ปุจฉา จากผู้ดูแลทีมงานซึ่งต้องถอดบทเรียน......
เรียนคุณหมอชาตรีค่ะ
คุณหมอคะ พี่ขออนุญาตปรึกษาเรื่อง ความเป็นไปได้ในการที่ทาง
คณะสนับสนุนการเรียนรู้ ฯ จะจัด workshop เพิ่มสมรรถนะในการ
ทำงานให้กับทีมงานของแผนงานต่าง ๆ โดยเฉพาะที่ต้องการมาก
คือเรื่อง การถอดประสบการณ์ หรือการถอดบทเรียนรู้ (lesson
learned) ไม่ทราบว่า ทางคุณหมอพอจะจัดให้ได้ไหมค่ะ และอาจ
จะจำเป็นต้องทำการสำรวจความต้องการเพิ่มเติมด้วยค่ะ (นอกเหนือ
จากคนที่เคยแจ้งความจำนงเข้ามาแล้ว)คงได้รับคำตอบจากคุณหมอนะคะ
วิสัชนา...........ดังต่อไปนี้
เรียน ท่านอาจารย์
ประเด็นที่ท่านเสนอมานั้นสำคัญต่อการเอื้อ+อำนวย ให้เกิดปัญญา
ตามปรัชญาแนวทางของ external reviwer และ สรพ. ปัญหาคือ how
ผมเองตอนนี้มิได้เล่นตัว แต่กำลังวิ่ง supply need ของทีมนั้นบ้าง
ทีมนี้บ้าง
จนไม่มีเวลาทำ reflection เป็นปวารณาของผม
และเป็นวินัยของกรรมกรทางปัญญา ที่ต้องมี dialoque with self
อย่างที่กฤษณะมูรติชี้ทางไว้ ตอนนี้หลุดจากวงนี้ไปวงนั้น
ผมเองเพียงไปสร้างความสนใจเพิ่มใสสัน แต่ถ้าต้องการเจียรนัยปัญญา
นั้นน่าจะเริ่มเป็นขั้นเป็นตอน ดังนี้ครับ
1. บอกทีมประสานทั้งหมดว่า
การถอดบทเรียนเป็นอะไรที่มากกว่าการสรุปการประชุม
เพราะการถอดบทเรียนต้องมีทั้งด้านการถอดความสำเร็จเพื่อทำซ้ำแล้วขยายผล
รวมถึงบทเรียนแห่งความพลาดเพื่อเตือนไม่ให้ตกหลุมพลางนั้นซ้ำอีก
2. การถอดบทเรียนต้องเริ่มจาก
ความมุ่งมั่นที่จะถอด+ทดลองถอดบทเรียนออกมาเป็นการเล่าเรื่อง
สองอย่างนี้ต้องเป็นปาท่องโก๋ ขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้
จะเล่าสนุกหรือไม่สนุกไม่เป็นไร แต่ต้องเล่าผ่านตัวอักษร
3. การคัดเลือก ศิษย์ที่ "หัวไว+ใจสู้" เพื่อผ่านกระบวนการ
"หลอมและตี" จนได้เหล็กกล้า ได้มีดคม
4. หาพื้นที่ให้เกิดการแลกเรื่องเล่า ผมใช้ http://c4hnews.gotoknow.org
เป็นพื้นที่เล่าและแลก
5. ผมเชื่อในธรรมะจัดสรร เราต่างช่วยกันจัดแจงข้อ 1-4 ข้อ
5..6..7ธรรมะจะจัดสรรเองครับ
ผมขออนุญาตนำจดหมายเปิดผนึกนี้เวียนบอกกัลยาณมิตร และจะนำไปโฟสต์ใน
http://c4hnews.gotoknow.org
เพราะเนื้อความนี้น่าจะสร้างประโยชน์สาธารณะได้อย่างมาก
รัก+ศรัทธา
ชาตรี เจริญศิริ
การถอดบทเรียนนั้นคืออะไร
1.เวลาทำกิจกรรมไปแล้ว ในการทำงานร่วมกัน มักมีคำว่า"สรุปบทเรียน ถอดบทเรียน"ที่เราใช้กันเลย แต่ไม่ได้ตกลงร่วมกันว่าคือ อะไรจริงๆ
2.ที่เราจะพูดนี้ ก็ใช่ว่า เป็นสัจจธรรม แต่เป็นคิดเห็น เราคิดว่า คำว่า "สรุปบทเรียน กับถอดบทเรียน มีจุดร่วม แต่ีจุดต่างมากเหมือนกัน
3.จุดร่วม คือ เป็น"การทวนทบขบคิด" ใน"ส่งที่ทำลงไปเหมือนกัน" อาจจะเป็นระดับ"ส่วนตัว"หรือ "ส่วนรวม"ก็แล้วแต่ แล้วอาจเพิ่มมูลค่าว่า "เราเรียนรู้อะไรบ้าง"
4.แต่"สรุปบทเรียน เป็นการเรียนรู้แบบ personal reflection ฐานความรู้ที่ใช้"ตีความหมาย" เป็น past experience
แต่การถอดบทเรียน เป็นการทบทวนด้วย theoretical reflection ดังนั้น ต้องใช้ฐานความรู้เชิงทฤษฎี(นักทฤษฎีเคยใช้ในเรื่องการทำโมเดล)
5.การถอดบทเรียน เป็นกระบวนกลับกันของการประยุกต์แนวคิดไปใช้ในภาคปฏิบัติ ความสัมพันธ์ระหว่าง "ขาไป"กับ "ขามา" ระหว่างแนวคิดกับการปฏิบัติ เริ่มจากมี"แนวคิด" แล้วนำไป"ประยุกต์ปฏิบัติ" แต่การถอดบทเรียนเป็น"ขากลับ " คือหลังจาก "ปฏิบัติแล้ว" จะยกระดับมาเป็น "แนวคิดทฤษฎี"ได้อย่างไร
คล้ายๆแนวคิดเรื่อง "การสร้างทฤษฎีจากฐานราก"(grounded theory)ของการวิจัยเชิงคุณภาพ ขากลับนี้ ยากกว่าขาไปอีกหลายร้อยเท่า
6.และความจำเป็นการถอดบทเรียน ก็คือ เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในเงื่อนไขอื่นๆที่ต้องอาศัยการทำให้เป็นนามธรม(process of abstrction) แบบที่เราเคยเล่าเรื่อง เส้นประสาทอยู่ที่ปลายเท้า
เพื่อที่จะสกัด"ตัวแปรที่ไม่จำเป็นออกไป " เวลาประยุกต์ในสถานการณ์ใหม่ จึงจะใช้การได้(การเลียนแบบนั้นทำไม่ในทุกกรณี เพราะเงื่อนไขใหม่ ไม่มีตัวแปรที่ต้องการทั้งหมดเช่นกรณีแรก)
แลกเปลี่ยนมาแค่นี้ก่อนคะ
กาญจนา