☺ผู้กล้า


ผู้กล้า

  ผู้ที่ต้องการความสุขในการดำเนินชีวิตและได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักนั้น ย่อมได้ชื่อว่าเป็นผู้กล้า ผู้กล้าจะต้องกล้าคิดกล้าทำและกล้าที่จะเดินไปข้างหน้าบนเส้นทางที่ตนเองใฝ่ฝันและเห็นว่าถูกต้องเหมาะสมดีแล้วที่จะทำ ถึงแม้ว่าคนรอบข้างจะคัดค้านและไม่เห็นด้วยก็ตาม ยกตัวอย่างเช่นการเลือกเรียนในสาขาวิชาที่ตนเองชอบและมีความถนัดหรือการเลือกทำงานที่ตนเองรักและใฝ่ฝันหรือกล้าที่จะปฎิเสธถึงสิ่งที่เราไม่มีความสุข หลายครั้งที่เรายอมสูญเสียความสุขเพียงเพราะไม่อยากขัดอกขัดใจคนอื่นเราจึงไม่กล้าที่จะปฏิเสธคนอื่น กลัวว่าคนอื่นจะรับไม่ได้ ทั้งที่จริงๆแล้วเรื่องบางเรื่องมันเป็นเรื่องธรรมดาที่ไม่จำเป็นจะต้องกลัวคนอื่นไม่เข้าใจเรา หรืออาจเป็นเพราะกลัวว่าเราจะถูกคนอื่นปฎิเสธเราเช่นกันในโอกาสต่อไป เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วเราจึงต้องสูญเสียความสุขและความเป็นตัวเองไปเพื่อแลกกับการที่ไม่กล้าปฎิเสธนั้นเอง

  คนเราเมื่อได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักก็จะมีความสุข มีความภาคภูมิใจและสามารถทำในสิ่งที่ตนเองปรารถนาให้ประสบกับความสำเร็จได้โดยมีแรงกระตุ้นจากจิตใต้สำนึกภายในของตนเองให้พยายามทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด มีความมั่นใจและกล้าที่จะเดินในเส้นทางของตนเอง กล้าที่จะมุ่งหน้าฟันฝ่าอุปสรรคเพื่อก้าวสู่จุดหมายปลายทางของความสำเร็จในแบบฉบับของผู้กล้าให้ได้ เพียงแค่ใช้ความกล้าหาญและความจริงใจหาให้ได้ว่าเราเองมีความชอบหรือมีความถนัดทางด้านใดเป็นพิเศษ จากนั้นให้เราดึงพรสวรรค์ที่ซ่อนอยู่ในตัวเรามาใช้ให้เกิดประโยชน์ให้มากที่สุด

  ทุกคนต่างก็มีความใฝ่ฝันและมีอุดมการณ์ด้วยกันทั้งนั้น ฉะนั้นจึงควรใช้อุดมการณ์และความใฝ่ฝันนำทางไปสู่ความสำเร็จในชีวิตตามแบบฉบับของผู้กล้า พร้อมก้าวไปข้างหน้าอย่างมานะบากบั้น พยายามทำสิ่งที่ตั้งใจไว้ให้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาให้ได้ แม้ว่าเราจะต้องพบกับปัญหาอุปสรรคล้มลุกคลุกคลานบ้าง ล้มเหลวบ้างก็ขอให้เดินหน้าต่อไป อย่าหมดกำลังใจอย่าท้อแท้ท้อถอยและสิ้นหวัง อย่าคิดว่าตนเองนั้นพ่ายแพ้แต่จงคิดว่าเราคือผู้กล้าที่สามารถต่อสู้และดิ้นรนเพื่อนำชัยชนะมาให้ได้ เพราะความสำเร็จถูกกำหนดขึ้นมาจากความพ่ายแพ้ครั้งแล้วครั้งเล่าของเรานั้นเอง ดังนั้นจงเห็นอุปสรรคเป็นเรื่องปกติที่จะต้องฝ่าฟันเพื่อชีวิตที่มีความแข็งแกร่ง อดทน เก่งกล้าขึ้น และสุดท้ายก็จะทำให้ได้รับผลดีตามมา

  คุณลักษณะของผู้กล้าที่จะพูดถึง ณ.ที่นี่หมายถึง กล้าคิดกล้าทำและกล้าที่จะหวังถึงแม้ว่าความหวังคือสิ่งที่มองไม่เห็นและเป็นนามธรรมที่จับต้องไม่ได้ แต่ทว่าเป็นเงาอยู่ราง ๆ พอให้ได้มีกำลังใจที่จะวิ่งตามไปให้ถึงฝันนั้นเอง บางคนอาจคิดว่าความฝันของคนเรานั้นเหมือนแสงตะวันยามเช้า นุ่มนวล อบอุ่น ละมุนละไม ไม่ร้อนแรงจนแผดเผาเราให้ทุรนทุรายจนเกินไป เพื่อที่จะได้เรียนรู้ว่าวันนี้เราจะก้าวเดินไปแห่งหนใดพบเจออะไรมา ร้องไห้ เสียใจ ยินดี ก็เพื่อที่จะได้นอนหนุนความฝันและตื่นขึ้นมาเจอความหวังไปกับเราในทุก ๆ วันค่ะ เราเรียกผู้กล้านี้ว่ากล้าที่จะฝันหรือเป็นผู้ที่มีความหวังอยู่เสมอ

  คนเรานั้นสิ่งที่ต้องการมิใช่แค่เพียงอาหารที่มาหล่อเลี้ยงร่างกายแต่เพียงอย่างเดียว แต่เรายังต้องการอาหารทางใจด้วยเพื่อหล่อเลี้ยงจิตใจของเรา ดังนั้นจงฝันถึงในสิ่งดีงาม เพื่อช่วยเป็นน้ำหล่อเลี้ยงจิตใจของเราให้กระชุ่มกระชวยและมีความฝันที่เป็นความหวังอยู่เสมอ ฝันของผู้กล้าส่วนใหญ่มักเป็นฝันที่ยิ่งใหญ่และดีงามเสมอ เพราะความฝันเป็นเป้าหมายของอนาคต ที่ผู้กล้าจงฝันที่จะเป็นคนดีที่เฉลียวฉลาดมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และฝันที่จะได้ทำประโยชน์ให้ผู้อื่นและสังคม มีชื่อเสียงเกียรติยศ และได้รับการยกย่องเชื่อถือจากคนทั่วไปและเป็นที่ยอมรับของสังคม มีความก้าวหน้าในหน้าที่การงานเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตด้วยลำแข้งของตนโดยไม่เบียดเบียนความดีของผู้อื่น เสียสละตนเพื่อความสำเร็จของสังคม

ซึ่งเราจะประสบผลสำเร็จหรือไม่นั้นมันคงต้องรอคอย โดยใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานที่สุดและการรอคอยนั้นในความรู้สึกแล้วทั้งรำบากยากเข็ญ และทุกข์ทรมานเหลือเกินเพราะเวลามันผ่านไปอย่างเชื่องช้า จากวันกว่าจะกลายเป็นเดือนจากเดือนกว่าจะกลายเป็นปี และจากปีกว่าจะกลายเป็นสี่ปี ห้าปี หกปี ทำไมยาวนานเหลือเกิน แล้วเราจะรอคอยไหวไหมเนี่ย การรอคอยที่ต้องใช้เวลา เราอาจจะสมหวังบ้าง หรือผิดหวังบ้าง ตามเหตุผลและปัจจัย จึงมีคำตามมา คือ อย่าสิ้นหวัง นั่นก็หมายถึง หากเรามีความหวัง เราก็ต้องมีกำลังใจควบคู่กันไปด้วย ถ้ากำลังใจเข้มแข็งก็อาจจะทำให้เราถึงจุดหมายตามประสงค์ไว้

มีคำกล่าวที่ว่า ชีวิตจะเป็นเช่นไรขึ้นอยู่กับกำลังใจและความเชื่อของเรา ถ้าไม่มีความเชื่อก็จะไม่มีความฝันหรือไม่คิดมุ่งมั่นอะไรเลย คนเช่นนี้อยู่ไปวันๆเหมือนคนอ่อนแอ ขี้ขลาดขี้แพ้ อยู่อย่างคนสิ้นหวังและกำลังใจ ไม่มีความฝันที่เป็นความหวังเสมอเมื่อไม่มีฝันก็จะไม่ความหวังที่เป็นความกล้า ก็จะพบกับความอ่อนแอขี้ขลาดขี้แพ้ไม่กล้าแม้แต่จะก้าวเดิน คนเราจะอยู่ได้อย่างไรถ้าหัวใจปราศจากความฝัน การเปลี่ยน Change เท่านั้นที่จะนำพาคนขี้ขลาดเหล่านี้ให้กลายเป็นผู้กล้า ดังนั้นจงเปลี่ยนแปลงที่จะมีความใฝ่ฝัน มีจินตนาการ และสร้างกำลังใจให้กับตนเองเพื่อเป็นแรงขับในชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม จงเปลี่ยนความไม่กล้าให้มาเป็นความกล้า จงมองให้เห็นความดีของตัวเองให้เด่นชัดในบางเรื่องและฝันถึงภาพแห่งความสำเร็จเสมอ เพราะภาพนั้นจะทำให้จิตใจเราเบิกบานมีกำลังใจที่จะกล้าเปลี่ยนแปลงเพื่อที่จะก้าวเดิน จงเปลี่ยนความไม่กล้าที่ขี้ขลาดของเราให้เป็นความกล้า โดยให้คิดซ้ำๆว่าตัวเองเป็นคนดีเป็นคนเก่งและสามารถสร้างสรรค์สังคมได้ด้วยหนึ่งสมองและสองมือของตัวเราเอง ลบความขี้ขลาดนั้นออกไป ด้วยความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และฝันที่จะได้ทำประโยชน์ให้ผู้อื่นและสังคมได้ด้วยฝันที่ยิ่งใหญ่ตามแบบฉบับของผู้กล้าของเรานั้นเอง 

 

คำสำคัญ (Tags): #jica#มณีเทวา
หมายเลขบันทึก: 512531เขียนเมื่อ 18 ธันวาคม 2012 14:41 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 ธันวาคม 2012 14:41 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

เขียนได้ยาวมากๆเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ แล้วฉันจะพยายามเปลี่ยนนะคะ เปลี่นยๆๆๆค่ะ

ขอบคุณแนวคิดดีๆนะคะพี่...ป.ล. ชอบจัง


ขอบคุณนะคะคุณหมูหวานและคุณเดือนดาว ยินดีแบ่งปันค่ะ


พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท