แร่หินดินด่างข้างภูเขาปลูกพืชควรใช้ปุ๋ยที่ให้ค่ากรดลดอัลคาไลน์


ผืนดินที่อุดมไปด้วยอินทรียวัตถุเศษไม้ใบหญ้าและจุลินทรีย์แอคติโนมัยสิท (actinomycetes)เมื่อถูกพืชไร่ไม้ผลดูดกินไปนมนานเข้าก็เริ่มจืดจาง

มีเกษตรกรจำนวนมากที่มีพื้นที่เพาะปลูกพืชไร่ไม้ผลอยู่ข้างๆภูเขาลำเนาไพร  เนื่องด้วยมักมีสายน้ำลำธารที่สวยใสไหลหลั่งรินลงมาจากลำห้วยด้วยแหล่งน้ำจากด้านบนของยอดภูลงมาสู่ที่ต่ำ พื้นที่ในลักษณะนี้จะมีความเหมาะสมต่อการเพาะปลูกอยู่มาก เราจึงมักจะเห็นอาณาบริเวณรอบๆภูเขาที่ชาวไร่ปลูกพืชไร่ไม้ผลกันดื่นดาษทั้งข้าวฟ่าง ข้าวโพด พริก มะละกอ ฯลฯ สุดแท้แต่จะมีผู้บริโภคเรียกร้องต้องการ พื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ดังเช่นป่าเปิดใหม่ในลักษณะนี้จะมีปุ๋ย แร่ธาตุ สารอาหารอันอุดมสมบูรณ์ สามารถแผ้วถางขุดหลุมปลูกได้โดยที่ไม่ต้องพึ่งพาปุ๋ยเคมีแม้แต่เมล็ดเดียว หากแต่ปลูกซ้ำย้ำที่เดิมอยู่เป็นอาจิณจนทรัพย์ในดินสินแร่เริ่มร่อยหรอลดน้อยเมื่อนั้นก็จะเริ่มมีการใช้ปุ๋ยเคมีหลากหลายชนิดเข้ามาเสริมเพิ่มเติมเพื่อให้ผลผลิตไม่ลดลงตามปริมาณอาหารในดิน

ผืนดินที่อุดมไปด้วยอินทรียวัตถุเศษไม้ใบหญ้าและจุลินทรีย์แอคติโนมัยสิท (actinomycetes)เมื่อถูกพืชไร่ไม้ผลดูดกินไปนมนานเข้าก็เริ่มจืดจาง ส่งผลให้ฮิวมิกแอซิด (Humic acid) ที่ซึ่งคอยช่วยให้โครงสร้างดินมีความแข็งแรงลดการชะล้างทำลายของกระแสน้ำก่อให้เกิดเป็นเม็ดดินทำหน้าที่เป็นแหล่งอาหารของจุลินทรีย์ก่อให้เกิดกิจกรรมการย่อยสลายเคลื่อนย้ายถ่ายเทแลกเปลี่ยนสารอาหารให้แก่ระบบนิเวศน์ในผืนดินผืนป่าทั้งพืช สัตว์ จุลินทรีย์ ฯลฯ ทำหน้าที่คล้ายตู้เย็นกักเก็บสารอาหารต่างๆให้แก่พืชมีอันต้องลดน้อยถอยลงไปตามกาลเวลา

 ความอุดมสมบูรณ์เหล่านี้เป็นที่มาแห่งการทำไร่ทำสวนปลูกชากาแฟต่างๆนานาของชาวไร่ ชาวนา ชาวเขา ชาวสวน เมื่อถึงจุดหนึ่งซึ่งอาหารและหน้าดินแห่งฮิวมัส (Humus) หมดลง ในถิ่นที่เป็นแหล่งภูเขาหินปูน (lime) ก็จะเริ่มสำแดงแผลงให้เห็นฤทธิ์แห่งธรรมชาติ พืชจะหยุดการเจริญเติบโต ใบเริ่มซีดจาง ดินไม่ตอบสนองต่อการใส่ปุ๋ย แน่นแข็ง กระด้าง ใช้จอบขุดก็กระเด้งกระดอน เนื่องด้วยความสมดุลย์แห่งระบบนิเวศน์ที่มีสิ่งมีชีวิตและอินทรีย์วัตถุที่หลากหลายต่างช่วยกันทำหน้าที่ทะนุบำรุงความอุดมสมบูรณ์เอาไว้ ผืนดินดังนี้ยิ่งถ้าใช้ปุ๋ยเคมีที่ไม่มีความเป็นกรดก็จะยิ่งกระหน่ำซ้ำเติมให้ดินเลวลงไปอีกเรื่อยๆ  ที่ถูกต้องเมื่อพบประสบปัญหาดินที่เป็นด่างเมื่ออยู่ใกล้แหล่งภูเขาหินปูน ควรใช้ปุ๋ยที่มีค่าความเป็นกรดอยู่ด้วยอย่างเช่น แอมโมเนียมซัลเฟต (21-0-0) ทดแทนปุ๋ย (ยูเรีย) 46-0-0 และปุ๋ย 0-0-50  (โพแทสเซียมซัลเฟต) ทดแทนปุ๋ย 0-0-60 (โพแทสเซียมคลอไรด์) เพื่อจะได้ฃ่วยปรับโครงสร้างทางกายภาพของดิน  (physical Structure) ให้กลับมาดีขึ้นพร้อมๆไปกับการเจริญเติบโตของพืช

 

มนตรี  บุญจรัส

ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ www.thaigreenagro.com

 

หมายเลขบันทึก: 504637เขียนเมื่อ 5 ตุลาคม 2012 17:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 ตุลาคม 2012 18:15 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

อ้อ .... เข้าใจแล้วว่า ..... ชาวเขา .... ทำไม่ถึง ปลูกชากัน นะคะ

ขอบคุณมากนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท