...อุแว้ๆ เสียงลูกดังอยู่ใกล้ๆในขณะที่แม่มิอาจขยับเขยื้อนร่างกายได้แม้แต่นิดเดียว อยากเห็นหน้าหนูใจจะขาด ได้ยินเสียงคุณพยาบาลคุยกับคุณหมอว่าผู้ชาย ...แฝดพี่...แข็งแรงดี
..และแล้ว ..แม่ได้เห็นหน้าพี่ภึม..สุดแสนจะชื่นใจ
...แม่ยังรอความหวังจากคุณหมอ...ดีนะที่ใช้การบล็อคหลังมีโอกาสได้เห็นหน้าลูกนับตั้งแต่แรกเกิดแถมได้ฟังเสียงลูกร้องเต็มปอด
...แม่รู้สึกหนักๆบริเวณช่องท้องอีกครั้ง..เสียงหมอคุยกัยว่า ..เอาหัวลง..แต่ เอ ซาวครั้งหลังสุดแม่จำได้ว่าหนูพราว ลูกสาวที่อยู่ในท้องแม่เอาหัวขึ้นนี่นา รึหนูกลับหัวอีกครั้ง...
...คราวนี้แม่ได้ยินเสียง อุทานว่าเอาหัวขึ้น รีบช่วยเร็ว เด็กนำ้หนักน้อย..น้องพราวของแม่...หนูจะเป็นอย่างไร???
...คุณหมอช่วยจนเสรฺจ น้องพราวน่าจะปลอดภัยจึงน้องพราวให้แม่ดู สิ่งที่แม่เห็นกลับยิ่งสงสารหนูจับใจ ..ลูกรัก...หนูหัวโตตัวเล็กมาก..เสียงหมอบอกว่าส่งเข้า NICU...แม่รู้สึกใจหาย...
...เมื่อแม่สามารถลุกเดินได้ในวันที่ 1 พ่อกับพี่ภูมิเข็นรถเข็นไปดูหนู..แม่ได้แต่ส่งกระแสจิตผ่านตู้อบ..
น้องพราวจ๋า ...แม่มาแล้ว
...อาจารย์บอกว่า อาหารหนูไม่ย่อยเลย น่าเป็นห่วง...ใจแม่เหมือนจะขาด...
...ให้หนูออกมาอยู่ในออ้มอกแม่แป๊บเดียว หนูก็หนาวและเหนือย หมวกที่ทางโรงพยาบาลสวมให้ดูท่าจะใหญ่เกินไป...พ่อจึงออกไปซื้อหมวกให้..
...แม่จึ้งส่งหนูให้พยาบาลอีกครั้ง...กลับขึ้นมาข้างบน แล้วบอกกับพี่ภีมว่า..ให้ช่วยดูดให้นำ้นมออกเร็วๆเราต้องช่วยน้องกัน นะพี่ภีม....
...พี่ภีม มีนำ้หนักเกือบสามกิโล..จึงดูดนมใหญ่..นำ้นมเมื่อถูกกระตุ้นก็อกมาบ้าง...
...แม่บีบนำ้นม ทีละหยด..ทีละหยด..แม้จะเจ็บปดอย่างไร..เพื่อนำไปช่วยลูกสาวคนเดียวของแม่...ส่งไปให้ลูกที่ยังอยู้ในตู้อบ
...และแล้ว..เมื่อแม่ลงไปเยี่ยมหนูอีกครั้งในวันเดียวกันพยาบาลบอกว่า..น้องสามารถรับได้ อาหารย่อยหมด...แม่รีบกลับมาผลิตนำนมอีกครั้ง...
...คราวนี้พยาบาลเข้ามาช่วย ...แม่รู้สึกเจ็บปวดมา..แต่เพื่อชีวิตของหนู ..แม่ทนได้ค่ะ
...แม่ไม่ยอมแม้แต่ให้นมหยดเดียวสูญเสียไปเพราะรู้ว่ายามนี้..นำ้นมหนึ่งหยด..คือ ..ชีวิตของลูก...
...เมื่อลงไปเยี่มในวันรุ่งขี้นหนูแข็งแรงขี้นอย่างเห็นทันตา.0..สาวสวยที่ ไม่มีผมกับหมวกไหมพรมใบเล็กสีชมพูที่คุณพ่อสรรหามาให้..ดูหน้าสดใสเชียว
...คุณหมอให้พยาบาล ถอดสายอาหารทางปากแล้วให้หนูลองดูดดู..หนูทำได้ซักพักก็เหนือย..จึงต้องนำกลับไปในตู้อีก
...เย็นวันนั้น..แม่ลงไปเยี่ยมพร้อมพี่ภูมิที่ต้องชะเง้อมองน้องอญุ่นอกห้อง..พยาบาลให้แม่อุ้มหนูออกมาดูดนำ้นม หนูดูดเบาๆอย่างสมำ่เสมอ..
...ตกคำ่แม่จึงลงไปอีกครั้ง เข้าไปดูที่ตู้อบ..เจ้าหญิงหมวกชมพูขอแม่ไม่อยู่..แม่ใจหาย เพราะตั้งแต่เข้ามาเยี่ยมหนู เพื่อนๆที่อยู่ข้างๆมีทั้งปากแหว่งเพดานโหว่ มีความผิดปกติอื่นๆเยอะแยะ..ญาติๆต้องนำกลับไปบำเพ็ญกุศล..แล้งลูกแม่อยู่ไหน
...แม่ตรงดิ่งเข้าไปถามพยาบาล..หญิงหลังผ่าตัดเอาลูกออกทางหน้าท้องสองวันลืมความเจ็บปวดหมดสิ้น...
...ภาพที่เห็นคือ น้องพราวหัวโต ตัวเล็ก นำ้หนักเพียงกิโลกับเจ็ดขีด อกหนูเท่ากระป๋องแป้งเอง มีสายนำเกลือบริเวณมือ และสายอาหารบริเวณปาก ... แม่สงสารหนูเป็นที่สุด...นะคะลูก
...หายเร็วๆนะคะลูก...แม่ขอให้พระคุ้มครอง คิดถึงบารมีขอสิ่งสักดิ์สิทธิทั้งหลายที่จะช่วยคุ้มครองลูกสาวคนเดียวของแม่...
...วันที่สอง คราวนี้แม่หัดเดินเองไต่ราวตึกจากชั้น 6 ไปชั้น 3 เพื่อเยี่ยมน้องพราว ...คราวนี้พยาบาลบอกว่คุณาหมอนำน้องไปเอกซเรย์หาสาเหตุ น้องไม่รับอาหารเลย อาหารไม่ย่อย...อาเจียนออกเป็้นนำ้ข้นๆ..
...แม่ใจหาย..และรู้ว่าสาเหตุจริงๆอาจเนื่องมาจากการสำลักนำ้ครำ่???
...แม่พบอาจารย์หมอ อาจารย์บอกให้อุ้มหนูออกมา ลองให้หนูดูดนมแม่ดู...
.พยาบาลบอกว่า..ลูกสาวแม่อาการดีขึ้น ถูกย้ายไปอีกห้องหนึ่ง
...โอว..เหมือนสวรรค์ช่วยชีวิตแม่อีกครั้ง...
...ลูกสาวแม่นอนหน้าใสอยู่ในเปล มีหมวกสีชมพูครอบไว้บนศีรษะ..
คุณหมอที่เป็นอินเทิร์นเล่าว่าแทบไม่น่าเชื่อ..ที่น้องดึขึ้นอย่างเห็นได้ชัด..
คืนนั้น..แม่อุ้มหนูเกือบสองชั่วโมง..กล่อมอยู่บนเปลโยกด้วยความสุขใจ.. ...เช้าวันรุ่งขึ้น..
แม่ไปเยี่ยมหนูแต่เช้า..อาจารย์หมอบอกว่า..ปกติ เด็กที่มีอาการเหล่านี้ต้องอยู่โรงพยาบาลอีกประมาร 2 เดือน โดยแม่ต้องมาให้นำ้นมทุกวัน..
..เอาล่ะ..แม่ลาคลอดอยู่แล้วคงอยู่กับหนูได้ แต่เราจะอยู่พร้อมพี่ภีมด้วย..ค่อบว่ากันอีกที..
...แต่คุณหมอ..บอกว่า น้องดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด น่าจะ โอ เค อีกทั้งเป็นลูกพยาบาล คงมีความรู้สามารถดูแลลูกได้ หนูจึงได้ออกจากห้อง NICU มาอยู่ร่วมกันในห้องพักพร้อมพี่ภีม..
...พยาบาลสอนให้แม่ ให้นมทั้งสองคน พร้อมๆกัน...แต่แม่ไม่ถนัดจึงให้นมลูกทีละคนด้วยความสุข
...วันรุ่งขึ้น น้องหมออินเทิร์นเข่้ามาฉีดยา BCG ให้น้องพราวเพราวแขนหนูเล็กเท่านิ้วโป้งไม่มีใครกล้าฉีด
..และแล้วคุณหมอก็อนุญาตให้เราทั้งหมดกลับบ้านได้ในวันนี้เอง..
...เพราะนำ้นมแม่ และิวิชาชีพพยาบาลที่ช่วยให้..เราได้อยู่ร่วมกัน..แม่และลูก..
นี่แหละหนา..ค่านำ้นม..
...อาจารย์บอกว่า อาหารหนูไม่ย่อยเลย น่าเป็นห่วง...ใจแม่เหมือนจะขาด...
...ให้หนูออกมาอยู่ในออ้มอกแม่แป๊บเดียว หนูก็หนาวและเหนือย หมวกที่ทางโรงพยาบาลสวมให้ดูท่าจะใหญ่เกินไป...พ่อจึงออกไปซื้อหมวกให้..
...แม่จึ้งส่งหนูให้พยาบาลอีกครั้ง...กลับขึ้นมาข้างบน แล้วบอกกับพี่ภีมว่า..ให้ช่วยดูดให้นำ้นมออกเร็วๆเราต้องช่วยน้องกัน นะพี่ภีม....
...พี่ภีม มีนำ้หนักเกือบสามกิโล..จึงดูดนมใหญ่..นำ้นมเมื่อถูกกระตุ้นก็อกมาบ้าง...
...แม่บีบนำ้นม ทีละหยด..ทีละหยด..แม้จะเจ็บปดอย่างไร..เพื่อนำไปช่วยลูกสาวคนเดียวของแม่...ส่งไปให้ลูกที่ยังอยู้ในตู้อบ
...และแล้ว..เมื่อแม่ลงไปเยี่ยมหนูอีกครั้งในวันเดียวกันพยาบาลบอกว่า..น้องสามารถรับได้ อาหารย่อยหมด...แม่รีบกลับมาผลิตนำนมอีกครั้ง...
...คราวนี้พยาบาลเข้ามาช่วย ...แม่รู้สึกเจ็บปวดมา..แต่เพื่อชีวิตของหนู ..แม่ทนได้ค่ะ
...แม่ไม่ยอมแม้แต่ให้นมหยดเดียวสูญเสียไปเพราะรู้ว่ายามนี้..นำ้นมหนึ่งหยด..คือ ..ชีวิตของลูก...
...เมื่อลงไปเยี่มในวันรุ่งขี้นหนูแข็งแรงขี้นอย่างเห็นทันตา.0..สาวสวยที่ไม่มีผมกับหมวกไหมพรมใบเล็กสีชมพูที่คุณพ่อสรรหามาให้..ดูหน้าสดใสเชียว
...คุณหมอให้พยาบาล ถอดสายอาหารทางปากแล้วให้หนูลองดูดดู..หนูทำได้ซักพักก็เหนือย..จึงต้องนำกลับไปในตู้อีก
...เย็นวันนั้น..แม่ลงไปเยี่ยมพร้อมพี่ภูมิที่ต้องชะเง้อมองน้องอญุ่นอกห้อง..พยาบาลให้แม่อุ้มหนูออกมาดูดนำ้นม หนูดูดเบาๆอย่างสมำ่เสมอ..
...ตกคำ่แม่จึงลงไปอีกครั้ง เข้าไปดูที่ตู้อบ..เจ้าหญิงหมวกชมพูขอแม่ไม่อยู่..แม่ใจหาย เพราะตั้งแต่เข้ามาเยี่ยมหนู เพื่อนๆที่อยู่ข้างๆมีทั้งปากแหว่งเพดานโหว่ มีความผิดปกติอื่นๆเยอะแยะ..ญาติๆต้องนำกลับไปบำเพ็ญกุศล..แล้งลูกแม่อยู่ไหน
...แม่ตรงดิ่งเข้าไปถามพยาบาล..หญิงหลังผ่าตัดเอาลูกออกทางหน้าท้องสองวันลืมความเจ็บปวดหมดสิ้น...
..พยาบาลบอกว่า..ลูกสาวแม่อาการดีขึ้น ถูกย้ายไปอีกห้องหนึ่ง
...โอว..เหมือนสวรรค์ช่วยชีวิตแม่อีกครั้ง...
...ลูกสาวแม่นอนหน้าใสอยู่ในเปล มีหมวกสีชมพูครอบไว้บนศีรษะ..
คุณหมอที่เป็นอินเทิร์นเล่าว่าแทบไม่น่าเชื่อ..ที่น้องดึขึ้นอย่างเห็นได้ชัด..
คืนนั้น..แม่อุ้มหนูเกือบสองชั่วโมง..กล่อมอยู่บนเปลโยกด้วยความสุขใจ.. ...เช้าวันรุ่งขึ้น..
แม่ไปเยี่ยมหนูแต่เช้า..อาจารย์หมอบอกว่า..ปกติ เด็กที่มีอาการเหล่านี้ต้องอยู่โรงพยาบาลอีกประมาร 2 เดือน โดยแม่ต้องมาให้นำ้นมทุกวัน..
..เอาล่ะ..แม่ลาคลอดอยู่แล้วคงอยู่กับหนูได้ แต่เราจะอยู่พร้อมพี่ภีมด้วย..ค่อบว่ากันอีกที..
...แต่คุณหมอ..บอกว่า น้องดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด น่าจะ โอ เค อีกทั้งเป็นลูกพยาบาล คงมีความรู้สามารถดูแลลูกได้ หนูจึงได้ออกจากห้อง NICU มาอยู่ร่วมกันในห้องพักพร้อมพี่ภีม..
...พยาบาลสอนให้แม่ ให้นมทั้งสองคน พร้อมๆกัน...แต่แม่ไม่ถนัดจึงให้นมลูกทีละคนด้วยความสุข
...วันรุ่งขึ้น น้องหมออินเทิร์นเข่้ามาฉีดยา BCG ให้น้องพราวเพราวแขนหนูเล็กเท่านิ้วโป้งไม่มีใครกล้าฉีด
..และแล้วคุณหมอก็อนุญาตให้เราทั้งหมดกลับบ้านได้ในวันนี้เอง..
...เพราะนำ้นมแม่ และิวิชาชีพพยาบาลที่ช่วยให้..เราได้อยู่ร่วมกัน..แม่และลูก..
นี่แหละหนา..ค่านำ้นม..