แต่ยังมีคุณค่าทางยาแอบแฝงอยู่อีกด้วย ผักเป็นอาหารที่มีคุณค่ามากชนิดหนึ่ง
เพราะมีสารอาหารที่ร่างกายต้องการ เช่น เกลือแร่ วิตามิน อยู่เป็นจำนวนมาก
สารบางอย่างจะมีเฉพาะในผักเท่านั้น สิ่งสำคัญที่พบมากในผักทุกชนิดคือ
"กากใย" (Fiber) ซึ่งเป็นส่วนที่ย่อยไม่ได้และไม่ให้พลังงาน
การรับประทานพืชผักตามธาตุเจ้าเรือนในทฤษฎีแพทย์แผนไทย
พืชผักสำหรับคนธาตุดิน
คือ คนที่เกิดเดือน 11 12 และ 1 หรือเดือนตุลาคม พฤศจิกายน และธันวาคมรสฝาดหวาน มัน
และเค็ม เช่น ถั่วต่างๆ เผือก หัวมันเทศ ฟักทอง กล้วยดิบ ยอดมะม่วงหิมพานต์
ยอดมะยม สมอไทย กระถินไทย ผักหวาน ขนุนอ่อน สะตอ ผักโขม โสน ขจร ผักเซียงดา
ลูกเนี่ยงนก บวบเหลี่ยม บวบงู บวบหอม เป็นต้น
พืชผักสำหรับคนธาตุน้ำ
คือ คนที่เกิดเดือน 8 9 10 หรือ หรือเดือนกรกฎาคม สิงหาคม และกันยายนรสเปรี้ยว เช่น
มะนาว ส้ม สับปะรด มะเขือเทศ มะยม มะกอก มะดัน กระท้อน ชะมวง ผักติ้ว ยอดมะกอก
ยอดมะขาม มะอึก มะเขือเครือ มะแว้ง เป็นต้น
พืชผักสำหรับคนธาตุลม
คือ คนที่เกิดเดือน 5 6 7 หรือเดือนเมษายน พฤษภาคม และมิถุนายนรสเผ็ดร้อน เช่น
ขิง ข่า ตะไคร้ กระชาย พริกไทย โหระพา กะทือ ดอกกระเจียว ขมิ้นชัน ผักคราด ช้าพลู
ผักไผ่ พริกขี้หนู สะระแหน่ หูเสือ ผักแขยง ผักชีลาว ผักชีล้อม ยี่หร่า สมอไทย
กานพลู เป็นต้นพืช
ผักสำหรับคนธาตุไฟ
คือ คนที่เกิดเดือน 2 3 4 หรือเดือนมกราคม กุมภาพันธ์ และมีนาคมรสขม เย็น และจืด
เช่น ตำลึง ผักบุ้ง ผักกระเฉด ผักกระสัง สายบัว ผักกาดจีน มะระ ผักปรัง มะรุม
มะเขือยาว กระเจี๊ยบมอญ สะเดา ยอดฟักทอง มะเขือยาว กุยช่าย ฟักแฟง เป็นต้น
ทุกคนควรรับประทานอาหารและพืชผักหลากรสเพื่อบำรุงธาตุ แต่ต้องเน้นธาตุเจ้าเรือนและธาตุที่เป็นจุดอ่อนสำหรับตัวเรา
ซึ่งอาหารไทยนั้นมีหลายรสและสามารถปรับให้สอดคล้องกับธาตุเจ้าเรือนหรืออาการของโรคได้เป็นอย่างดี
เช่น
- รสฝาด
มีสรรพคุณแก้ในการสมานแผล แก้ท้องร่วง บิด บำรุงธาตุ เช่น ยอกจิก
ยอดมะม่วงหิมพานต์ ยอดฝรั่ง ผักกระโดน ยอดเสม็ด เป็นต้น
- รสหวาน
มีสรรพคุณซึมซาบไปตามเนื้อ ทำให้ชุ่มชื้น บำรุงกำลัง แก้อ่อนเพลีย แต่ทานมากเกินไปจะแสลงโรคเบาหวาน
เสมหะเฟื่อง แสลงบาดแผล เช่น เห็ด หน่อไม้ ผลฟักข้าว ผักขี้หูด เป็นต้น
- รสมัน
มีสรรพคุณแก้เส้นเอ็นพิการ บำรุงไขข้อ บำรุงเส้นเอ็น บำรุงเยื่อกระดูก
เป็นยาอายุวัฒนะ เช่น สะตอ เหนียง บัวบก ขนุนอ่อน ถั่วพู ฟักทอง เป็นต้น
- รสเปรี้ยว มีสรรพคุณแก้ทางเสมหะ
ฟอกโลหิต ระบาย เช่น ยอดมะขามอ่อน ยอดชะมวง มะเฟือง มะเขือเทศ เป็นต้น
- รสขม
มีสรรพคุณบำรุงโลหิตและน้ำดี เช่น มะระขี้นก ยอดหวาย ดอกขี้เหล็ก ใบยอ สะเดา
ผักโขม ยอดมะรุม เป็นต้น
- รสเผ็ดร้อน
มีสรรพคุณแก้ลมจุกเสียดแน่นเฟ้อ ขับผายลม บำรุงธาตุ เช่น ใบแมงลัก ใบโหระพา
ใบช้าพลู ขิง ข่า ขมิ้น เป็นต้น
อ่านจบแล้วรู้สึกอยากจะกินผักขึ้นมาไหมคะ ผักนั้นมีประโยชน์อย่างมากมาย อีกทั้งยังหาได้ง่ายตามบ้านเรือนของเราและเราก็ยังสามารถปลูกรับประทานเองได้ ปลอดภัยไร้สารด้วยนะคะ
กินผักกันเยอะๆๆนะคะ ร่างกายเราจะได้เเข็งเเรง
ขอบคุณข้อมูล ความรู้ดีๆ จาก http://www.yingthai-mag.com/detail.a...ytauthorid=279
ร่วมสบับสนุนให้กินผักกันครับ
กินผักเป็นอาหารหลัก ส่วนเนื้อเป็นอาหารรอง เเค่นี้ก็มีสุภาพที่ดีเเล้ว ลดการเบียดเบียนด้วย ^_____^
ใช่แล้ว...เราเห็นกานต์ชอบซื้อผักมาลวกกินเฉยๆๆด้วยแหละ เห็นตัวเล็กๆร่างกายแข็งแรงมาก
ชอบกินผักนะคะ ขอบคุณค่ะ
กินผักกันเยอะๆเพื่อสุภาพที่ดีของตัวเราเองนะคะ
กินเเล้วช่วยในเรื่องระบบทางเดินอาหาร