ยุวกวีทัศน์ ๒ "นักเรียนนักเลง"


นักเรียนคือนักเรียน มิแปรเปลี่ยนหน้าที่ตน ชื่อเสียงจะยินยล อย่าทำตนป็นนักเลง

ยุวกวีทัศน์

“นักเรียนนักเลง”

 

                                        กาพยานี

 

 

(widget.sanook.com)

 

 

        คราวที่แล้วผู้เขียน นำความคิดของนักเรียน ระดับชั้นมัธยมศึกษา ตอนปลาย ของโรงเรียนในภาคอีสานในการแข่งขันการแต่งคำประพันธ์เมื่อวันศุกร์ที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๕ ที่ภาควิชาภาษาไทย ฯ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เรือง “รักวัวให้ผูกรักลูกให้กอด”  ที่เป็น สำนวนภาษิตโบราณ ที่มาจาก “รักวัวให้ผูกรักลูกให้ตี” อันเป็นข้อคิดในการเลี้ยงดูบุตรหลาน ปัจจุบัน วัฒนธรรมต่าง ๆ เปลี่ยนไปมาก จึงมีบางท่าน ต้องการให้เปลี่ยนเป็น  “รักวัวให้ผูกรักลูกให้กอด”  แทน ซึ่งแสดงทัศนะ ต่าง ๆ บ้างก็ว่า ครู ภาษาไทยอีสาน ให้ความหมาย "ตี" มีความหมายเป็นนัยว่า หมายถึง “ การอบรมสั่งสอน”   ไม่ได้แปลว่า ตีด้วยไม้เรียว   ที่จริงแล้ว เป็นครู ภาษาไทย จาก จังหวัด อุบลราชธานี(ตามคำอ้างของผู้มาในรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ )  คงไม่ใช่ครูภาษาไทยภาคอีสานทั้งหมด อย่างที่ นำมากล่าวในรายการของคุณสรยุทธ ก็เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ กันไป มากพอสมควร

        ครานี้ หัวข้อที่ เป็นความคิดของนักเรียน ที่กรรมการ ตั้งกระทู้ คือ “นักเรียนนักเลง” ซึ่งเป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจ เพราะนักเรียนนักเลง ยังมีและเพิ่มความรุนแรงขึ้นทุกวัน จนไม่สามารถจะทำให้หมดไปได้ ก่อความเดือดร้อน ให้ผู้อื่นในสังคมไทยอย่างไม่สามารถที่จะปราบปรามได้

      ลองมา อ่านความคิดเห็นของ วัยรุ่น เกี่ยวกับเรื่อง “นักเรียนนักเลง” (บางโรงเรียนผู้เขียนไม่สามารถอ่านลายมือได้จึงใส่...ไว้เพื่อให้เห็นแนวคิดของเด็กไม่อยากตัดออก)  ดังนี้ครับ

 

รร.เมืองพลพิทยาคม จังหวัดขอนแก่น

     เป็นวัยที่เล่าเรียน     คิดอ่านเขียนบูรณา

เก็บเกี่ยวกอบวิชา        เพื่อสร้างชาติดำรงชน

    แต่นัยไม่รักดี           เตะต่อยตีทำร้ายคน

เทคนิคทั้งช่างกล         ค่านิยมสั่งสมมา

 

 

รร. กุฉินารายณ์  จังหวัดกาฬสินธุ์

    นักเรียนมีปัญญา      พัฒนาชาติก้าวไกล

เป็นเด็กมีวินัย              พร้อมก้าวไปในสากล

    นักเรียนคือนักเรียน มิแปรเปลี่ยนหน้าที่ตน

ชื่อเสียงจะยินยล          อย่าทำตนป็นนักเลง

 

รร. พิมายวิทยา จังหวัดนครราชสีมา

    นักเรียนเพียรเขียนอ่าน        ให้เชี่ยวชาญการศึกษา

ใฝ่รู้ทุกเวลา                             อย่าเก่งกล้าเป็นนักเลง

    เด็กคืออนาคตชาติ               ต้องเปรื่องปราดเป็นคนเก่ง

ซื่อสัตย์ต่อตนเอง                     อย่าทำเบ่งคิดอวดดี

 

รร. สารคมพิทยาคม จังหวัดมหาสารคาม

    การเรียนสนมัยใหม่             นักเรียนไร้คุณธรรม

บางคนบางกลุ่มนำ                  ความรุนแรงมาใช้กัน

    ควรใคร่คิดไตร่ตรอง           เราทั้งผองสานสัมพันธ์

ให้เรานั้นยึดมั่น                        สามัคคีคือพลัง

 

รร.  วาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม

     นักเรียนใช่นักเลง        ไม่อวดเก่งเร่งศึกษา

คุณธรรมนำปัญญา            แก้ปัญหาด้วยหลักการ

    สามัคคีมีน้ำใจ               รู้อภัยใฝ่สุขศานติ์

ใช่เพียงใช้แรงผลาญ        ไม่ระรานเชิงนักเลง

 

รร. สกลราชพิทยานุกูล จังหวัดสกลนคร

    นักเรียนเพียรใฝ่รู้                 หมั่นเชิดชูสถาบัน

สร้างเกียรติสร้างสิ่งอัน           ประเสริฐล้ำนำชาติไทย

    นักเลงเบ่งศักดิ์ศรี                ละสิ่งที่บรรเจิดใส

นั่นควรจะกลับใจ                    ในวันใหม่ไม่สายเกิน

 

รร. ผดุงนารี จังหวัดมหาสารคาม

    นักเรียนเป็นนักเลง              มิกลัวเกรงหรือไฉน

มัวคึกไม่ตรึกใจ                       จะทนทุกข์ทรมาน

    สนุกไปไม่เฉลียว                 พลาดนิดเดียวเกี่ยวปัญหา

นักเลงเร่งกลับมา                    ก่อนพลั้งพลาดอาจไม่งาม

 

รร. กลันทาพิทยาคม จังหวัดบุรีรัมย์

    หน้าที่คือการเรียน   หมั่นพากเพียรเขียนอ่านสอน

ปฏิบัติตามขั้นตอน      อย่าทำตัวเป็นนักเลง

    เที่ยวเตร่เสเพลเมา  หาเรื่องเขาไม่หวั่นเกรง

ไม่คิดถึงตนเอง           บุพการีที่เลี้ยงดู

 

รร. สาธิตหาวิทยาลัยมหาสารคาม  จังหวัดมหาสารคาม

    ยกไม้มีดฟันแทง      โทษะแรงสถาบัน

ทำสิ่งบ่สร้างสรรค์      พลาญชีวินจนบรรลัย

    บ่ห่วงคนข้างหลัง    ภาพแม่นั่งครวญร้องไห้

ความหวังแม่สิ้นไป     เพราะลูกได้นอนเรือนจำ

 

รร.กันทรลักษ์วิทยา  จังหวัดศรีสะเกษ

    นักเรียนเพียรศึกษา  ตามตำราวิชาการ

ฝึกฝนจนเชี่ยวชาญ      ศิลป์ศาสตร์สาส์นการดนตรี

    นักเลงเก่งทำผิด       มินึกคิดถึงศักดิ์ศรี

ควรคิดตระหนักดี       อาจทวีความเป็นคน

 

รร.พุทไธสง จังหวัดบุรีรัมย์

   เป็นนักเรียนอ่านเขียน  หมั่นพากเพียรเรียนรู้ไว้

อนาคตจะสดใส          เพื่อวันใหม่ได้สบาย

    เป็นนักเลงอวดเบ่ง  ไม่เกรงสิ่งเลวน่าอับอาย

รีบกลับตัวก่อนสาย     ปรับตัวใหม่ให้สังคม

 

รร. ชุพลวิทยาสรรค์ จังหวัดสุรินทร์

    นักเรียนต้องศึกษา       จะนำพาบรรลุผล

ควรปฏิบัติตน              อยู่ในกรอบครรลองธรรม

   นักเลงสมัยนี้               เรื่องต่อยตีมีมากล้ำ

ซึ่งใช่น่าจดจำ              สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นภัย

 

รร. บัวขาว จังหวัดกาฬสินธุ์

    นักเรียนไทยวันนี้         รักศักดิ์ศรีจนเกินงาม

ไม่กลัวไม่เกรงขาม      ใครมาหยามมิได้เลย   

    จนกลายเป็นนักเลง     เที่ยวตะเบงมิอยู่เฉย

สงสารคู่เชลย              แม้มิเคยแต่รับกรรม

 

รร. ขามแก่นนคร จังหวัดขอนแก่น

    มัวเมาอบายมุข           ชิงสนุกสนานไป

ต่อยตีมิกลัวภัย             ............หลงผิดกัน

    ความหวังทั้งแม่พ่อ      นั้นยังรอลูกถึงฝัน

กลับใจในเร็ววัน              ยุวสรรค์สร้างแผ่นดิน

 

หมายเลขบันทึก: 501115เขียนเมื่อ 4 กันยายน 2012 08:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มกราคม 2013 01:14 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

สวัสดี ค่ะBlank แว่นธรรมทอง  หวังว่าท่านคงจะสบายดีนะคะ

มาอ่านความคิดของวัยรุ่น  นักเรียน นักเลง ค่ะ

 

ขอบคุณครูทิพย์..สบายดีสวัสดีครับ

เป็นภาระหนักของคุณครูและทุกฝ่ายนะคะที่จะช่วยกันขัดเกลานิสัยที่ชอบความเร็ว อดทนไม่เป็น ชอบแสดงความก้าวร้าวของเด็กๆ ไม่เพียงแค่ไม่เป็นนักเรียนนักเลง แต่ให้สามารถเติบโตเป็นคนที่มีขันติ มีความรับผิดชอบต่อตนเอง ต่อครอบครัว ต่อสังคมโดยรวม

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท