วันศุกร์ที่ผ่านมา...
มีแม่ขอคนไข้จิตเวชมาหาผมตอนสายๆ...คนไข้ทั่วไปเริ่มบางเบาแล้ว
ว่าลูกชายไม่ยอมกินยา
เพราะเริ่มบ่นว่า...กินยาแล้ว...ตัวแข็ง...ลิ้นแข็ง
และเริ่มจะดื่มเหล้า...และดื่มมากขึ้น
และตลอดทั้งสัปดาห์...เพ้อรำพัน...พูดคนเดียว...ไม่ยอมหลับนอน
ไม่ยอมฟังคำแม่พูด...
ไม่อยากนอน...เพราะกลัวคนจะมาฆ่าตนเอง
สักพัก...แม่ของคนไข้ก็เริ่มร้องไห้...
อยากให้หมอลงไปเยี่ยมบ้าน...และไปดูลูกชายด้วย
เพราะคนไข้น่าจะเชื่อถือหมอมากกว่าแม่
ระหว่างคุยกันไป...ผมให้ได้เปิดดูแฟ้มครอบครัว
พบว่า...ภายในบ้านหลังนี้ มีคนอยู่ 3 คน
คือ ตัวคุณแม่ คนไข้...และฝาแฝดชายของคนไข้
เป็นคนแข็งแรงมากที่สุดในบ้าน...ตอนนี้ไปรับจ้างที่กรุงเทพฯ
และคุณแม่ของคนไข้ ก็เป็นคนไข้จิตเวช...
ถามไปถามมา...ขาดยาแล้ว 3 ปี...
ผมต้องนำข้อมูลประสานงานจิตเวชโรงพยาบาลเพื่อเยียวยาต่อไป...
ตอนบ่ายสามโมง...ผมจึงออกไปบ้านคนไข้...
แม่คนไข้รีบยกแก้วน้ำ น้ำ และข้าวต้มมัด (จะเข้าวันเข้าพรรษา)
เหมือนกำลังรอผม...
สภาพบ้าน...บ้านสองชั้น...ชั้นล่างโล่ง...เอาไว้เลี้ยงวัว
ผมเห็นสภาพบ้านก็รู้สึกลำบาก เพราะมีแม่ต้องดูแลบ้าน หาเลี้ยงครอบครัว
และต้องดูแลคนไข้...แม่ย่อมเกิดอาการกังวล และเครียด
ผมดูยาคนไข้ ที่คนไข้ได้มาจากขอนแก่น
และบอกว่า...ต้องกินยา...และจะประสาน อสม. ใกล้บ้าน มาช่วยในการกินยา
คนไข้ถามตอบรู้เรื่อง...เกินความคาดหมายของผม
ผมจึงบอกแม่ว่า...สัปดาห์หน้า...พวกเราจะประชาคมคุ้มบ้านเล็กๆ
ในการดูแลคนไข้
ขอร้อง...ร้านค้าอย่าขายเหล้าให้คนไข้...เพราะป่วยอยู่
ขอร้อง...เพื่อนที่ชอบชักชวนผู้ป่วยให้ดื่มเหล้า
และขอร้องให้ช่วยทุกคนช่วยกันดูแลคนไข้ และแม่ของคนไข้
เสน่ห์ของการทำงานในชนบท...งดงามอีกแบบ
ตรงที่ทุกท่านช่วยเหลือเกื้อกูลกัน...
ผมถามคนไข้ว่า...กลัวใครมาฆ่า...
ถามไปถามมา...บอกว่า...เป็นผีผู้ชายจะเอามีดไล่ตามแทง
คนไข้บอกว่า...ผมอยากได้พระมาคล้องคอ
กันผีมารังควาน....
ผมจึงบอกคนไข้ว่า...พรุ่งนี้จะเอามาให้นะ...
เพราะผมพอมีพระเครื่องบ้าง...และมากมายจนถึงขั้นเป็นของสะสมได้
เพราะคนจะมอบให้ผมเสมอ...
แต่ส่วนใหญ่พระเครื่องยังไม่ได้ใส่กรอบ
เมื่อกลับมาบ้าน...ผมไปดูพระเครื่อง...พบว่า...
มีเหรียญหลวงพ่อคูณ...และเชือกร้อยสีดำ
ตอนเช้าวันรุ่งขึ้น...ผมจึงนำมามอบให้คนไข้
คนไข้...ยิ้ม...และบอกว่า...
เช้านี้ผมกินยาแล้ว...และยังไม่ดื่มเหล้า....
ผมอดลังเลการดูแลคนไข้ด้วยวิธีการของผม...
คงไม่ถูกต้องตามหลักตำรา...หรือครูเท่าไหร่นัก
แต่ในใจผมพยายามดูแลคนไข้
ให้เยียวยาทางกาย
เยียวยาทางจิต (จิต และประสาท)
เยียวยาทางวิญญาณ (ความรู้ + สติปัญญา)
แต่ผลลัพธ์ที่ให้บทเรียนกับชีวิตของผม...ผ่านคนไข้
คือ การที่ผมได้เยียวยาตนเองเช่นกัน
รับรู้และเข้าใจถึงความหมายของการ...
ชื่นชม...ขอบคุณ...ขอโทษ...ให้อภัย
ในฐานะที่ผมเป็นคนหนึ่งที่กระจ้อยร่อยบนห้วงจักรวาลที่กว้างใหญ่และเวิ้งว้าง...
คุณหมอค่ะ ..บทสรุปตอนท้าย...ช่วยเตือนตัวและเยียวยาผู้อ่านอย่างพี่เช่นกันค่ะ
..ผลลัพธ์ที่ให้บทเรียนกับชีวิตของผม...ผ่านคนไข้ คือ การที่ผมได้เยียวยาตนเองเช่นกัน รับรู้และเข้าใจถึงความหมายของการ... ชื่นชม...ขอบคุณ...ขอโทษ...ให้อภัย ในฐานะที่ผมเป็นคนหนึ่งที่กระจ้อยร่อยบนห้วงจักรวาลที่กว้างใหญ่และเวิ้งว้าง...
ขอบคุณค่ะ :-))
สวัสดีค่ะ
มาให้กำลังใจหมออนามัย การทำงานที่เป็นเสน่ห์ของชนบทค่ะ
เรียนน้องทิมดาบ....หลายโรคที่ผ่านพบยากที่อธิบาย
เด็กมาด้วยไข้สูง ตัวร้อน จนท.ปรึกษาหมอ จับให้น้ำเกลือ แต่เพื่อความสะดวกในการให้น้ำเกลือ ต้องตัดเชือกผูกข้อมือ
พอตัดด้ายผูกข้อมือ เด็กเกิดอาการชักทันที ให้ยาฉีดยาก็ไม่หาย
จนพ่อเด็กต้องมาขอด้ายผูกข้อมือมาผูกใหม่เด็กหยุดชักทันที
พ่อเด็กเล่าให้ฟังว่า ด้ายผูกข้อมือ หลวงพ่อที่วัดผูกให้ขอเป็นลูกมีไพลกันชักอยู่
จริงเท็จอย่างไรไม่ทราบ แต่ปรากฎการณ์ที่เห็นคือเด็กหายชัก
มาชื่นชม จิตใจ อันงดงาม ของคนคนหนึ่งที่กระจ้อยร่อยบนห้วงจักรวาลที่กว้างใหญ่และเวิ้งว้าง
จาก คนหนึ่งที่ไม่ยังไม่อาจเป็นได้เท่าเศษเสี้ยวหนึ่งของคนที่กระจ้อยร่อย..คนนั้น
นอกตำราแน่นอนค่ะ..ถ้าหมายถึงตำราฝรั่ง..เพราะองค์ความรู้เกิดจากการปฎิบัตินี้เอง..น่าติดตามค่ะ ว่าในคนไข้จิตหลอน การรักษาด้วยสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ ทีเป็น "รูปธรรม" อย่างพระเครื่อง จะได้ผลมากน้อยเพียงไร
การลงเยี่ยมบ้าน มักได้ค้นพบสาเหตุที่แท้จริง..
การเยียวยาด้านจิตวิญญาณ เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยผู้ป่วยได้ดีเยี่ยม.. แม่วิธีการอาจไม่เป็นไปตามที่เราเรียนมานะคะ เอาใจช่วยทั้งผู้ให้และผู้รับค่ะ
สวัสดีค่ะน้องอดิเรก
ชื่นชมการดูแลที่เข้าถึงจิตวิญญาณ เป็นกำลังใจคนทำงานค่ะ