สิ่งที่ยากจะวัดได้นั้นคือ...ใจคน...ดังคำที่ว่า สายดิ่งนั้นวัดน้ำลึกได้ แต่...ใจคนนั้นไซร้ ยากแท้...หยั่งถึง... ใจคนมักโลดแล่นออกไปนอกตัวเสมอ จนลืมมองสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ตัวเองมีคือ ที่พักใจตัวเอง...

องศา...ของใจตัวเอง
คุณเคยสำรวจตัวเองไหม?ว่า.....ใจของเรานั้นแคบหรือกว้างหนอ....และสิ่งที่ใจแคบหรือกว้างนั้นสมเหตุสมผลหรือไม่? และทำไม....บางโอกาสบางสถานการณ์เราจึงทำเช่นนั้น คนบางคนนั้นดูเป็นคนใจกว้างอย่างเหลือเชื่อ เช่นพี่วัช...ถ้ามองภายนอกดูประหยัดในเรื่องต่างๆ(ในเรื่องของตัวเอง) รู้จักให้ทั้งๆที่ก็ไม่ได้เป็นคนร่ำรวยอะไรและบุคลิกดูโผงผาง แต่....องศา...ใจของพี่เขาอ่อนโยนและมีน้ำใจมาก ทำกิจกรรมเพื่อสงเคราะห์ผู้อื่นมากมาย ทั้งทำบุญ บูรณะวัด พิมพ์หนังสือธรรมะและนำแว่นสายตาครั้งละหลายร้อยอันไปแจกผู้สูงอายุในชนบทเป็นร้อยๆครั้ง เพราะตระหนักถึงดวงตามีความสำคัญในการดำรงชีวิต เป็นองศาแห่งการให้...ทำแล้วใจเป็นสุข

ครั้งหนึ่งพี่วัชเคยทำแว่นสายตาตกแตกแล้วไม่มีเงินซื้อใหม่ จึงมีความทุกข์ในการใช้สายตาดำรงชีวิตถึง 6 เดือน กว่าจะได้แว่นอันใหม่.....นับแต่นั้นช่ององศาในการใช้ชีวิตได้เปลี่ยนไป จากที่โฟกัสเฉพาะที่ตัวเอง...ก็เปลี่ยนเป็น 360 องศาที่มองไปถึงผู้อื่นที่ยากจนและไม่สามารถมีแว่นสายตาได้ ดังนั้นจากองศาที่เปลี่ยนไป ทำให้พี่วัชได้ช่วยต่อสายตาผู้คนให้ได้มีชีวิตใหม่ ได้มองเห็นชัดเจนและมีความสุขกับชีวิตเพิ่มขึ้น ต้องขอบคุณ...แว่นอันใหม่ ที่ทำให้ไม่ได้มองชัดเฉพาะตัวเธอเองเท่านั้น ยังทำให้มองเห็นผู้อื่นรอบๆที่ไม่มีโอกาส ได้มีโอกาสมองเห็นชัดเจนอีกด้วย
บางคนนั้นเพื่อนเรี่ยไรเงินซื้อเหล้า....ควักแบงค์ห้าร้อยทันที...แต่พอซองผ้าป่า...ถามว่าไม่เป็นกรรมการไม่ต้องใส่เยอะใช่ไหม? เอ้า...เอาไปเลย ยี่สิบ..บ...บ อย่างนี้เรียกว่า องศาของใจ...เลือกเปิดเป็นช่วงๆ

องศา...ของใจคนอื่น
เคยได้ยินไหม?....นานาจิตตัง...ทัศนคติไม่ตรงกัน...มองต่างมุม...มองเห็นไหม?ว่า ยิ่งมากคนก็ยิ่งมากความคิด ดังนั้นการกระทบกระทั่งกันเนื่องจากองศาของใจเรากับของคนอื่นไม่ใช่องศาเดียวกัน....ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่พบเจอ
แต่การพบกันขององศาที่แตกต่าง ทำให้เกิดนวัตกรรมทางใจที่ใหม่ๆเช่น ความถนัดคนละด้านเมื่อมาทำงานร่วมกันจะเกิดอะไรขึ้น....องศาใหม่ๆ...ของใจจะเปิดกว้าง

องศา.....ของการทำงาน
มีบ่อยไป...ที่เราทำงานในองศาเดียวกันและทำคนละองศาที่ขัดแย้งกัน ทำให้ความสุขในการทำงานลดลง ที่ทำงานผึ้งงานเองคงจะตระหนักถึงเรื่องนี้เช่นกัน จึงมีวัฒนธรรมองค์กรว่า “ มีความคิดที่หลากหลาย แต่มีเป้าหมายเดียวกัน ”
ถ้าเราสามารถนำความคิดในองศาที่แตกต่าง(แต่...ไมใช่หักร้างกัน)มารวมกันได้ ก็จะทำให้เราสามารถมองเห็นแบบ 360 องศาสามารถมองเห็นทุกเรื่องได้อย่างครอบคลุมทุกพื้นที่ในการทำงาน คงจะเป็นองศา...ของการทำงานที่เป็นเลิศจริงๆ

ในการทำงานทุกคน ไม่จำเป็นต้องมีความคิดเห็นที่เหมือนกันไปซะทุกเรื่อง เพราะจะทำให้ฉลาดเท่าเดิม แต่ถ้าการมีมุมมองที่แตกต่าง...จะทำให้เกิดความฉลาดยิ่งขึ้น แต่...การยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่นแล้วไซร้...ได้ชื่อว่า นักปราชญโดยแท้....

องศา...ของความรัก
.....เปรียบเธอเพชรงามน้ำหนึ่ง....หวานปานน้ำผึ้งเดือนห้า หยาดเพชรเกล็ดแก้วแววฟ้า....ร่วงมาจากฟ้าหรือไร..... อารมณ์เพลงเช่นนี้เรียกว่า อยู่ในองศา...ของความรัก ซึ่งความรักอาจทำให้น้ำต้มผัก...ถ้วยเดิม...นั้นทั้งขม ทั้งหวานก็ได้เช่นกัน
องศาของความรักนั้น...ยิ่งองศาแคบ...ยิ่งทุกข์...ความรักของหนุ่มสาวมักโฟกัสที่คนที่รักเท่านั้น จนลืมไปว่าการดำรงชีวิตที่ราบรื่นนั้น ใช้องศาแคบๆไม่เพียงพอ การมีมุมมองที่เปิดกว้างทั้งครอบครัวตนเองและครอบครัวคนอื่นด้วย เป็นการหว่านความห่วงใยและมีน้ำใจต่อกัน ซึ่งสิ่งนี้ยิ่งทำให้องศาของชีวิตยิ่งกว้างยิ่งมีความสุข
แต่ความรักเพื่อนมนุษย์นั้น ทางธรรมบอกว่าการเป็นกัลยาณมิตรซึ่งกันและกันเป็น 360 องศาแห่งรักเลยทีเดียว ที่พระพุทธองค์ทรงเพียรบอกตลอด เป็นความรักที่ไม่มีประมาณ...สุขใจทุกครั้งที่มีความรัก

360 องศาของใจคน (ในแบบ...นักบุญ)
ใจคนนั้นสามารถกระจายไปได้ทุกมุมมอง 360 องศาทั้งแนวกว้างแนวลึก อยู่ที่ว่าแต่ละคนนั้นจะยอมรับใจของตัวเองกี่องศาและยอมรับใจของคนอื่นได้กี่องศา ความยืดหยุ่นใจของคนเราไม่เท่ากัน

ดังนั้นท่านพุทธทาสบอกว่า “ ช่างมัน ” “ เป็นเช่นนั้นเอง ” ...การยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นของสิ่งต่างๆซึ่งเป็นสัจธรรม ทุกสิ่งมันเป็นของไม่เที่ยง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เหมือนๆกัน ดังนั้นการยึดถือก็ไม่เกิดประโยชน์
หลวงปู่ชา .....” อย่าเป็นชาล้นถ้วย ” .... การที่ยึดถือแต่องศาของตนเองโดยไม่เปิดรับองศาใจของคนอื่น ก็เปรียบเหมือนการเทชาลงบนแก้วที่มีน้ำเต็มแก้วแล้ว พยายามใส่ไปก็ไม่เกิดประโยชน์ การทำแก้วให้พร่องไว้หรือการยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ...ทำให้เกิดปัญญาได้
ท่านติช นัท ฮันท์....ให้อยู่แต่....NOW !.....ปัจจุบันขณะ...ซึ่งทุกองศาของชีวิตให้อยู่นิ่งที่ปัจจุบัน...แล้วองศาความสุขลุ่มลึกจะเกิดขึ้นตลอดเวลา
ท่านมิตซูโอะ คเวสโก กล่าวว่า...อะไรก็ตามที่เกิดขึ้นในชีวิตถือว่าดีทั้งนั้น ให้มีรอยยิ้มน้อยๆอยู่บนใบหน้าเสมอ
พระอาจารย์นวลจันทร์ ...” เพียงแค่รู้ ”...ไม่ว่าชีวิตคุณจะมีทุกข์กี่องศา เมื่ออะไรก็ตามที่เกิดขึ้นให้มีสติ...เพียงแค่รู้...แล้วปล่อยวาง ทุกข์มันก็ดับ
พระพยอม ......” โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า ” ควรดับองศาของความโกรธด้วยการให้อภัย การให้อภัยน่าสรรเสริญอย่างยิ่ง
โลก 360 องศา (บางคนอาจจะมี 361องศาก็ได้) การมองคนละมุมองศา...แต่ไม่ใช่องศาของการหักร้างกัน...การมองมุมบวก...คนละมุม...จะช่วยให้การครอบคลุมทุกพื้นที่ของใจ.(..ที่ว่าลึกสุดหยั่งถึง)และอยู่ร่วมกันในมุมมองที่เข้าอกเข้าใจเป็นกัลยาณมิตรซึ่งกันและกัน ไม่ว่าคุณจะอยู่มุมไหน? ทุกองศา...ก็จะรวมเป็นองศาเดียวกัน... ถ้าใจของคุณคือ 360 องศาแห่งรัก...
( ขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต )
