ความยุติธรรม ยุติด้วยธรรม


บางครั้ง เราไม่ต้องไปหาผู้รับผิด ผู้ได้ ผู้เสียประโยชน์เลย แต่ให้มองย้อนกลับมาที่ต้นตอคือตัวเองดูก่อน เรามีส่วนร่วมในการสร้างกรรมอะไรไหม หากเราทำอะไรด้วยความกลัว ก็เป็นกรรมอย่างหนึ่ง แต่หากเราทำอะไรด้วยโยนิโสมนสิการแล้ว สมควรแก่ธรรมที่จะทำแล้ว ก็จงรักษาสัจจะให้มั่น ทำแล้วก็ต้องรับผลและแก้ไขที่ตนเอง ไม่ควรดึงใครมาร่วมกรรมนั้น ไม่ว่าจะเป็นกรรมดีหรือไม่ดี คนที่จะมาร่วมสังฆกรรมก็สมควรที่จะเข้ามาเองไม่ควรถูกลาก ถูกดึงมา จะทำให้กรรมขยายวงกว้างขึ้น

มาถึงที่ทำงานในขณะที่ฝนยังตกปรอย ๆ เมื่อมาถึงก็ต้องเจอเรื่องประหลาดใจจากหัวหน้างานด้านอื่น ที่เขาใช้คำพูดประชดประชันเสียดสีกล่าวหาเราว่าไปพูดให้ความเห็นอะไรไว้ทำให้พนักงานคนหนึ่งได้รับผลการประเมินออกมาไม่ดี

  

       

ฟังอยู่นานสักพักจึงเข้าใจที่มาที่ไป เป็นเพราะผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่มีอำนาจประเมินผลพนักงานเคยจะให้พนักงานที่ไม่ได้จบกฎหมายมาก่อน มาช่วยตรวจร่างสัญญา แต่เราได้บอกไปว่าการตรวจร่างสัญญามีผลกระทบต่อหน่วยงานภายนอก จะให้ใครมาทำงานตรงนี้ ก็ต้องฝึกเขาก่อน เอามาทำเลยก็จะลำบาก มีผลต่องานและองค์กรเรา ซึ่งดูเหมือนว่าผู้ใหญ่ก็จะเข้าใจตรงนี้ เราพูดในฐานะผู้ดูแลงานนี้ทั้งหมด จะส่งใครมาก็ต้องฝึกให้ได้ตามหลักเกณฑ์ และเราก็เคยสอนงานเขาครั้งเดียว จากนั้น ก็หายเงียบไป

 

 

ปรากฎว่าประเมินผลงาน พนักงานคนนั้นต้องปรับปรุงและเรื่องถึงสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ เพราะพนักงานไม่ยอมรับผลประเมินและร้องเรียน

 

 

คำพูดของเราถูกนำไปใช้อ้างอิงโดยผู้ใหญ่ท่านนั้นว่าเรา "ถอดใจ" กับการทำงานของพนักงานคนนั้น (ทั้งที่ไม่ได้พูดคำนี้เลย) และคำพูดของเรา เขานำไปใช้ในการประเมิน? ยังไม่ทันได้ทำงานร่วมกันเลย

 

 

เป็นไปได้ว่าผู้ใหญ่ไม่พอใจผลงานของพนักงาน แต่เกรงว่าจะเป็นที่ถูกจงเกลียดจงชังของลูกน้อง และถูกเพ่งเล็งจากสหภาพฯ ว่าประเมินผลเป็นธรรมหรือไม่ จึงอ้างคำพูดคนอื่นไปหมดว่าไม่มีใครอยากรับมาทำงานด้วย

 

 

การเป็นผู้บริหารที่มีอำนาจให้คุณให้โทษ ต้องแม่นยำในหลักการ หลักเกณฑ์ต่าง ๆ ไม่เห็นต้องกลัวอะไรเลย มันเป็นอำนาจดุลพินิจโดยอยู่บนพื้นฐานสิ่งที่อธิบายอย่างโปร่งใสได้

 

น่าเสียดายเหลือเกิน ผู้บริหารเป็นแบบนี้ ในความเป็นจริงแล้วที่พบเห็นก็มีมากมายที่เลือกผู้บริหาร แต่งตั้งกันมาแบบให้เป็น nominee บริหารตามคำสั่งนายเหนือกว่าแบบตัวเองคิดเองไม่ได้ 

 

เพราะเห็นว่าองค์กรหลายแห่งที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์มักเป็นเช่นนี้   จึงเลือกที่จะทำงานไม่เกี่ยวข้องกับคน เกี่ยวกับตัวงานเป็นหลัก น้อง ๆ ที่ทำงานด้วยกันก็ทำตามหลักการเหตุผลข้อกฎหมาย ไม่มากความอะไร

 

 

เราอธิบายให้หัวหน้างานที่อีกหมวกหนึ่งเขาเป็นสหภาพฯ ฟังว่าคำว่า "ถอดใจ" ไม่ได้พูด แต่จะตีความไปเองก็ช่วยไม่ได้จริง ๆ ส่วนจะพูดอะไร รู้สึกกันอย่างไร ก็ไม่น่าจะเกี่ยวกับการประเมินพนักงาน เพราะยังไม่ได้ทำงานร่วมกัน จึงไม่น่าจะดึงเราไปเกี่ยวข้อง  การประเมินผลอยู่บนพื้นฐานการทำงานและมีผลงานออกมา ไม่ใช่คำพูดลอย ๆ

 

 

เขาบอกว่าจะจัดประชุมให้คุยพร้อมหน้ากันว่าใครพูดว่าอะไร

 

เราก็บอกว่าก็ได้ แต่จะมีประโยชน์อะไรถ้าพูดกันไปพูดกันมา ถ้าเราปฏิเสธว่าไม่ได้พูด ก็จะทำให้เสียหน้ากัน ไม่เห็นจะแก้ปัญหาการประเมินว่าเป็นธรรมหรือไม่  พิจารณาให้ดี จริง ๆ ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเหตุผลในการประเมินเลย ควรไปดูเนื้องานจริง ๆ ที่พนักงานคนนั้นทำต่างหาก

 

ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้พูดมาคำหนึ่งว่า คำพูดของเราน่าเชื่อถือกว่าผู้ใหญ่ท่านนั้น เพราะเรานิ่ง และไม่เคยมีประวัติพูดจากลับไปมาหรือไม่รับผิดชอบคำพูด ต่างกับผู้ใหญ่ท่านนั้นที่ทำเป็นประจำ ออกไปในทางมั่วนิ่ม พวกเขาเคยมีประสบการณ์กันมาก่อน ตรงนี้ก็ไม่อาจทราบได้ ไม่เคยมีประสบการณ์ร่วม

 

ฟังอย่างนี้ดูเหมือนน่าจะสบายใจที่เราไม่เกี่ยวข้อง หลุดจากข้อกล่าวหา  

 

เราสบายใจเพราะว่าเราไม่ได้พูดจาว่าร้าย ส่อเสียด นินทา กล่าวหาใคร ไม่ได้มีเจตนาร้าย และสบายใจที่ในที่สุด หลายคนก็เข้าใจในสิ่งที่เราเป็น อย่างเสมอต้นเสมอปลาย

 

แต่ต้องยอมรับว่ามีความไม่สบายใจเกิดขึ้นมาเป็นขณะ ๆ  ไม่สบายใจเพราะเรื่องของพนักงานที่ได้รับผลการประเมินไม่ดีคนนี้ จะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวที่ทำให้ผู้ใหญ่ทะเลาะกัน คนหนึ่งมีอำนาจประเมิน อีกคนเป็นสหภาพฯ เตรียมปกป้องพนักงานคนนี้เต็มที่ เราไม่อยากเห็นคนทะเลาะกัน พวกเขาเคยทะเลาะกันไม่ใช่ครั้งนี้ครั้งแรก  เพียงแต่ครั้งนี้ ฝ่ายหนึ่งเพิ่มตัวละคร ให้เราเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย และฝ่ายตรงข้ามก็จะเอาเราไปเป็นพยานว่าอีกฝ่ายพูดจากลับกลอก เราบอกว่าไม่ยุ่ง เพราะไม่เห็นช่องเลยว่าจะไปเกี่ยวตรงไหน ในเมื่อไม่ได้ทำงานกับพนักงานคนนั้นมาก่อนเลย  เขาก็อ้างเพื่อความยุติธรรม จริง ๆ ความยุติธรรม ดูให้ดีหากใช้ผิดที่ ผิดเวลาก็คือกิเลส เมื่อไม่ได้สิ่งที่ตนเองต้องการก็อ้างว่าไม่ยุติธรรม

 

 

                   ความยุติธรรม ดูให้ดีคือการยุติด้วยธรรม

 

บางครั้ง เราไม่ต้องไปหาผู้รับผิด ผู้ได้ ผู้เสียประโยชน์เลย แต่ให้มองย้อนกลับมาที่ต้นตอคือตัวเองดูก่อน เรามีส่วนในการร่วมสร้างกรรมอะไรไหม หากเราทำอะไรด้วยความกลัว ก็เป็นกรรมอย่างหนึ่ง แต่หากเราทำอะไรด้วยโยนิโสมนสิการแล้ว สมควรแก่ธรรมที่จะทำแล้ว ก็จงรักษาสัจจะให้มั่น ทำแล้วก็ต้องรับผลและแก้ไขที่ตนเอง ไม่ควรดึงใครมาร่วมกรรมนั้น ไม่ว่าจะเป็นกรรมดีหรือไม่ดี คนที่จะมาร่วมสังฆกรรมก็สมควรที่จะเข้ามาเองไม่ควรถูกลาก ถูกดึงมา จะทำให้กรรมขยายวงกว้างขึ้น

 

บททดสอบในชีวิตคนเรามีหลายเรื่องมาก หากภายในเปราะบาง หูเบา เขลา ไม่รู้ ดูตัวเองไม่เห็น ก็จะแก้ปัญหาไม่เป็น

 

เกิดเรื่อง "เล็ก ๆ" แค่นี้แต่เช้า แต่เราก็มีใจที่สงบเย็น มั่นคงในสัจจะ (ความจริง) ที่ไม่ได้มีเจตนาร้าย เรื่องเล็กก็ไม่กลายเป็นเรื่องใหญ่ แต่ถ้าเราใช้อารมณ์โวยวาย บ้าจี้ ช่วยกันควานหาความยุติธรรม ก็คงไม่จบอย่างสันติ ความยุติธรรมเป็นอุดมคติที่คำนิยามยังไม่เป็นที่ยุติ...ในทางโลก มันต้องจบลงที่ความพอใจของทั้งสองฝ่ายที่เกี่ยวข้องกัน

                             --------------------------------

                  

                                               

 

  

 

หมายเลขบันทึก: 504884เขียนเมื่อ 8 ตุลาคม 2012 10:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม 2012 16:16 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

สู้ ๆ ..ความจริง ต้องประจักษ์สักวัน...สวัสดีครับ

ไม่มีอะไรที่อาจารย์นพลักษณ์ ๙ ของผมจะเกรงกลัว

นอกจาก หน้าที่อาจจะ "แก่" ขึ้น ;)...

Happy Ba วันจันทร์ครับ ;)...

ชื่อก็บอกแล้ว ว่า ยุติธรรม

ยุติ ได้ ด้วย ธรรม

ใจสงบ ร่มเย็น เป็นพอ

ขอบคุณคุณแว่นธรรมทอง Blank ค่ะ เชียร์ติดขอบสนามเลยนะคะ อิอิ

สัจจะ คือความจริงที่เราต้องมั่นคง วิธีการสู้...หลายคนบอกดูไม่ออก เพราะนิ่งเหลือเกินค่ะ จนต้องคอยสังเกตตัวองว่า นิ่งสู้ หรือนิ่งถอย

หลัง ๆ มานี นิ่งเป็นปกติ ต่างจากเดิม จนคนทัก พอเกิดเหตุการณ์นี้มีข้อสรุปออกมาว่าเป็นคนนิ่ง ... ท่าจะจริงแฮะ สงสัยเก็บพลังงานไว้ Happy Ba ค่ะ

  • มีกลัวอยู่ค่ะ กลัวที่อาจารย์นพลักษณ์ ๑๐Blank  มาทักว่าแก่นี่แหละค่ะ

ค่ะ ท่าน ผอ.ชยันต์ เพชรศรีจันทร์ Blank ไม่ว่าจะเกิดอะไร เราควรย้อนกลับมาดูตัวเองก่อนแก้ปัญหาเสมอ สงบ ไม่อ่อนไหวไปกับคำกล่าวหา ซึ่งมีมากมายตลอดเวลา แล้วในไม่ช้า บางทีไม่ต้องทำอะไรเลย ทุกอย่างก็จะเผยตัวออกมาเอง หากใครที่ไม่ปฏืบัติดีปฏิบัติชอบ ก็จะติดกับดัก ทำแบบเดิม ซ้ำ ๆ ให้คนอื่นจับได้อยู่ดีค่ะ น่าเห็นใจคนที่นำคำพูดของผู้อื่นไปกล่าวอ้างเพื่อให้ตนเองดูดีหรือพ้นผิด....

หลายครั้ง เรามักกลายเป็นผู้ร่วมกระบวนการไปโดยไม่ทันตั้งตัว

เคยแค่พยักหน้าในการสนทนาครั้งหนึ่ง (ที่เกี่ยวกับคนอื่น) ซึ่งเป็นคนละประเด็นด้วย ก็ถูกนำไปอ้างต่อแล้วว่า..."ขนาด... ยังพยักหน้าเห็นด้วยเลย..."  T_T

ไม่ห่วงคุณศิลา เพราะเชื่อมั่นใน "ใจที่สงบเย็น มั่นคงในสัจจะ ไม่ได้มีเจตนาร้าย..." ของคุณศิลาค่ะ

ธรรมะรักษานะคะ  :)

Don' t play the game.

อย่าไปเต้นตามเกมส์ของเขานะครับ

ความสงบ จะสยบ สรรพสิ่ง ครับ

ห่วงใยน้อง... ด้วยวัยที่เห็นเขาเล่นเกมส์กันมาเยอะแล้วนะครับ

พี่ชาย...ชยพร   แอคะรัจน์

quiet

 

q_quiet

u_understand

i_is just an alphabet

e_emotion control

t_tea

 

:-)

take a cup of tea!

  • ยุติได้ เยี่ยมมากๆค่ะท่านBlank อ.ศิลา

    เกิดเรื่อง "เล็ก ๆ" แค่นี้แต่เช้า แต่เราก็มีใจที่สงบเย็น มั่นคงในสัจจะ (ความจริง) ที่ไม่ได้มีเจตนาร้าย เรื่องเล็กก็ไม่กลายเป็นเรื่องใหญ่ แต่ถ้าเราใช้อารมณ์โวยวาย บ้าจี้ ช่วยกันควานหาความยุติธรรม ก็คงไม่จบอย่างสันติ ความยุติธรรมเป็นอุดมคติที่คำนิยามยังไม่เป็นที่ยุติ...ในทางโลก มันต้องจบลงที่ความพอใจของทั้งสองฝ่ายที่เกี่ยวข้องกัน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท