เจ็ดวันในไต้หวัน (ตอนที่ 4) จาก Sun Moon Lake ขับขึ้นเขาไปพักฉิงจิ่ง (Cingjing)


          หลังจากตัดสินใจไม่ค้างที่ Sun Moon Lake แต่ก็บอกคนขับว่าอยากจะชมจุดท่องเที่ยวสำคัญของที่นี่ ซึ่งจุดแรกที่เขาพาไปดูก็คือวัดพระถังซัมจั๋ง ชื่อเป็นทางการว่าวัดซวนกวง (Xuanguang Temple) จุดที่สองเป็นวัดเหวินหวู่ (Wenwu Temple) ซึ่งมีศาลขงจื้อและเทพกวนอูอยู่หน้าวัด เทพกวนอูเป็นเทพแห่งความซื่อสัตย์ ส่วนขงจื้อเป็นตัวแทนแห่งปัญญา หน้าวัดนี้เป็นที่ตั้งของสิงโตหินอ่อน 2 ตัว ได้ยินมาว่าราคาตกตัวละหนึ่งล้านเหรียญไต้หวัน หลังจากนั้นก็ขับไปแวะสวนนกยูง แล้วจึงเดินทางออกจาก Sun Moon Lake

                                 

                                                                  ภายในวัดพระถังซัมจั๋ง

     

                                                                  หน้าวัดเหวินหวู่

     

              ถึงเมือง Puli เวลา 16:00 น. และชมวัดที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวันชื่อวัด จงไถฉาน เป็นวัดที่อาคารออกแบบทันสมัยมาก เป็นอาคารหลายชั้น มีห้องเป็นพันห้องเห็นบอกว่าเป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์ด้วย

     

                                                              ภายในวัดจงไถฉาน

          ออกจากวัดจงไถฉาน มุ่งหน้าไปฉิงจิ่ง ขับผ่านเมือง Wushi เป็นถนนคดเคี้ยวขึ้นเขา ทานอาหารเย็นกันบนยอดเขาที่ร้านข้างทางที่ขึ้นชื่อเรื่องไก่อบโอ่ง สั่งอาหารเป็นชุด มีไก่อบโอ่งหนึ่งตัว ปลานึ่ง และกับข้าวอีกสามอย่าง ราคา 800 $ วันนี้ทุกคนบอกว่าไม่หิวเพราะเพิ่งห้าโมงเย็นเท่านั้น

     

                                                                ร้านอาหารบนเขา

     

          ทานเสร็จขับต่อไม่นานก็เข้าเขตฉิงจิ่ง เป็นเส้นทางขึ้นเขาตลอด ผ่านร้าน 7-11 คนขับแวะให้เผื่อว่าต้องการจะซื้ออะไร ข้างร้าน 7-11 เป็นโรงแรม เลยลองเข้าไปถามดู ห้องพักสี่คน 3500 $ (ไม่มีวิว (ภูเขา) ถ้าจะเอาวิวราคา 4200 $ ดูสภาพห้องทึมๆ ไม่น่าสนใจ คนขับรถก็ขับพาไปโรงแรมที่เขาเคยพาแขกมาพัก ปรากฏว่าห้องสวยกว่าที่ผ่านมาเมื่อกี๊ ห้องสี่คนราคา 3720 $ เห็นวิวภูเขา พนักงานโรงแรมบอกว่าพระอาทิตย์ขึ้นด้านนี้ ดูพระอาทิตย์จากเตียงนอนได้เลย ตกลงพักที่นี่ บรรยากาศดี มีคูปองอาบน้ำแร่ให้ด้วย มูลค่า 250 $ ต่อคน รถที่เช่ามายินดีพาไป หลังจากเก็บของเสร็จ ตอนนั้นประมาณทุ่มกว่า รีบเตรียมเสื้อผ้าไปอาบน้ำแร่แบบออนเซ็น ตอนแรกนึกว่าโรงอาบน้ำที่ว่านี้อยู่ใกล้ๆ โรงแรม แต่ปรากฏว่าต้องขับลงเขามาประมาณเกือบครึ่งชั่วโมง งงเหมือนกันว่าไกลขนาดนี้ คนขับยังยินดีพามาอีก เรียกได้ว่าอยู่กันคนละเมืองเลยทีเดียว

          สภาพโรงอาบน้ำที่นี่สู้ที่ญี่ปุ่นไม่ได้เลย เข้าไปห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็ตกใจ เพราะดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ  มาแล้วก็คงต้องลอง ดีนะที่มีคนไม่มาก กรุ๊ปเราสี่คน กรุ๊ปอื่นอีกห้าหกคน การแช่น้ำแร่ที่นี่ ผู้หญิงผู้ชายไม่แยกกัน แต่ไม่ต้องตกใจ (ดีใจ) เพราะที่นี่เขาให้ใส่เสื้อผ้าลง ((((ไม่เหมือนญี่ปุ่นที่ห้ามใส่อะไร แช่อยู่ประมาณครึ่งชั่วโมงก็ขึ้น เกรงใจคนขับรถ เพราะต้องขับขึ้นเขากลับไปโรงแรมอีกตั้งครึ่งชั่วโมง และตอนนั้นเวลาก็เกือบสองทุ่มแล้ว กลับมาถึงโรงแรมลูกสองคนขึ้นไปห้องเล่นเกมของโรงแรม ส่วนพ่อแม่ก็หลับไปก่อนด้วยความอ่อนเพลีย

หมายเลขบันทึก: 507469เขียนเมื่อ 2 พฤศจิกายน 2012 17:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 พฤศจิกายน 2012 10:45 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท