12 สิงหาของทุกปีที่ก็เป็นวันกระตุกต่อมความรักและสำนึกต่อผู้มีพระคุณที่เรียกว่า “แม่” ผู้หญิงที่มีความสามารถทำทุกสิ่งอย่างได้โดยไม่มีข้อแม้ ไม่มีข้ออ้าง หรือแม้แต่เหตุผลใดๆ ในการเลี้ยงลูกสักคนหรือหลายๆคนในเวลาเดียวกัน
ตลอดเวลาที่ผ่านมาฉันเคยได้แต่จินตนาการกับคำว่า “แม่” เพียงเพราะเห็น สัมผัส ความรัก ความห่วงใย ความอบอุ่นที่ได้รับ แต่น้อยครั้งหรืออาจจะไม่เลยแม้สักครั้งที่ได้รับรู้ความรู้สึกเจ็บปวด ความเหงา เศร้า ของคนที่เป็นแม่
แม่พูดบ่อยๆว่า “อยากจะสต๊าฟให้ลูกตัวเล็กเท่าเด็กอายุสักขวบสองขวบ” ฉันพอเข้าใจความหมายว่าเพราะหมายถึงโอกาสในการกอด สัมผัส และบอกรักลูกได้ทุกวันทุกเวลา การเติบโตของลูกทุกย่างก้าวมีทั้งเรื่องลุ้น(ลุ้นว่าจะดีหรือร้าย จะเกิดอะไร) เรื่องที่ภาคภูมิใจในตัวลูก
ทุกช่วงชีวิตแม่คอยดูทุกย่างก้าวเสมอมา ลูกไม่รู้ ไม่เห็น คงแต่ได้ยินว่า และเห็นการแสดงออกในความห่วงใยนั้นคือ คำบ่น ด่าว่า จากแม่ และเบื่อที่จะฟัง
วันนี้...ฉันได้สัมผัส รู้สึก กับคำว่า “แม่” ได้อย่างเข้าใจ แม้ยังไม่ลึกซึ้งเท่าคนที่เป็นแม่มาก่อนก็ตาม ฉันไม่ได้รับรู้ความเจ็บปวดในการคลอดลูก เพราะต้องผ่าตัดแทน ฉันได้ให้นมลูกแม้เพียงไม่นานเพราะน้ำนมน้อยแต่ก็ภูมิใจ และทุกอย่างที่เด็กคนหนึ่งที่เป็น “ลูก” เค้าคือคนสำคัญที่ฉันให้ได้ทุกอย่างแม้แต่ชีวิต
ฉันได้รับรู้ว่า “ความรัก” ที่ไม่มีคำบรรยายภายใต้คำนิยาม มันคืออะไร มันพูดไม่ได้ บรรยายไม่ออก และบอกใครไม่ได้ เพราะมันต้องสัมผัสเอง
ไม่ได้บอกหรอกนะว่าต้องเป็นแม่คนเท่านั้นถึงจะเข้าใจความหมายนั้น เพียงแต่สัมผัสอย่างเข้าใจในความรักของคนที่เราเรียกว่าแม่ นั้นแหละโอกาสที่ดีที่สุด
ก่อนนี้ฉันเคยได้แต่ตั้งคำถามว่า “ความรัก” มันคืออะไร หมายความอะไร ใครจะให้อะไร อย่างไรกับฉันบ้าง และใครจะให้ตลอดไป วันนี้ฉันได้คำตอบมากมายจนต้องตั้งคำถามกับตัวเองว่า ฉัน “รัก” แม่พอหรือยัง
ไม่มีความเห็น