Recall กับ การเคลือบหลุมร่องฟัน


การมาพบหมอฟันทุก 6 เดือน ทำให้สุขภาพช่องปากของคนไข้ดีขึ้นจริงหรือไม่ การที่คนไข้กลับมาพบหมอฟันทุก ๆ 6 เดือนควรจะกลับมาหมออย่างพวกเรา เพื่อรับการบำบัดรักษาโรค หรือ....กลับมาเพียงเพื่อตรวจในกรณีที่อาจเกิดปัญหาที่อยู่ นอกเหนือการควบคุมของคนไข้จริง ๆ และ..บทบาทหน้าที่ของหมอฟันนั้นควรจะเป็นผู้บำบัดรักษาเมื่อเกิดรอยโรคในช่องปาก หรือเป็นผู้ช่วยให้คนไข้ได้พัฒนาสุขภาพไปสู่สภาวะที่เหมาะสม ...

ในชีวิตการเป็นหมอฟัน....คงจะหลีกเลี่ยงการพบคนไข้ที่เป็นเด็กๆไม่ได้...

เมื่อวาน...เป็นวันที่ยูนิตผมค่อนข้างเจี้ยวจ้าวเป็นพิเศษ..

เพราะมีเด็กๆมาป้วนเปี้ยนพร้อมๆกันถึง 4 คน...

       เพราะอะไรน่ะหรือครับ++.....ก็เนื่องจากวันนี้เป็นวันครบรอบ 6 เดือนของครอบครัวนี้ที่มาพบผม...ซึ่งวันนี้เป็นการนัด Recall เด็กทั้ง 4 คนนี้  ซึ่งโดยทั่วๆไปแล้วในการให้บริการทันตกรรมแก่คนไข้เป็นรายบุคคล ไม่ว่าจะในระดับโรงพยาบาลของรัฐ โรงพยาบาล เอกชน หรือคลินิคใด ๆ ก็ตาม หลังจากที่ทำการบำบัดโรคในช่องปากให้แก่คนไข้จนเรียบร้อยแล้ว หมอมักจะนัดคนไข้มาเพื่อทำการตรวจอีกครั้งโดยทิ้งระยะเวลาห่างไปประมาณ 6 เดือน...

       น่าชื่นใจมากครับที่คนไข้ทั้ง 4 ตัวน้อยๆของผม  กลับมาด้วยลักษณะที่ยังคงเป็น caries free ซึ่งแปลว่า  พวกเธอยังไม่มีฟันผุในช่องปาก  ซึ่งผมค่อนข้างดีใจที่ดูแลสุขภาพช่องปากของพวกเขาได้  เนื่องจากทั้ง 4 คนเป็นพี่น้องที่มีอายุแตกต่างกัน  ใบเตย จะ 11ขวบแล้ว  ผม sealant ซี่ 6 ไปเมือ 6 เดือนที่แล้วก็ยังคงอยุ่ในสภาพดีอยู่  ส่วนใบเฟรินกับน้องปาร์ม (อายุ 8และ 7 ขวบตามลำดับ) sealant ก็ยังคงอยู่ดีเช่นกัน  ...

       น่าดีใจที่พ่อแม่ของน้องๆดูแลน้องได้ดี....และเชื่อฟังคำแนะนำของหมอ...ตอน 6 เดือนก่อน  ผมเคยเตือนเรื่องอาหารหวาน  กับการแปรงฟัน  ให้กับครอบครัวนี้  คือ ผมได้แนะนำไปให้ครอบครัวนี้สร้างกติกาว่าถ้าจะทานขนมหวานให้แปรงฟันหลังจากทานทันที  ซึ่งผมคิดว่าน่าจะเหมาะกว่าการจะห้ามเด็กกินขนม  เพราะผมคิดว่าขนมกับเด็กเป็นของคู่กัน  ยิ่งไปห้ามแก  แกก็อาจไปแอบกินเมื่อไรที่เราไม่รู้ก็ได้  ดังนั้นถ้ากินแล้วรู้จักการทำความสะอาดช่องปากที่เหมาะสม...ก็น่าจะพอไหว.....ซึ่งผลใน 6 เดือนนี้ก็น่าเป็นที่พอใจ  ที่น้องทั้ง 3 คนยังคงรักษาสภาพช่องปากที่ดีไว้ได้

.....วันนี้นอกจากน้องเตย...เฟริน...ปาร์ม...มีหนุ่มน้อย 6ขวบคนใหม่มาหาผม...เป็นน้องชายของพี่สาวทั้ง 3 คนนั่นแหล่ะครบ++หลังจากตรวจช่องปากผมก็พบว่า  ฟันกรามแท้ล่างขึ้นค่อนข้างสมบูรณ์แล้ว  จึงวางแผนการรักษาจะเคลือบหลุมร่องฟันและเคลือบฟลูโอไรด์ให้น้องเขาในวันนั้นเพื่อป้องกันการเกิดฟันผุ...ซึ่งเหตุผลที่เราจะเคลือบหลุมร่องฟันนั้นก็เพราะในฟันกรามที่เพิ่งขึ้นมาในช่องปาก  มักจะมีหลุมร่องฟันที่ลึก  และไอ้เจ้าหลุมร่องฟันที่ลึกนี้แหล่ะ++ที่จะเป็นตัวกักเศษอาหารและเชื้อโรคได้เป็นอย่างดี  และจะทำให้มีฟันผุบริเวณหลุมร่องฟันในเวลาไม่นาน...

   ซึ่งในบริเวณหลุมร่องฟันเหล่านี้ จะป้องกันการผุได้โดยการใช้สารเคลือบหลุมร่องฟัน เคลือบไปตามบริเวณหลุมร่องฟันที่ยังไม่ผุ ดังนั้น ก่อนที่ผมจะเคลือบ  ผมจะเริ่มจากการขัดฟันก่อน เพื่อตรวจหารอยผุซึ่งอาจเป็นเพียงจุดเล็กๆ เมื่อพบว่าไม่ผุจึงเคลือบหลุมร่องฟันได้

    โดยวัสดุที่ใช้เคลือบจะมีหลายชนิด และชนิดที่นิยมใช้คือชนิดเรซิน ซึ่งมีทั้งชนิดที่ต้องเอาสาร 2 ตัวมาผสมกัน แล้วจึงแข็งตัว หรือชนิดที่ต้องฉายแสงแล้วจึงแข็งตัว และมีทั้งสีใสและสีขาวขุ่น

     การเคลือบหลุมร่องฟันนั้นจริงๆแล้วสามารถทำได้ทั้งในฟันแท้และฟันน้ำนม  ในฟันกรามน้ำนม จะมีทั้งหมด 8 ซี่ เราจะตรวจก่อนว่าฟันมีหลุมร่องลึกหรือไม่ ถ้าหลุมลึก เราก็จะเคลือบทันที โดยทั่วไปเรามักจะเคลือบหลุมร่องฟันน้ำนม ตอนเด็กอายุประมาณ 2 ปีครึ่ง-3 ปีขึ้นไป
      ส่วนในฟันกรามแท้ จะขึ้นมาอายุประมาณ 6 ปี เราก็จะตรวจเช่นเดียวกับฟันน้ำนมว่ามีหลุมร่องฟันลึกหรือไม่ มีฟันผุหรือไม่ ฟันขึ้นมาในช่องปากเท่าใด ถ้าฟันขึ้นมาเต็มที่ ร่องฟันลึกและไม่ผุ เราก็จะเคลือบร่องฟันทันที ส่วนฟันที่ขึ้นมาเกือบเต็มซี่ และมีโอกาสผุได้มาก เช่นมีคราบจุลินทรีย์เกาะมากทำความสะอาดได้ไม่ดี ก็จะเคลือบหลุมร่องฟันในบริเวณฟันที่ขึ้นมาแล้วและมาเคลือบเพิ่มเติมเมื่อฟันขึ้นมาเต็มซี่แล้วอีกครั้งหนึ่ง


     วันนั้นผมก็ได้เคลือบหลุมร่องฟันซี่ #36,46 ให้น้องเขา  และเคลือบฟลูโอไรด์"รสแอปเปิ้ล" ให้น้องเขาและนัดกลับมาดูอีกครั้ง 6 เดือน  ซึ่งผมหวังว่าน้องคนนี้จะมีสุขภาพช่องปากที่ดีเหมือนพี่ๆเขาทั้ง 3 คนนะครับ... เพราะสิ่งที่ผมมักพบเสมอเมื่อคนไข้กลับมาอีกครั้งในวัน Recall (คนอื่นๆ) คือ....มักจะกลับมาเพื่อ...รับบริการบำบัดรักษาโรคที่เกิดขึ้นใหม่ในระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา เป็นอย่างนี้ทุกครั้งที่คนไข้กลับมาตรวจซ้ำ ดังนั้นการ Recall ในทุกวันนี้ ก็จะมีประโยชน์เพียงแค่ให้คนไข้ได้รับการบำบัดรักษาอย่างทันท่วงทีก่อนที่โรคจะลุกลามไป

       จึงเกิดคำถามว่าการมาพบหมอฟันทุก  6 เดือน ทำให้สุขภาพช่องปากของคนไข้ดีขึ้นจริงหรือไม่ การที่คนไข้กลับมาพบหมอฟันทุก ๆ 6 เดือนควรจะกลับมาหมออย่างพวกเรา   เพื่อรับการบำบัดรักษาโรค หรือ....กลับมาเพียงเพื่อตรวจในกรณีที่อาจเกิดปัญหาที่อยู่   นอกเหนือการควบคุมของคนไข้จริง ๆ  และบทบาทหน้าที่ของหมอฟันนั้นควรจะเป็นผู้บำบัดรักษาเมื่อเกิดรอยโรคในช่องปาก หรือเป็นผู้ช่วยให้คนไข้ได้พัฒนาสุขภาพไปสู่สภาวะที่เหมาะสม ...

     ประเด็นนี้คงต้องช่วยๆกันนำกลับไปคิดนะครับ...ว่าทำอย่างไร...เราถึงจะทำการสร้างสุขภาพให้แก่คนไข้ได้....ไม่แค่เพียง"ซ่อมสุขภาพ"....เมื่อคนไข้กลับมาพบเรา...ทุกๆ 6 เดือน...

หมอบอล,9ต.ค.48

คำสำคัญ (Tags): #uncategorized
หมายเลขบันทึก: 5136เขียนเมื่อ 9 ตุลาคม 2005 11:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน 2012 21:24 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ลูกชายอายุ 6 ปีค่ะ อยากพาเขาไปพบหมอฟันบ้าง แต่กลัวน้องจะกลัวหมอ พยายามโน้มน้าวชวนเขาอยู่เรื่อย ๆ  ดูตอนนี้เริ่มอยากไปหาหมอคลีนิคแล้ว ปกติที่โรงเรียนน้องก็มีหมอฟันมาที่โรงเรียนทุก 6 เดือน ก็จะมีการเคลือบฟลูออไรด์แบบชนิดเจลกัดที่เป็นสีฟ้าน่ะค่ะ น้องบอก แต่เห็นใบรายงานมีเขียนบอกน้องฟันผุหลายซี่ด้วย

อยากทราบว่าเคลื่อบหลุมร่องฟัน นี่คิดเป็นซี่ใช่ไหมค่ะ แล้วตกละซี่ละเท่าไรค่ะ ขอบคุณค่ะ

พอดีได้เข้ามาอ่านเวบนี้แล้วชอบค่ะ ให้ความรู้ที่มีประโยชน์ดีมากเลย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท