เรียนรู้จากบรมครูทางธุรกิจ สวัสดิ์ หอรุ่งเรือง ตอนที่ 7 (ตอนจบ)

@เป็นรายแรกที่เข้าไปบุกเบิกนิคมภาคตะวันออก

ผมคิดว่าผมเป็นรายแรกๆที่ทำในภาคตะวันออก และกลายเป็นบริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด(มหาชน) ที่ใหญ่โต คงกระพันจนทุกวันนี้ ผมสร้างบริษัท เอ็น.ที.เอส.สตีลกรุ๊ป จำกัด (NTS) ทำโรงเหล็ก อย่างที่ผมพูด  ผมอายุ 70 กว่าปีแล้ว แต่ผมไม่เลิก คุณจำไว้ นี่คือ ความคิดผม ไม่ใช่ว่าทุกครั้งมนุษย์ทุกคนทำเพื่อเงินเสมอไป ถ้าทำเพื่อเงิน ผมว่าหลายคนเลิกแล้ว เขายังมีฝันของเขาอีกเยอะ

@ฝันอันยิ่งใหญ่ของคุณสวัสดิ์คืออะไร

เยอะเลยผมทำนิคมอุตสาหกรรมแล้วผมอยากจะทำ “ซิลิคอนวัลเล่ย์” (silicon valley) เป็นมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่ด้านการศึกษาทั้งด้านเทคโนโลยี และไอที เพราะก่อนที่จะก้าวไปถึงขั้นนี้ ต้องผลิตคนก่อน ผมเคยคิดเรื่องการทำ”ซิลิคอนวัลเลย์”ที่บ้านบึง จ.ชลุบรี ตอนนั้นยังไม่มี”บังกาลอร์”ที่ประเทศอินเดีย ผมคิดก่อนอินเดียอีก ตอนนั้นผมเสียเงินค่าศึกษาโครงการให้กับบริษัทฟีด ซึ่งเป็นบริษัทของอเมริกากันเป็นล้านเหรียญ ผมยังค้างมันอยู่เลย  ผมเคยคิดจะเช่าสนามบินอู่ตะเภาตั้งแต่หลังเลิกสงครามเวียดนาม นอกจากนี้ บ้านเราไม่เคยพัฒนาการขนส่งทางบก เวลานี้เรียก “โลจิสติกส์”จนเบลอกันหมดตั้งแต่ปี 2538 ผมเคยจ้างบริษัททรานมาร์คสำรวจเส้นทางทำรถไฟความเร็วสูงทั่วประเทศไทย 17 ปีผ่านมาแล้ว ไม่มีใครสนใจเพิ่งมาพูดกันตอนนี้
 

คนที่ไม่รวยโดยทั่วไป เมื่อเห็นคนรวยก็มักจะถามว่า มันไม่ตายหรืออย่างไร ถึงทำงานไม่รู้จักหยุด คนรวย หรือ เศรษฐีที่เขารวย  โดยไม่เข้าใจว่า คนรวยนั้นเขาไม่ได้รวยเงิน  อย่างเดียว เขารวยความฝันด้วย

ฝันอยากเป็นนั่น ทำนี่ ที่คิดอยากทำ  ทำแล้วตายไปก็เป็นมรดกตกทอดให้ลูกหลานและประเทศชาติ และโลกด้วย  ให้คนที่ไม่รวยได้พึ่งพิงไปด้วยเพราะช่วยให้มีงานทำ   ใครที่คิดงานเองไม่ได้ ก็ทำงานของเขาไป  เราก็ได้เขาก็ได้  ต่างก็มีส่วนช่วยชาติให้เจริญ

ท่านสวัสดิ์มีความฝันของท่าน  ผมก็ไม่รู้ว่าไอ้ที่ว่า valley  silicon คืออะไร  ทั้ง ๆ ที่ valley silicon  มีมานานปี  แต่ท่านสวัสดิ์ท่านรู้มาตั้งหลายสิบปีมาแล้ว   เมื่อคลิ๊กดูที่นี่ก็พอรู้ว่าคืออะไร http://en.wikipedia.org/wiki/Silicon_Valley

หากไม่มีวิกฤติเศรษฐกิจ  ป่านนี้เราน่าจะมี siligon valley  และ รถไฟความเร็วสูงไปแล้ว 

@ได้ข่าวว่าจะเข้าไปลงทุนในเมืองทวาย ประเทศพม่า

ผมไม่ได้อยากเข้าไปทำในทวาย แต่มีชวนให้ไปทำ ทวายถามว่าในเชิงภูมิศาสตร์เศรษฐกิจเยี่ยม ทรัพยากรมาก ถามว่าอัตราเสี่ยงคืออะไร

@รัฐบาลทหารล้มกระดาน

ทำไมถึงรัฐบาลทหาร เพราะว่า ผมไม่ได้มองนายพลตานฉ่วย หรือในอดีตใครต่อใครเป็นผู้นำเป็นคนดีคนเลว ผมมองว่า เขารู้วัฒนธรรมกำพืดดีว่า เขาจะต้องปกครองประเทศนี้ด้วยระบบไหน พม่ามีกี่ชนเผ่า 10 กว่าชนเผ่า สมมุติประชากร 70 ล้านคน มีชาวพม่าแท้ ๆ 40% อีก 60% เป็นชนเผ่ากระเหรี่ยง มีทั้งชนเผ่ากระเหรี่ยงพุทธ กระเหรี่ยงคริสต์ มอญ กระฉิ่น ข่า อะไรอีกมากมาย ยกตัวอย่างประเทศลิเบีย  40 ปีในการปกครองของพันเอกโมฮัมมาร์ กัดดาฟี ทำให้ลิเบียเป็นปึกแผ่น แล้วมันเกิดขึ้นได้อย่างไรที่ชนเผ่าจะรวมกัน พม่าจุดอ่อนคือ จุดนี้ ผมกลัวที่สุดคือจุดนี้ 
นักธุรกิจใหญ่ ๆ  เขาจะทำอะไรใหญ่  ๆ  โดยเฉพาะการไปทำงานกับต่างประเทศ    เขาต้องหูตากว้างไกล รู้ความเป็นไป เป็นมา ของประเทศนั้น ๆ ด้วย  ความคิดที่ท่านสวัสดิ์บอกมานี้  ก็เป็นข้อคิดที่ดี ที่จะได้นำไปใช้เมื่อเราเข้าประชาคมเศรษฐกิจ  ASEAN ที่กำลังจะเกิดขึ้น 

@ถ้าเป็นประชาธิปไตยจะแตกกัน

เมื่อปีที่แล้วข้อศึกษาจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อในสหรัฐออกมาเราจะบังคับทั้งโลกให้ปกครองในระบบเดียวกันเป็นไปไม่ได้สหรัฐบังคับทั้งละตินให้เลือกตั้งประธานาธิบดีปกครองแบบอเมริกา ใช้ไม่ได้ ต้องเป็นประชาธิปไตยแบบนี้ ใช้ไม่ได้ ให้ปกครองโดยวัฒนธรรมของเขา อย่างนั้นถึงจะไปได้

@แต่พม่ายังน่าลงทุนหรือไม่

ถ้าตีหัวเข้าบ้านได้เปรียบเทียบประเทศไทยวันนี้30 ปีแล้วกว่าอีสเทิร์นซีบอร์ดจะมีขนาดนี้ แต่วันนี้ที่พม่ายังไม่มีระบบสาธารณูปโภคเลย คิดว่าจะใช้เวลาอีกกี่ปี สร้างท่าเรือ สร้างโรงไฟฟ้า ลงทุนวันนี้ อีกไม่ต่ำกว่า 5 ปีถึงจะสร้างโรงงานได้ แล้วผมยังไม่รู้เลยว่า พอลงทุนไปแล้วจะเกิดแบบลิเบียหรือไม่ วันนี้ชัดเจนมาก พอนายพลตานฉ่วยเริ่มเปิดประเทศตามแรงกดดันอะไรก็แล้วแต่ ออง ซาน ซูจี (ผู้นำฝ่ายค้านพม่า)ที่ผ่านมาแต่งชุดพม่า แต่เมื่อ 2 วันก่อน แต่งชุดชนเผ่า

การมองอะไรลึก ๆ  และไกล ๆ  ที่ไปที่มาของปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น  และการสังเกตอะไร ๆ  แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย ก็ทำให้ตัดสินใจทำ หรือ ไม่ทำอะไรได้  ท่านสวัสดิ์ก็ได้ให้แนวคิดไว้แล้ว

@มีนัยยะ

มีนัยยะ ผมคิดของผม ทำไม แล้วทำไม คุณคิดว่า ผู้นำของพม่าพวกเรามีความสุขกว่ามาก นายพลตานฉ่วยเดินไปไหนได้ ที่แย่ที่สุด ก่อนที่อังกฤษจะถอย มันทำอะไรไว้มาก อย่างฝรั่งเศสทำกับเรากับเขมรทุกวันนี้ยังทะเลาะกันเลย อังกฤษทำกับพม่าหนักหนากว่านี้อีก อังกฤษเซ็นสนธิสัญญาให้อิสรภาพกับพวกชนเผ่าหมดเลย

บทเรียนจากความคิดของท่านสวัสดิ์ที่ต้องจดจำก็คือ เมื่อไรที่ประเทศต้องตกอยู่ใต้อำนาจของต่างชาติ   ประเทศและประชาชนก็แย่  ทะเลาะกันไม่เลิก ก็เพราะใครเป็นเหตุ ก็ต่างชาติใช่หรือไม่  จะโทษคนอื่นเขาก็โทษไป   ในอนาคตประเทศชาติเกิดอะไรขึ้นทั้งทางทางร้าย คนในสมัยนี้ในฐานะที่เป็นประเทศประชาธิปไตยต้องรับผิด และรับชอบด้วย 

@จุดอ่อนอย่างนี้ทำให้คุณสวัสดิ์ยังไม่สนใจไปลงทุน
ทำให้ผมลังเลที่จะลงทุน ไม่รู้มันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ซื้อมาขายไปจบ เวลานี้เทรดดิ้งก็ปวดหัว กับอัตราแลกเปลี่ยน 1 เท่า  ตลาดใต้ดินผิดกัน 5-6 เท่าไหวหรือ
@หลายคนมองพม่าอย่างฝันหวาน แต่คุณสวัสดิ์มองว่ามีความเสี่ยงแฝงอยู่มาก

ผมกลัวที่สุดคือ เรื่องของศักดิ์ศรี เผ่าฉันก็มีศักดิ์ศรี How will you treat me and my investment?

@ถ้าจะไปตั้งอย่างนิคมเหมราชต้องใช้เวลาเท่าไหร่ ในฐานะนักลงทุน
ถ้าหากให้ผมไปลงนิคมอุตสาหกรรม วันนี้เริ่มไม่ต่ำกว่า 10 ปี ทวายมีถนนหรือไม่ กำลังจะเริ่ม แล้วอันตรายอยู่ตรงไหน ถนนสายนั้นเป็นโครงการของรัฐบาลกลาง แต่ที่ดินที่กำลังจะสร้างถนนในทวายเป็นของมอญ

@หากผมไม่พูดเรื่องชนเผ่า

เวลานี้ไฟฟ้าก็เริ่มมีปัญหาความต้องการมีมากขึ้น3,300เมกกะวัตต์จะสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหิน  เอ็นจีโอ(กลุ่มองค์กรพัฒนาเอกชน)บอกไม่ให้สร้างโรงไฟฟ้าที่ใช้ถ่านหิน เสร็จแล้วต้องทำท่าเรือ ต้องถมทะเลออกไปที่ลึกที่สุด แล้วกว่าจะมีระบบสาธารณูปโภคเราใช้เวลาเป็น 10 ปี วันนี้ไม่มีอะไรเลย ผมไม่ได้ไปก่อสร้าง บริษัทก่อสร้างรับเงินตั้งแต่วันแรก ผมรอให้ก่อสร้างเสร็จแล้วไปตั้งนิคมยังทัน แต่รออีก 10 ปี

ทั้งหมดที่ท่านสวัสดิ์กล่าวมาข้างบนนี้  ก็คือ ข้อคิดว่า จะทำอะไรนอกจากต้องใช้  Input  Process  เพื่อให้ได้  Output  แล้วต้องคิดถึง ภาวะแวดล้อม หรือ Context ที่เกี่ยวข้องด้วยที่เกี่ยวข้องตามที่กำลังเป็นจริง บวกกับการคาดการณ์ด้วยสติและปัญญาอีกด้วย ว่า Output  ที่จะออกมาจะเป็นแบบเฮงหรือแบบซวย

@เครือปตท.ไปทำโรงแยกก๊าซในทวาย จริงๆ น่าสนใจหรือไม่หรือคุณสวัสดิ์ขวางโลกหรือเปล่า

ไม่ได้ขวาง ผมเอาประวัติศาสตร์มาสอนเปรียบเทียบกับในดินแดนอาหรับ ณ วันนี้เป็นอย่างไร อดีตโลกอาหรับ แตกแยกหมด ทั้งเยเมน , จอร์แดน กี่เผ่าพันธุ์ เผ่าพันธุ์นี้เป็นรัฐบาลรวย แล้วอีกเผ่าพันธุ์ ถ้าไปเห็นลิเบีย ปวดหัวแทนกัดดาฟี ออกจากกรุงตริโปลิ เมืองหลวงไปนิดเดียวจะเห็นหมู่บ้าน 100 หลังคาเรือน ไปอีก 30-40 กิโลเมตรจะเห็นอีก 200 หลังคาเรือน บางแห่งก็ 50 หลังคาเรือน เพราะเราคิดอยู่อย่างเดียวว่า ศาสนาอิสลามมี 2 นิกายชีอะห์ กับสุหนี่ ที่จริงไม่ใช่ มันมีมากกว่านี้ และเขาก็อยู่ด้วยกันไม่ได้ จะให้วางระบบสาธารณูปโภคอย่างไร  ขนาดมีไฟฟ้าทุกหมู่บ้านก็เก่งแล้ว

@พม่าทุกคนมองด้วยตาโต เพราะทรัพยากรมาก น้ำมัน แร่ ไม่จูงใจพอหรือ

จูงใจ ถ้าแง่ภูมิศาสตร์เศรษฐกิจ โดยวัฒนธรรมที่เป็นอยู่ ณ วันนี้ ผมไม่โอเค ถ้าให้ผมไปสร้างอสังหาริมทรัพย์ที่เมืองย่างกุ้งแหล่งท่องเที่ยว 3 ปีเสร็จขายหมดคอนโด อย่างนั้นผมทำ ถ้าให้ผมไปลงโรงงานเหล็ก 1 แสนล้านบาท การคืนทุนกว่าจะมีกำไรเริ่มต้น 10 ปี คุณจะไปลงทุนหรือไม่

การประมงเราได้สัมปทานจากรัฐบาลพม่า แต่เวลาได้ปลาแล้วมาขึ้นไม่ว่าจะเขตไหนก็แล้วแต่ ต้องจ่ายค่าต๋งอีก เพราะแถวนี้เขตกระเหรี่ยงเจ้าของท่า ภาษีนักเลงอีกเยอะเลย พวกเราบางทีประวัติศาสตร์คือ สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต ทำไมต้องเรียนถึงด็อกเตอร์ เพราะประวัติศาสตร์เป็นเครื่องสอนเรา ทั้งอาหรับเป็นอย่างนี้หมดเลย
อิหร่านเป็นมุสลิมเหมือนกัน แต่ชาวมุสลิมทั้งหมดไม่มีใครเข้าข้างอิหร่านเลย ทั้งที่เป็นมุสลิมด้วยกัน เพราะว่า อิหร่านเป็นชาวเปอร์เซีย วัฒนธรรม 7,000 ปี ถือตัว และมองว่าอาหรับประเทศอื่นเป็นพวกเบดูอิน(Bedouin)เร่ร่อน เป็นมาอย่างนี้ตั้งแต่อดีตแล้ว

อิหร่านไม่มีปัญหากับชาวยิว แต่อิหร่านมีปัญหากับนโยบายของอิสราเอส และสหรัฐอเมริกา แต่อเมริกาถือเป็นอันธพาลโลก พอไปยุลิเบียเสร็จเรียบร้อย ตอนนี้อเมริกาส่งชาวลิเบียที่เมื่อก่อนมีเรื่องกับกัดดาฟีปกครองอยู่ ก็หนีไปอยู่ที่อเมริกา ลูกหลาน วันนี้จะส่งพวกนี้ที่อยู่ในอเมริกากลับมาเป็นรัฐมนตรีทำงานเป็นใหญ่อยู่ในลิเบีย
เหมือนในอัฟกานิสถานพวกตาลีบันเป็นใหญ่อเมริกาเข้าไปล้างออกหมด ไปเอาพวก”ฮามิด คาร์ไซ”ประธานาธิบดีอัฟกานิสถานคือ พวกอัฟกันที่อพยพไปอยู่ในอเมริกา ไปทำธุรกิจก็เป็นนอมินี(ตัวแทน)ของอเมริกันส่งเข้ามา แต่วันนี้ทำให้เขาโกรธเคือง เพราะไปเผาคัมภีร์อัลกุรอ่าน และไปฆ่าคน 16 คน “ฮามิด คาไซ”ตอนนี้ไม่รู้จะไปทำอย่างไร ต้องไปเข้าข้างคนอัฟริกันด้วยกัน
ท่านสวัสดิ์ท่านเข้าใจ  รอบรู้  ความเป็นอยู่ วิถีชีวิตศาสนา และความเป็นมา ของการเมืองในต่างประเทศ  นับเป็นบทเรียนที่ยิ่งใหญ่ให้ตระหนักกันว่า จะไปทำอะไรกับต่างประเทศ ต้องเข้าใจและเข้าถึงเขาจริง ๆ

@ตอนนี้เริ่มไปลงทุนในต่างประเทศเพิ่มขึ้น

ผมไปอิหร่านมาด้วยอิหร่านมีอะไรให้ทำมากเวลานี้เราทำไม่มีหลักการ รัฐบาลของเราไม่เคารพกัน สมมุติในอดีตบางโครงการไอเดียของรัฐบาลหนึ่งดี พอรัฐบาลที่สองคนละพรรคมาเป็นจะทำโครงการต่อ ลูกพรรคอีกฝ่ายกระแหนะกระแหน่บอกไม่มีความคิดก็อปปี้มาถึงไม่มีโครงการต่อเนื่อง อย่างวันนี้พรรคประชาธิปัตย์ก็โดน โครงการนี้ก็อปปี้มาจากทักษิณ(พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ) อย่างโครงการ30 บาทรักษาทุกโรค ไม่ใช่ความคิดทักษิณ มันเกิดขึ้นมาดึกดำบรรพ์ตั้งแต่ผมเป็นเด็กแล้ว ตั้งแต่รุ่นพ่อผมด้วยซ้ำไป สมัยก่อนชื่อไม่น่ารักเขาเรียก"คนไข้อนาถา"ผมใช้มาแล้ว เมื่อก่อนไม่เสียเงินเลย แต่ชื่อไม่น่าฟัง

เรื่องการเมือง ท่านลึก เข้าใจอะไรลึก ๆ  ที่มาที่ไปของอะไรต่ออะไร  ท่านไม่ไปลงทุนต่างประเทศ ก็เพราะเข้าใจในเรื่องของการเมืองในประเทศที่จะมีผลต่อธุรกิจในต่างประเทศ   ผมก็เคยรู้ว่ามีคนไข้อนาถา แต่เชื่อมโยงไม่ถึงเลยว่า มันเป็นที่มาของ 30 บาท รักษาทุกโรค  ที่ใช้ภาษาไทยได้ดูดีกว่า ทั้ง ๆ  ที่คนไข้อนาถารักษาฟรี 

@ข้อกฎหมายสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ทำให้เป็นข้อจำกัดของนักลงทุน

ใช่แล้ว เมื่อสอง ชั่วโมงที่ผ่านมาก็เพิ่งคุยกัน เอาแผนที่มาดูตรงไหนจะลากเส้นทำเป็น”ฟลัดเวย์”ตรงไหนเป็นแก้มลิง เดียวซื้อไปตาย ก่อนซื้อต้องพิจารณาให้ดี ใครอินไซด์ก็ได้เปรียบ 2 เดือนที่แล้วมัดจำที่ดินไว้จ่าย 5% ก็มานั่งคิดว่า จะทิ้ง 5% ดีหรือเปล่า เพราะหากประกาศเป็นพื้นที่สีเขียวก็พัฒนาไม่ได้ นี่เป็นสิ่งที่ผมกังวลใจเป็นห่วงมาก แล้วเวลานี้ แม้กระทั้งกรุงเทพ คไปซี้อที่ดินแถวสุขุมวิท สาธร สีลม ถนนเมื่อก่อนกว้าง8 เมตร10 เมตรสร้างตึกสูงได้ ต่อไปกำลังจะออกต้องถนนกว้าง 12 เมตรถึงสร้างตึกสูงได้

แล้วคนที่ไปซื้อที่ดินตารางวาละ 1 ล้านบาทจะผูกคอตาย เวลานี้รีบเขียนแบบห่วย ๆ เขียนยังไงก็ได้ รีบส่ง ๆ ไปก่อน แล้วกฎหมายไม่มีสิทธิย้อนหลัง แล้วค่อยมาแก้กันทีหลัง พวกเราทำงานกันแบบนี้  ต้องเล่นกับเวลา ขอไว้ก่อน 50 ชั้นเลย ยื่นไปก่อนต่อมาอาจจะเหลือ 20-30 ชั้น เพราะกฎหมายไม่มีผลย้อนหลัง เวลานี้แต่ละคนหลับหูหลับตาเขียนแบบส่งไปก่อนขอเบอร์ก่อน

ความเปลี่ยนแปลงในเรื่องดินฟ้าอากาศ  ที่จะมากระทบกระเทือนกับวิถีชีวิต และลงลึกไปถึงธุรกิจ  นักธุรกิจใหญ่อย่างท่านสวัสดิ์ จึงทำนายล่วงหน้าได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น การตัดสินใจทำอะไร จึงมีโอกาสไม่ผิดพลาด                         
@จะกลับสู่การเมืองอีกครั้งหรือไม่ หากพรรคชาติไทยพ้นเวลา 5 ปี
การเมืองผมถือว่า เป็นหน้าที่ของพลเมือง คนไทยสักคนมีความรู้ทางการเมืองยิ่งมากเท่าไหร่ประเทศยิ่งปลอดภัย ถูกหรือไม่ คุณถามผมว่า การเมืองคืออะไร การเมือง คือ ความหวัง เราหวังว่า เมื่อได้ชุดใหม่มาเป็นรัฐบาล น่าจะได้ดีกว่าชุดเก่า เราหวังอย่างนี้ แต่วันนี้ไม่ใช่

ย่อหน้าข้างบนนี้เป็นเรื่องใหญ่  ที่คนรุ่นเก่ารุ่นใหม่ต้องเข้าใจ พยายามรู้จริงในเรื่องการเมืองยังไม่ พอ  ต้องรู้ว่านักการเมืองขี้โกงจะไปเชื่อมต่อกับธุรกิจอย่างไรอีก

เวลานี้ไม่ใช่กฎเกณฑ์  ไม่ใช่รัฐธรรมนูญ ไม่ใช่กฎหมาย มันอยู่ที่คน ผมจำได้เลยคุณอุทัย พิมพ์ใจชน(อดีตประธานรัฐสภา) สนิทกับผมก็มาคุยกันจะแก้รัฐธรรมนูญ แก้ว่า ต่อไปนี้การแก้ไขไม่ใช่ส.ส.เพียง 1-2 คนสามารถขอเปิดอภิปรายไม่ไหววางใจ นายกรัฐมนตรีได้ คุณอุทัยเลยเขียนมาใหม่ว่า จะต้องมีส.ส.เข้าชื่อกี่คนถึงจะเปิดอภิปรายได้ เพื่อให้นายกรัฐมนตรีมีโอกาสในการบริหารประเทศ

แต่ก็ไปเจอคนการเมืองทุกพรรค ที่ฉลาด อย่างเพื่อนผมคุณทักษิณ (พ.ต.ท.ทักษิณ) เราเป็นเพื่อนกันมาหลายสิบปี ก็แทนที่จะใช้อย่างนี้  ก็ใช้วิธีซื้อพรรคยุบหมดเลย เช่น พรรคความหวังใหม่ ของพี่จิ๋ว (พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธอดีตนายกฯ) เสร็จแล้วถือโอกาสไม่ไปตอบกระทู้ในสภาผู้แทนฯเลย เพราะว่ายังไงเปิดอภิปรายตัวเองไม่ได้อยู่แล้ว

อ่านตัวแดงข้างบนนี้แล้ว  กลับไปอ่านตัวเขียวข้างบนถัดขึ้นไปที่ผมเขียนไว้อีกที   ถ้าไม่เข้าใจต้องอ่าน 3 รอบ แล้วก็จะเข้าใจ

@แต่ทักษิณรวบอำนาจเกิน เป็นเผด็จการเกิน

พอนั่งปุ๊บมันลืม น่าเสียดาย

@รอบใหม่จะกลับเข้าสู่การเมืองอีกหรือไม่พร้อมพรรคชาติไทย

ผมก็อยู่พรรคชาติไทยอยู่แล้ว ตั้งแต่สมัยน้าชาติ (พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณอดีตนายกฯ) ผมไม่มีวาระซ่อนเร้นที่จะเป็น...ถ้าจะเป็นรัฐมนตรีผมได้เป็นไม่ต่ำกว่า 3 ครั้งในพรรคชาติไทยในสมัยน้าชาติ และสมัยบรรหาร (บรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย) 2 ครั้ง ผมไม่เป็นเพราะรู้ตัวผมดีเป็นไม่ได้ งานผมเยอะ ผมชอบในงานที่ผมทำอยู่ จะเห็นว่า ผมรู้จักนักการเมืองใหญ่ ๆ ตลอด ผมไม่เคยมีธุรกิจที่ทำกับรัฐบาล สัมปทานอะไรก็ไม่มี เพราะเคยพูดไว้แล้วว่า ตราบใดที่ผมยังไหว้หมาไม่ได้ ผมหากินกับรัฐไม่ได้

 ครับอ่านตัวแดงข้างบนนี้   และอ่านตัวแดงที่ขีดเส้นใต้  จะทำให้เกิดความตระหนักว่า มุมหนึ่งของนักการเมืองในสายตาของนักธุรกิจใหญ่ เขาคิดอย่างไรกับนักการเมือง  มีนักการเมืองโกงใช่ไหมครับ  

นี่ไงครับที่ท่านบอกให้รู้เรื่องการเมือง

@ยุ่งกับการเมืองเป็นที่ปรึกษาให้เขา

เป็นที่ปรึกษาให้ความเห็น เขาจะทำหรือไม่ทำ ก็เรื่องของเขา บางคนอยู่พรรคนี้ไม่ได้ดีก็ย้ายพรรค แต่ผมไม่มีความคิดนี้อยู่ในตัวอยู่แล้วนะครับ แต่การเมืองวันนี้บอกตรง ๆ ว่า ใช้ไม่ได้เลย นักการเมืองวันนี้ไม่มีอะไรเลย ทุกวันคุณมีข่าวอะไร ย้ายพนิดา(นางพนิดา กำภูณ อยุธยา ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์)คนเดียว

เวลานี้ผมบอกเลย ประเทศไทยไม่มีอะไรน่ากลัวเท่ากับองค์กรของรัฐถูกทำลาย และวันนี้ถูกทำแล้วทุกกระทรวง นักการเมืองเข้ามากระทรวงนี้เป็นรัฐมนตรี เข้ามาแล้วก็ไป แต่องค์กรนี้ต้องอยู่ เพราะว่าข้อมูลทั้งหมดกระทรวงนี้มีหมด How to run the country เขามีหมด แต่วันนี้ไม่ใช่แล้ว การเมืองทำลายมันหมดแล้ว การเคารพผู้อาวุโสถูกทำลายหมดแล้ว โดยเฉพาะกรมตำรวจสั่งใครไม่ได้แล้ว นายพลตรีเผลอ ๆ สั่งสารวัตรไม่ได้แล้ว สารวัตรเด็กไอ้นี่....

พลเรือนเหมือนกันพวกข้าราชการในกระทรวงแย่หมดแล้ว ถ้าหากว่าทุกกระทรวงแบบนี้พัง เราจบแล้วรู้มั้ย เมื่อสองคืนที่แล้วนั่งกินข้าวคุยกับวุฒิสมาชิกรุ่นเดียวกัน 70-80 กว่าปี ผมบอกพี่ถ้าพวกเรายังแข็งแรง ยังมีความคิด ถ้าไม่พูดอะไรเลย ผมถามว่า รุ่นหลานเราจะอยู่กันอย่างไร

ข้อกังวลของผู้อาวุโสเขาคิดอย่างไรกับบ้านเมืองไทยในวันนี้  หากไม่เข้าใจอ่านข้างบนนี้อีกสักรอบสองรอบต้องเข้าใจ

@คุณสวัสดิ์ไม่ต้องการให้การเมืองแทรกแซงระบบข้าราชการประจำจนทำให้ล้มระเนระนาดไปหมด 

ใช่  นักการเมืองเป็นคนให้นโยบาย ส่วนคนบริหารนโยบายคือ ปลัดกระทรวงและลูกน้องทั้งหมด แล้วคอยดูมันทำถูกต้องหรือไม่ ตอบสนองต่อนโยบายนี้หรือไม่ เพราะนโยบายพวกนี้ผ่านสภาฯ ถูกหรือไม่ แต่เวลานี้อะไรก็ไม่รู้ ขนาดย้ายปลัด ย้ายอธิบดีมีเรื่องอย่างนี้ทุกวันก็ตายห่าสิ

คุณทำอย่างไร อย่างเร็วๆ นี้ย้ายผู้กำกับเห็นว่า นายตำรวจใหญ่ต้องบินไปสิงคโปร์เจอทักษิณ (พ.ต.ท.ทักษิณ) เลย ก็นั่งอยู่ในห้องผมยังรู้เลย นี่ขนาดตั้งผู้กำกับคนใหม่นะ

นักการเมืองต้องกลายเป็นนักกินเมืองด้วยการไปล้วงลูก  ล้วงได้ล้วงไป ข้าราชยังพึ่งศาลได้  นักการเมืองใหญ่ ก็ยังถูกจัดการได้ เพราะประชาชนยังมีศาลสถิตย์ยุติธรรมให้พึ่งได้

@นี่คือด้านมืดของการเมือง

มันไม่ใช่ด้านมืดแล้ว มันเป็นอะไรที่ทุกคนรู้กันสว่างหมดแล้ว แต่ภาษาอังกฤษเรียกว่า "ด้านมืด" เวลานี้คุณเอาชื่อรัฐมนตรีมาดูสิ คนไหนอยู่ในสายตาผมบ้างที่ให้ผมรับรอง เซย์โน (say no) ทุกคนก็เพื่อน ๆ น้อง ๆ ผมทั้งนั้น บอกเป็นไม่ได้เหรอ

@ไม่โอเคสักคน

ไปถามดูได้ ตั้งแต่มีการเว้นวรรคห้ามเล่นการเมือง 5 ปีนักการเมืองใหญ่ ๆ หลายคนที่ดัง ๆ ชักชินแล้ว บอกเป็น "ผีน้อยแคสเปอร์" (Casper) ดีกว่ามือที่มองไม่เห็น

@ไม่ต้องโดดมาเล่นเองหน้าจอ

อย่างคุณเนวิน (นายเนวิน ชิดชอบแกนนำพรรคภูมิใจไทย) อย่างเนี้ยไม่เอาแล้ว ขอนั่งกำกับอย่างนี้ดีกว่า ถ้าทุกคนคิดอย่างนี้ แย่แล้ว ถูกหรือไม่

ตัวแดงข้างบนนี้   นี่คือทัศนะของท่านสวัสดิ์  ต่อนักการเมืองปัจจุบัน  

@เมื่อ 2 วันก่อนในกรรมการปรองดองมีพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ (ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา ) ก็ถามพล.อ.สนธิ (บุญยรัตกลิน ) หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ ว่า พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ (ประธานองคมนตรี) รู้เบื้องหลังการปฏิวัติวันที่ 19 กันยายนหรือไม่ คุณสวัสดิ์มองการเมืองข้างนอกรู้ว่า เบื้องหลังการปฏิบัติ 19 กันยายน 2549

 ไม่มีใครรู้ ผมเองก็ไม่รู้ และบางครั้งคำหนึ่งที่ถูกของคุณสนธิ คือความจริงบางอย่างให้ตายกับคนนั้นเลย อย่างนี้ดีกว่า สมัยคุณฉลาด (พล.อ.ฉลาด หิรัญศิริหัวหน้ากบฎ 26มีนาคม 2520)ถามว่า ใครรู้บ้างว่า ใครอยู่เบื้องหลังคุณฉลาด

@เรื่องบางเรื่องต้องให้เป็นความลับไปอย่างนี้

 ให้ตายไปกับตัวดีกว่า แต่ว่าวันนั้นไม่มีใครกล้าแบบจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ปฏิวัติแล้วต้องไปสัญญาทำไมว่าจะต้องมีการเลือกตั้งภายใน 1 ปี นี่ผมบอกพรรคพวกที่เป็นทหาร ถ้าปฏิวัติแล้วเลือกตั้งเมื่อไหร่ ถ้าเราพร้อมเมื่อไหร่ ทุกอย่างพร้อม ถึงจะมีการเลือกตั้ง ไม่ใช่ว่า 1 ปี เพราะกลายเป็นสัญญาไป  ไม่ใช่ว่าศรัทธา เผด็จการ ผมศรัทธาจอมพลสฤษดิ์ในด้านความเด็ดขาดเห็นชัดเจน

จอมพลสฤษดิ์ปฏิวัติขึ้นมา หัวหน้าคณะปฏิวัติ,นายกรัฐมนตรี,รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, ผู้บัญชาการทหารสูงสุด,รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย,อธิบดีกรมตำรวจ รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว "สฤษดิ์ ธนะรัชต์" หมายถึงความมั่นคงภายในและภายนอกประเทศดูแลเอง และการเลือกรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง  นายป๋วย อึ๊งภากรณ์เก่งมาเป็น คนไหนที่เลือกมาไว้ใจให้ทำไป เรื่องกระทรวงการคลัง ถ้าอาจารย์ป๋วยเซ็นเห็นชอบมา จอมพลสฤษดิ์พร้อมลงนามเช่นกัน ไม่เคยปฏิเสธ ตอนนั้นประเทศถึงไปได้เร็วจะเห็นว่ากุนซือที่เขียนสุนทรพจน์ให้ คือ หลวงวิจิตรวาทการ  (อดีตปลัดบัญชาการสำนักนายกฯ) เหมาะสำหรับบุคลิกไม่กระทบกระเทือนใคร แต่แข็งกร้าว

ท่านสวัสดิ์กล่าวว่า ท่านศรัทธาความเด็ดขาดของจอมพลสฤษดิ์    คงรู้นะว่าท่านไม่ศรัทธาความคิด และการลงมือปฏิบัติของใคร  ที่ท่านไม่ศรัทธา  และประชาชนต้องจับตามอง

 จบแต่เพียงเท่านี้ครับ สำหรับ

บันทึกการเรียนรู้จากบรมครูทางธุรกิจ  สวัสดิ์  หอรุ่งเรือง

[ชัด บุญญา]

ท่านสวัสดิ์ พูดถึง silicon ทำให้นึกถึงคำว่าแก้ว จึงไปดูในวีกิพีเดียแล้ว รู้ว่า ซิลิคอน เป็นส่วนประกอบหลักของแก้ว ซีเมนต์ เซรามิก, อุปกรณ์สารกึ่งตัวนำ ที่เขานำมาใช้ทำ ไฮเทคโนโลยี พอนึกถึงคำว่าแก้ว ก็นึกถึงวีดิโอที่ชอบใจและเก็บไว้ในเว็บไซต์มาเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งคิดว่าจินตนาการของฝรั่ง ที่จะเป็นผลต่อไป ที่จะทำให้เกิดไฮเทคนี้ก็เข้าไปคลิ๊กดูอีก รู้ไหมครับ คนดูมาแล้ว ถึง 19 ล้านคน หากท่านสนใจดูด้วย คลิ๊กเลยครับ

[krutoom]

ขอบพระคุณมากค่ะที่ท่าน ศน.แจ้งข่าว หนูก็เข้ามาช้าเพราะเพลินกับการพักยาวหลายวัน เป็นรางวัลกำลังใจสำหรับคนบันทึกค่ะ บันทึกของท่านยาวมากอ่านเยอะค่ะ อิอิ