PBL กับ การเรียนรู้ตลอดชีวิต


มนุษย์แต่โบราณมา ก็มีความรู้ PBL

PBL (Ploblem Base Learning ) กับ ชีวิตจริงและการเรียนรู้ตลอดชีวิต

PBL ดั้งเดิม  ก็คือ การจัดการชีวิตนั่นเอง 
ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร มีตำแหน่งหน้าที่อะไร  หรือมีปริมาณของการเรียนรู้
แบบไหนก็ตาม  คุณมีการจัดการชีวิตตั้งแต่ตื่นนอน จนถึง นอนหลับไป

ตั้งแต่คุณตื่นขึ้นมา คุณได้จัดการให้มีการล้างหน้าแต่งตัว จัดการตนเอง
จัดการครอบครัว จัดการกับการทำงาน จัดการความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน
จัดการกับอารมณ์ของตนเอง  ยังไม่แน่ว่า บางคนอาจจัดความสัมพันธ์ของตนเองกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ  ไปด้วย

เชื่อได้เลยว่า ไม่มีใครไม่ประสบปัญหา  ตั้งแต่ปัญหาเล็ก ๆ เช่นยาสีฟันหมด
หรือพรุ่งนี้จะกินอะไร  หรือประสบกับโรคภัย ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ ทุกคนย่อมประสบปัญหามีทุกวัน  ไม่มีใครที่ไหนไม่ประสบกับปัญหา อย่างน้อยก็ปัญหาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับคนอื่น เนื่องมาจากความต้องการ
ไม่ตรงกันเป้าหมายและวัตถุประสงค์ไม่ตรงกัน

PBL เหล่านี้ เราจัดการในนามของทักษะชีวิตที่เป็นไปแบบอัตโนมัติ
คือมีปัญหาเราก็แก้ ยาสีฟันหมด เราก็ไปซื้อ เราประสบกับโรคภัย เราก็ไปหาหมอไปหาวิธีรักษา  เพราะปัญหาเป็นความบีบคั้น ที่จะต้องแก้ปัญหาทันที

ความรู้และองค์ความรู้ ชนิดนี้ สามารถเขียนเป็นตำราใหญ่ ๆ  และเชื่อว่า
ถ้าเขียนตำราชนิดนี้ ถ้าเทียบความรู้ก็คงเป็นอภิศาสตราจารย์ และแต่ละคน
ก็คงมีเนื้อหาไม่เหมือนกัน เพราะวิธีการจัดการก็เป็นคนละวิธี และบริบท
ก็คงเป็นคนละบริบท  และวิธีการจัดการคงไม่เป็นเส้นตรง ต้องมีการปรับ
หรือมีการประยุกต์ และบูรณาการสิ่งต่าง ๆ เข้าอยุ่ด้วยกัน

มนุษย์ตั้งแต่โบราณมา  ก็มีความรู้ชุด PBL นี้แหละ
เป็นชุดความรู้ดั้งเดิม ที่พยายามจะแก้ไขปัญหาให้กับตนเอง
จนก่อเกิดอารยธรรมและเทคโนโลยี  ต่าง ๆ ตามที่ปรากฏ
ความกลัวภัย ใน ธรรมชาติ เช่นฟ้าร้อง ฟ้าผ่า น้ำท่วม แผ่นดินไหว
ก่อให้เกิด การรวมตัวเป็นสังคมของมนุษย์และอธิบายปรากฎการณ์

ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ด้วยวิธีคิดว่ามีสิ่งที่เหนือธรรมชาติอยู่เบื้องหลัง
ก่อให้เกิดพิธีกรรม  และการรวมหมู่เป็นสังคม และก่อเกิดรัฐตามมา
ข้อสังเกตต่อการเกิดเพลิงไหม้ตามธรรมชาติที่ก่อให้เกิดความเสียหาย
ก่อให้เกิดการใช้ไฟให้เกิดประโยชน์ในการหุงต้มอาหาร การทำอาหารให้สุก
การสังเกตว่าก้อนหินตามธรรมชาตินั้นสามารถสกัดให้ใช้ประโยชน์ได้
หินบางอย่างหลอมเหลวได้ นำมาสู่เทคโนโลยีการทำเหล็ก ตามยุคนั้น ๆ

จะเห็นได้ว่า PBL นั้นมีมาตามธรรมชาติอยู่แล้ว
มนุษย์ได้เพียรที่จะแก้ปัญหา และก่อเกิดอารยธรรมต่าง ๆ ขึ้นมา
วิธีการแก้ไขปัญหามีการสังเกตุ ตรวจสอบ และปรับปรุง ให้ดีขึ้นมา
ตามลำดับ  อย่างเป็นอนันต์  เป็นวิธีแกนหลักของมวลมนุษยชาติ

ต่อมาโลกก็เจริญขึ้น ได้มีการพัฒนา และแบ่งแยกงานกันทำ
PBL ก็แยกกันไปเป็นกลุ่มวิทยาศาสตร์ เพื่อรวบรวมคำตอบของ
นักวิทยาศาสตร์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อจะตอบคำถามเฉพาะทาง
เช่น นักธรณีวิทยา ก็รวบรวมคำตอบ คำอธิบายเกี่ยวกับแผ่นดิน
องค์ประกอบของดิน ปัญหาของดิน และวิธีการแก้ไข
นักฟิสิกส์ ก็ รวบรวมคำตอบของความเป็นจริงของวัตถุทั้งหลาย
ในโลกนี้   อธิบายปรากฎการณ์ ไปตามการแบ่งแยกงานนั้น ๆ
ส่วนพวกสังคมศาสตร์ก็รวมรวมคำตอบเกี่ยวกับรูปแบบการอยู่ร่วม
ในสังคม การจัดแบ่งทรัพยากรในสังคม ก่อให้เกิดรัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์
และก่อให้เกิด การศึกษาเกี่ยวกับการจัดการ  การให้คำตอบเกี่ยวกับ
.การจัดการ ซึ่งก่อกำเนิดมาจากยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม  เพื่อจะตอบว่า
การแบ่งปันค่าจ้างให้กับลูกจ้างในโรงงานอุตสากรรม เพื่อเร่งการผลิต
ให้กับนายทุนโรงงานอุตสาหกรรม ต้องมีการจูงใจอะไรบ้าง ตั้งแต่ยุค
ของ  Federick w. taylor , Henri Fayol ,Douglas McGregor
จนมาถึงยุคของการจัดการสมัยใหม่ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์

ความแตกต่างระหว่าง PBL ที่แบ่งแยกงานกันทำ กับ PBL
ที่เป็นธรรมชาติมีอยุ่อย่างดั้งเดิมของมนุษย์เป็นอย่างไร
PBL ทีแบ่งแยกงานกันทำ ทำให้เห็นว่าปัญหานั้นลึกเข้าไปในศาสตร์
เช่น คำตอบของวิทยาการการบริหารจัดการ อาจเป็นกำไรสูงสุด
ด้วยวิธีการใด ๆที่ไม่เกี่ยวข้องกับคุณภาพชีวิตของผู้คน
สุขภาพคนงาน  หรือแม้แต่ความสุขของคน
เนื่องจากแยกเป็นศาสตร์ลึกเฉพาะด้าน  การเรียนฟิสิกส์
เรื่องของอนุภาคที่เล็กมาก ๆฅนำไปใช้สงคราม ก็แยกออกจาก
คุณภาพชีวิตและศีลธรรมของมนุษย์ เนื่องจาก
การแบ่งแยกงานก่อให้เกิดความลึกลงเฉพาะด้านศาสตร์ใคร ศาสตร์มัน

ส่วน  PBL ตามธรรมชาติ หรือ สภาพแห่งการเรียนรู้ส่วนตัวของมนุษย์
เป็นลักษณะองค์รวม ที่บูรณาการกับชีวิต และการประสบปัญหาที่อยู่ข้างหน้า
ของคน  ซึ่งทุกคนก็มีปัญหา และพยายามแก้ไขปัญหา  ผลของการแก้ไขปัญหานั้นคือ คุณภาพชีวิตของตนเอง สังคม โดยนำเอาวิทยาการ
แต่ละด้านที่ตนเองสามารถสืบค้น เรียนรู้  นำมาแก้ไขปัญหาของตนเอง
และสังคม

ยกตัวอย่างเปรียบเทียบแบบนี้ชัดเจนไหม

PBL ของพ่อผาย สร้อยสระกลาง  ก็เป็นการคิดแก้ปัญหาให้กับอาชีพ
และคุณภาพชีวิตของตนเอง   ก่อให้เกิดความรู้และภูมิปัญญา
PBL ของพ่อครูบาสุทธินันท์  ก็เป็นการคิดแก้ปัญหาให้กับอาชีพ
และคุณภาพชีวิตของตนเอง  ก่อให้เกิดความรู้และภูมิปัญญา
ที่ไม่มีใน PBL แบบหลักสูตรการเกษตร ซึ่งเป็นคำตอบที่มาจาก
เกษตรอุตสาหกรรม มีเป้าหมายที่สร้างกำไรสูงสุด ขูดรีดธรรมชาติ
ซึ่งก็มีที่มาจากคำตอบ PBL นำเข้าจากประเทศอุตสาหกรรม

PBL ของพ่อผาย  และ ครูบาสุทธินันท์  ไม่มีหลักสูตรแน่นอนตายตัว
เป็นองค์รวม แบบเรียนรู้ตลอดชีวิต ไร้ห้องเรียน ไม่มีรูปแบบ ไม่มีปริญญา 
ได้คุณภาพชีวิตของเกษตรกรถ้าเรียนรู้แบบนี้ิ
PBL แบบเกษตรอุตสาหกรรม มีหลักสูตรแน่นอนตายตัว เปลี่ยนได้ยาก
แยกส่วนเรียนรู้ในห้องเรียน วัดผล ประเมินผล มีรูปแบบ ได้ปริญญา 
คนบางกลุ่มได้ประโยชน์

แล้ว PBL แบบไหน  ที่เป็นแบบของคุณ ??????

 

หมายเลขบันทึก: 505204เขียนเมื่อ 11 ตุลาคม 2012 10:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 ธันวาคม 2012 16:45 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)
  • PBL แบบเป็นธรรมชาติครับผอ
  • สบายดีนะครับ
  • หายไปนานมากๆ
  • ปิดเทอมแล้วใช่ไหมครับ

ชอบสอน PBL ที่เกิดในชีวิตจริงนะ อ.วัฒนา แววตาเด็กระริกระรี้
ต่างกับPBLที่เราสร้างสถาการณ์ที่เหมือนจริง การประเมินผลเกิดได้อย่างเสมอภาค เห็นทุกมุมมอง ถึงจิตใจของเด็กได้อย่างสบายๆ

ฮา....เข้ามาเยี่ยมเยื่อนค่ะ

สวัสดีครับ อาจารย์ขจิต
ผม สบายดีครับ อาจารย์ครับ ฝากดูแลเพื่อนผมด้วย ครับ กลับมาแล้วครับ ตอนที่ไม่มีอะไรรบกวนสมอง ปิดเทอมแล้วครับ

สวัสดีครับ พี่เพ็ญศรี แนวนี้ใช่เลยครับ ที่เอาชีวิตเป็นตัวตั้ง ปิติ สุข เอกคัตตา มีจริงครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท