490. เมื่อผมค้นพบ "เวลา"


ประสบการณ์การบวชของข้าพเจ้าที่วัดป่าธรรมอุทยาน จังหวัดขอนแก่น (ตอนที่ 7)

 

วันนี้ผมอยากพูดถึงมิติของเวลามากๆครับ ด้วยว่าสังคมสมัยนี้เราเจอแต่ความรีบเร่ง ดูเหมือนทุกคน รวมผมเอง ยิ่งทำงาน ยิ่งต้องรับผิดชอบ เวลาดูเหมือนน้อยลงทุกที จนเจอคนบอกว่า ไม่มีเวลาอยู่บ่อยๆ  เวลามันจึงดูขาดแคลนมากๆ โดยเฉพาะเมื่อพูดถึงการบวช... ผมก็เคยตั้งคำถามแบบเดียวกับ แล้วก็ปักใจตอบมากว่า 22 ปี หลังอายุครบบวช ว่า "ไม่มีเวลา" แถมใครๆก็พูดว่า “ บวชสามเดือนทำไม..นานจัง..เป็นผมทำไม่ได้หรอก ไม่ได้ว่างมากขนาดนั้น” 

คำถามคือ "เวลาเราหายไปไหน"

                 

 

               Credit:http://zoeytaylor.deviantart.com/art/Sea-Come-To-Me-211265123

 

เมื่อปีก่อน ผมตั้งใจจะบวชเพียง 15 วัน... มีเวลาให้เท่านั้นจริงๆ ทำงานแล้ว มีครอบครัวแล้ว มันแสนยุ่งนะ งาน การบรรยายนี่ขอโทษ ถ้าไปนี่ไม่ใช่เราคนเดียวครับ กระทบกันไปหมด แค่นั้นยังไม่มีเวลาเลยครับ ตกลงปีนั้นก็ไม่ได้บวช

แต่ปีต่อมาผมได้ใช้เวลากว่าสามเดือน ได้บวชในปี "พุทธชยันตี" คือครบรอบปีทีี่ 2,600 แห่งการตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นปีที่มีความหมายในแง่ของ "เวลา" ที่สุดปีหนึ่งของชาวพุทธ

มาพรรษาที่ผ่านมา ผมตัดใจบวชไปสามเดือนเลย จากความเดิมตอนที่แล้ว ด้วยป่วยแทบเอาตัวไม่รอด คนที่มาอยู่ไกล้ พาเราเข้าห้องน้ำ เป็นห่วงแทบขาดใจ ก็แม่ก็พ่อของเรานี่แหละ (อายุ 67) กันแล้ว ดูแลเรามานาน อายุ 42 แล้วยังต้องมาดูแล เราเหมือนเด็กทารกอีก บวชให้สักสามเดือนนี่ไม่นาจะนานนะ...แม่อุ้มท้องมาตั้งเก้าเดือน...นี่ก็อายุมาก เดี๋ยวก็เข้า 70 กันจะไปไหนลำบาก..ก็เลยบอกท่านไปว่าจะบวชให้สามเดือน ท่านดีใจกันมากๆ บอกว่าท่านมีบุญ ที่ลูกคิดได้อย่างนี้..

อ้อพึ่งรู้ตอนนี้เอง ว่าท่านไม่พูด แต่ท่านแอบหวังกันลึกๆ คุณพ่อคุณแม่ผมไม่เคยทวงว่านี่ เกิดมาเป็นลูกต้องบวชให้ แค่ไหนก็เอา ไม่ทำเลยก็ไม่ว่า..เพราะเข้าใจว่าลูกไม่มีเวลา...ในขั้นนี้ผมเริ่มแน่ใจแล้วว่า การที่ผมคิดให้เวลากับพ่อแม่ที่อายุมากๆแล้ว เป็นการวางแผนการใช้เวลาที่น่าจะคุ้มค่าที่สุด เพราะ "เวลาของเราน้อยลงแล้ว" อีกไม่นาน คงเริ่มไปไหนมาไหนลำบาก เมื่อมองถึงมิติด้านนี้ ปริมาณของมันลดลงอย่างน่าใจหาย จนไม่แน่ว่าเวลาของเราสามคน (พ่อแม่ลูกชาย) จะหมดลงเมื่อไหร่ นี่แหละครับ คำถามที่ผมถามตัวเอง แล้วตอบไม่ได้ว่ามันจะหมดเมื่อไหร่ ผมคิดได้อย่างเดียวว่า ต้องตอบโจทย์นี้ อย่างดีที่สุด ไม่ใช่ 15 วันอย่างที่เคยคิด แต่ว่ากันสามเดือนเลย คำถามที่ตามมาอีกคือ จะเกิดอะไรขึ้นกับทุกอย่างรอบตัวเรา ไม่ว่าจะงาน อนาคต ผมไม่รู้  นี่ครับไม่รู้อีกแล้วคำตอบ แต่ก็ตัดสินใจแล้วอะไรจะเกิดก็เกิด ตอนนี้เวลามีไม่มีไม่รู้ เพราะที่สุด ก็มีมันจนได้

....

แล้วคำตอบก็เผยตัวออกมาเอง อะไรจะเกิดหรือ  เริ่มตั้งแต่แรกครับ พอคิดจะบวชจริงจัง  พอมาเคลียร์งาน ปรากฏว่าความเป็นชาวพุทธ นี่ออกมากันเลยครับ ไม่มีใครขวางเราเลย ทุกคน ตั้งแต่คณบดี ยันเพื่อน ลูกศิษย์ต่างช่วยกันถางทาง เบิกทางให้หมด ไอ้ที่คุณคิดว่าจะเสีย จะทำให้คนอื่นที่ทำงานร่วมกับเราวุ่นวายนั้น ไม่ใช่เลยครับ ทุกคนเปิดทางให้หมด งานเลื่อนออกไปสามเดือน หลักสูตรอะไรที่รับปากจะไป ก็มีการจัดระบบใหม่ กลายเป็นหลักสูตรแนวคิดใหม่ ที่ทิ้งช่วงไว้สามเดือน เพื่อกลับไปดูความงอกงาม ความเติบโต ของเมล็ดพันธ์ที่เราหว่านกันไว้ งานอะไรถ้าค้าง ก็จะมีคนประสานงาน มีลูกศิษย์เอามาที่วัด คนที่เกี่ยวข้องจะเป็นธุระ จะจัดระบบให้เราเอง เพื่อนผมคนหนึ่งไปบวชที่วัดป่าถ้ำสหาย ที่ไกลจากขอนแก่น แถมเดินทางยากลำบากมาก เพราะอยู่หลังเขาเลย บวชอยู่สามเดือน ไม่มีโทรศัพท์ด้วย ก็สามารถจัดการทุกอย่างได้เรียบร้อย ราบรื่น เวลาที่เราคิดว่าจะขาดแคลนนักหนานั้น ไม่จริงเลยครับ ไม่ได้ขาดแคลนเลย นี่ไงสิ่งที่จะเกิดขึ้น

....

แถมได้คำตอบเพิ่มมาอีกครับ คือ การคิดเอาเองว่าไม่มีเวลานั้น ผมจึงเคยคิดผิดมาก่อนครับ จากประสบการณ์ของตนเอง ของคนที่บวชด้วยกัน และเพื่อนต่างวัด ก็ต่างบอกเหมือนกันว่า ทุกอย่างลงตัว ราบรื่น ไม่มีติดขัดครับ และถ้าห่วงว่าจะต้องมีค่าใช้จ่ายอะไร โน่น นี่ นั่น ไม่ต้องห่วงครับ มีเพื่อนผมคนหนึ่ง พึ่งตัดสินใจได้ เขาเป็นชาวบ้านครับ ก็เดินเข้าวัดตอนดึก วัดนี่มืดหมดแล้ว เจอหลวงพ่อรออยู่ครับ หลวงพ่อก็บอกว่าพรุ่งนี้บวชเลย ท่านก็มาบวชพร้อมกับพวกเรา คนพุทธใจบุญครับ อัฐบริขารนี่พร้อมอยู่แล้ว เพียงเรามีใจ ทุกอย่างมาเอง เดินเข้าไปเดี๋ยวนี้ (ถ้าทางบ้านอนุญาตแล้ว) ไม่ต้องมีงานฉลองอะไรครับ มาเลย ทุกอย่างจะเกิดขึ้นเอง ราบรื่นตั้งแต่ต้นจนจบครับ...ธรรมะจัดสรรมีจริงครับ

 


                    

(ผมได้ใช้เวลาระหว่างบวชพา "พาคุณพ่อคุณแม่" สร้างบุญ เช่นในภาพ พาท่านไปร่วมติดกระเบื้องที่ชายจีวรพระศรีอริยเมตไตร ที่วัดป่าธรรมอุทยาน จังหวัดขอนแก่น เป็นเวลาที่ท่านทั้งสองปลื้ม และมีความสุขมากๆ) 

 

เลยมาถึงบทสรุปของเวลาครับ

เราคิดว่าไม่มีเวลา จริงๆแล้วไม่มีเวลาจริงๆ 

นี่คือเรื่องของความตาย ความไม่แน่นอนในชีิวิตที่เกิดได้ทุกช่วง และถึงแม้คุณคิดได้ มันก็อาจมาพรากสิ่งที่คุณรักได้ แบบที่คุณไม่ทันตั้งตัว เช่นกรณีของเพื่อนผมที่บวชด้วยกัน ก็พบว่าก่อนบวชหน่อยเดียว คุณแม่เข้าโรงพยาบาล และป่วยหนักมางานบวชไม่ได้ ต่อมาก็พบว่าเป็นมะเร็งในสมองและเสียชีวิตระหว่างบวชนั่นเอง  แต่ระหว่างอยู่โรงพยาบาล ท่านก็ปลื้มใจตัวลูกชายมาก ดังนั้นอะไรที่เกี่ยวกับคนที่คุณรัก อย่ารอครับ ไม่รู้หรอกเขาจะไปวันไหน ทำได้ทำไปเลยครับ ทำเมื่อพร้อมหน้าพร้อมตากันนี่แหละ 

เราคิดว่าไม่มีเวลา จริงๆแล้วมีเวลา

ประเด็นนี้เช่นเรื่องราวของผมและหลายคน เป็นการคิดไปเองครับ จริงๆแล้ว สังคมเราเปิดทางบุญให้กับผู้ต้องการไปทำอะไรดีๆเสมอ แม้กระทั่งคนที่เรากำลังมีเรื่องมีราวอยู่ ศัตรูเก่า เจ้ากรรมนายเวร ก็จะถือโอกาสอนูโมทนาครับ นั่นคือการเปิดทางให้คุณ (เรื่องขออโหสิกรรม จะเป็นปรากฏการณ์หนึ่ง ที่จะเขียนเล่าต่อไปครับ) 

เราคิดว่ามีเวลา แต่จริงๆแล้วไม่มีเวลา

ประเด็นนี้นี้เป็นเรื่องของความเป็นไปในชีวิต ที่เห็นดีๆกันอยู่ เช่นผมเองผมก็รู้สึกว่าพ่อแม่ก็อายุมากแล้ว แต่เดิมก็คิดจะบวชตั้งแต่ 20 ปีที่แล้ว ก็เลื่อนมาเรื่อย เพราะเราคิดว่าเวลายังมี เผลอแผล๊บเดียว อายุเข้ากลางคน พ่อแม่ก็เริ่มชราลงมากๆ เรียกว่าโชคดีที่ผมบวชทัน ถ้าไม่ทัน โอกาสที่จะเห็นภาพดีๆ เช่นพ่อแม่มาใส่บาตร มานั่งภาวนาตอนเช้า อาจไม่มีโอกาสได้เห็นอีกแล้วในภพชาตินี้  

เราคิดว่ามีเวลา และก็มีเวลาจริงๆ...

ลองออกจากพื้นที่สบาย (Comfort Zone คอมฟอร์ท โซน) ของคุณ ตัดสินใจทำเรื่องดีๆ เพราะคิดว่ามีเวลา และจัดการได้ ไม่ต้องห่วงครับ คุณจะพบกับความราบรื่น เพราะไม่ว่าจะสังคมไหน การเห็นคนไปบวช การสนับสนุนคนให้ได้บวชเป็นอะไรที่คนไทยลึกๆ แล้วสนับสนุนคุณครับ คุณจะพบว่าทุกอย่างมีการจัดระบบ ให้ลงตัวได้อย่างน่ามหัศจรรย์ ไม่ว่าจะเป็นใครที่ไหน มีหรือไม่มีครอบครัวแล้วก็ตามครับ

ในมุมมองของผม มนุษย์ไม่ได้ขาดแคลนเวลา เพืยงแต่เราอยู่กับมันจน "ชิน" ผมเองก็ "ชิน" กันมันครับ จนรู้สึกขาดแคลน "เวลา" มาจนวัยกลางคน และเมื่อตัดสินใจทำอะไรบางอย่างเช่นการบวชครั้งนี้ จึงได้รู้จักความหมายใหม่ของเวลา "เวลา" ที่สร้างสิ่งดีๆให้กับตนเอง กับพ่อแม่ กับครอบครัว ที่สำคัญกับตนเองครับ แล้วผมก็รู้ว่า เมื่อผมเริ่มตั้งคำถามกับเวลา  ผมเสี่ยงกระโดดออกมาจากพื้นที่สบายของผมเอง ผมก็เจอเรื่องราวดีๆ ได้ใช้เวลาทำอะไรดีๆ ให้พ่อแม่ที่เวลาในภพชาตินี้ "ลดน้อย ถอยลงทุกที" การใช้"เวลา" ของผมจึงเป็นไปอย่างคุ้มค่ามากๆครับ 

ถ้าด้วยความเคยชินแบบเดิมๆ ผมเคยคิดว่า "ไม่มีเวลา"

 

ตอนนี้ผมค้นพบ "เวลา" แล้วครับ

 

ครับ ก็จบสำหรับวันนี้ เพียงแต่เราประสบการณ์ของตนเองให้ฟัง ลองเอาไปพิจารณาดูนะครับ..

 

หมายเลขบันทึก: 510774เขียนเมื่อ 3 ธันวาคม 2012 08:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มีนาคม 2014 11:47 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

"เวลาของเราน้อยลงแล้ว"

ขอบพระคุณอาจารย์ ที่มาย้ำเตือนสติ ให้ใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า สมกับเวลาที่เหลืออยู่...

ขอบคุณคะอาจารย์ ข้อคิดที่ดี ๆคะ

"จงสนใจในเวลา

แนแท้มนุษย์นั้นอยู่ในการขาดทุน

เว้นแต่คนที่ประกอบคุณงามความดี มีศรัทธาในพระเจ้า" (จากคัมภีร์ อัล กรุอ่าน)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท