมาขณะที่เรากำลังอยู่ในระหว่างการหยุดพักผ่อนประจำปี ก็มีรายงายข่าวตามเวปไซด์และเป็นหัวข้อในการสนทนาตามสื่อต่างๆ ว่าผู้คนในสิงคโปร์เป็นผู้คนที่ไม่มีความสุขที่สุดในโลก (ร้อยละ 46) ในขณะที่คนไทยมีความรู้สึกดีมากอยู่ในอันดับต้นๆ ของโลก (ร้อยละ 83) ประเทศไทยและสิงคโปร์อยู่ห่างกันแค่ไม่ถึงสองพันกิโลเมตร แต่ทว่าดีกรีความรู้สึกนั้นต่างกันแทบจะเรียกได้ว่าสุดขั้ว

จากการสำรวจของบริษัท Gallup Inc ซึ่งได้ออกแบบสอบถามผู้คนใน 148 ประเทศทั่วโลก ประเทศละ 1000 คนในปีที่ผ่านมา ด้วยคำถามซึ่งใช้เป็นดัชนีบ่งบอกถึงความสุขชุดเดียวกันเช่นว่า เมื่อวานคุณพักผ่อนเพียงพอมากน้อยแค่ไหน เมื่อวานคุณได้รับความเคารพนับถือจากบุคคลรอบข้างมากน้อยแค่ไหน คุณยิ้มหรือหัวเราะบ่อยแค่ไหนในวันที่ผ่านมา เมื่อวานคุณได้เรียนรู้หรือทำในสิ่งที่น่าสนใจมากน้อยแค่ไหน เมื่อวานคุณมีความรู้สึกสุขใจมากน้อยแค่ไหน...

ผลการสำรวจแสดงประเทศที่ผู้คนมีความสุขมากที่สุดในโลกตามลำดับคือ ปานามา, ปารากวัย (85%) เอลซัลวาดอร์, เวเนซูเอลา (84%) ทรินีแดดและโทบาโก, ประเทศไทย  (83%) กัวเตมาลา, ฟิลิปปินส์ (82%) เอกวาดอร์, คอสตาริกา (81%) ประเทศที่ผู้คนมีความสุขที่สุดในโลกส่วนใหญ่คือประเทศแถบละตินอเมริกา ประเทศไทยและฟิลิปปินส์เป็นสองประเทศในแถบเอเชียที่ติดอันดับแรกๆ 

โพลแสดงสถิติของผู้ที่ไม่มีความสุขที่สุดในโลกดังนี้ สิงคโปร์  (46%) อาร์มีเนีย  (49%) อิรัก  (50%) จอร์เจีย, เยเมน, เซอร์เบีย (52%) เบลารุส (53%) ลิธัวเนีย, มาดากัสการ์ (54%) อัฟกานิสถาน, ไฮตี, อาเซอร์ไบจัน, โตโก และมาซีโดเนีย (55%)

อีกครั้งที่โพลบ่งชี้ว่าผู้คนที่มีความสุขที่สุดไม่ได้อยู่ในประเทศที่รวยที่สุดในโลกเช่นการ์ต้า ไม่ใช่ในประเทศที่เป็นมหาอำนาจอย่างอมริกา ไม่ใช่ประเทศที่มีผู้คนที่อายุยืนที่สุดอย่างญี่ปุ่น ไม่ใช่ประเทศที่มีจำนวนผู้เรียนจบปริญญาสูงที่สุดอย่างแคนาดา แต่ผู้คนในละตินอเมริกาซึ่งอาจไม่ได้อยู่ในข่ายประเทศที่ีความเป็นอยู่ที่ดีมากเท่าไหร่ แม้แต่กัวเตมาลาซึ่งจมอยู่ภายใต้สงครามกลางเมืองมานานนมและมีอัตราการฆ่ากันตายมากที่สุดในโลกซึ่งองค์การสหประชาชาติแสดงความเป็นห่วงอย่างมากก็ยังมีผู้คนที่มีความสุขมากกว่าประเทศที่ขึ้นชื่อว่าพัฒนาแล้วทั้งหลาย 

นอกจากกลุ่มประเทศที่ตกอยู่ในภาวะสงครามและการแบ่งแยก สิงคโปร์ประเทศที่มีความปลอดภัยในสังคมสูง มีรายใด้ต่อหัวสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก มีสิ่งอำนวยความสะดวกและสาธารณูปโภคที่ดีมากที่สุดที่หนึ่ง กลับกลายเป็นประเทศที่ผู้คนบอกว่าเขาทำงานหนักจนไม่มีเวลามีความสุข เป็นเช่นนั้นจริงหรือ? ใครคนหนึ่งถามเพราะเห็นว่าฉันมาเรียนและทำงานอยู่ในประเทศนี้มานานพอสมควร...


...

ฉันบอกไปตามตรงว่าออกจะรู้สึกแปลกใจกับรายงานอยู่มากเหมือนกัน และหากใช้เพียงไม้บรรทัดของตัวเองวัด ฉันเองกลับรู้สึกมีความสุขกับทุกสิ่งที่มี ณ ที่นี้ ถึงแม้จะได้รับรู้ข่าวคราวและจากการพูดคุยกับผู้คนที่รู้จักและจากประสบการณ์ตรงว่าหลายๆ คนที่นี่รู้สึกเครียดกับสภาวะความเป็นอยู่ที่กดดัน กับการแข่งขันเพื่อให้ได้มาซึ่งวัตถุต่างๆ เพื่อความรู้สึกมั่นคงของชีวิตในเมืองเล็กๆ แห่งนี้ แต่ก็ไม่ได้คิดว่ามันจะเลวร้ายถึงขั้นติดอันดับแรกของโลก แต่แน่นอนว่าสังคมนี้ประกอบขึ้นมาจากหลากหลายวัฒนธรรม ต่างความนึกคิด มากด้วยความรู้สึก และที่สำคัญทัศนคติที่ต่างกัน

จริงอยู่ผู้คนที่นี่ทำงานกันหนัก มีการแข่งขันกันค่อนข้างสูง แต่ในทุกจังหวะของการกระโดดโลดเต้นไปนั้นฉันเชื่อว่ามันแฝงความสุขจากการเรียนรู้ ความภูมิใจของการทำวันนี้ให้ดีขึ้นกว่าวันวาน รอยยิ้มให้กำลังใจตัวเอง เสียงหัวเราะของความสำเร็จ และความพึงใจจากรางวัลจากการทำงานอันหนักหน่วงนั้นเสมอ อย่างน้อยก็เป็นคำตอบของสามในห้าข้อของคำถามนั้น ขึ้นอยู่กับว่าเราจะมองเห็นความสุขเหล่านั้นหรือไม่ เปิดใจมองหาความสุขที่มีรอบตัวมากน้อยแค่ไหน 

เขียนมาถึงตรงนี้ฉันนึกถึงเรื่องราวของชายคนหนึ่งซึ่งยืนเล่นไวโอลินอยู่ที่สถานีรถไฟในกรุงวอชิงตันดีซีในเช้าอันเหน็บหนาวของเดือนมกราคม เขาเล่นเพลงของบาค 6 เพลงใช้เวลาทั้งหมด 45 นาที ในช่วงเวลาเร่งด่วนในยามเช้าอย่างนี้โดยเฉลี่ยจะมีผู้คนเดินผ่านเขาไปประมาณ 1100 คน แต่ละคนก็เร่งรีบที่จะไปทำงาน ตลอดระยะเวลาของการบรรเลงมีคนหยุดฟังดนตรีในระยะเวลาสั้นๆ แค่ 6 คน เด็กๆ สองสามคนหยุดฟังแต่ก็โดนผู้ปกครองดึงลากฉุดให้เดินต่อไป มีคนหยุดให้เงินเขาประมาณ 20 คนแล้วเดินจากไป เขาได้เงินทั้งหมด 32 เหรียญ 

เมื่อเขาเล่นดนตรีจบทุกอย่างก็เข้าสู่ปกติทุกคนตั้งหน้าตั้งตาเดินต่อไปยังปลายทางของตน ไม่มีเสียงปรบมือ ไม่มีคำชื่นชม ไม่มีแม้กระทั่งคนสังเกต ไม่มีใครรู้ว่าชายที่เล่นดนตรีคนนั้นคือ Joshua Bell นักไวโอลินที่มีพรสวรรค์มากที่สุดคนหนึ่งในโลก เขาบรรเลงเพลงที่แสนจะไพเราะด้วยไวโอลินราคา 3.5 ล้านเหรียญ สองคืนก่อนหน้านั้นชายผู้นี้บรรงเพลงชุดเดียวกันในโรงละครในบอสตัน ซึ่งมีผู้ชมล้นหลามด้วยบัตรเข้าชมที่นั่งละ 100 เหรียญ

แต่นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิตคนในเมืองที่เร่งรีบ หากเราไม่เปิดโอกาสและให้เวลาตัวเองหยุดฟังดนตรีที่ไพเราะมากที่สุดชิ้นหนึ่งในโลก ไม่มีเวลาฟังเสียงนกร้องในยามเช้า ไม่มีเวลาชมดอกไม้ใบไม้ต้นไม้ในสวนที่สวยงามทั่วเมือง เราคงพลาดที่จะมองสิ่งดีดีและความสุขรอบตัวอีกมากมาย

ไม่มีอะไรดีในวันที่ใจเราร้าย และไม่มีอะไรร้ายในวันที่ใจเราดี ท่านชุติปัญโญเขียนไว้ในหนังสือสุขอย่างไรให้ถึงใจ ช่างน่าประทับใจนัก จากสถิติทำให้รู้สึกว่ากำลังอยู่ในแวดล้อมของผู้คนไม่ค่อยมีความสุข เช้านี้ฉันจึงถามตัวเองว่าวันนี้ใจดีหรือยัง?




ปล. ขอบคุณหนังสือ สุขอย่างไรให้ถึงใจ จากท่านอาจารย์ Wasawat Deemarn ค่ะ ทำให้คิดว่ามิน่าล่ะเมืองไทยจึงมีแต่คนมีความสุข ;)

นำเพลงอันไพเราะของ Joshua Bell มาฝากนะคะ....


คำสำคัญ (Tags): #happy ba#Happy Society#happy soul
หมายเลขบันทึก: 514937เขียนเมื่อ 3 มกราคม 2013 10:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 3 มกราคม 2013 10:15 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (42)

ผมไม่เคยเชื่อผลสำรวจนี้เลย ไม่มีความสุขที่สุด คือ สิงคโปร์.....


 สุขจากบันทึกแห่งรอยยิ้ม...ของคุณปริม

สุขจากการใช้พื้นที่...ที่เจือด้วย

มิตรภาพ...ไฟฝัน และแรงบันดาลใจ

...

ขอบคุณคุณปริมมากนะครับ

ที่ช่วยละลาย..ความคิด .....ของคนบางคน ที่ยังค้นหาความสุขไม่ค่อยเจอ

ยินดีครับ อาจารย์ปริม ;)...

หนังสือเย็น ๆ กับคนเย็น ๆ ครับ ;)...

หากใจดี..ซ้ะอย่าง..เรื่องร้ายๆคงจะไม่มีโอกาศเกิด..แน่..เพราะคงเหมือน..บ้านที่อยู่ในความสุข..คุ้มอย่างดี...ยายธี.....มาส่งความสุขเจ้าค่ะ

เพราะไม่ทุกข์กับการแข่งขันแย่งชิงแสวงหาอำนาจวาสนาและความร่ำรวย...จึงเป็นสุขเพราะความเป็นอยู่พอเพียง..สุขที่ใจด้วยการแบ่งปัน...โลกเราย่อมร่มเย็นอย่างยั่งยืนนะคะ

ความเร่งรีบทำให้คนมีความสุขน้อยลง...เชื่อมโยงกับบันทึกที่แล้วของคุณปริมนะคะ รีบเพราะพะวงถึงอนาคต ลืมสิ่งสวยงามที่อยู่ตรงหน้า ณ ปัจจุบันขณะที่จะช่วยปลอบประโลมชีวิตให้สดชื่น มีความหวัง มีพลัง

ยิ่งเราตระหนักว่ากำลังอยู่ท่ามกลางคนที่ไม่ค่อยมีความสุข ก็ต้องช่วยกันเจริญเมตตา กรุณา แบ่งปัน สร้างสุขให้ผู้คน ให้สังคมและโลกตามกำลังของเรา พี่เชื่อเช่นนี้ค่ะ

ขอบคุณเรื่องราวที่ให้ข้อคิดค่ะ

พรใดอันประเสริฐบันดาลดล

ดั่งเม็ดฝนเย็นฉ่ำพรมใจท่าน

สุขสมหวังปีใหม่ในวานวัน

กาลปัจจุบันสงบรู้สู่ชีวิต...

สวัสดีปีใหม่ครับ คุณปริม....


 สวัสดีปีใหม่ค่ะคุณปริม...ความสุขอยู่ที่ใจ ความทุกข์ก็อยู่ที่ใจ...ขอให้คุณปริมมีแต่รอยยิ้ม ชีวิตสุขสดใส หัวใจเบิกบาน สุขภาพแข็งแรง ถึงฝั่งฝันตามจิตตั้งมั่นค่ะ...


                                  สวัสดีปีใหม่ ค่ะ ท่านอาจารย์   ปริม  ทัดบุปผา

สวัสดีค่ะท่านอาจารย์ชยันต์

ผู้คนที่นี่โดยเฉลี่ยมีความเป็นอยู่ที่ดีกว่าคนบ้านเราค่ะ สาธารณูปโภค การคมนาคมอะไรๆ ก็ดีกว่า แต่ถ้าพูดถึงคุณภาพชีวิต เขาอาจมีไม่มากเท่าไหร่ถ้าหากไม่เปิดใจกว้างชื่นชมสิ่งที่มีจริงๆ ค่ะ

ระยะหลังมานี้มีกระแสต่อต้านการบริหารงานของรัฐมากขึ้น ผู้คนออกมาแสดงความคิดเห็นมากขึ้นก็เลยดูเหมือนว่าจะมีคนไม่มีความสุขมากขึ้นค่ะ แต่ที่ไหนๆ ก็เหมือนกันคือคนที่ปะปนกันไปค่ะ ;))

แต่ปริมยังมีความสุข สงบดีอยู่ทุกวันค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ;))

สวัสดีค่ะคุณแสงแห่งความดี 

ภาพนกบินตัวนี้สวยมากๆ มีพลังมากมายเลยค่ะ ชอบๆๆๆๆๆ

ขอให้คุณแสงมีพลังในการค้นหาความสุขนะคะ

ขอบคุณค่ะ



สวัสดีค่ะท่านอาจารย์วัส

ถึงจะเย็นแต่ก็ยังมีไฟอ่อนๆ ให้พออบอุ่นค่ะ ;))


ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะคุณยายธี

ขอบคุณความสุขที่ส่งมาค่ะ วันนี้จึงสงบสุขจังเลย

คุณยายมีความสุขดีนะคะวันนี้

สวัสดีค่ะคุณพี่ใหญ่

การรู้ว่าสิ่งที่เราต้องการมากที่สุดในชีวิตคืออะไร บางทีก็ช่วยให้ความทุกข์ที่เกิดจากการไขว่คว้านั้นลดลงค่ะ

ขอบคุณข้อคิดจากพี่ใหญ่ค่ะ

สวัสดีปีใหม่ค่ะคุณปริม


ปล. ขอสวัสดีปีใหม่ก่อนนะคะ บันทึกยังไม่ได้อ่าน  ...แล้วจะกลับมาย้อนอ่านอีกครั้งนะคะ

สวัสดีค่ะคุณพี่ยุวนุช

ขอบคุณพี่นุชที่ช่วยชี้แนะค่ะ ปริมจะพยายามทำตามค่ะ ด้วยเมตตา ด้วยเข้าใจ และจะแบ่งปันความรู้สึกดีดี สงบเย็นตามกำลังค่ะ

ผู้คนที่นี่ตามที่สังเกตที่ไม่มีความสุขดูแล้วเพราะกังวลถึงอนาคตค่ะ ทุกคนอยู่กับความอยากได้ อยากมี พยายามไขว่คว้าให้มาก เลยไม่ได้ซึมซับความงดงาม สิ่งที่มีในปัจจุบันสักเท่าไหร่ 


ขอบคุณความเมตตาที่ส่งผ่านค่ะพี่นุช

;))

สวัสดีปีใหม่ครับ ขอให้มีความสุข สดชื่น สมหวังนะครับ

สวัสดีปีใหม่ค่ะคุณพิชัย

ขอบคุณสำหรับพรอันประเสริฐ ขอพรนั้นเป็นของคุณพิชัยเช่นกันนะคะ

ขอบคุณมากค่ะ


สวัสดีปีใหม่นะคะคุณน้อย

ขอบคุณสำหรับพรอันประเสิรฐค่ะ ขอให้พรนั้นเป็นของคุณน้อยด้วยค่ะ

สุข สดชื่น สมหวัง มีพลังชีวิตนะคะ

;))

สวัสดีปีใหม่ค่ะครูทิพย์

สุข สดชื่น สมหวัง มีพลังชีวิต ตลอดปีนะคะ

;)))

ขอบคุณค่ะ

สวัสดีปีใหม่ค่ะคุณหนูรี

ปีใหม่พร้อมชื่อใหม่นะคะ ;)

ขอให้คุณหนูรีมีความสุข สดชื่น สมหวัง มีพลังชีวิตตลอดปีนะคะ

ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะคุณลุงชาติ

ขอบคุณสำหรับพรอันประเสริฐค่ะ

สวัสดีปีใหม่ค่ะคุณ tuknarak

ขอให้สิ่งดีดีเป็นของคุณ tuknarak ในปีใหม่นี้นะคะ

ขอบคุณกัลยาณมิตรทุกท่านที่มามองเห็นความสุขรอบตัว มีสุขในปัจจุบันขณะ สุขในสิ่งที่มีในทุกวันดีดีของชีวิตไปด้วยกันนะคะ

สุขสันต์บ่ายวันศุกร์ค่ะ

-สวัสดีครับ...

-แวะมาเยี่ยมส่งความสุข...

-สุขสันต์วันปีใหม่นะครับ...

สวัสดีปีใหม่ค่ะ 

ดีใจที่ได้่อ่านบันทึกของคนใจดี     ขอบคุณทุกบันทึกที่ทำให้มีความสุข   ค่ะ

สวัสดีปีใหม่ค่ะพี่ปริม

ไม่มีอะไรดีในวันที่ใจเราร้าย และไม่มีอะไรร้ายในวันที่ใจเราดี

เอ......อ่านแล้วต้องกลับมาคิดอยู่หลายรอบ ว่าวันนี้ใจเราดีบ้างหรือยัง?

ขอบคุณบันทึกที่ให้ ใครบางคนต้องย้อนมาดูตัวเองค่ะ

ดัชนีชี้วัดความสุข คงใช้วัดเรื่องที่ลึกซึ้ง ปัจเจก และเป็นนามธรรมได้ยากนะคะ

  • ถ้าเฉพาะคนๆไป น่าจะมีข้อกังขาในมุมมอง แต่ถ้ามองรวมๆ ยิ่งแข่งขันกันสูง ความเร่งรีบ เวลา รายจ่าย..น่าจะชัดว่าไม่สร้างความสุขแน่ บ้านเราภาวะอย่างนี้เกิดขึ้นในเมืองใหญ่ แต่คงยากที่จะมีสักเมืองเทียบสิงคโปร์ ขณะในชนบท หรือต่างจังหวัด ภาวะดังกล่าวอาจมากกว่าแต่ก่อน แต่อารมณ์แข่งขัน ต่อสู้ น่าจะยังน้อย โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับนานาประเทศ ถ้าสุขหมายถึง สุขใจ สบายใจ เพลิน เอ้อระเหย มีเวลาชมนกชมไม้ ชมความงามธรรมชาติ ผืนนา แม่น้ำ ภูเขา ทะเล ศิลปวัฒนธรรม ประเพณี รวมถึงอากาศเย็นๆยามนี้ หรือแม้กระทั่งการพบปะพูดคุย สังสันทน์ โดยเฉพาะความพอเพียงในการที่จะดันทุรังมุ่งหาแต่เงินอย่างเดียว ซึ่งต่างเริ่มตระหนักแล้ว น่าใช่เลยนะครับ บ้านเราน่าจะเหนือกว่า 
  • ขอบคุณข่าวสารข้อมูล ที่ทำให้ได้คิด มีความสุขมากๆตลอดปีใหม่ 2556 นี้และตลอดไปครับ

  กลับมาอ่านอีกครั้ง

เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องดีๆที่น่าคิดเหมือนกัน

สวัสดีปี๋ใหม่ไทยเน้อเจ้า.. น้องปริมคนมีความสุขอยู่เสมอ..อ่านบันทึกมีความสุขกับการสำรวจ และมีความสุขยิ่งที่ได้มาในบ้านหลังนี้ที่มีแต่เรื่องเล่าถึงสาระดีๆ มีภาพสวยๆให้ชม ดอกไม้สวยมากค่ะ


สวัสดีปีใหม่ มีความสุขมากมายเช่นกันค่ะคุณเพชรน้ำหนึ่ง

ขอบคุณมากค่ะ

สวัสดีปีใหม่ค่ะคุณแจ๋ว

ขอบคุณคุณแจ๋วใจดีเช่นกันค่ะที่มาอ่านบันทึกของปริมเสมอ มีกำลังใจเขียนมากมายค่ะ


มีความสุขทุกวันนะคะ ;)

สวัสดีค่ะน้องกล้วยไข่

พี่ว่าน้องกล้วยไข่ใจดีเสมออยู่แล้วค่ะ เพราะใจดีถึงได้มีพลังมากมายในการทำงานจิตอาสาไงคะ


ขอบคุณมากค่ะ

สวัสดีค่ะพี่หมอภูสุภา

เป็นที่พูดถึงกันเยอะพอสมควรกับดัชนีความสุขที่ใช้ค่ะ บางคนนอนน้อยแต่ก็มีความสุขเพราะมีไฟมีพลังเยอะ อะไรทำนองนั้นค่ะ แต่ยังไงสถิติก็ไม่อาจชี้ชัดได้ถูกทังหมดค่ะ คนที่ให้คำตอบ คนในเมืองนั้นๆ จะรู้อยู่แก่ใจว่าเข่มีความสุขแค่ไหนนะคะ


ขอบคุณมากค่ะพี่หมอ

สวัสดีค่ะท่านอาจารย์ธนิตย์

ขอบคุณสำหรับมุมมองดีดีที่แจ่มชัดค่ะ ความสุขที่ว่าคงขึ้นอยู่กับคำจำกัดความของแต่ละคนนะคะ ซึ่งจริงๆ แล้ว คิดว่าในทุกที่กับทุกๆ คนที่ยังคงวนเวียนอยู่ในโลกใบนี้ คงไม่มีใครที่สุขสุดขีดอยู่ตลอดเวลาและคงไม่มีใครที่ทุกข์สุดยอดตลอดไปเช่นกัน ในบางครั้งที่เราคิดว่ากำลังทุกข์แต่มันก็มีความสุขปะปนมาอยู่เสมอนะคะ วันที่ทำงานหนัก เหน็ดเหนื่อยมันก็ยังมีความภูมิใจกับการลงมือทำมาเป็นข้อต่อรองว่าเราไม่ได้ทุกข์มากมาย 

ขึ้นอยู่กับว่าเราจะมองเห็นความสุขในความทุกข์นั้นไหม หรือเฝ้าแต่ล้างสมองตัวเองว่าทุกข์ถึงใจในทุกวันหรือเปล่า

ท่านอาจารย์มีความสุขในการสอนเช่นกันนะคะ ;)

ขอบคุณลุงชาติที่มาอ่านอีกครั้งนะคะ ;))

สวัสดีปีใหม่เจ้าพี่ครูตูม

ก็ไม่ถึงกับสุขเสมอ ตลอดเวลาไม่มีความทุกข์เลยค่ะพี่ครูตูม แต่โดยรวมแล้วก็ถือว่าสุขดีมากเจ้า อิอิอิ สุขภาพกายใจยังคงแข็งแรง ยังมีไฟยังมีพลังเหลืออยู่ในทุกๆ วัน มองเห็นสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกสุขใจอยู่ทุกวันค่ะ 

เมื่อรู้สึกดี จึงพอที่จะบ่งปันค่ะ

พี่ครูมีความสุขมาก ๆ เช่นกันนะคะ ;)


สวัสดีค่ะคุณปริม...

ความสุขอยู่ที่กาย + ใจ เรานี่แหล่ะค่ะ ต่อให้เราเร่งรีบแค่ไหน ถ้าตัวเราปรับและเปลี่ยนแปลงตัวเราให้เข้ากับสภาพหรือสถานการณ์ได้ เราก็โอเคแล้วค่ะ คล้ายกับจิ้งจกนะคะ ขนาดจิ้งจกมันยังเปลี่ยนสีได้ตามสภาพ แล้วเราซึ่งเป็นมนุษย์ทำไมจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้จริงไหมค่ะ เราฉลาด + เก่งกว่าจิ้งจกตั้งเยอะเน๊าะ คริ ๆ ๆ

มาสวัสดีปีใหม่ด้วยค่ะ มีความสุขมาก ๆ นะคะ พร้อมกับมีสุขภาพที่แข็งแรง พร้อมกับที่จะสู้งานต่อไปด้วยค่ะ

สวัสดีค่ะคุณบุษยมาศ

ว่ากันว่าสิ่งที่ทำได้ยากมากคือการเปลี่ยนแปลงค่ะ การปรับตัวคือการเปลี่ยนจากความเคยคุ้น หลายๆ คนไม่กล้าที่จะขยับตัวออกมาจากความเคยชินค่ะ

ขอบคุณข้อคิดและกำลังใจดีดีท่่นำมาฝากนะคะ

สวัสดีปีใหม่เช่นกันค่ะ

ผมเชื่อนะครับ

คนสิงคโปร์เครียด เพราะเอาจริงเอาจัง ตั้งความหวังกับตัวเองและคนรอบข้างสูง

ผิดกับพี่ไทย .... ไม่เป็นไร  คิดได้ก็จบ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท