ชีวิตที่พอเพียง 1630. AAR ความเจ็บป่วย


เจ็บป่วยคราวนี้เป็นเสมือนการซ้อมใหญ่ ไว้เตรียมตัวตายอย่างสงบ หวังว่าตนเองจะได้ตายแบบมี quality of death

ชีวิตที่พอเพียง  1630. AAR ความเจ็บป่วย

เจ็บป่วยคราวนี้เป็นเสมือนการซ้อมใหญ่ ไว้เตรียมตัวตายอย่างสงบ หวังว่าตนเองจะได้ตายแบบมี quality of death   ความเจ็บป่วยครั้งนี้จึงช่วยการฝึกมรณานุสติ   ว่าร่างกายที่ใช้งานมา ๗๐ ปีมันก็มีการชำรุดสึกหรอ เหี่ยวย่นไปตามธรรมชาติ   ความเจ็บป่วยครั้งนี้เกิดจากวุ้นตามันเหี่ยว จังหดตัวดึงเส้นเลือดฉีกขาด   จึงมีเลือดออกในวุ้นตา

ชีวิตของผมไม่สามารถทำกิจการงานตามปกติได้เป็นเวลาเดือนครึ่ง    คือตั้งแต่วันเกิดอาการตาขวามัวในวันที่ ๕ ก.ค. ๕๕   จนถึงวันครบ ๑ เดือนหลังการผ่าตัด ผมจึงสามารถวิ่งออกกำลังได้ตามปกติ ในวันที่ ๒๐ ส.ค. ๕๕

การวินิจฉัยสุดท้ายคือ มีเลือดออกในวุ้นตาของตาขวา (vitreous hemorrhage) ปริมาณมาก  ไม่มีการหลุดลอกของจอตา (retina) ชึ่งนับว่าโชคดี   คือรักษาด้วยการผ่าตัด และยิงเลเซอร์ที่รอยฉีกขาดของเส้นเลือดแล้วตาแข็งแรงเหมือนเดิม

ผมได้รับการดูแลที่ รพ. ศิริราชอย่างดียิ่ง   เข้าอยู่โรงพยาบาล ๕ วัน คือตั้งแต่วันจันทร์ที่ ๑๖ ถึงวันศุกร์ที่ ๒๐ ก.ค. ๕๕   ได้รับการผ่าตัดตาขวาเมื่อเช้าวันที่ ๑๙   โดย อ. พญ. โสมนัส ถุงสุวรรณเป็นจักษุแพทย์ผู้ผ่าตัดด้วยเครื่องมือทันสมัย ใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมง    และ อาจารย์ พญ. อังคณา เหลืองนทีเทพ เป็นวิสัญญีแพทย์จัดการให้สลึมสลือ แต่ยังรู้ตัว    ผมได้รับความเอาใจใส่ช่วยเหลือจากท่านคณบดี ศ. นพ. อุดม คชินทร   ท่านหัวหน้าภาควิชาจักษุวิทยา อ. พญ. จุฑาไล ตัณฑ์เทอดธรรม   และ อ. วิม (ศ. พญ. วณิชา ชื่นกองแก้ว) อย่างดีเยี่ยม   แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่อื่นๆ ก็บริการผมอย่างดีเยี่ยม   ผมซาบซึ้งใจมาก

เช้าวันที่ ๒๖ ก.ค. ๕๕ ผมไปตรวจตาหลังการผ่าตัดตามนัด   ได้วัดสายตา  หยอดยาขยายม่านตาเพื่อตรวจด้วย slit lamp   สรุปว่าตาผมหายดีมาก    อ. หมอโสมนัสให้ยา Tobradex (Tobramycin 0.3% + Dexamethasone 0.1%) มาหยอดตาวันละ ๔ ครั้ง   มียา ๕ ซีซี   หยอดจนยาหมด   ได้วัดความดันตาข้างขวาด้วย ผลปกติ   นัดไปตรวจอีกครั้งหนึ่งวันที่ ๑๖ ส.ค. ๕๕ ซึ่งเป็นวันที่ผมจะไปประชุมที่ศิริราชในช่วงบ่ายอยู่แล้ว

ขอบันทึกไว้ว่า อาการอักเสบของตาจากการผ่าตัดของผม หายไปหมดสิ้นในเวลา ๒ สัปดาห์   คือผ่าตัดวันพุธที่ ๑๙ ก.ค. ๕๕   พอวันพุธที่ ๑ ส.ค. ๕๕ ผมก็รู้สึกว่าอาการตาแดง และขัดๆ เจ็บๆ ตาขวาเล็กน้อยเวลาเหลือบตาไปด้านข้างมากๆ หายไปหมดสิ้น   และผมก็เริ่มอาบน้ำสระผมล้างหน้าได้ตามปกติ   เพียงแต่พยายามหลับตาให้แน่นๆ ไม่ให้น้ำเข้าตา

ผู้ที่ทราบข่าวความเจ็บป่วยของผมต่างก็แปลกใจ   ที่การผ่าตัดช่วยให้ตาขวาของผมใสในทันใด   สะท้อนพลังความสามารถของการแพทย์ super specialist สมัยใหม่   ที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูง    ที่เป็นผลจากความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์    ความเจ็บป่วยครั้งนี้ทำให้ผมประจักษ์ในคุณค่าของ การแพทย์เฉพาะทางสมัยใหม่  คุณค่าของวิทยาศาสตร์  และคุณค่าของเทคโนโลยี    และเหนืออื่นใด คุณค่าของไมตรีจิตที่ผมได้รับจากทีมแพทย์และพยาบาลที่ดูแลรักษาผม  

ข้างบนนั้น เขียนเมื่อวันที่ ๒ ส.ค.   ขอเพิ่มเติมในวันที่ ๑๗ ส.ค. ๕๕ ว่าผมได้ไปตรวจติดตามผลหลังการผ่าตัดเป็นครั้งที่ ๒   เมื่อวันที่ ๑๖ ส.ค. ๕๕   อ. หมอโสมนัสบอกว่าปกติดีแล้ว    ขั้นต่อไปคือติดตามว่าต้อกระจกจะสุกพอที่จะผ่าตัดเมื่อไร   เพราะตาของผมทั้งสองข้างเริ่มเป็นต้อกระจกตั้งแต่ก่อนผ่าตัดแล้ว   และการผ่าตัดตาขวาจะเร่งให้ต้อกระจกสุกเร็วขึ้น   ท่านนัดอีก ๔ เดือนไปตรวจ    รวมทั้งให้ผมสังเกตเองด้วย ว่าตามัวลงไปอีกมากไหม    ทำให้ผมกระจ่างขึ้น ว่าที่ผมรู้สึกว่าอ่านหนังสือไม่ค่อยชัด ไปวัดสายตาเพื่อเปลี่ยนแว่นก็ไม่ช่วย   นั้นเกิดจากต้อกระจกนี่เอง    ผมได้โรคมาอีก ๑ โรค สำหรับนำมาปฏิบัติตนให้สุขภาพดี โดยมีโรค (หลายโรคขึ้น)

ดังนั้น เช้าวันที่ ๑๗ ส.ค. ๕๕ ผมจึงได้วิ่งออกกำลังกายด้วยความร่าเริงใจ

วิจารณ์ พานิช

๒ ส.ค. ๕๕ ปรับปรุงเพิ่มเติม ๑๗ ส.ค. ๕๕

 

หมายเลขบันทึก: 499965เขียนเมื่อ 25 สิงหาคม 2012 06:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 26 สิงหาคม 2012 16:43 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ยินดีด้วยค่ะที่กลับมามีความสุขอีกครั้งหนึ่ง..เป็น case ที่มีโชคหนุนเสริมหลายชั้นจริงๆ..

ยินดียิ่งกว่าได้ทรัพย์สินใดๆๆ เมื่อทราบว่าอาจารย์ที่เคารพ สุขภาพดีขึ้น มีความสุขค่ะ ด้วยความเคารพค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท