ครูแห่งศตวรรษที่ ๒๑ ต้องช่วยแก้ไขความรู้ผิดๆ ของนักเรียน


การเป็นครูแห่งศตวรรษที่ ๒๑ ต้องฝืนใจ ๒ ต่อ คือ (๑) ฝืนใจไม่บอกสาระความรู้แก่ศิษย์ และ (๒) ฝืนใจทำหน้าที่ที่ไม่เคยทำ คือหน้าที่ช่วยศิษย์สลัดความรู้ผิดๆ ออกไปจากตัว

ครูแห่งศตวรรษที่ ๒๑  ต้องช่วยแก้ไขความรู้ผิดๆ ของนักเรียน

ผมปิ๊งแว้บจากการอ่านและตีความหนังสือ How Learning Works : Seven Research-Based Principles for Smart Teaching  ที่ผมเตรียมตีความลง บล็อก ๑๖ ตอน  และลงตอนที่ ๑ ไปแล้วเมื่อวานซืน  อ่านได้ที่บันทึกที่เกี่ยวข้องข้างล่าง

ผมตีความว่า ต้นตอของเรื่องนี้เริ่มที่โลกเปลี่ยน สังคมเปลี่ยน ทำให้เด็กเปลี่ยน  เด็กสมัยนี้ไม่ได้เรียนความรู้และข้อมูลสำคัญเฉพาะจากโรงเรียนอีกต่อไป  หรือกล่าวให้หนักยิ่งขึ้นได้ว่า สมัยนี้นักเรียนรับความรู้จากโรงเรียนเป็นแหล่งรอง ไม่ใช่แหล่งหลัก  แหล่งหลักคือเขารับจากสังคมโดยรอบ โดยเฉพาะจากสื่อมวลชน และ อินเทอร์เน็ต 

ความรู้จากแหล่งต่างๆ นอกโรงเรียนนั้น เด็กรับมาอย่างถูกต้องบ้าง รับมาแบบเข้าใจผิดบ้าง  และที่ร้ายกว่านั้น คือความรู้บางส่วนเด็กรับมาอย่างถูกต้อง แต่ความรู้นั้นมันผิด   เด็กนักเรียนในสมัยแห่งข้อมูลข่าวสารอุดมสมบูรณ์จึงมีทั้งความรู้ที่ถูกต้อง และความรู้ผิดๆ อยู่ในสมอง 

ต่างจากเด็กสมัย ๖๐ ปีก่อนอย่างผม  ที่ความรู้หายาก ต้องไปเรียนจากโรงเรียน  และโรงเรียนก็มีหน้าที่เติมความรู้ให้แก่เด็ก  ไม่ต้องสนใจเลยว่าเด็กจะมีพื้นความรู้ผิดๆ ติดตัวมา

วิชาการด้านความเป็นครูสมัยใหม่ (ใหม่เอี่ยม จากหนังสือที่อ้างแล้ว ซึ่งมาจากการสังเคราะห์ผลงานวิจัย) บอกว่า ครูสมัยใหม่นอกจากไม่มีหน้าที่เติมความรู้แก่ศิษย์แล้ว  ยังต้องช่วยให้เด็กสลัดความรู้ผิดๆ ออกจากหัว (สมอง) อีกด้วย 

จะเห็นว่า การเป็นครูแห่งศตวรรษที่ ๒๑ ต้องฝืนใจ ๒ ต่อ  คือ (๑) ฝืนใจไม่บอกสาระความรู้แก่ศิษย์  และ (๒) ฝืนใจทำหน้าที่ที่ไม่เคยทำ คือหน้าที่ช่วยศิษย์สลัดความรู้ผิดๆ ออกไปจากตัว 

โปรดสังเกตว่าในการทำหน้าที่ทั้งสองอย่างนี้ ครูไม่ใช่ผู้ลงมือทำ  ผู้ลงมือทำคือตัวเด็กเอง  ครูเป็นเพียงผู้ช่วย หรือ “คุณอำนวย”  แต่ถ้าครูไม่ทำหน้าที่นี้ ศิษย์ก็จะไม่สามารถ Learn ตามข้อ ๑  และ Delearn ตามข้อ ๒ ได้ 

แต่เมื่อครูทำหน้าที่ดังกล่าว ศิษย์ก็จะได้ทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ ที่สำคัญ คือ Learning Skills และ Delearning Skills ไปพร้อมกัน

วิจารณ์ พานิช

๒๔ ธ.ค. ๕๕

หมายเลขบันทึก: 514401เขียนเมื่อ 29 ธันวาคม 2012 05:29 น. ()แก้ไขเมื่อ 29 ธันวาคม 2012 05:38 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ครูเองก็ต้องเริ่มปรับเปลี่ยนเป็นผู้พร้อมรับความรู้ใหม่ๆ เทคโนโลยีในการหาความรู้ใหม่ๆ เรียนรู้วิธีหาความรู้ที่หลากหลายต่างจากสมัยก่อนที่มาจากตำราและงานวิจัยของตัวเอง ด้วยนะคะ


กราบสวัสดีปีใหม่ อาจารย์วิจารณ์ ครับ

ผมติดตามอ่านblog ของอาจารย์มานานแล้ว เห็นด้วยกับอาจารย์ที่ต้องพัฒนาทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ปัญหาคือ จะทำอย่างไรให้ครูทุกคนได้รับรู้ เรียนรู้ อาจจะไม่เห็นด้วยในบางประเด็นก็ได้ ลปรร. กัน เพื่อพัฒนาการเรียนการสอนใหม่ หรือเป็นหน้าที่ของกระทรวงศึกษาที่มีหน้าที่จัดการเรียนการสอน อยาก ลปรร. กับทุกท่านที่ติดตามข้อมูลความรู้จากอาจารย์ เผยแพร่ให้เกิดผลในทางปฏิบัติ ผมเองนำไปปรับใช้กับ จนท. ในโรงพยาบาล ในการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคน ลปรร. กับจนท. ในรพ. เพื่อไปใช้กับลูกหลานตนเอง

ขอบพระคุณที่คุณหมอแบ่งปัน  ติดตามบทความของท่านเสมอและได้นำมาปรับใช้กับการจัดการเรียนการสอน

ตามบริบทของตนเอง  ทำอย่างไรคุณครูจะได้รับรู้เหมือนที่คุณหมอธงชัยกล่าว


พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท