ประโยชน์ของการฟังอย่างเอาการเอางาน
เมื่อใดที่ต้องการให้การสื่อสารเป็นไปด้วยดี “การฟังอย่างเอาการเอางาน” จะเป็นผู้ช่วยให้เป็นไปได้ การฟังอย่างเอาการเอางาน ช่วยในการอภิปรายทางวิชาการ ช่วยให้นักเรียนไม่ต่อต้านที่จะเรียนรู้ ครูที่มีความชำนาญในวิธี “การฟังอย่างเอาการเอางาน” จะสามารถนำวิธีนี้ไปใช้อย่างได้ผลกับสถานการณ์อื่น ๆ ทั้งนอกชั้นเรียน ที่บ้านและในการติดต่อกับผู้อื่น ครูหลายคนต้องการหลีกเลี่ยงจากการสอนแบบบรรยาย แต่เมื่อไปใช้วิธีการให้เด็กอภิปรายมักมีปัญหา “การฟังอย่างเอาการเอางาน” จะช่วยให้ครูส่งเสริมการอภิปรายของนักเรียนได้ ครูที่ใช้วิธีฟังอย่างเอาการเอางาน นอกจากจะช่วยให้การอภิปรายดำเนินไปด้วยดีแล้ว ครูจะมีโอกาสได้ทราบถึงความสนใจถึงความถนัด จุดอ่อน จุดแข็งความสามารถพิเศษของนักเรียน ครูหลีกเลี่ยงการวิจารณ์นักเรียน แต่พยายามให้นักเรียนกระจ่างในความคิดของตน และค้นพบปัญหาใหม่ด้วยตนเอง
อาการต่อต้านของนักเรียนที่แท้จริงก็คือ อาการแสดงว่านักเรียนมีปัญหา เพราะฉะนั้นหน้าที่ของครูจึงควรช่วยให้นักเรียนสามารถกลับมาเรียนได้ดั่งเดิม หัวสม่องที่ถูกทุบน่วมก็คือการขาดความมั่นใจในตนเอง ต้องพึ่งพาผู้อื่นตลอดเวลา สิ่งที่เด็กเหล่านี้ขาดก็คือ ความสามารถที่จะเป็นตัวของตัวเองและช่วยตัวเอง ขั้นแรกครูต้องความทำความเข้าใจให้ชัดเจนว่า ใครเป็นเจ้าของปัญหา นักเรียนทุกคนเคยมีความทุกข์ ทำให้นักเรียนมีพฤติกรรมที่ทำให้เกิดปัญหา ครูจะมีส่วนช่วยนักเรียนมากที่สุดถ้าครูไม่นำปัญหาของนักเรียนมาเป็นของครู และครูใช้วิธีการฟังอย่างเอาการเอางาน ให้นักเรียนแก้ไขปัญหาของนักเรียนโดยความคิดภายในของนักเรียนเอง ครูใช้เทคนิค “การฟังอย่างเอาการเอางาน” มีผลดีมากในการช่วยให้นักเรียนได้พิจารณาถึงความคิด ค่านิยมของตนเอง และได้ฝึกพัฒนาสติปัญญาของเด็กมาก ครูชั้นประถมศึกษาตอนปลายได้ทดลองให้นักเรียนอภิปรายโดยยึดนักเรียนเป็นศูนย์กลาง และใช้เทคนิคการฟังอย่างเอาการเอางาน เป็นวิธีที่ดีมาก ทำให้เข้าใจเด็กอายุ 11-12 ขวบมีทัศนะคติและเข้าใจโลกอย่างไรบ้าง เด็กมีความคิดแปลก ๆ แผลง ๆ และในขณะเดียวกันก็มีความเข้าใจอย่างลึกซึ่งอย่างชนิดที่คาดไม่ถึง เรื่องที่เค้าอธิบายจะมีตั้งแต่เรื่องพื้น ๆ
จุดมุ่งหมายของการประชุมก็มุ่งที่ผลการเรียนของนักเรียน แต่ครูหลายคนก็พบว่าบางทีการประชุมอภิปรายก็พูดถึงเรื่องอื่น ๆ ที่มิใช้ผลการเรียน จึงทำให้ครูลำบากใจ วิธีปฏิบัติต่อสถานการณ์นั้น ขั้นแรกครูจะต้องพิจารณาให้ชัดเจนว่า ใครเป็นเจ้าของปัญหา ครูอาจใช้เทคนิคการฟังอย่างเอาการเอางานเพื่อช่วยให้ผู้ปกครองแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง จำนวนมากเริ่มเห็นคุณค่าของการที่ให้นักเรียนมาเข้าร่วมประชุมกับผู้ปกครอง ครูหลายคนให้ความเห็นว่าในเมื่อเรื่องที่ประชุมกับผู้ปกครองเป็นเรื่องของนักเรียน และจะไม่มีใครรู้เรื่องเกี่ยวกับนักเรียนเท่าตัวนักเรียนเอง ครูส่วนใหญ่จึงได้เริ่ทดลองประชุมพบปะทั้ง 3 ฝ่ายร่วมกัน คือ ครู- ผู้ปกครอง-นักเรียน ปรากฏว่าผู้ปกครองจะต่อต้าน แต่ครูก็ใช้เทคนิคการฟังอย่างเอาการเอางาน เพื่อช่วยให้ผู้ปกครองระบายความรู้สึกและปัญหาออกมา
