รามเกียรติ์ ตอนที่ ๘ นางสีดาถูกลักพาตัว และตอนสดายุถูกฆ่า


ฉบับ ดร.สัตยพรต ศาสตรี เป็นต้นเค้าในการเรียบเรียง และฉบับนี้ก็นำมาจากของรัชกาลที่ี ๑ มาเป็นต้นเค้าอีกทีนะครับ

รามเกียรติ์

ตอน นางสีดาถูกลักพาตัว  และตอนสดายุถูกฆ่า

สรคะที่ ๖

             ครั้นนางสำมนักขาสิ้นสามีไปแล้ว  นางรู้สึกว่าชีวิตของตนนั้น ช่างไร้ความหมายเสียนี้กระไร  นางจึงได้กล่าวกะพี่ชายว่า  “ท่านพี่หม่อมฉันต้องการที่จะไปพบหน้าลูกชายและอยากไปอยู่กับลูกกุมภกาศของหม่อมฉัน” 

    

           แท้ที่จริง  นี่เป็นอุบายของนาง  เพราะนางนั้นเป็นหญิงแพศยา  นางต้องการที่จะไปหาสามีใหม่ 

 

           ครั้นนางสำมนักขาได้ออกไปในป่า  ณ ที่นั้น  นางได้พบพระรามพร้อมกับนางสีดาและพระลักษมณ์  ทันทีที่นางได้เห็นพระราม  นางรู้สึกราวกะว่าได้ถูกศรแห่งกามเทพปักลงที่อกอย่างแรง

 

            นางสำมนักขาได้แปลงรูปร่างด้วยอำนาจแห่งมายา  กลายเป็นหญิงสาว  ผู้งดงามราวกับนางฟ้า  นางยั่วยวนเข้าไปหาพระราม  แต่พระรามนั้น ก็ทรงมิได้ไหวหวั่นหรือเหลี่ยวแลใส่พระทัยนางสำมนักขาเลย 

 

            นางจึงมองไปรอบ ๆ ก็พบนางสีดา (บุตรีแห่งวิเทหนคร)  และคิดว่าหญิงคนนี้เป็นแน่  ที่เป็นสาเหตุทำให้พระรามไม่สนใจตน  จึงได้กลับกลายร่างเป็นนางยักษิณี  แล้ววิ่งเข้าไปเพื่อจะฆ่านางสีดาเสียให้ได้ 

 

            แต่ทว่าพระลักษมณ์ทรงเห็นก่อน  จึงได้ลุกเข้าไปขัดขวางนาง  พระลักษมณ์ไม่ได้คิดฆ่านางสำมนักขา  พระลักษมณ์เพียงแต่ตัดหูและจมูกของนางและต่อว่านางไปเท่านั้น

 

            นางสำมนักขา  เมื่อเสียโฉมแล้ว  จึงได้รุดหน้าไปหาพี่ชายทั้งสอง คือ ขร  และ ทูษณ์  เพื่อเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  และพี่ชายทั้งสองจึงได้นำกองทัพหมู่ใหญ่ไปรบกับพระราม  ปรากฏว่าขรและทูษณ์นั้น  ถูกพระรามและพระลักษมณ์ส่งไปยังมฤตยู

 

             ถึงกระนั้น  ครั้นนางสำมนักขา  เศร้าโศกอยู่แล้ว ก็ยิ่งเศร้าโศกยิ่งนัก  ครานี้นางได้ไปหาพี่ทศกัณฐ์  และเล่าถึงต้นเหตุของเรื่องว่า  นางนั้นปรารถนาที่จะนำนางสีดามาเป็นของกำนัลให้ท่านพี่ 

 

            แต่ทว่าเจ้าลักษมณ์  ผู้อวดดีได้เข้ามาทำร้ายหม่อมฉัน  และทำให้หม่อมฉันเสียโฉม พร้อมกับแย่งชิงนางสีดาไป  หม่อมฉันจึงอยากให้ท่านพี่ไปนำตัวนางสีดาผู้น่ารักนั้น  กลับมาโดยเร็ว  และแก้แค้นให้หม่อมฉันด้วย

 

           เมื่อทศกัณฐ์  ได้ฟังเรื่องราวความงามของนางสีดาจากภคินีน้อง  จึงทำให้ทศกัณฐ์นั้น ราวกะว่าต้องศรรักปักอก

 

          ทศกัณฐ์เจ้าแห่งยักษา  ได้รับสั่งให้อสูร นามว่า มารีศ  แปลงกายเป็นกวางทอง  แล้วย่องไปที่บรรณศาลาแห่งราม

 

          มารีศยักษา  ผู้จอมเจ้าเลห์ เมื่อไปถึงบรรณศาลาแห่งรามแล้ว  ก็ได้กระโดดโลดเต้นที่หน้าบรรณศาลา  เมื่อนางสีดาเห็นก็ทรงทูลกะภัสดาว่า “หม่อมฉันต้องการให้หม่อมพี่นำกวางตัวนั้นมาให้หม่อมฉัน” อันว่าปัญญาของมนุษย์นั้น  ย่อมมีขอบเขตจำกัด  และสามารถกลับกลายได้มากทีเดียว

 

            ฝ่ายองค์รามได้ตรัสเตือนนางสีดาว่า “นั่นคงอาจเป็นกลลวงของเหล่ายักษ์ก็เป็นได้”  แต่นางไม่ฟัง  นางทรงรบเร้าให้องค์ราม  ได้รีบรุดเสด็จไปจับกวางมาให้ได้  เพื่อยังความปรารถนาของตนให้สำเร็จ

 

           พระรามพยายามจับกวางตัวนั้นให้ได้  แต่ก็ไม่สำเร็จ  กวางตัวนั้นได้วิ่งไกลออกไปเรื่อย ๆ ยังป่าอื่น  พระรามจึงได้แผลงศรพิษไปที่กวางตัวนั้น 

 

            ครั้นกวางนั้นถูกศรแห่งองค์รามปัก ก็ได้วิ่งหนีออกไป  ด้วยทั้งร้องว่า “โอ้ สีดา”  นางสีดาได้ยินดังนั้น  ก็ตกใจ  เหมือนกับว่าเหล็กร้อนได้นาบบนตัวของตน  จึงได้รับสั่งให้พระลักษมณ์รุดไปดู  เพื่อปกป้องคุ้มครองพระเชษฐาของตนไว้

 

             ทศกัณฐ์  เจ้าเมืองลงกา  ได้เสด็จมา ณ ที่นั่น  โดยได้แปลงตนเป็นฤษีแล้วได้มาลักพานางสีดาไปสู่เมืองลงกา

 

               ในระหว่างทางนั้น  พระสหายแห่งพระบิดาของพระสวามี ผู้เป็นพระยาแร้ง อันถูกความชราครอบงำแล้ว (แร้งแก่/แร้งเฒ่า) นามว่า สดายุ ได้เข้ามาขัดขวางเจ้าเมืองลงกา  โดยการใช้จะงอยปากอันคมจิกทศกัณฐ์ 

 

             ทศกัณฐ์ทนแทบไม่ไหว  แต่ตนเองก็ไม่สามารถที่จะฆ่านกสดายุได้  ขณะนั้น สดายุปักษี  ได้กล่าววจีโอ้อวดความเก่งของตนกะทศกัณฐ์ผู้เป็นอสูรว่า  ดาบ  หลาว  หรือศัตราวุธอื่นใด  ก็ไม่สามารถที่จะฆ่าตัวเราได้  ยกเว้นแหวนของพระศิวะที่สวมอยู่ในนิ้วมือแห่งพระนางสีดา

 

            เมื่อทศกัณฐ์  ได้ยินดังนั้น  จึงได้หยิบแหวนจากนิ้วมือของนางสีดา  แล้วประหารปักษานั้น 

 

                น่าเศร้าสดายุปักษีผู้เก่งกล้า  ถึงซึ่งกาลมรณา  ด้วยแหวนแห่งนางสีดา  ผู้ไปสู่สุคติโลกด้วยบุญตน

 

              สองพี่น้องผู้เก่งกล้าแห่งรฆุวงศ์ (พระรามและพระลักษมณ์)  ได้กลับมาถึงที่พำนัก  ทั้งสองพระอง์ก็ต่างเศร้าโศก  เมื่อไม่พบนางสีดา  จึงได้เสด็จเข้าไปในป่า  ทั้งสองพระองค์มองเห็นแร้งผู้ยิ่งใหญ่ถูกฆ่า

 

              ทว่าวิญญาณของสดายุปักษีนั้น  หาได้ปราศนิราศไปไหน  สดายุได้กล่าวกะองค์รามว่า  ทศกัณฐ์ผู้ชั่วช้านั้น  ได้ลักพานางสีดาไป  และสดายุก็ได้ยืนแหวนของสีดาให้แก่องค์ราม  วิญญาณของสดายุจึงได้ไปสู่สุคติและได้รับความสุข

 

                  พระรามปรารถนาที่จะเผาศพของสดายุ  นกผู้ประเสริฐ  จึงได้แผลงศรไป  ฟืนสำหรับเผาศพก็ลุกขึ้นมา พระองค์เอาลูกศรดอกหนึ่งช่วยวางร่างของแร้งบนฟืนเผาศพ  เมื่อไฟไหม้ร่างหมดแล้ว  พระองค์ก็ได้เอาศรอีกดอกหนึ่งดับไฟ

 

                หลังจากที่พระรามทำพิธีศพเสร็จเรียบร้อยแล้ว  พระองค์ตั้งพระทัยว่าจะค้นหาอสูรทศกัณฐ์  พระองค์จึงได้ออกเดินทางไปทางทิศใต้

 

หมายเลขบันทึก: 505511เขียนเมื่อ 13 ตุลาคม 2012 20:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 เมษายน 2014 19:34 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

ดีจังเลย ได้ทบทวนความรู้เก่า ที่เริ่มจะจางไปนะคะ

ขอบคุณมากครับ

ขอบคุณพี่เปิ้ลกับดอกไม้ และคอมเม้นนะครับ

ส่วนเรื่องคอมพิวเตอร์นั้น

ถ้าพี่ปัญหา ถามได้นะครับ

เต็มใจตอบ ต้องการโปรแกรมอะไรบอกได้นะครับ

จะหา link ให้พี่ครับ

ขอบคุณพี่เปิ้ลกับดอกไม้ และคอมเม้นนะครับ

ส่วนเรื่องคอมพิวเตอร์นั้น

ถ้าพี่ปัญหา ถามได้นะครับ

เต็มใจตอบ ต้องการโปรแกรมอะไรบอกได้นะครับ

จะหา link ให้พี่ครับ

ขอบคุณอาจารย์ชยพรนะครับ

สำหรับกำลังใจนะครับ

ช่วยได้เยอะเลย ขอบคุณนะลูกสายลมมม

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท