ตาเบบูญ่าและชายชราในสวน


ดอกไม้ แม้เป็นแค่เพียงดอกไม้ อยู่เฉยๆก็นำรอยยิ้ม ความสดใส ความสงบ ความสุข มาสู่ผู้คน คนที่ทำอารมณ์ให้แจ่มใส สงบ เบิกบาน อยู่เฉยๆ ก็อยากมีคนอยู่ใกล้ แผ่ความสงบสุขให้ผู้คนรอบข้างได้ แค่นี้โลกก็สวยงามแล้ว - หลวงปู่ ติช นัท ฮันท์


..

ตาเบบูญ่าผู้กล้าแกร่งและบอบบาง
กำลังบานสะพรั่งอยู่ท่ามกลางลมแดดฝน
เธอมาแสดงตัวด้วยสีสันอันหลากหลาย
และปล่อยกลีบบางเบาให้ร่วงกระจายอยู่บนพื้น

ฉันหยิบดอกที่หล่นอยู่กับพื้นมาสูดดม
เธอไม่ได้โอ้อวดชวนชมด้วยกลิ่นหอมเย้ายวนดังดอกไม้อื่น
แต่ทุกดอกที่หล่นคืนสู่แผ่นดินก็ยังงดงาม
ช่วยให้พื้นดินที่มั่นคง หนักแน่น ดูอ่อนโยนน่าเข้าไปนั่งเล่น

ปีละครั้งทีเธอเบ่งบานอย่างนบนอบต่อฤดูกาล
นำเอารอยยิ้มแห่งวันเวลาอันแสนหวานมาฝาก
พร้อมคำถามแด่หัวใจคนกล้า
ว่าเมื่อไหร่เราจะเบ่งบานเช่นเธอ
และพร้อมหรือยังที่จะผละกลีบบางร่วงลงพื้น
อย่างทรนง...
และเชื่อมั่นว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้น...ดีเสมอ...

ชายแก่นั่งมองความเป็นไป...ในสวนสาธารณะ
ผิวหนังเหี่ยวย่น บอบบาง ผมสีขาวปลิวไสวยามลมพัด
ชีวิตที่ผ่านพ้น หวานขมหอมหวนสักแค่ไหน...อย่างไร ฉันรำพึง
แม้หนทางชีวิตจะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบสุดสาย
แต่คงมีสักครั้งที่ทางเดินนั้นโปรยปรายด้วยกลีบของตาเบบูญ่า
บ่งบอกความงดงามในช่วงเวลา
ที่ในที่สุดก็ต้องอำลาคืนสู่ดินที่มานั่นเอง

ทุกช่วงเวลาของชีวิต มีความงดงามเสมอ
ไม่ว่าจะเป็นก้าวแรกของเด็กน้อย
ความสนุกสนานของเด็กๆ
โลกวุ่นในวัยทำงาน
หรือในยามที่สังขารร่วงโรยไป

ชายแก่นั่งอย่างเงียบเหงา 
ช่วงชีวิตที่เงาที่พาดลงค่อนข้างยาว
แต่เมื่อเขาลุกยืนขึ้นแล้วมองมา
ฉันเห็นไฟเฉิดฉายแจ่มจ้าในดวงตาคู่นั้น
ทุกช่วงเวลาของชีวิต...มีสง่าราศีเสมอ
และผู้เฒ่าเหล่านี้รู้ว่าชีวิตที่งดงามที่ผ่านมาเป็นเช่นไร

ตาเบบูญ่า...เข้าใจชีวิตเช่นนี้

แด่ดอกไม้และตาเบบูญ่าทุกดอกที่รอวันเบ่งบานฝากความงดงามไว้ในโลกใบนี้

..

..

..

..

..

..

..

..

..

..

..

..


Spring Waltz - Yiruma

http://www.youtube.com/watch?v=L2TCTlDondQ

คำสำคัญ (Tags): #ตาเบบูญ่า
หมายเลขบันทึก: 502430เขียนเมื่อ 16 กันยายน 2012 13:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 กันยายน 2012 09:26 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (50)

เมื่อคืนผมฟังเทศน์มา "ดอกไม้" ก็เป็น "ทุกข์" ได้ ......ในความหมายของ "ธรรม" :):)

บรรยากาศ เงียบๆ วันอาทิตย์ .......คุณปริม...มา surprise!! อีกแล้ว....:)

สวัสดีค่ะท่านอาจารย์วิชญธรรม

ขอโปรดช่วยขยายความค่ะ ดอกไม้ทุกข์ยังไงคะ ขอบคุณค่ะ

วันนี้มีกิจกรรมไม่มากค่ะ อ่านหนังสือไปครึ่งเล่มแล้วเปลี่ยนบรรยากาศจากนอนไปนั่งเขียนบันทึกเท่านั้นเอง คงต้องออกไปข้างนอกแล้วค่ะเดี๋ยวจะกลมไปกว่านี้

สวัสดีบ่ายวันอาทิตย์ค่ะ ;)

  • ตาเบบูญ่า /ชมพูพันธุ์ทิพย์
  • สวยงามอ่อนหวาน  
  • ยามดอกบานเต็มต้นแทบไม่มีใบเลย


... พร้อมหรือยังที่จะผละกลีบบางร่วงลงพื้น
... อย่างทรนง...
... และเชื่อมั่นว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้น...ดีเสมอ...



ปีละครั้ง... ดอกสะพรั่ง...บานปรากฏ

ฟ้ากำหนด  ดอกไม้บาน ตระการผล

กรรมกำหนด  ชะตา   คุณค่าคน

ออกดอกผล พร้อมเมื่อกรรม แลกาละ


ขอบคุณความงดงาม..พร้อมลีลา สาระ สุนทรีย์ มากมีที่แบ่งปันนี้นะคะ สาธุค่ะ :)



สวยจัง ดอกไม้ล่วงเต็มพื้นไปหมดเลย ชอบดูดอกไม้บนพื้นหญ้า

* ดอกไม้งาม..มีวันร่วงโรย..ย้อนมองตนไม่พ้นวงเวียนนี้..

* เมื่ออยู่ให้เขาไว้ใจ..เมื่อไปให้เขาคิดถึง..

* ขอบคุณข้อคิดดีๆค่ะ

* ส่งภาพซุ้มดอกบานบุรีหน้าบ้านมาฝากค่ะ

...ดอกไม้..งาม..และสวยสด..ทุกเมื่อ...คือ..ดอกไม้ที่..บาน..ในจิตใจ..ใช่ไหม..เจ้าคะ..คุณปริม....(สวัสดีค่ะ..ยายธี)

สวยไปหมดทั้งภาพ/คำ/ผู้บันทึก

เราตีความว่า "ทุกข์" ในความหมายเฉพาะ "ความรู้สึก" ที่เกิดกับเราเอง......

(บทเทศน์ที่ฟังมานี้ยังไม่ได้รับการวิเคราะห์ใดๆ นะครับ เก็บข้อมูลไปพิจารณาเองก่อนนะครับ)

ท่านบอกว่า..... ธรรมชาติใดๆที่มีการ "เกิด-ดับ" ..ธรรมชาตินั้นถูกเรียกว่า “กองทุกข์” .... "แก้ว" ที่แตกได้....”แก้วดับ” (นิโรธ). "แก้ว" นี้ก็เป็น "ทุกข์" ได้  ในความหมายของ อริยสัจ

....มีความหมายโดยนัยอาจมีมากกว่านี้นะครับแต่ผมไม่สามารถบรรยายให้กระจ่างพอ..:(

ดอกเต็มต้น สวยครับ

สาระดี มีงดงาม เช่นเดิม

ขอบคุณค่ะคุณปริม

ปล.บ้านหนูรีที่แบบนี้ ... ฝากให้คุณปริม นะคะ

 

บันทีกของปริมนี่เป็นอาหารสมองจริง อิ่มเอิบทุกครั้งที่เข้ามาอ่าน

เหมือนกับที่คุณพี่ชอบอ่านบันทึกของน้องปริมใช่ไหมคะ อ่านแล้วมีความสุข

 

      เข้ามาอ่านบันทึกที่งดงาม...ตามมาด้วยคำถามที่น่าคิดของท่าน อาจารย์วิชญธรรม (ขอบพระคุณมากครับ)  ทั้ง ‘ดอกไม้’ และ ‘แก้ว’ ก็เลยนึกย้อนกลับไปในตอนที่อ่านหนังสือ ‘พุทธธรรม’ ซึ่งมีแง่ให้พิจารณาถึงความเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงดังกล่าวด้วย เลยขออนุญาตแสดงความเห็นในประเด็นดังกล่าวด้วยนะครับ... :)

 

     “ไตรลักษณ์” มีพุธพจน์แสดงหลักไว้ในรูปของกฎธรรมชาติ ว่าดังนี้

             “ตถาคต (พระพุทธเจ้า) ทั้งหลายจะอุบัติหรือไม่ก็ตาม ธาตุ (หลัก) นั้นก็ยังคงมีอยู่ เป็นธรรมฐิติ เป็นธรรมนิยามว่า

                          ๑. สังขารทั้งปวง       ไม่เที่ยง.....

                          ๒. สังขารทั้งปวง       เป็นทุกข์.....

                         ๓. ธรรมทั้งปวง        เป็นอนัตตา.....

      

            ตถาคตตรัสรู้ เข้าถึงหลักนั้นแล้ว จึงบอก แสดง วางเป็นแบบ ตั้งเป็นหลัก เปิดเผยแจกแจง ทำให้เข้าใจง่ายว่า “สังขารทั้งปวงไม่เที่ยง..... สังขารทั้งปวง เป็นทุกข์..... ธรรมทั้งปวง เป็นอนัตตา.....”


            ถ้าดูที่ความหมายของทุกข์ ก็คือ

            ทุกขตา (Stress and Conflict) ความเป็นทุกข์ ภาวะที่ถูกบีบคั้นด้วยการเกิดขึ้นและสลายตัว ภาวะที่กดดัน ฝืนและขัดแย้งอยู่ในตัว เพราะปัจจัยที่ปรุงแต่งให้มีสภาพเป็นอย่างนั้นเปลี่ยนแปลงไปจะทำให้คงอยู่ในสภาพนั้นไม่ได้ ภาวะที่ไม่สมบูรณ์มีความบกพร่องอยู่ในตัว ไม่ให้ความสมอยากแท้จริง หรือความพึงใจเต็มที่แก่ผู้อยากด้วยตัณหา และก่อให้เกิดทุกข์แก่ผู้เข้าไปอยากเข้าไปยึดด้วยตัณหาอุปทาน

             

         ถ้าสังเกตที่คำว่า ‘สังขาร’ ท่านพระพรหมคุณาภรณ์ ได้แยกและเปรียบเทียบให้เห็นดังนี้

            ๑. สังขาร ในขันธ์ ๕ ( รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ)  ซึ่งเป็นข้อที่ ๔ ในขันธ์ ๕ นั้น หมายถึง สภาวะที่ปรุงแต่งจิต ให้ดี ให้ชั่ว ให้เป็นกลาง ได้แก่ คุณสมบัติต่าง ๆ ของจิต ที่มีเจตนาเป็นตัวนำ ที่ปรุงแปรการตริตรึกนึกคิดในใจ และการแสดงออกทางกาย วาจา ให้เป็นไปต่าง ๆ เป็นตัวการของทำกรรม เรียกง่าย ๆ ว่า เครื่องปรุงของจิต เช่น ศรัทธา สติ หิริ โอตตัปปะ เมตตา กรุณา ปัญญา โมหะ โลภะ โทสะ เป็นต้น (คัมภีร์อภิธรรมจำแนกไว้ ๕๐ อย่าง เรียกว่า เจตสิก ๕๐ ในจำนวนทั้ง ๕๒) ซึ่งทั้งหมดนั้นล้วนเป็นนามธรรม มีอยู่ในใจทั้งสิ้น นอกเหนือจาก เวทนา สัญญา และวิญญาณ

            ๒.สังขาร ในไตรลักษ์  (สังขารทั้งปวงไม่เที่ยง สังขารทั้งปวงเป็นทุกข์ ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา)  ที่กล่าวถึงในไตรลักษณ์ หมายถึง สภาวะที่ถูกปรุงแต่งคือ สภาวะที่เกิดจากเหตุปัจจัยปรุงแต่งขึ้นทุกอย่าง ประดามี ไม่ว่าจะเป็นรูปธรรมหรือนามธรรมก็ตาม เป็นด้านร่างการหรือจิตใจก็ตามมีชีวิตหรือไร้ชีวิตก็ตาม อยู่ในจิตใจหรือเป็นวัตถุภายนอกก็ตาม เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า สังขตธรรม  คือทุกสิ่งทุกอย่าง เว้นแต่นิพพาน

         จะเห็นได้ว่า ‘สังขาร’ ในขันธ์ ๕ มีความหมายแคบกว่า ‘สังขาร’ ในไตรลักษณ์ หรือเป็นส่วนหนึ่งของสังขารในไตรลักษณ์นั่นเอง...


       พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต). พุทธธรรม (ฉบับปรับปรุงขยายความ).

         เนื้อหาที่ผมนำมา เอาเฉพาะส่วนที่สำคัญที่เกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกับประเด็นดังกล่าวเท่านั้นครับ...แต่รายละเอียดทั้งหมดในเรื่องดังกล่าวจะอยู่ใน ตอนที่ ๒ ชีวิตเป็ยอย่างไร? บทที่ ๓ ไตรลักษณ์ : ลักษณะโดยธรรมชาติ ๓ อย่างของสิ่งทั้งปวง หน้า ๖๘ – ๗๘/๑๕

************************************************************************************************

         จากสังขารในไตรลักษณ์  ท่านกล่าวว่า เป็น สภาวะที่ถูกปรุงแต่ง หรือ สภาวะที่เกิดจากเหตุปัจจัยปรุงแต่งขึ้นทุกอย่าง

            - หากพิจารณากรณี ‘ดอกไม้’ ในที่นี้ก็จะได้ว่า ดอกไม้ คือ สังขาร เพราะ ดอกไม้เป็นสภาวะที่ถูกปรุงแต่งขึ้นจากเหตุปัจจัย คือ ต้นไม้ และ ต้นไม้ ก็เป็นสภาวะที่ถูกปรุงแต่งขึ้นจากเหตุปัจจัย เช่น ดิน  ปุ๋ย  น้ำ เป็นต้น แล้ว ดิน ปุ๋ย น้ำ ก็เป็นสภาวะที่ถูกปรุงแต่งขึ้นจากเหตุปัจจัย...

            - หากพิจารณากรณี ‘แก้ว’ ในที่นี้ก็จะได้ว่า แก้ว คือ ‘สังขาร’ เพราะ แก้วเป็นสภาวะที่ถูกปรุงแต่งจากกระบวนการผลิตที่มีเหตุปัจจัยในวัตถุดิบชนิดต่าง ๆ เป็นส่วผสม นั่นเอง และวัตถุดิบชนิดต่างต่าง ๆ ที่นำมาผลิตแก้วก็เป็นสภาวะที่ถูกปรุงแต่งขึ้นจากเหตุปัจจัย...

           ดังนั้น เมื่อทั้งสองอย่างเป็น ‘สังขาร’ ในไตรลักษณ์ ก็กล่าวได้ว่า   ดอกไม้และแก้ว เป็น ทุกข์ นั่นเอง

        ยิ่งจะชัดเจนยิ่งขึ้น เมื่อนำเอา สิ่งเหล่านั้น (ดอกไม้หรือแก้ว) ไปจับกับความหมายของ ทุกข์ คือ ดอกไม้และแก้วย่อมมีปัจจัยที่ปรุงแต่งขึ้นให้มีสภาพเป็นอย่างนั้นเปลี่ยนแปลงไปไป จะทำให้คงอยู่ในสภาพนั้นไม่ได้  คือ ดอกไม้ก็เหี่ยวหรือแก้วก็เก่าหรือแตกสลายไป...


     หรืออาจจะสรุปให้เข้าง่าย ๆ ได้ว่า : สิ่งใด ๆ ก็ตาม (รูปธรรม / นามธรรม มีชีวิตหรือไม่มีชีวิต) ที่เกิดจากเหตุปัจจัยปรุงแต่งขึ้นทุกอย่าง...แล้วเกิดขึ้นแล้วสลายตัว เปลี่ยนแปลงไป คงอยู่ในสภาพนั้น (เดิม) ไม่ได้...สิ่งแหล่านั้น...เป็นทุกข์ นั่นเอง.


     คุณปริมครับ...อย่าลืมใช้หลัก กาลามสูตร นะครับ... :)

     ขอบคุณในความงดงามอีกครั้ง...อีกครั้ง...อีกครั้ง... 

  • งดงามครับทั้งภาพและคำ.. 
  • นำที่โรงเรียนมาฝากเพิ่มเติมด้วยครับ


อิ่มสุขและปล่อยไป

เริ่มใหม่เข้าใจเหตุที่มา

ฝึกอำลาวางวาย

.......

หลับสบาย  ฝันดีนะคะคุณปริม

น้องเพลินพาไปแอ่วนาของน้องปริม เก็บภาพมาฝาก

ส่วนภาพกิจกรรมอื่นๆ รอก่อนนะคะ

 

http://www.facebook.com/media/set/?set=oa.288597054587878&type=1

 

 

 

สวัสดีค่ะคุณมะเดื่อ

ชื่องามสมตังนะคะ ชมพูพันธุ์ทิพย์ และถ้าเป็นสีเหลืองสีขาวชื่อคงต่างไปเช่นกันนะคะ เพราะเท่าที่เห็นมีสีขาว สีชมพูอ่อน สีชมพูเข้มและเหลืองค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ

สวัสดีค่ะคุณ Tawandin,

ขอบคุณบทกลอนเพราะๆ ที่นำมาฝากค่ะ วันอาทิตย์สบายๆ พักผ่อนกับเด็กๆ นะคะ

ดอกไม้แสดงถึงความงามที่ไม่เที่ยงได้ดีมากทีเดียวค่ะ แต่ถึงกระนั้นแม้ช่วงเวลาที่อยู่บนโลกนี้ไม่นานนัก เธอก็ยังฝากความงามไว้ให้เราชื่นชมได้ หวังว่าคนเราคงจะได้ฝากความงดงามต่างๆ ไว้ในความทรงจำของคนที่เรารัก คนรอบข้างบ้างนะคะ

ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะคุณ Nopparat,

พื้นหญ้าสีเขียว ดอกไม้สีชมพู ตัดกันงามน่าดูชมค่ะ ยิ่งดอกที่ร่วงหล่นมากมายทำให้พื้นแทบเต็มไปด้วยสีชมพูน่ามองค่ะ แม้หนทางจะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่มันก็โรยด้วยกลีบตาเบบูญ่าในบางช่วง งดงามค่ะ

ขอบคุณค่ะที่มาเยี่ยมเยียนกันนะคะ

สวัสดีค่ะคุณพี่ใหญ่

เมื่ออยู่ให้เขาไว้ใจ เมื่อไปให้เขาคิดถึง...

ขอบคุณมากนะคะสำหรับข้อคิดดีดี ดอกไม้งามๆ ที่เมตตาเอามาฝากค่ะ

สุขสันต์วันทำงานดีดีค่ะ

...ดอกไม้..งาม..และสวยสด..ทุกเมื่อ...คือ..ดอกไม้ที่..บาน..ในจิตใจ..

ใช่เลยค่ะคุณยายธี

งามมากค่ะ ดอกไม้งามในจิตงาม ;)

สุขสันต์วันดีดีอีกวันค่ะคุณยาย ขอบคุณมากค่ะ

สวัสดีค่ะคุณเกษเกล้า

ขอน้อมรับคำชมด้วยรอยยิ้มค่ะ อย่างน้อยก็อยู่ในระหว่างพัฒนาให้ไปถึงจุดที่สวยงามค่ะ ;)

ขอบคุณมากค่ะ

สวัสดีค่ะท่านอาจารย์วิชญธรรม

ขอบคุณมากค่ะที่กรุณามาขยายความค่ะ แถมท่านอาจารย์จัตุเศรษธรรมกรุณามาขยายความต่อให้อีก น้องใหม่หัดเรียนจึงต้องขอนั่งทำความเข้าใจก่อนนะคะ ไม่นึกมาก่อนในชีวิตว่าการเรียนธรรมะจะสนุก ตื่นเต้นและชวนให้ติดตามปานนี้ค่ะ จากหัวข้อหนึ่งโยงใยกันไป สนุกๆๆๆ ค่ะ

ขอบคุณมากค่ะท่านอาจารย์ เมตตาช่วยมาชี้แนะบ่อยๆ นะคะ

;)

สุขสันต์วนทำงานนะคะ

สวัสดีค่ะท่านอาจารย์ JJ,

ดอกตาเบบูญ่าในช่วงนี้บานแทบทั่วเมืองค่ะ แต่งแต้มสีสันให้ป่าคอนกรีตดูอ่อนโยนลง มีสีสันมากขึ้นค่ะ ดูสวยงามให้ความรู้สึกผ่อนคลายไปอีกแบบค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ

สวัสดีค่ะคุณหนูรีคะ

ดอกทุเรียนที่เกลื่อนอยู่บนพื่น อีกไม่นานก็จะถูกเนรมิตให้เป็นลูกทุเรียนบนต้นนะคะ งามแถมกินได้และจะกลายเป็นทุเรียนกวนด้วยค่ะ อิอิอิ

ขอบคุณมากค่ะ

สวัสดีค่ะคุณชลัญ

คงเพราะเป็นธรรมชาติของตัวเองที่ใช้กำลังสมองมากกว่ากำลังกายค่ะ เป็นประเภทคิดแต่ทำไม่ค่อยได้ บันทึกของปริมจึงมีแต่แนวคิดๆๆๆ ไม่ค่อยสมดุลเท่าไหร่ค่ะ อิอิอิ

สุขสันต์วันทำงานค่ะ

สวัสดีค่ะท่านอาจารย์ชยันต์

ขอบคุณมากค่ะ ดอกไม้สวยยู่แล้วค่ะ ถ่ายภาพมุมใดก็สวยค่ะ ;)

สุขสันต์วันทำงานดีดีอีกวันนะคะ

สวัสดีค่ะคุณอุ้มบุญ

ขอบคุณนะคะที่กรุณามาเยี่ยมเยียนพร้อมก้อนหินแห่งมิตรภาพค่ะ

สุขสันต์วันทำงานนะคะ ;)

สวัสดีค่ะคุณพี่ kunrapee,

ขอบคุณค่ะ ดีใจมากค่ะที่คุณพี่มีความสุข ชีวิตของคนเราก็เท่านี้ค่ะ แต่ได้รู้ว่าใครสักคนมีความรู้สึกดีดี เราก็มีความสุขและพอใจที่ได้เกิดมาบนโลกใบนี้ค่ะ

ขอบคุณมากนะคะที่ทำให้ปริมยิ้มได้ในวันจันทร์ ;)

สุขสันต์วันทำงานค่ะ

สวัสดีค่ะท่านอาจารย์จัตุเศรษฐธรรม

วันนี้ตื่นเช้ามาดูคอมเมนท์ในโกทูโนว์ เห็นท่านอาจารย์ฝากข้อคิดไว้ ขอบคุณมากค่ะ ตื่นเต้นมากเพราะจากไตรลักษณ์มีลิงค์ไปถึงสิ่งต่างๆ อีกมากมาย สำหรับน้องใหม่ทุกอย่างน่าศึกษาน่ารู้หมดเลยค่ะ ไม่เคยนึกว่าการเรียนรู้ธรรมะจะน่าสนใจ น่าตื่นเต้น น่าใฝ่รู้ น่าเสาะหาปานนี้

อ่านจากที่ท่านอาจารย์อธิบาย ดอกไม้และแก้วเป็นทุกข์ คนเราก็เป็นทุกข์หนึ่งนะคะ มิน่าเราจึงคุ้นเคยกับความทุกข์เหลือเกิน ดูเหมือนมันจะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตแต่แท้จริง ชีวิตเราคือทุกข์นั่นเอง นึกถึงคำพูดหนึ่งที่ว่า ปลาตายลอยตามน้ำ ปลาเป็นลอยทวนน้ำ

การที่เราหลับหูหลับตาใช้ชีวิต ปล่อยชีวิตดำเนินไปตามทางของชีวิตเราจึงอยู่ในกองทุกข์ หากเราจะไม่ทุกข์เราก็คงต้องใช้ชีวิตทวนกระแส กระแสกิเลสตัณหาที่คอยแต่จะมารุมเล้าให้เราเศร้าหมองนะคะ

และหากเรามองความทุกข์ ความสุขเป็นความรู้สึกหนึ่ง ความไม่ทุกข์ไม่สุขก็เป็นอีแความรู้สึกหนึ่ง ตอนนี้เริ่มเห็นลางๆ ในสิ่งที่ท่านผู้รู้เรียกว่าความว่าง เพราะปล่อยวางทั้งความสุข และความทุกข์นะคะ

ไม่รู้จะขอบคุณท่านอาจารย์อย่างไรดีที่กรุณามาชี้แนะค่ะ เลยคิดว่าวันนี้และคงอีกสองสามวันจะตอบแทนคุณอาจารย์ด้วยการอ่านหนังสือ ไตรลักษณ์ โดยพระพรหมคุณาภรณ์ค่ะ มีอยู่ในตู้หนังสือเช่นกันเล่มนี้ ได้ฤกษ์เปิดอ่านเสียทีตั้งแน่ซื้อมาเก็บไว้เมื่อนานมาแล้วค่ะ

ขอความกรุณาท่านอาจารย์ช่วยชี้แนะน้องใหม่ต่อไปนะคะ

ขอบคุณค่ะ

สุข สงบในวันทำงานนะคะ

สวัสดีค่ะท่านอาจารย์ธนิตย์

ขอบคุณมากค่ะสำหรับตาเบบูญ่าสีเหลือง ปริมยังไม่เคยเห็นของจริงที่เป็นสีเหลืองค่ะ ที่สิงคโปร์รู้สึกจะไม่มีสีเหลืองค่ะเพราะยังไม่เคยเห็น

สุขสันต์วันทำงานอีกวันนะคะท่านอาจารย์

สวัสดีค่ะ ทพญ.ธิรัมภา

หลังจากที่ปวดหัวมาหลายวัน เมื่อคืนหลับสบาย เพราะคำอวยพรของคุณหมอนี่เอง ขอบคุณมากค่ะ

ขอบคุณบทสรุปอันงดงามด้วยนะคะ

สุขสันต์วันทำงานนะคะ

สวัสดีค่ะพี่ดา

ขอบคุณค่ะที่กรุณานำภาพที่นามาให้ชมค่ะ

ตั้งแต่ไปดูที่ ตกลงซื้อและซื้อเสร็จแล้วตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ปริมเพิ่งได้ไปที่นั่นมาสามครั้งเองค่ะ ให้ปริมพาไปคงหลงทางแน่นอนค่ะ อิอิอิ

ไม่นึกว่าพี่เพลินจะพาไปแอ่วที่นั่นค่ะ เคยคุยกันทางเฟสบุ้คครั้งหนึ่งยังพูดเล่นๆ กันว่าน่าจะพาชาวโกทูโนว์ไปเก็บเห็ด เก็บผักกูด และหน่อไม้หากยังมีเหลืออยู่ค่ะ แต่ไม่คิดว่าพี่เขาจะพาไปแอ่วจริงๆ

ทางเข้าคงลำบากมากนะคะ ขอโทษด้วยค่ะเรายังไม่ได้ไปปรับปรุงอะไรเลยค่ะ คิดกันเอาไว้ว่าจะไปทำถนนเข้าไป ทำสะพานข้ามน้ำและก็ปลูกกระท่อมเอาไว้พัก ตั้งใจจะทำเป็นที่เกษตรปลอดสารกันค่ะ ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย เป็นที่ให้เพื่อนฝูง ญาติมิตรมาพักพิงความสงบค่ะ ป่าข้างหลังก็ปล่อยไว้ให้นกสัตว์อาศัย แต่ตอนนี้ก็ให้ลุงกาบปลูกข้าวไปก่อนค่ะ

ดีใจที่ได้ดูรูปสีเขียวอีกครั้งค่ะ ถ้าปริมเข้าไปปรับปรุงพี่ดาไปเที่ยวอีกนะคะ :))))

ขอบคุณค่ะ

ขอขอบคุณดอกไม้ทุกดอกที่เบ่งบาน งดงาม และฝากความงามนั้นไว้ในโลกใบนี้ค่ะ

สุขสันต์วันทำงานอีกวันนะคะ ;)

เพิ่มเติม...นิดนึงครับ...คุณปริม

      'ไตรลักษณ์'  เนื้อหาที่ผมนำมา...เฉพาะส่วนสำคัญที่เกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกับประเด็นดังกล่าวเท่านั้นครับ...แต่รายละเอียดทั้งหมดในเรื่องดังกล่าวจะอยู่ใน

      หนังสือ "พุทธธรรม ฉบับปรับปรุงขยายความ"  ตอนที่ ๒ ชีวิตเป็ยอย่างไร? บทที่ ๓ ไตรลักษณ์ : ลักษณะโดยธรรมชาติ ๓ อย่างของสิ่งทั้งปวง หน้า ๖๘ – ๗๘/๑๕.

      ปล. สารภาพตามตรงเหมือนกัน...ผมยังอ่านไม่จบเล่มเลยครับ (หนามาก)...ก็ค่อย ๆ ไปนะครับ...(แต่รู้ตัวเองว่าค่อยไป...มากเกินไปเหลือเกิน)... :)

       สุขสันต์วันจันทร์ที่สวยงาม สดใส...เดินทางในสายแห่งปัญญาไปพร้อมกันนะครับ... :)

สวยจังเลยค่ะ ขนาดร่วงแล้วยังสวยมากๆๆๆๆ

ขอบคุณค่ะท่านอาจารย์จัตุเศรษฐธรรม จะพิจารณาตามหลัก กาลามสูตรค่ะ ;)

ท่านอาจารย์ได้เริ่มอ่านแล้วค่ะ สำหรับปริมหนทางหมื่นลี้ยังไม่เริ่มเพราะก้าวแรกยังไม่ขยับเลยค่ะสำหรับหนังสือเล่มนี้

เห็นความหนาแล้วชักขยาดค่ะ วันนี้เอาหนังสือไตรลักษณ์ ออกมาก่อน 214 หน้า ไม่หนามากค่ะ จากผู้เขียนคนเดียวกัน แล้วจะได้เปรียบเทียบความต่างค่ะ ;)

สุข สงบในยามเย็นค่ะ

สวัสดีค่ะคุณ tuknarak,

คนเราก็งามตามวัยได้เช่นกันค่ะ

ขอบคุณมากนะคะ

สุขสันต์ค่ำวันจันทร์ค่ะ

การได้ชื่นชมดอกไม้ในฐานะที่มันสวยงาม การได้ยลโฉมหญิงสาวที่พราวเสน่ห์ เสมอเป็นเพียงการได้เห็นด้านหนึ่งของสัจจธรรมเท่านั้น

สัจจธรรมมีสองด้าน คือ ด้านบวก และ ด้านลบ ความสวยงามของดอกไม้ ความพราวเสน่ห์ของหญิงสาว เป็นด้านบวก ในขณะที่ความร่วงโรยของดอกไม้ และ ความชราที่มาเยือนหญิงสาว เป็นด้านลบ

ดอกไม้และหญิงสาวคือสิ่งสะท้อนปรากฏการณ์แห่งสัจจธรรมคือ การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป การเกิดขึ้นและตั้งอยู่ ก่อให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า สวยงาม การดับไป คือ การนำพาความร่วงโรยมาสู่สิ่งสวยงามทั้งสองนั้น

สัจจธรรมไม่ใช่หลักคำสอนของพระพุทธเจ้า แต่เป็นเพียงสิ่งที่พระองค์ทรงค้นพบ การค้นพบคือการรู้สภาพที่แท้จริงของสัจจธรรม เมื่อรู้แล้วพระองค์ก็มีวิธีที่จะวางท่าทีและปฏิบัติตนให้ถูกต้องสอดคล้องกับสัจจธรรมนั้น วิธีที่พระองค์ใช้นั่นแหล่ะ เราเรียกว่า หลักคำสอน หรือ วิธีปฏิบัติตนต่อธรรมชาติอย่างถูกต้อง

ดอกไม้เป็น "ทุกข์" เป็นความหมายเชิงกายภาพ เป็นความทุกข์ตามธรรมชาติ กล่าวคือ มันเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป

เกิดขึ้น ตั้งอยู่ = สวยงาม
ดับไป = ทุกข์

ความ"ทุกข์" ที่เกิดในใจคนเรา เป็นความทุกข์เชิงนามธรรม ความทุกข์นี้เราสร้างเอง ไม่เกี่ยวกับธรรมชาติ

ดอกไม้เหี่ยวแห้ง หญิงสาวร่วงโรย เป็นความทุกข์ตามธรรมชาติ

เราเป็นทุกข์เพราะเห็นดอกไม้เหี่ยวแห้ง หรือเป็นทุกข์เพราะเห็นหญิงที่เรารักทรุดโทรมแก่ชรา ทุกข์อย่างนี้เรียก ทุกข์แบบผิดธรรมชาติ เป็นทุกข์อันเกิดจากการไม่เข้าใจวิธีปฏิบัติต่อปรากฏการณ์แห่งสัจจธรรม

ทุกข์ตามธรรมชาติแก้ไขไม่ได้ (ห้ามไม่ให้ดอกไม้เหี่ยว ห้ามหญิงสาวไม่ให้แก่ ห้ามไม่ได้) แต่ทุกข์ใจแก้ไขได้ เราห้ามใจไม่ให้ทุกข์ เราห้ามได้ (We can do!)

กราบนมัสการพระอาจารย์พระมหาอัมพรค่ะ

กราบขอบพระคุณในคำอธิบาย คำชี้แนะค่ะ ตอนนี้เข้าใจกระจ่างขึ้นมากเลยทีเดียวค่ะ ต้องมีสติรู้ทันความคิดของตัวเองจะได้ไม่ทุกข์มากนะคะ

ขอบพระคุณมากค่ะ ขอพระอาจารย์เมตตาชี้แนะต่อๆ ไปนะคะ ขอบคุณค่ะ

สวัสดียามดึกค่ะคุณคณิน,

สวยมากค่ะ สีสันสดใสมาก ที่สำคัญไม่มีใบเลยนะคะ สวยมากๆ ค่ะ

ขอบคุณค่ะ

ได้เห็นถึงสัจจธรรม!.. เธองดงามแม้กระทั่งยามโรยรา..

สวัสดีค่ะคุณครูอนันต์

ค่ะ ไม่มีอะไรเที่ยงเลยนะคะ ดอกไม้บ่งบอกถึงความรู้สึกนี้ด้ดีมากค่ะ

ขอบคุณมากนะคะ

ฝันดีค่ะคุณครู

เช่นกันครับ คุณปริม!..ผมหลงใหลในอักษรทุกตัวของคุณจริงๆ !.. ชั่งงดงามอย่างหาที่ติมิได้?.. ขอบคุณสิ่งดีๆ ที่มีให้ครับ!..

เช่นกันครับ คุณปริม!..ผมหลงใหลในอักษรทุกตัวของคุณจริงๆ !.. ชั่งงดงามอย่างหาที่ติมิได้?.. ขอบคุณสิ่งดีๆ ที่มีให้ครับ!..

สวัสดีค่ะคุณครูอนันต์

ขอบคุณมากค่ะสำหรับเพลงเพราะๆ ที่นำมาฝากค่ะ ที่ดีใจมากที่สุดคือที่คุณครูชอบบันทึกนี้ค่ะ :))))))

สุขสันต์วันเสาร์นะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท