สำหรับตัวเองเริ่มมีแท็บเล็ตใช้ก็เพราะต้องการเครื่องมือสื่อสารที่สามารถมองเห็นหน้ากันได้ สำหรับคุณย่าของสามหนุ่มไว้คุยกับหลานๆ เพราะคุณย่าสุขภาพไม่ค่อยดี ไปไหนมาไหนก็ไม่สะดวก พูดส่งเสียงก็ไม่ได้เพราะเจาะคอ พอมีใช้แล้วก็พบว่า ประโยชน์ใช้สอยเขารอบด้านจริงๆ เพราะสะดวกในการพกพา กินไฟน้อย ใช้ได้นาน เทียบกับการที่ต้องแบกโน้ตบุ้คแล้วสะดวกกว่ามาก สามารถบันทึกสิ่งที่คิดจะเขียนรวดเร็ว สิ่งที่อยากอ่านก็สามารถพกพาไปกับตัวได้ เมื่อมีแท็บเล็ตทำให้ติดตามข่าวสาร วิทยาการ บทความได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายขึ้น เวลาเตรียมตัวน้อยลง เพราะเพียงแค่เปิดบนฝ่ามือ ไม่ต้องใช้พื้นที่ ไม่ต้องหาแหล่งจ่ายไฟ
พกเข้าห้องแล็บ เพื่อสอนนักศึกษาก็สะดวก เท่าที่ผ่านมาก็จะพบว่ากว่าครึ่งของนักศึกษาที่ได้สอน มีแท็บเล็ตติดตัวเพื่อการจะบันทึก ถ่ายภาพ ค้นหาข้อมูล สะดวกรวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง
แท็บเล็ตเป็นเครื่องมือที่มีความสามารถหลากหลาย ไม่เพียงเพื่อการศึกษาเท่านั้น แต่หากจะใช้เพื่อความบันเทิงก็เห็นได้มากมาย ภาพที่เราเห็นคนเอามือกวาดไปกวาดมาอย่างเมามันบนจอแท็บเล็ตได้เป็นชั่วโมงๆก็มีอยู่ ฟังเพลง ดูหนัง เล่นเกมส์ สารพัดจะทำได้
เพราะฉะนั้น การจะระบุว่าแท็บเล็ตเพื่อการศึกษาคงไม่ใช่เรื่องที่จำกัดเฉพาะแค่การศึกษาในทางวิชาการเท่านั้น แต่เป็นเครื่องมือสารพัดนึกที่ขึ้นอยู่กับวินัยในตัวเองของผู้ใช้ จะใช้เพื่อการศึกษาอะไร อย่างไร ถ้าเราอยากให้นักเรียน นักศึกษา ใช้แท็บเล็ตเพื่อการศึกษาในช่วงเวลาที่เหมาะสม (นั่นคือถูกกาละเทศะ) เราก็คงต้องสร้างวินัยและจิตสำนึกในหน้าที่ของเขา เหมือนกับเรื่องอื่นๆในชีวิต ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไรที่แตกต่าง ซึ่งวินัยและจิตสำนึกพื้นฐานเหล่านั้นจะเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อเราบ่มเพาะ สั่งสมและทำตัวเป็นตัวอย่างนั่นเอง หากเราเองใช้แท็บเล็ตอย่างเหมาะสมและถูกกาละเทศะไม่ได้ เราก็คงหวังให้เยาวชนคนตัวเล็กๆที่เฝ้ามองคนตัวโตๆแบบพวกเราทำได้เองได้ยาก ทุกอย่างเริ่มจากพื้นฐานที่ดีและตัวเรานี่เองค่ะ
แบบดีกว่าบอก ครับ เริ่มที่ตัวเราเอง
สวัสดีครับ
ผมก็ชอบอ่าน และค้นคว้าทางเน็ต/อ่านหนังสือผ่านจอมานานแล้ว สะดวกและมีประโยชน์มาก เรียนรู้ได้ทุกเรื่องแบบไร้ขีดจำกัด ข้อจำกัดก็อยู่ที่ตัวเรานี่แหละ จนจำไม่ได้ว่าซื้อหนังสือ(ตำรา)ครังหลังสุดเมื่อไร เพราะหากจะต้องอ้างอิงจากตำราก็จะเข้าห้องสมุด อิอิ