ที่มาของจริยธรรมทางการแพทย์เมื่อ 2000 ปี



ฮิปพอคราทีส (Hippocrates) ชาวกรีก ถูกขนานนามว่าเป็น "บิดาแห่งการแพทย์ตะวันตก”

ได้ทำคำสัตย์ที่ใช้สาบานที่จะนำไปเป็นหลักเกณฑ์ของจริยธรรมทางการแพทย์ที่นับว่าเก่าแก่ที่สุดในสมัย 4th Century BC
แพทย์ในยุโรปสมัยนั้น ก่อนที่จะเริ่มประกอบอาชีพจะต้องกล่าวคำปฏิญาณเพื่อเตือนชีวิต

ในปัจจุบันนี้ก็ยังได้นำคำปฏิญาณเช่นว่านี้มาเป็นแนวทางในการกำหนดข้อบังคับทางจริยธรรมในวิชาชีพแพทย์ทั่วโลก
คำสาบานมีว่า.............“..ข้าสาบานต่อทวยเทพว่า ข้าจะเคารพครูผู้ประสาทวิชาเยี่ยงพ่อแม่  มีอะไรก็จะแบ่งให้ครูกินและใช้  จะใส่ใจสอนลูกหลานของครูเหมือนพี่น้องของข้าเอง จะทำการรักษาเพื่อประโยชน์ต่อคนไข้ให้ดีที่สุดเท่าที่ความสามารถและดุลพินิจ ของข้าจะทำได้ จะไม่ทำอะไรให้เกิดผลร้ายแก่คนไข้ จะไม่ให้ยาเบื่อหรือทำให้ใครตายแม้ว่าเขาจะร้องขอ จะไม่เอาอะไรสอดให้ผู้หญิงเพื่อทำแท้ง และไม่สอนให้ใครทำด้วย จะดำรงชีพและประกอบวิชาชีพอย่างซื่อตรง อะไรที่ตัวเองทำไม่เป็นจะไม่ทำ แต่จะละไว้ให้คนที่เขาเชี่ยวชาญกว่าทำ จะเข้าบ้านคนไข้ก็เพื่อประโยชน์ของคนไข้เท่านั้น จะห้ามใจไม่ให้ไขว้เขวหรือยอมตามสิ่งยั่วยวนและจะไม่หาความเพลิดเพลินทาง กามากับคนไข้ ไม่ว่าหญิงหรือชาย เสรีชนหรือทาส จะรักษาความลับของคนไข้ ถ้าข้าทำตามนี้ได้ก็ขอให้ข้าเจริญ ถ้าข้าทำตรงกันข้ามก็ขอให้ข้าฉิบหาย... เพี้ยง” ”

นับว่าเป็นคำสาบานที่แพทย์ทั้งหลายจำได้  ประพฤติปฎิบัติได้ แทบไม่ต้องมี จรรยาแพทย์อะไรมาใช้บังคับอีกเลย

คำสำคัญ (Tags): #จริยธรรม#แพทย์
หมายเลขบันทึก: 507557เขียนเมื่อ 4 พฤศจิกายน 2012 08:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 ธันวาคม 2012 16:12 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)
  • ชอบคำสาบานนี้จังเลยครับ
  • 555
  • ลุงเอกสบายดีไหมครับ
  • .“..ข้าสาบานต่อทวยเทพว่า ข้าจะเคารพครูผู้ประสาทวิชาเยี่ยงพ่อแม่  มีอะไรก็จะแบ่งให้ครูกินและใช้  จะใส่ใจสอนลูกหลานของครูเหมือนพี่น้องของข้าเอง จะทำการรักษาเพื่อประโยชน์ต่อคนไข้ให้ดีที่สุดเท่าที่ความสามารถและดุลพินิจ ของข้าจะทำได้ จะไม่ทำอะไรให้เกิดผลร้ายแก่คนไข้ จะไม่ให้ยาเบื่อหรือทำให้ใครตายแม้ว่าเขาจะร้องขอ จะไม่เอาอะไรสอดให้ผู้หญิงเพื่อทำแท้ง และไม่สอนให้ใครทำด้วย จะดำรงชีพและประกอบวิชาชีพอย่างซื่อตรง อะไรที่ตัวเองทำไม่เป็นจะไม่ทำ แต่จะละไว้ให้คนที่เขาเชี่ยวชาญกว่าทำ จะเข้าบ้านคนไข้ก็เพื่อประโยชน์ของคนไข้เท่านั้น จะห้ามใจไม่ให้ไขว้เขวหรือยอมตามสิ่งยั่วยวนและจะไม่หาความเพลิดเพลินทาง กามากับคนไข้ ไม่ว่าหญิงหรือชาย เสรีชนหรือทาส จะรักษาความลับของคนไข้ ถ้าข้าทำตามนี้ได้ก็ขอให้ข้าเจริญ ถ้าข้าทำตรงกันข้ามก็ขอให้ข้าฉิบหาย... เพี้ยง” ”

คิดถึง ระลึกถึงค่ะ ลุงเอก สบายดีนะคะ ชอบคำสาบานเหมือนน้องขจิตค่ะ ขลังดีจังค่ะ

ครับ Bright Lily คิดถึงทุกคน แต่ห่างหายด้วนมีพื้นที่ในการเดินทาง พื้นที่ในการยืน พื้นที่ในการพูดคุยมากมายเลย ทั้งในและต่างประเทศ จะพยายามหาโอกาศมาหยอดๆใส่ ไปใช้พื้นที่ในไลน์ และเฟสบุ๊คมากมายเลย

ย้อนไปครั้งเมื่อมนุษย์จะเริ่มเป็นแพทย์ ตอนนั้นยังไม่มีผู้ใดทราบว่ามนุษย์มีโครงสร้าง จากผู้สร้าง ที่เป็น มาตรฐานเช่นไร มนุษย์ก็กตัญญู วิงวอน ต่อผู้สร้าง เพื่อจะรักษา คนที่ “รัก” ก่อนอื่นเลย. เลยมีโอกาสได้รับสารต่างๆผ่านหลากหลายช่องทาง เพื่อ การรักษานั่นเอง. แล้วมายุคหลังๆที่มีการรวบรวมความรู้และ บันทึกเป็นสถิติ ก็มีวิชาแพทย์ทางตรงเกิดขึ้นนั่นเอง. สเป็คของมนุษย์ ก็มิได้ถูกเปลี่ยนแปลงจากผู้สร้าง สัญญาในระบบที่จะเกิดมนุษย์ ก็มิได้ถูกแก้ไข ยกเลิกเลย.

การสาบาน หากสาบานต่อ ผู้สร้าง และ จรรโลงคำจุนทวยเทพ ทั้งหลาย ที่ทวยเทพ กตัญญูต่อผู้นั้น ได้. สัญญานั้น จะเป็นสัญญาที่กว้างขวาง ยิ่งใหญ่เหนือ สัญญา ที่เคยๆสัญญากัน.

ขอบคุณในความเห็นครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท